เพราะทางเลือกของมะลิมีไม่มาก ไม่อยากปล่อยให้ที่ดินและบ้านหลังเล็กแสนทรุดโทรมโดนยึดก็ต้องยอมไปใช้แรงงานชดใช้กับหนี้สินที่มีทั้งหมด รับข้อตกลงไปทำงานให้กับเจ้าหนี้ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ยอมรับชะตากรรมกับเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยแสนโหด แม้พ่อจะตายไปแล้ว หนี้ส่วนนั้นก็ไม่อาจยกให้เป็นโมฆะได้แต่อย่างใด คนตายไปแล้วก็สบายคนที่อยู่ก็รับเวรรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อต่อไป
มะลิตัดสินใจไปทำงานตามที่เจ้าหนี้เสนอให้ ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนจะได้รับอิสระกลับมา แล้วให้ยายแก่ๆ อยู่บ้านเพียงลำพัง โดยฝากเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันดีช่วยดูอีกแรง เก็บกระเป๋าใบเล็กๆ มีเสื้อผ้าไม่กี่ชุดเพราะไม่ใช่คนชอบแต่งตัว ก่อนจะเดินออกมาหายายที่ยืนน้ำตาอาบแก้มอยู่หน้าบ้าน “ไม่ต้องห่วงยายนะมะลิ ยายดูแลตัวเองได้” “มะลิไม่อยู่ ดูแลตัวเองดีๆ นะ” ยายหลานที่ตัวติดกันปานปาท่องโก๋กอดกันแน่น พร้อมกับหลั่งน้ำตาแบบไม่ขาดสาย ต้องห่างไกลหลายร้อยกิโลครั้นเหลือกันแค่เพียงสองคน แต่แล้วก็ต้องจำใจจากเมื่อสถานะลูกหนี้มันค้ำคอ หอบกระเป๋าใบเก่าขึ้นรถตู้ มองยายแก่ๆ ที่ยืนมองหลานสาวกลับด้วยสายตาแดงละห้อย กระทั่งประตูรถตู้ปิดลง พลันมะลิก็ปล่อยโฮอย่างหนัก จนชายฉกรรจ์ทั้งสองคนมองหน้ากัน “ไม่ได้พาไปฆ่า ร้องอะไรขนาดนั้น” “มะลิห่วงยายจ้ะ” “รู้ แต่คุณเหมเขาอยากได้เงินของเขาคืน ไม่มีก็ต้องทำงานใช้หนี้น่ะถูกแล้ว” “ฮือ...” มะลิยังปล่อยเสียงร้องโดยไม่กลัวว่าใครจะรำคาญ ในใจตอนนี้มีแต่ความเป็นห่วงยายที่ต้องอยู่บ้านหลังทรุดโทรมเพียงลำพัง รถตู้เบาะนิ่มนั่งสบายตูด แอร์ก็เย็นฉ่ำทำคนที่ร้องไห้เหนื่อยเผลอหลับสนิทอย่างไม่รู้ตัว หลายชั่วโมงกับการเดินทางโดยไม่จอดพักที่ไหน มีเพียงแวะเติมน้ำมันและเข้าห้องน้ำ กระนั้นไม่ได้ทำให้คนที่นอนหลับใหลรู้สึกตัวตื่นเลยสักนิด และรู้อีกทีเธอถูกปลุกให้ตื่นเมื่อเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังโต “ตื่น !” มะลิสะลึมสะลือขึ้นเมื่อถูกเรียกและโดนเขย่าตัว จากนอนฟุบหน้าลงเบาะนั่งก็งัวเงีย พลางขยี้เปลือกตาง่วงงุนแล้วมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผ่านหน้าต่างรถ ก่อนที่บานประตูรถตู้จะเปิดออก “ลงมา” “ถึงแล้วเหรอจ๊ะ” “ถึงแล้ว” ชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวตอบห้วนๆ สั้นๆ มะลิหยิบกระเป๋าที่หล่นกองอยู่ปลายเท้าขึ้นมาหอบแล้วขยับกายลงมา มองสิ่งที่ไม่คุ้นตาแบบงงๆ บรรยากาศในช่วงดึก แต่ทว่าสว่างไสวเพราะแสงไฟที่ประดับรอบบ้านเปิดทั่วราวกับเป็นงานกาชาด พื้นที่ตรงนี้และบ้านหลังโตอย่างกับคฤหาสน์ใหญ่มโหฬารมากกว่าบ้านเท่ากระต๊อบของเธอเป็นสิบเท่า แค่ทางเข้าจากรั้วมายังด้านในก็ยาวกว่าที่ดินปลูกผักของยาย คนงานในบ้านก็เดินกันอย่างพลุกพล่าน แต่งตัวคล้ายกันโดยเฉพาะพวกผู้ชาย “ตามมาด้านใน” มะลิพยักหน้าแล้วเดินตาม บ้านหลังนี้มีแต่ชายหน้าตาโหด จับจ้องมองเธอเป็นสายตาเดียวกันเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ดีหน่อยก็เป็นผู้หญิงที่ส่งยิ้มเป็นมิตรให้เธอ และลักษณะการแต่งตัวก็คงไม่พ้นการเป็นแม่บ้านของที่นี่ เมื่อเดินเข้ามาด้านใน ดวงตาคู่ใสก็เบิกกว้างกลมโต มันกว้างอย่างกับสนามฟุตบอลในโรงเรียนวัด โต๊ะตู้โชว์หรือโซฟาสวยหรูแบบฉบับบ้านคนรวยไม่มีผิด ก่อนจะเห็นว่ามีชายร่างสูงเป็นลมเหนือเดินมาจากฝั่งซีกขวาของบ้าน สวมสูทผูกเนคไทไม่ต่างจากชายฉกรรจ์สองคนที่เธอนั่งมาด้วยจากเชียงรายยันกรุงเทพ ทว่าชายผู้มาใหม่คนนี้ดูท่าทางใจดีกว่าอีกสองคนนั้นมากทีเดียว “มาถึงเร็วจังวะเดช” “เร่งคนขับรถเลยพี่” เพราะไม่อยากให้เจ้านายรอนาน เลยนั่งกันแบบมาราธอนไม่แวะจอดที่ไหน มะลิที่เอาแต่กอดกระเป๋าเป้ใบเก่ายืนก้มหน้าไม่สบตาใครทั้งสิ้น ไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องมาทำงาน แค่นึกว่าต้องมาเป็นแม่บ้านก็รู้สึกเหนื่อยตาย เพราะบ้านหลังนี้อลังการเสียเหลือเกิน แค่บันไดขึ้นไปชั้นบนและส่วนบริเวณห้องโถงทำครึ่งวันก็ไม่น่าจะเสร็จ “พวกมึงไปพัก กูพาเข้าไปเอง” “ครับพี่” ชายหน้าดุสองคนพูดพร้อมกัน แล้วกระจายตัวกันออกไปคนละทิศละทาง ส่วนมะลิยังยืนตัวเกร็ง เสียวสันหลังวาบยามดวงตาคมของคนตรงหน้าจ้องมองกัน “เธอชื่ออะไร” “ชะชื่อ...มะลิจ้ะ” คนอายุน้อยแนะนำตัวเองด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ ยามลมเหนือขยับเข้ามา มะลิก็ขยับถอยหลังออก มองเพียงปลายเท้าของคนตัวโต ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเลยสักนิด “ฉันชื่อลมเหนือ เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณเหมราช” “...” “เรียกฉันว่าเหนือเฉยๆ ก็ได้” “จ้ะ...คุณเหนือ” “ตามฉันมา” “ไปไหนอีกเหรอจ๊ะ” มะลิถามอย่างตื่นกลัว เดิมตามคนนั้นคนนี้จะทั่วบ้านอยู่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องมาทำงานอะไรเพื่อชดเชยกับหนี้สินที่ไม่ได้ก่อ “ไปพบเจ้าหนี้เธอไง” พูดจบลมเหนือก็เดินย้อนกลับไปยังฝั่งขวา โดยที่มะลิต้องจำใจก้าวเท้าเดินตามไปยังห้องห้องหนึ่ง ลมเหนือเคาะไปสามทีอย่างมีมารยาทโดยที่คนได้ในยังไม่เอ่ยอะไรออกมา ก่อนจะเปิดเข้าไปแล้วให้คนด้านหลังเดินตาม มะลิย่างเท้าเข้าอาณาเขตของห้อง มองเห็นเพียงขาโต๊ะที่ตั้งไว้ตรงกลางและมีเสียงดังปั๊กหลายที “พามาแล้วครับคุณเหม” เหมราชที่กำลังจ้องลูกสนุ๊กอย่างจดจ่อ ได้ยินที่ลมเหนือพูดแต่ยังไม่สนใจสิ่งอื่นนอกจากลูกกลมๆ ตรงหน้า แล้วใช้ไม้แทงเข้ากลางลูกเต็มๆ จนมันหล่นลงรูด้านข้าง ก่อนจะเหยียดตัวขึ้นเต็มความสูง เหมราชยังไม่ได้สนใจผู้มาใหม่แต่พอเข้าใจว่าต้องเป็นลูกหนี้ที่ถูกนำตัวมา เขาหมุนตัวไปหยิบเครื่องดื่มที่รินลงแก้วไว้ขึ้นมาดื่ม พอใจกับฝีมือยิงสนุ๊กของตัวเองที่แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเอี้ยวใบหน้าหันมามอง ทว่าดวงตาคมมองจากพื้นค่อยๆ ไล่ขึ้นมาอย่างเชื่องช้าเหมือนกำลังสังเกตบางอย่าง ??เช้าวันต่อมา บรรยากาศในเมื่อคืนกลายเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เมื่อเพื่อนบ้านเห็นว่ามีรถคันหรูจอดหน้าบ้านยายใหม่ตั้ง 2 คันก็แวะเวียนเข้ามาทักทายตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เรื่องราวของมะลิดังไปทั่วหมู่บ้านภายในค่ำคืน แต่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่คนพูดถึง ทว่าโดนสบประมาทว่ามะลิอาจเป็นเพียงเมียน้อยของเจ้าหนี้มาเฟีย แต่เมื่อเจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเอง พร้อมกับหัสดินว่ามะลิคือเมียหนึ่งและเมียเดียวของตระกูลอัครพิสุทธิ์สิน ทุกคนที่เอาแต่จ้องสงสัยและจ้องนินทาก็หายแคลงใจ ส่วนยายหมายก็โล่งอกในทันที หลังจากที่แอบคิดมากมานาน เป็นเดือนๆ ว่าหลานสาวอาจเป็นเพื่อนของเล่นคนรวยเป็นเพียงคนขัดดอก “ฝีมือยายไหม อร่อยเหมือนมะลิเลยนะ ลื้อว่าไหมอาเหม” หัสดินพูดออกมาอย่างชื่นชม ขณะที่ยังนั่งขัดสมาธิบนแคร่ไม้ นั่งล้อมวงกินมื้อเช้าในบรรยากาศที่แตกต่างจากที่เคยเป็น แต่ทว่าชายมีอายุกลับรู้สึกชื่นชอบกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว หรืออาจจะรู้สึกชื่นชอบเพราะเจอคนที่ถูกใจ สายตาหัสดินที่มองยายไหมทำเหมราชหนักใจ แม้จะเคยอนุญาตให้เตี่ยมีเมียอีกสักคนแต่ก็ไม่นึกว่าเตี่ยจะแสดงอาการหนักเมื่อเจอยายของมะลิ เล่นหูเล่นตาแพรวพราวราวกับตัวเอง
สามวันต่อมาเชียงรายสายการบินดับเบิ้ลบี ไฟล์ท TG9397 แลนดิ้งถึงสนามบินในช่วงเวลาบ่ายโมง เป็นครั้งแรกที่มะลินั่งเครื่องบินก็ตื่นเต้นตลอดการเดินทาง เป็นการกลับบ้านในรอบหลายเดือน ตั้งแต่มะลิมาทำงานใช้หนี้เพื่อแลกกับที่ดินของยายการเดินทางมาเพียงสองคน เหมราชยอมเลื่อนงานที่ต้องจัดการภายในสองสามวันนี้ออกไปเป็นอาทิตย์และพาเมียมาหายายที่คิดถึง ลงจากเครื่องก็มีรถเช่ามารอรับ ครั้นลมเหนือติดต่อจองไว้ให้เพราะเหมราชไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาเองรถยนต์ยุโรปมีค่าเช่าหลักหมื่นต่อวันเคลื่อนตัวไปถนนทางหลวงและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่กลองทันที มะลินั่งบีบมือที่ชื้นไปด้วยทั้งกลัวและตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตึกตัก แต่ทว่าได้มือหนาของเหมราชกุมกระชับจนกระทั่งมาจอดหน้าบ้านพื้นดินที่ยังชื้นจากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนส่งผลให้สวนผักของยายเขียวขจี บรรยากาศโดยรอบเงียบเพราะคนแถวนั้นต่างก็ออกไปทำงานในตอนกลางวันและส่วนมากก็ทำไร่ทำสวนกันทั้งนั้น มะลิเปิดประตูลงมา ยืนท่ามกลางแดดจ้ามองบ้านทรุดโทรม พลันนั้นน้ำตาไหลเองอย่างไม่อาจห้าม เป็นครั้งแรกที่ห่างจากยายนานมากขนาดนี้ หากไม่นับตอนเคยอยู่กับพ่อ มองพื้นที่ทำมาหาอันเล็กน้อยที่เคยกลัวว่
มะลิเหนื่อยจากการอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงก็ม่อยหลับราวกับว่าสลบไสล ส่วนเหมราชก็หอบหมอนและผ้าห่มมานอนบนโซฟา เมื่อคนอายุน้อยไม่ยอมให้เข้ามานอนกอดเพราะเหม็นตัว แม้จะเข้าไปอาบน้ำใหม่อีกรอบและพรมน้ำหอมชนิดที่ฉุนจนแสบจมูกก็ยังมีกลิ่นที่มะลิไม่ชอบอยู่ดี อาการช่างแปลกๆ ทำเขาแอบตื่นเต้นนอนไม่หลับ นั่งมองเมียรักและเดินไปเดินมาคนเดียวแทบทั้งคืนรุ่งเช้า...ดวงตาปรือปรอยในเช้าวันใหม่ มะลิตื่นในช่วง 8 โมงเช้า สายกว่าเมื่อวานไปตั้งหนึ่งชั่วโมง ขยับกายที่รู้สึกดีขึ้นเมื่อคืนนั่งบนเตียง ให้อาการงัวเงียดีขึ้นแล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสดวงตากลมให้มองชัดขึ้น ในห้องเหลือแค่ตัวเองเพียงคนเดียวก็นึกว่าเหมราชคงออกไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน“ตื่นสายไม่ได้ส่งพี่เหมขึ้นรถไปทำงานเลย”ตำหนิตัวเองที่เดี๋ยวนี้เป็นคนเหลวไหล แม้จะเข้านอนเร็วกว่าปกติก็ยังเป็นยัยแคระขี้เซาอยู่ดี แบบนี้เขาเรียกว่าทำหน้าภรรยาบกพร่องไหมนะกำลังก้าวขาลงจากเตียง เสียงเปิดประตูดังขึ้น มะลิตกใจที่จู่ๆ มีคนถือวิสาสะเปิดเข้ามาเพราะหากตัวเองโป๊เปลือยอยู่คงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ทว่ากลับเห็นเป็นร่างสูงของเหมราชเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบๆ และยังสวมชุดนอนตัวเมื่อคืนอยู
ขณะที่คนอยู่ในออฟฟิศก็นั่งยิ้มมองจอมือถือไม่ต่างจากมะลิเสียเลย ลมเหนือที่ยืนรองานก็มองเจ้านายด้วยสายตารอคอย ที่จู่ๆ ก็ลอยแพให้เขายืนอยู่แบบนั้นหลายนาทีได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โทรตามให้เขาเข้ามารับเอกสารสำคัญ เพื่อที่จะส่งต่อให้กับธนาคาร แต่พอเข้ามาเหมราชก็เอาแต่สนใจหน้าจอมือถือ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เงยหน้ามามองกันเลย“ฮึมมมม”ลมเหนือกระแอมเสียงเบาๆ ก็เหมือนว่าเจ้านายจะไม่ได้ยิน ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงดังขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง พลันนั้นดวงตาคมก็ตวัดมองคนสนิทด้วยแววตาออกดุทันที ราวกับว่าเขาเข้ามาขัดจังหวะ แต่เปล่าเขาเข้ามาตามคำสั่งของเจ้านาย“งานก็วางอยู่ตรงนั้น มึงไม่แหกตามอง”ลมเหนือเสดวงตามอง เป็นซองสีน้ำตาลด้านในคือเช็คจ่ายค่าจ้างในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือการจ่ายจากบัญชีของบริษัท“ขอโทษครับ ผมเข้ามาก็เห็นคุณเหมยิ้มจนตาหยี ตั้งแต่ได้คุณมะลิมาเป็นเมียยิ้มจนร่องหมากขึ้นเลยนะครับ”โดนลูกน้องแซวเข้าให้ เหมราชเป็นคนยิ้มยาก ตั้งแต่ลมเหนือทำงานเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีเขาก็แทบนับครั้งได้ที่เห็นเจ้านายฉีกยิ้มออกมา และมุมปากที่แขวนขึ้นส่วนมากมาจากเรื่องของธุรกิจที่มันประสบความสำเร็จ แต่ทว่าตอนนี้เหมราช
“คุณเหมกลับมาค่ะคุณมะลิ”“ไม่ใช่ พี่เหมเข้าผับต่อ”สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำอ้อยควั่นยกมือมาแต่ปาก เบิกดวงตากลมโตราวกับว่าไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยินใครเรียกเหมราชแบบนี้ แม้แต่ผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของเหมราชอายุน้อยกว่าเป็นสิบปี มาเฟียหนุ่มก็ไม่อนุญาตให้เรียกสิทธิ์นั้นได้แค่มะลิคนเดียว...เมื่อสงสัยว่าเป็นใครก็เดินออกไปดูพร้อมกัน รถยนต์คันคุ้นตาไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าสัวหัสดินมาพร้อมกับของที่ติดมือมาอย่างมากมาย“เจ้าสัว...สวัสดีจ้ะ”มะลิยกมือไหว้พร้อมกับพี่อ้อยควั่น หัสดินที่กำลังเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นเพื่อเข้ามาด้านในแต่มีลูกน้องประคองกันล้ม ก็ยกมือปัดครั้นได้ยินคนอายุน้อยเรียกไม่เข้าหู“อามะลิ! ผัวลื้อไม่สั่งสอนหรือไง ว่าต้องเรียกอั๊วว่าเตี่ย”“...” มะลิทำหน้านิ่งแล้วกลอกตามองอ้อยควั่น“พวกลื้อ ขนของมาให้ลูกสะใภ้ ขนมาหมดทุกอย่าง เข้าใจไหม” เขาหันไปตะโกนบอกลูกน้อง“เข้าใจครับ”หัสดินเดินนำไปห้องรับแขก เมื่อเป็นบ้านของลูกชายไม่จำเป็นต้องรอใครเชิญ เขาสามารถเดินเข้าออกประหนึ่งเป็นเจ้าของ ชายมีอายุหย่อนกายนั่งบนโซฟาตัวนิ่ม พร้อมกับครางเสียงกับอาการปวดเนื้อปวดตัวตามประสาคนแก่ส่วนมะลิที่เดินก้มหน้าตาม
...ร่างอวบอัดขยับกายขึ้นแล้วนั่งบนเตียง ผมเผ้าที่ยาวสลวยแต่มันก็ยุ่งเหยิงมากทีเดียวในตอนตื่น แม้ไม่ใช่คืนแรกที่มะลิเข้ามาใช้ห้องนอนของเหมราช แต่ก็นับว่าเป็นคืนแรกในฐานะคุณนายของบ้านอย่างเต็มตัว ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสมองหาชายที่นอนอยู่ข้างกัน แต่กลับไม่เห็นเพราะว่าตอนนี้เขาลุกออกจากเตียงไปก่อนเธอเสียแล้วมะลิที่อยู่ในชุดนอนลายน่ารักก้าวเท้าลงจากเตียง เป็นจังหวะที่เหมราชเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ร่างสูงแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อเชิ้ตสีกรม กางเกงสแลกสีดำและกำลังผูกเนคไทเข้าที่คอ“ตื่นแล้ว”“จ้ะ มะลิตื่นแล้ว”“...”เหมราชทำเพียงยิ้มตอบและวุ่นวายกับเนคไทที่พาดบนคอ“วันนี้คุณเหมจะเข้าบริษัทเหรอจ๊ะ”“ใช่ ขอเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”เพิ่งกลับมาจากดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นครราชสีมา วันต่อมาเหมราชก็เตรียมตัวเข้าบริษัทอย่างเช่นเคย เดินทางไม่ไกลแต่ก็ทำให้เหนื่อยมากพอตัว เขากลับไม่ยอมหยุดพักผ่อน ไม่แปลกใจเลยทำไมทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นถึงได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากขนาดนี้“ส่วนตอนหัวค่ำจะเลยเข้าผับ”ธุรกิจกลางคืนที่เขาทำมานานหลายปี ถึงรอบที่ต้องเข้าไปตรวจตรา เพราะโดยปกติเหมราชจะเข้าผับก็ต่อเมื