Share

บทที่ 11

Author: เจว๋เหริน
“คุณผู้หญิงซูอยู่ที่ไหนครับ” จงเหลียงถามอย่างไม่แยแส

ซูไห่เฉาคิดว่าจงเหลียงแค่ถามไปอย่างงั้น เขาจึงหาเหตุผลมาอ้างง่าย ๆ ว่า

“เธอป่วยครับ จากนี้ไปผมจะรับผิดชอบติดตามความร่วมมือกับบริษัทคุณเองครับ”

จงเหลียงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น เราค่อยคุยกันหลังจากที่คุณผู้หญิงซูหายเป็นปกติแล้วดีกว่าครับ”

หลังจากพูดจบ จงเหลียงก็หันหลังกลับและเดินออกไปทันที

ซูไห่เฉาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบวิ่งตามจงเหลียงไปทันทีและพูดว่า “พี่จงครับ ผมจะรับผิดชอบเรื่องนี้เองครับ คุณวางใจได้เลย ผมมีความสามารถมากกว่าซูหยิงเซี่ยแน่นอนครับ การเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทของคุณ....”

ก่อนที่ซูไห่เฉาจะพูดจบ จงเหลียงก็หยุดอยู่ที่ด้านข้างของรถของเขาแล้วพูดว่า “มีคนจำนวนมากที่ต้องการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทลั่วเฉว ในเมื่อตระกูลซูไม่มีความซื่อสัตย์ ผมคงต้องพิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง”

เมื่อซูไห่เฉาเห็นรถของคุณจงเหลียงขับออกไป เขาก็ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจงเหลียงคงไม่สนใจเรื่องนี้ แต่ทัศนคติของเขาเด็ดขาดอย่างไม่น่าเชื่อ

พิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้งอย่างนั้นเหรอ!

ประโยคนี้ทำให้ซูไห่เฉาหัวหมุน เดิมทีตระกูลซูเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งพอประมาณ แต่ท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมาก การได้เป็นหุ้นส่วนแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้ามันถูกทำลายด้วยมือของเขา คุณย่าคงจะไม่ฆ่าเขาใช่ไหม?

จะทำอย่างไรดี?

หรือจะต้องให้ซูหยิงเซี่ยมาทำงานนี้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?

ซูไห่เฉารับไม่ได้ เมื่อคืนนี้เขาเพิ่งจะอวดอำนาจต่อหน้าซูหยิงเซี่ย ถ้าเขาต้องขอร้องให้เธอมาจัดการเรื่องนี้ต่อ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของซูไห่เฉาก็ดังขึ้น

“ไห่เฉา คุณย่ามาถึงบริษัทแล้ว จงเหลียงยังไม่มาอีกเหรอ?” ซูกั๋วหลินถาม ชายชราคนนี้ก็ภูมิใจในตัวเขามากเช่นกันที่แย่งโอกาสนี้มาจากซูหยิงเซี่ยได้ มันสำคัญกับตำแหน่งของซูไห่เฉาในบริษัทเป็นอย่างมาก ถ้าซูไห่เฉาทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ เขาจะได้เป็นผู้อำนวยการของตระกูลซูอย่างแน่นอน

“ผมจะไปที่ห้องประชุมเดี๋ยวนี้ครับ” ซูไห่เฉาพูดอย่างเอาจริงเอาจัง

ในห้องประชุม บรรดาญาติ ๆ ของตระกูลซูรวมตัวกันอยู่ที่นั่น เพราะครั้งนี้คือการเจรจาขอเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญมาก เพื่อแสดงความจริงใจของตระกูลซู จึงไม่มีใครกล้าที่จะไม่เข้าร่วม

หญิงชราของตระกูลซูนั่งในที่นั่งผู้อำนวยการ เมื่อเธอเห็นว่าซูไห่เฉามาที่ห้องประชุมคนเดียว เธอจึงถามขึ้นว่า “จงเหลียงยังไม่มาอีกเหรอ?”

“คุณย่าครับ” ซูไห่เฉาพูดพลางก้มหัวลง

หญิงชราของตระกูลซูขมวดคิ้วและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น แกไม่ได้ทำให้อะไรให้จงเหลียงรู้สึกขุ่นเคืองหรอกใช่ไหม?”

ทันทีที่ได้ยินคำถามนี้ บรรดาญาติ ๆ ของตระกูลซูก็มองดูซูไห่เฉาอย่างเป็นกังวล โดยเฉพาะซูกั๋วหลิน เขายังคงภูมิใจที่ซูไห่เฉาที่ได้รับโอกาสนี้ หากซูไห่เฉาทำพลาด ในอนาคตคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้เป็นผู้อำนวยการ

“ไห่เฉา เกิดอะไรขึ้น วันนี้จงเหลียงไม่ว่างจึงขอเปลี่ยนเวลาเหรอ?” ซูกั๋วหลินถาม

“เพราะว่าซูหยิงเซี่ยไม่มา คุณจงเหลียงจึงรู้สึกโกรธมาก เขา...เขาพูดว่า...”

เมื่อเห็นซูไห่เฉาเริ่มลังเล หญิงชราก็ตบโต๊ะประชุมเสียงดังและพูดขึ้นอย่างฉุนเฉียวว่า “เขาพูดว่าอะไร”

ซูไห่เฉาเงียบไปครู่หนึ่งและรีบพูดต่อว่า “เขาบอกว่า เขาจะพิจารณาการเป็นหุ้นส่วนกับตระกูลซูใหม่อีกครั้งครับ”

หญิงชราถอนหายใจเฮือกใหญ่และจ้องมองเขาด้วยความโกรธ ถ้าเมื่อคืนนี้ซูไห่เฉาไม่ไปพบเธอ คนที่รับผิดชอบโครงการนี้ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และจงเหลียงก็จะไม่โกรธ

มีบริษัทตั้งกี่แห่งที่ต้องการจะเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทนี้ และมีกี่คนที่ต้องเสียเวลาฟรี ๆ เพื่อขอเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทนี้ ขณะนี้ตระกูลซูได้รับโอกาสนี้แล้ว แต่เพราะซูกั๋วหลินและลูกชายของเขาอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสนี้ไปได้

“ซูไห่เฉา ซูกั๋วหลิน ถ้าครั้งนี้ตระกูลซูไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทลั่วเฉว แกสองคนพ่อลูกก็ไสหัวออกไปจากตระกูลซูซะ” หญิงชรากัดฟันพูดด้วยความโกรธ

เมื่อสองพ่อลูกได้ยินคำพูดนั้นของหญิงชรา ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือดลงทันที พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะทำให้เกิดผลร้ายแรงแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้น หญิงชราทำในสิ่งที่เธอพูดเสมอ ถ้าเธอไล่พวกเขาไปจริง ๆ พวกเขาก็ไม่สามารถขัดขืนได้

“คุณย่าครับ แต่สัญญาถูกเซ็นเรียบร้อยแล้วนะครับ เขาคงขอคืนสัญญาไม่ได้หรอกครับ” ซูไห่เฉาพูดอย่างไม่พอใจ

หญิงชรายิ้มเยาะและตอบว่า “คนที่อยู่เบื้องหลังของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวคือใคร แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ตระกูลซูก็แค่ตระกูลเล็ก ๆ จะทำอะไรกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวได้? ถึงแม้ว่าเขาจะจ่ายค่าเสียหายให้กับแก แกกล้าที่จะรับมันไว้เหรอ?”

คำพูดของหญิงชราทำให้เหล่าญาติ ๆ ของตระกูลซูไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ อย่างที่เธอพูด ต่อให้เขาจะจ่ายค่าเสียหายมาให้ถึงหน้าประตู แต่ใครจะกล้ารับไว้กันล่ะ เพราะเบื้องหลังของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวคือตระกูลหาน!

“มีเพียงซูหยิงเซี่ยเท่านั้นที่มีโอกาสจะกอบกู้สถานการณ์นี้ได้ พวกแกหาทางแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองแล้วกัน” หญิงชราพูดด้วยความโกรธจัด ก่อนจะจากไป

สายตาที่บรรดาญาติ ๆ ในตระกูลซูมองซูไห่เฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขารู้ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้จะทำให้ตำแหน่งในบริษัทของซูหยิงเซี่ยดีขึ้น และอาจจะไม่ใช่เรื่องสำหรับซูไห่เฉานัก

ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเอาแต่ประจบประแจงซูไห่เฉา เพราะพวกเขาคิดว่าซูไห่เฉามีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทมากที่สุด แต่ตอนนี้ซูไห่เฉากลับทำผิดพลาดในเรื่องนี้ และภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของคุณย่าคงจะแย่ลงอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการเป็นประธานก็คงไม่ต้องพูดถึง

“ไห่เฉา เรื่องนี้นายคงต้องหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง พวกเราคงช่วยอะไรนายไม่ได้”

“ใช่ เราช่วยอะไรไม่ได้ คุณย่าโกรธขนาดนี้ นายรีบคิดหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดล่ะ”

“พวกเรามีธุระอื่นต้องไปทำต่อ ขอตัวก่อนนะ”

กลุ่มญาติ ๆ เริ่มทยอยกันออกไปจากห้องประชุม
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1455

    เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1454

    “เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1453

    เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1452

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1451

    “เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1450

    ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status