จุดสนใจไม่ใช่ลูกน้องที่มารายงาน เขาเห็นเป็นปลายเท้าเล็กกว่าเท้าของเขาอย่างมาก สวมถุงเท้าลายการ์ตูนยาวเหนือตาตุ่ม ค่อยๆ ไล่ดวงตาขึ้นสูง มองที่หน้าแข็งทว่ามันเนียนกริบและขาวแบบสะดุดตา ก่อนจะเปรยมองขึ้นเรื่อยๆ มาถึงต้นขาอวบ คนตรงหน้าสวมเพียงกางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ก่อนจะเห็นรูปลักษณ์ลูกหนี้ของตนอย่างชัดเจน พลันนั้นเรียวคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง พลางสบถคำหยาบในใจและกระตุกใบหน้าเหมือนว่าเอามาทำไม ลูกหนี้ดันเป็นผู้หญิง ท่าทางดูแล้วเหมือนยังไม่ถึงสิบแปดบริบูรณ์ ให้ทำงานอย่างอื่นก็กลัวโดนตรวจสอบใช้แรงงานเด็ก แต่ความจริงอายุของมะลิคือยี่สิบปีบริบูรณ์
“ชื่อมะลิครับคุณเหม” เหมราชถอนหายใจ แต่ยังเอียงสายตาพยายามมองหน้าคนที่เอาแต่ก้ม ก็ไม่เห็นสักที เห็นแต่เพียงว่าเด็กสาวคนนี้ตัวอวบ ผิวขาว หน้ากลมๆ ผมยาวและถักเปียมาแบบยุ่งๆ เหมือนเด็กบ้านนอกไม่มีผิด “กูผิดเองที่เสือกไม่ถามว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” ในความคิดเขามองว่าแรงงานผู้หญิงมันไม่คุ้มค่ากับการนำมาใช้ชดใช้กับหนี้ เขาส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเดินถือแก้วแอลกอฮอล์ในมือ ไปยืนตรงหน้าลูกหนี้ของตนที่เอาแต่ก้มหน้า “มะลิ” “!!” เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อยๆ กอดกระเป๋าแน่น หายใจแรงแสดงอาการตื่นกลัวเหมราชแบบสุดๆ “มะลิ!!” “จ๊ะ...คะคุณเหมเรียกทำไมจ๊ะ” “เงยหน้าขึ้น” “...” “ฉันสั่งให้เงยหน้าขึ้น” ได้ยินเสียงทุ้มออกคำสั่งก็ขบริมฝีปากแน่น สูดหายใจรวบรวมความกล้า ปิดเปลือกตาเข้าหากันแน่นแล้วเชิดหน้าขึ้นให้คนสูงกว่าอย่างมากได้มอง พลันใบหน้านวลแหงนขึ้นมา เหมราชก็เอาแต่จ้องแบบไม่วางตาไปชั่วขณะ “พะพอหรือยังจ๊ะ มะลิเมื่อยคอ” “เด็กอะไรขี้เหร่แบบไม่เคยเห็นมาก่อน” ได้ยินเช่นนั้นมะลิก็ดีดเปลือกตาขึ้นในทันที อยู่เชียงรายมีแต่คนชมว่าน่ารักแต่คนตรงหน้าบอกว่าขี้เหร่ได้ยังไง พลันนั้นสายตาประสานมองกันในจังหวะที่เหมราชก็ไม่นึกว่าอีกคนจะลืมขึ้น ขณะเดียวกันมะลิก็นึกในใจ คุณเหมราชไม่ได้หล่อเลยสักนิด ออกแนวขี้เก๊กอีกต่างหาก หน้าดูดุแล้วดูแก่กว่าเธอเป็นสิบกว่าปี แต่หากเทียบคนวัยเดียวกัน เหมราชดูอ่อนเยาว์กว่าอย่างมาก “ดึกแล้ว ให้อ้อยควั่นจัดห้องให้ซุกหัวนอนไปก่อน กูจะออกไปข้างนอก” “ครับ...” เสียงเคาะประตูในเช้าวันถัดมาดังขึ้น มะลิที่นอนคลุมโปงด้วยผ้าห่มผืนหนาบนเตียงนอนนิ่มสะดุ้งตื่นในทันที กระวีกระวาดลุกขึ้นพับผ้าห่มและหมอนให้เป็นระเบียบในท่วงที จากนั้นรีบมาเปิดประตูไม่ให้คนที่เคาะเรียกรอนาน “หลับสบายไหมมะลิ” “พี่อ้อยควั่น” มะลิเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าที่สวมชุดสำหรับทำงานบ้าน อ้อยควั่นอายุมากกว่ามะลิหกปี อยู่บ้านอัครพิสุทธิ์สินมาตั้งแต่เด็ก ครั้นแม่ของเธอเป็นคนรับใช้ให้เจ้าสัวหัสดิน กระทั่งเธอก็เจริญรอยตามอาชีพนี้เหมือนผู้ให้กำเนิด แม้โอกาสของอ้อยควั่นจะมีมากกว่า การศึกษาถือว่าดีเพราะจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือที่เรียกย่อๆ ว่า ปวส.แต่อ้อยควั่นก็เลือกที่จะทำงานรับใช้รุ่นลูกของเจ้าสัวอย่างเหมราช เพราะคือผู้มีพระคุณดูแลกันยามเดือดร้อนมาตลอด “อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปหาพี่ที่ห้องครัวนะ” “จ้ะ” คนอายุน้อยยกยิ้มพร้อมตอบรับเพียงสั้นๆ แล้วปิดประตูล็อกไว้ตามเดิม หยิบผ้าเช็ดตัวและเครื่องใช้ส่วนตัวที่อ้อยควั่นหามาให้เมื่อคืน เพราะของตัวเองที่พกมา มีเพียงผ้าถุงสองผืนและเสื้อผ้าเก่าๆ ไม่กี่ชุดก็เท่านั้น ห้องน้ำไม่ใหญ่มากเพราะเป็นเพียงห้องของแม่บ้านแต่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องทำน้ำอุ่นแบบสมัยใหม่จนมะลิก็แอบงงในการใช้เล็กน้อย แต่กระนั้นมะลิก็ลองกดสวิตช์ปุ่มสีเขียวและมันก็ทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ต่อ ร่างขาวอวบยืนใต้ฝักบัวที่ปล่อยสายน้ำอุ่นชโลมลงผิวกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทำความสะอาดร่างกายของตัวเองด้วยการฟอกสบู่ก้อนไม่กี่สิบบาท โดยปกติมะลิไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าสำอาง ตอนอยู่กับยายมะลิตากแดดตากลมไม่กลัวผิวเสียเลยสักนิด ก็ย่อมหยาบกร้านไปบ้างเพราะไม่ได้รับการดูแลแบบพิถีพิถัน แต่ถึงอย่างนั้นมะลิก็ไม่ได้ดำไปจากเดิมเสียเท่าไหร่ หากเทียบกับอ้อยควั่น ลมเหนือหรือแม้แต่เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ มะลิยังดูขาวกว่ามาก เพียงแต่ผิวพรรณไม่ได้ชุ่มชื่นก็เท่านั้น มะลิที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จภายในสิบห้านาที ก็เดินเข้ามาในบ้านหลังโตแล้วมองหาห้องครัวตามที่บอก ก่อนจะเห็นคนอายุมากยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วเดินไปในทันที “พี่อ้อยควั่น” เสียงหวานเรียกคนที่กำลังปอกผลไม้ แล้วเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องครัวขนาดกว้าง มะลิตื่นตากับบ้านหลังใหญ่อลังการ ขยับมายืนใกล้ๆ อ้อยควั่นและแอบเกร็งไม่รู้จะทำอะไรดี นอกจากการยืนประสานมือไว้ด้านหน้าแล้วทำตัวนิ่งๆ “เรียกพี่อ้อยก็พอ จะได้กระชับมากขึ้น” “จ้ะพี่อ้อย” “คุณเหมสั่งให้มะลิช่วยงานบ้านพี่ไปก่อนนะ” “ได้จ้ะ” คนอายุน้อยพยักหน้าตอบไปด้วย ก่อนจะกวาดดวงตากลมโตมองหาว่าตัวเองต้องทำอะไร ครัวที่จัดวางของอย่างเป็นระเบียบ พื้นกระเบื้องสีสวยก็สะอาดไม่มีฝุ่นเลยสักนิด จานใช้แล้วสักใบก็ไม่มีวางให้เห็น ทุกอย่างสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบมากทีเดียว “ในครัวพี่ทำเสร็จแล้ว มะลิเข้าไปทำความสะอาดห้องเล่นสนุ๊กของคุณเหมนะ” “ห้องเล่นสนุ๊ก!” มะลิแผดเสียงออกมาอย่างตกใจ เท่าที่รู้พื้นที่ตรงนั้นมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของคฤหาสน์หลังโต ห้องก็มืดๆ ไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามา นอกจากแสงไฟเหนือโต๊ะดวงใหญ่ส่องลงมาก็เท่านั้น “กลัวคุณเหมเหรอมะลิ” “พี่อ้อยไม่กลัวเหรอจ๊ะ” “พี่เห็นคุณเหมมาตั้งแต่เด็ก จริงๆ คุณเหมไม่ยุ่งกับใคร ยกเว้นทำอะไรไม่ถูกใจ ขัดหูขัดตาก็เท่านั้น” นั่นแหละคือสิ่งที่มะลิกลัวที่สุด มาอยู่บ้านหลังนี้ยังไม่รู้ว่าอะไรสมควรทำไม่สมควรทำ หากเผลอทำไม่ถูกใจอย่างไม่รู้ตัว คงโดนเหมราชงับหัวแน่ๆ “คุณเหมเป็นมาเฟีย” “มาเฟียไม่ชอบจับปืน วันๆ จับแต่ไม้สนุ๊กและงานมากกว่า ไม่ต้องกลัว” “กลัวอยู่ดี” มะลิทำหน้ายู่ๆ ต่อให้ไม่จับปืนเท่าไหร่ แต่ใบหน้าดุดันเอาแต่ขึงตามองกันเหมือนคนทำอะไรผิดตลอดเวลา ก็ไม่ต่างจากเอาปืนมาจี้คอจนตัวสั่นตัวเกร็ง อ้อยควั่นอมยิ้มมองคนเด็กกว่าที่ยังไม่ชินและปรับตัวไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยบอกตำแหน่งห้องเก็บของ โดยให้มะลิเดินหาเอง ส่วนห้องเล่นสนุ๊ก มะลิก็พอจำได้ว่ามันอยู่ตรงไหนในคฤหาสน์หลังนี้ “เดินออกไปเลี้ยวซ้ายจะเจอห้องเก็บของ อุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ในนั้น” “จ้ะ มะลิจะไปเดี๋ยวนี้”เช้าวันต่อมา บรรยากาศในเมื่อคืนกลายเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เมื่อเพื่อนบ้านเห็นว่ามีรถคันหรูจอดหน้าบ้านยายใหม่ตั้ง 2 คันก็แวะเวียนเข้ามาทักทายตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เรื่องราวของมะลิดังไปทั่วหมู่บ้านภายในค่ำคืน แต่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่คนพูดถึง ทว่าโดนสบประมาทว่ามะลิอาจเป็นเพียงเมียน้อยของเจ้าหนี้มาเฟีย แต่เมื่อเจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเอง พร้อมกับหัสดินว่ามะลิคือเมียหนึ่งและเมียเดียวของตระกูลอัครพิสุทธิ์สิน ทุกคนที่เอาแต่จ้องสงสัยและจ้องนินทาก็หายแคลงใจ ส่วนยายหมายก็โล่งอกในทันที หลังจากที่แอบคิดมากมานาน เป็นเดือนๆ ว่าหลานสาวอาจเป็นเพื่อนของเล่นคนรวยเป็นเพียงคนขัดดอก “ฝีมือยายไหม อร่อยเหมือนมะลิเลยนะ ลื้อว่าไหมอาเหม” หัสดินพูดออกมาอย่างชื่นชม ขณะที่ยังนั่งขัดสมาธิบนแคร่ไม้ นั่งล้อมวงกินมื้อเช้าในบรรยากาศที่แตกต่างจากที่เคยเป็น แต่ทว่าชายมีอายุกลับรู้สึกชื่นชอบกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว หรืออาจจะรู้สึกชื่นชอบเพราะเจอคนที่ถูกใจ สายตาหัสดินที่มองยายไหมทำเหมราชหนักใจ แม้จะเคยอนุญาตให้เตี่ยมีเมียอีกสักคนแต่ก็ไม่นึกว่าเตี่ยจะแสดงอาการหนักเมื่อเจอยายของมะลิ เล่นหูเล่นตาแพรวพราวราวกับตัวเอง
สามวันต่อมาเชียงรายสายการบินดับเบิ้ลบี ไฟล์ท TG9397 แลนดิ้งถึงสนามบินในช่วงเวลาบ่ายโมง เป็นครั้งแรกที่มะลินั่งเครื่องบินก็ตื่นเต้นตลอดการเดินทาง เป็นการกลับบ้านในรอบหลายเดือน ตั้งแต่มะลิมาทำงานใช้หนี้เพื่อแลกกับที่ดินของยายการเดินทางมาเพียงสองคน เหมราชยอมเลื่อนงานที่ต้องจัดการภายในสองสามวันนี้ออกไปเป็นอาทิตย์และพาเมียมาหายายที่คิดถึง ลงจากเครื่องก็มีรถเช่ามารอรับ ครั้นลมเหนือติดต่อจองไว้ให้เพราะเหมราชไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาเองรถยนต์ยุโรปมีค่าเช่าหลักหมื่นต่อวันเคลื่อนตัวไปถนนทางหลวงและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่กลองทันที มะลินั่งบีบมือที่ชื้นไปด้วยทั้งกลัวและตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตึกตัก แต่ทว่าได้มือหนาของเหมราชกุมกระชับจนกระทั่งมาจอดหน้าบ้านพื้นดินที่ยังชื้นจากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนส่งผลให้สวนผักของยายเขียวขจี บรรยากาศโดยรอบเงียบเพราะคนแถวนั้นต่างก็ออกไปทำงานในตอนกลางวันและส่วนมากก็ทำไร่ทำสวนกันทั้งนั้น มะลิเปิดประตูลงมา ยืนท่ามกลางแดดจ้ามองบ้านทรุดโทรม พลันนั้นน้ำตาไหลเองอย่างไม่อาจห้าม เป็นครั้งแรกที่ห่างจากยายนานมากขนาดนี้ หากไม่นับตอนเคยอยู่กับพ่อ มองพื้นที่ทำมาหาอันเล็กน้อยที่เคยกลัวว่
มะลิเหนื่อยจากการอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงก็ม่อยหลับราวกับว่าสลบไสล ส่วนเหมราชก็หอบหมอนและผ้าห่มมานอนบนโซฟา เมื่อคนอายุน้อยไม่ยอมให้เข้ามานอนกอดเพราะเหม็นตัว แม้จะเข้าไปอาบน้ำใหม่อีกรอบและพรมน้ำหอมชนิดที่ฉุนจนแสบจมูกก็ยังมีกลิ่นที่มะลิไม่ชอบอยู่ดี อาการช่างแปลกๆ ทำเขาแอบตื่นเต้นนอนไม่หลับ นั่งมองเมียรักและเดินไปเดินมาคนเดียวแทบทั้งคืนรุ่งเช้า...ดวงตาปรือปรอยในเช้าวันใหม่ มะลิตื่นในช่วง 8 โมงเช้า สายกว่าเมื่อวานไปตั้งหนึ่งชั่วโมง ขยับกายที่รู้สึกดีขึ้นเมื่อคืนนั่งบนเตียง ให้อาการงัวเงียดีขึ้นแล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสดวงตากลมให้มองชัดขึ้น ในห้องเหลือแค่ตัวเองเพียงคนเดียวก็นึกว่าเหมราชคงออกไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน“ตื่นสายไม่ได้ส่งพี่เหมขึ้นรถไปทำงานเลย”ตำหนิตัวเองที่เดี๋ยวนี้เป็นคนเหลวไหล แม้จะเข้านอนเร็วกว่าปกติก็ยังเป็นยัยแคระขี้เซาอยู่ดี แบบนี้เขาเรียกว่าทำหน้าภรรยาบกพร่องไหมนะกำลังก้าวขาลงจากเตียง เสียงเปิดประตูดังขึ้น มะลิตกใจที่จู่ๆ มีคนถือวิสาสะเปิดเข้ามาเพราะหากตัวเองโป๊เปลือยอยู่คงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ทว่ากลับเห็นเป็นร่างสูงของเหมราชเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบๆ และยังสวมชุดนอนตัวเมื่อคืนอยู
ขณะที่คนอยู่ในออฟฟิศก็นั่งยิ้มมองจอมือถือไม่ต่างจากมะลิเสียเลย ลมเหนือที่ยืนรองานก็มองเจ้านายด้วยสายตารอคอย ที่จู่ๆ ก็ลอยแพให้เขายืนอยู่แบบนั้นหลายนาทีได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โทรตามให้เขาเข้ามารับเอกสารสำคัญ เพื่อที่จะส่งต่อให้กับธนาคาร แต่พอเข้ามาเหมราชก็เอาแต่สนใจหน้าจอมือถือ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เงยหน้ามามองกันเลย“ฮึมมมม”ลมเหนือกระแอมเสียงเบาๆ ก็เหมือนว่าเจ้านายจะไม่ได้ยิน ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงดังขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง พลันนั้นดวงตาคมก็ตวัดมองคนสนิทด้วยแววตาออกดุทันที ราวกับว่าเขาเข้ามาขัดจังหวะ แต่เปล่าเขาเข้ามาตามคำสั่งของเจ้านาย“งานก็วางอยู่ตรงนั้น มึงไม่แหกตามอง”ลมเหนือเสดวงตามอง เป็นซองสีน้ำตาลด้านในคือเช็คจ่ายค่าจ้างในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือการจ่ายจากบัญชีของบริษัท“ขอโทษครับ ผมเข้ามาก็เห็นคุณเหมยิ้มจนตาหยี ตั้งแต่ได้คุณมะลิมาเป็นเมียยิ้มจนร่องหมากขึ้นเลยนะครับ”โดนลูกน้องแซวเข้าให้ เหมราชเป็นคนยิ้มยาก ตั้งแต่ลมเหนือทำงานเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีเขาก็แทบนับครั้งได้ที่เห็นเจ้านายฉีกยิ้มออกมา และมุมปากที่แขวนขึ้นส่วนมากมาจากเรื่องของธุรกิจที่มันประสบความสำเร็จ แต่ทว่าตอนนี้เหมราช
“คุณเหมกลับมาค่ะคุณมะลิ”“ไม่ใช่ พี่เหมเข้าผับต่อ”สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำอ้อยควั่นยกมือมาแต่ปาก เบิกดวงตากลมโตราวกับว่าไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยินใครเรียกเหมราชแบบนี้ แม้แต่ผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของเหมราชอายุน้อยกว่าเป็นสิบปี มาเฟียหนุ่มก็ไม่อนุญาตให้เรียกสิทธิ์นั้นได้แค่มะลิคนเดียว...เมื่อสงสัยว่าเป็นใครก็เดินออกไปดูพร้อมกัน รถยนต์คันคุ้นตาไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าสัวหัสดินมาพร้อมกับของที่ติดมือมาอย่างมากมาย“เจ้าสัว...สวัสดีจ้ะ”มะลิยกมือไหว้พร้อมกับพี่อ้อยควั่น หัสดินที่กำลังเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นเพื่อเข้ามาด้านในแต่มีลูกน้องประคองกันล้ม ก็ยกมือปัดครั้นได้ยินคนอายุน้อยเรียกไม่เข้าหู“อามะลิ! ผัวลื้อไม่สั่งสอนหรือไง ว่าต้องเรียกอั๊วว่าเตี่ย”“...” มะลิทำหน้านิ่งแล้วกลอกตามองอ้อยควั่น“พวกลื้อ ขนของมาให้ลูกสะใภ้ ขนมาหมดทุกอย่าง เข้าใจไหม” เขาหันไปตะโกนบอกลูกน้อง“เข้าใจครับ”หัสดินเดินนำไปห้องรับแขก เมื่อเป็นบ้านของลูกชายไม่จำเป็นต้องรอใครเชิญ เขาสามารถเดินเข้าออกประหนึ่งเป็นเจ้าของ ชายมีอายุหย่อนกายนั่งบนโซฟาตัวนิ่ม พร้อมกับครางเสียงกับอาการปวดเนื้อปวดตัวตามประสาคนแก่ส่วนมะลิที่เดินก้มหน้าตาม
...ร่างอวบอัดขยับกายขึ้นแล้วนั่งบนเตียง ผมเผ้าที่ยาวสลวยแต่มันก็ยุ่งเหยิงมากทีเดียวในตอนตื่น แม้ไม่ใช่คืนแรกที่มะลิเข้ามาใช้ห้องนอนของเหมราช แต่ก็นับว่าเป็นคืนแรกในฐานะคุณนายของบ้านอย่างเต็มตัว ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสมองหาชายที่นอนอยู่ข้างกัน แต่กลับไม่เห็นเพราะว่าตอนนี้เขาลุกออกจากเตียงไปก่อนเธอเสียแล้วมะลิที่อยู่ในชุดนอนลายน่ารักก้าวเท้าลงจากเตียง เป็นจังหวะที่เหมราชเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ร่างสูงแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อเชิ้ตสีกรม กางเกงสแลกสีดำและกำลังผูกเนคไทเข้าที่คอ“ตื่นแล้ว”“จ้ะ มะลิตื่นแล้ว”“...”เหมราชทำเพียงยิ้มตอบและวุ่นวายกับเนคไทที่พาดบนคอ“วันนี้คุณเหมจะเข้าบริษัทเหรอจ๊ะ”“ใช่ ขอเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”เพิ่งกลับมาจากดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นครราชสีมา วันต่อมาเหมราชก็เตรียมตัวเข้าบริษัทอย่างเช่นเคย เดินทางไม่ไกลแต่ก็ทำให้เหนื่อยมากพอตัว เขากลับไม่ยอมหยุดพักผ่อน ไม่แปลกใจเลยทำไมทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นถึงได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากขนาดนี้“ส่วนตอนหัวค่ำจะเลยเข้าผับ”ธุรกิจกลางคืนที่เขาทำมานานหลายปี ถึงรอบที่ต้องเข้าไปตรวจตรา เพราะโดยปกติเหมราชจะเข้าผับก็ต่อเมื