ช่วงสายวันต่อมา
ฉันตื่นนอนมาออกกำลังกาย พักกินข้าวแล้วก็อาบน้ำแต่งตัว จากนั้นจึงเปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อสมัครงาน ซึ่งงานที่หาก็เป็นผู้ช่วยทนายความเหมือนเดิม ฉันดูเนื้องานที่ต้องทำ เรื่องเงิน เรื่องวันหยุด สวัสดิการต่างๆ แล้วจึงกดสมัครงานประมาณเกือบ20บริษัท ฉันเชื่อว่าต้องมีบริษัทไหนสักบริษัทที่เรียกฉันไปสัมภาษณ์งาน ต้องรออย่างมีความหวัง สู้ๆ ยัยคาริสา แกทำได้ ฉันเชียร์อัพตัวเอง จากนั้นฉันก็ปิดโน๊ตบุ๊คแล้วหยิบมือถือมาเปิดแอป live jing และแน่นอนว่าเป้าหมายแรกของฉันคือการทักคุณเคนทาโร่สุดที่รักของฉัน อิอิ คาริสา : ฮัลโหล~ มีคนอยู่ไหมค๊าาาาา คาริสา : วันนี้ไลฟ์ไหมคะ เคนทาโร่ : สวัสดีครับคุณคาริสา ผมอาจจะไลฟ์ช่วงค่ำๆ ครับ "กรี๊ด~ เขาตอบฉันทันที เขามีใจให้ฉันแน่ๆ" ฉันยิ้มกว้าง บิดตัวเขินไปมา คาริสา : แล้วทำอะไรอยู่เหรอคะ? หลังจากนั้นคุณเคนทาโร่ก็เงียบไปเลย ดับความมั่นของฉันมาก (TT) แต่ไม่เป็นไร คนมันเชิ่ดอ่ะเนอะ อย่าได้แคร์ ฉันจึงไปหาคุยกับหนุ่มๆคนอื่นๆในแอป live jing ช่วงเย็น ฉันไปล้างหน้าแล้วแต่งหน้าโทนนู๊ดๆ ใส่เสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงขาสั้น รวบผมแล้วติดกิ๊บไว้ จากนั้นจึงเปิดไลฟ์สดขายของ ฉันขายเสื้อผ้า ขายเครื่องสำอาง ขายขนม แล้วก็ของอื่นๆ ขายมาหลายปีก็ค่อนข้างมีฐานลูกค้าพอสมควร "สวัสดีค่ะคุณลูกค้า~" ฉันพนมมือไหว้ จากนั้นจึงเริ่มขายของจนกระทั่งได้ยอดที่พอใจแล้วจึงลงไลฟ์ ฉันดูเวลาในมือถือก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ฉันจึงเข้าแอป live jing ก็เห็นว่าคุณเคนทาโร่ไลฟ์อยู่ ฉันจึงรีบกดเข้าไปดู คนดู 561 คาริสา เข้าร่วมไลฟ์ แมวเด้ง เข้าร่วมไลฟ์ เสือเจวา : เข้าร่วมไลฟ์ "สวัสดีครับคุณคาริสา" เมื่อเขาเห็นชื่อของฉันเด้งเข้าห้อง เขารีบทักแล้วโบกมือให้ทันที คาริสา : สวัสดีค่ะคุณเคนทาโร่❤️ "คิกๆ นี่แน่ะ ส่งหัวใจฉันไปให้" ฉันเอามือป้องปากหัวเราะเบาๆ "กินข้าวหรือยังครับ" คาริสา : ยังไม่ได้กินเลยค่ะ เพิ่งทำงานเสร็จ "โห เลิกงานดึกจังเลยนะครับ แบบนี้ก็เหนื่อยแย่เลย" คาริสา : ตอนแรกก็เหนื่อยค่ะ แต่พอได้มาเจอคุณเคนทาโร่ ฉันก็หายเหนื่อยเลย อิอิ❤️ "พูดแบบนี้ผมก็เขินแย่สิครับ" เขายิ้มอย่างเขินอาย แก้มขาวๆ กลายเป็นสีชมพู โอ๊ย น่ารักเกิน (≧▽≦) คาริสา : แล้วจะลงไลฟ์กี่โมงคะ "ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ...ว่าแต่วันนี้คุณอยากฟังเพลงอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะร้องให้คุณฟัง" คาริสา : อืม~ ไม่มีนะคะ ปกติฉันไม่ค่อยฟังเพลงญี่ปุ่นเท่าไหร่ค่ะ เลยไม่ค่อยรู้จัก คิดไม่ออกว่าจะฟังเพลงอะไรดี "อ่า...งั้นเอาเพลงสากลสักเพลงไหมครับ" คาริสา : ก็ได้นะคะ "งั้นผมเริ่มเลยนะ" คาริสา : ได้ค่ะ ฉันจะตั้งใจฟังคุณร้องเพลงค่ะ จากนั้นเขาก็ร้องเพลงให้ฟัง น้ำเสียงเขาเพราะมาก แต่ฉันรู้สึกว่ามันมีความเศร้าๆ อยู่ในนั้น "เป็นไงบ้างครับ" เมื่อเขาร้องเพลงจบก็ถามฉัน **คาริสา💘 ส่งของขวัญ ให้เคนทาโร่** คาริสา : ร้องเพลงเพราะมากค่ะ เพราะจนฉันทนไม่ไหวต้องส่งของขวัญให้คุณเลย **คาริสา 🥳 ส่งของขวัญคูณ100 ให้เคนทาโร่** "แค่คุณคาริสาอยู่กับผม ผมก็ดีใจแล้ว คุณไม่ต้องส่งของขวัญให้ผมหรอกครับ" เขาพูดด้วยความเกรงใจ คาริสา : ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเต็มใจให้คุณ "ไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ ผมแค่ไลฟ์เล่นๆเอง ถ้าคุณส่งของขวัญมาอีกผมจะโกรธนะครับ" คาริสา : ถ้าคุณว่าอย่างนั้น งั้นก็ตามนั้นค่ะ "น่ารักมากเลยครับ" เขายิ้มกว้าง คาริสา : แต่คุณน่ารักกว่านะคะ "โอ้~" เขาทำหน้าตกใจ ก่อนที่ใบหน้าเขาจะขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย คาริสา : คุณน่ารักมากเลยค่ะ ฉันไม่เคยเจอผู้ชายขี้อายแบบนี้เลย "ฮ่าๆ ก็คุณชอบทำผมเขินอายนี่นา" เขาหัวเราะเบาๆ คาริสา : ก็เพราะคุณน่ารักไงคะ "พอครับๆ ชอบล้อผมเล่นอยู่เรื่อยเลย" คาริสา : 555 "มันคืออะไรเหรอครับ?" คาริสา : อ๋อ เลข5มันคือการหัวเราะค่ะ ประเทศฉันหัวเราะกันแบบนี้ค่ะ "อ๋อ" เขาพยักหน้าเข้าใจ คาริสา : จะร้องเพลงต่อไหมคะ ฉันรอฟังอยู่นะคะ "ได้ครับ งั้นมาฟังเพลงกันนะครับ" เขาพูดจบก็เริ่มดีดกีตาร์แล้วก็ร้องเพลงอีกหลายเพลง ส่วนฉันก็อยู่ฟังเพลงจนเขาลงไลฟ์ "ตีสองแล้วเหรอเนี่ย ทำไมเวลาผ่านไปไวจัง" ฉันมองเวลาในมือถือด้วยความแปลกใจ เพราะเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปไวจัง หลังจากนั้นฉันจึงอาบน้ำ ทาครีมบำรุง มาร์คหน้าแล้วเข้านอน ถึงจะนอนดึกอยู่เฝ้าผู้ชาย แต่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองโทรมเด็ดขาด อิอิ:-Pหนึ่งเดือนต่อมา ฉันกับคุณใต้หล้าเลือกที่จะจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วคุยกันว่าถ้าจะจัดงานแต่งงานก็อยากให้มีลูกของพวกเราร่วมงานด้วย ฉันปล่อยเช่าคอนโด แล้วย้ายมาอยู่กับคุณใต้หล้า เขาซื้อบ้านเดี่ยวแถวๆชานเมือง เป็นบ้านสองชั้น มีสระว่ายน้ำในตัวชีวิตของพวกเราเป็นไปอย่างเรียบง่าย วันหยุดพวกเราก็ใช้เวลาร่วมกันบ้าง บางทีก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน บางทีก็ออกไปเที่ยว ค่อนข้างมีความสุขเลยทีเดียว จนกระทั่งวันหนึ่ง "คุณใต้หล้า" ฉันเรียกเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น"ครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน "แบมือ" ฉันบอกเขาพร้อมกับยิ้มมุมปาก เขาจึงยื่นมือมาตรงหน้า ฉันจึงวางของบางอย่างลงบนมือเขา"เซอร์ไพรส์""หืม?" เขามองสิ่งของที่อยู่บนมือของตัวเอง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นมากอดฉันด้วยความยินดี"ดีใจไหมคะ?" ฉันถามเขา"ดีใจสิ...ในที่สุดก็จะมีลูกกับเธอแล้ว" เขายิ้มกว้าง และแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในมือเขาคือที่ตรวจครรภ์ หลังจากนั้นเราสองคนก็เห่อลูกมาก พยายามเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเด็ก และกำลังวางแผนสร้างห้องให้ลูก แม้ฉันเพิ่งจะท้องได้สองเดือน แต่แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในวันที่ฉันเลิกงาน ใ
สองสัปดาห์ต่อมา หลังจากเคนทาโร่ออกจากโรงพยาบาล คุณใต้หล้าก็ส่งเคนทาโร่ไปอยู่ต่างหวัด ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆท่ามกลางธรรมชาติ และยังส่งบอดี้การ์ดในคราบเพื่อนบ้านให้คอยดูแลเคนทาโร่อีกด้วย หนึ่งเดือนต่อมา ฉันกับคุณใต้หล้าไปเยี่ยมเคนทาโร่ เคนทาโร่มีใบหน้าที่สดใส ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกสุขใจ เพราะเคนทาโร่น่าจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการแล้ว"คาริสาดูสิ ผมปลูกเองนะ" เขาอวดพืชผักที่ปลูกเอง "เก่งมาก" ฉันยิ้มกว้าง "ผมฝึกทำกับข้าวด้วยแหละ พี่ชานนท์ พี่ที่อยู่ข้างบ้านสอน" เคนทาโร่ทำตาเป็นประกาย"จริงเหรอ...งั้นวันนี้ขอชิมฝีมือคุณหน่อยนะ" ฉันพูด "ได้เลย นั่งรอก่อนนะ" เคนทาโร่ จับมือฉันกับคุณใต้หล้าให้ไปนั่งที่โซฟา แล้วจึงหายเข้าไปในครัวครู่ใหญ่ "มาแล้วๆ" เคนทาโร่เดินถือไข่เจียวต้นหอมร้อนๆ ส่งกลิ่นเย้ายวนใจ แล้วเรียกพวกฉันให้ไปที่โต๊ะอาหาร"หอมมาก" ฉันกลืนน้ำลาย "มีแค่ไข่เจียวเหรอ?" คุณใต้หล้าถาม "มียำปลากระป๋องด้วย" เคนทาโร่ตอบ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัว แล้วถือจานยำปลากระป๋องมาวางบนโต๊ะ"มากินข้าวกันเถอะ" เคนทาโร่ ตักข้าวสวยร้อนๆ ยื่นให้พวกเราคนละจาน และหันไปตักของตัวเอง จากนั้นจึงเริ่มกิน "อร่อย"
"เคนทาโร่...กินส้มตำไหม?" "เอาสิๆ ผมชอบ" เขาพยักหน้าเห็นด้วย "ขอหาร้านเด็ดก่อน" ฉันหยิบมือถือขึ้นมาหาร้านส้มตำเจ้าอร่อย เมื่อหาได้ก็บอกเคนทาโร่ ประมาณเกือบยี่สิบนาทีพวกเราก็มาถึงร้าน "โห/โห" ฉันกับเคนทาโร่หันมามองหน้ากัน เมื่อมองเห็นว่าร้านส้มตำคนแน่นร้านมาก อาจจะเป็นเพราะว่าพักกลางวันด้วยแหละมั้ง "ร้านอื่นไหม" ฉันหันไปถามเคนทาโร่ "ดีครับ" เขาพูดจบก็ออกรถ พวกเราจึงหาร้านไม่ไกลจากบริเวณนั้นเพราะหิวแล้ว ขับได้สิบนาทีก็มาถึงร้านส้มตำ ฉันกับเคนทาโร่ก็สั่งตำไทย ตำปูปลาร้า ปีกไก่ย่าง น้ำตก ยำทะเล และจิ้มจุ่ม ระหว่างรออาหารก็คุยสัพเพเหระไปเรื่อย "คาริสาจัง" "หืม?" "เมื่อไหร่จะมีหลาน ผมอยากอุ้มหลาน" "พรวด!" ฉันที่ดูดน้ำส้มอยู่ น้ำส้มพุ่งออกจากปากทันที "แค่กๆ" เคนทาโร่รีบยื่นทิชชู่ให้ "ถามอะไรของคุณเนี่ย" ฉันทำหน้าไม่ถูกเลย "ผมจริงจังนะ คุณก็รู้ว่าผมมีลูกไม่ได้" เคนทาโร่หมายถึงว่าเขาชอบผู้ชาย และไม่คิดที่จะเอาน้ำเชื้อของตัวเองไปทำลูกด้วย "ฉันกับเขายังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น พวกเราเพิ่งจะคบกันเองนะ" "ผมใจร้อนไปเหรอ? ฮ่าๆ" เขาหัวเราะ "ก็ใช่น่ะสิ" "เฮ้อ~ แย่จัง" เขาถอนหายใจด้วยความเ
"พี่คะ" ฉันเรียกเขา "หืม?" "ร้องเพลงให้หนูฟังหน่อยสิ" ฉันลงไปนอนบนเตียง แล้วเท้าคางมองหน้าเขา"เอาเพลงอะไรดี?" "อะไรก็ได้ค่ะ หนูฟังได้หมด" "โอเค" เขาตอบรับ แล้วดีดกีตาร์ เริ่มทำนองเพลง ก่อนจะร้องเพลง ฉันฟังเขาอย่างตั้งใจ เนื้อเพลงที่เขาร้องสื่อความหมายว่าขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน และเขาไม่รู้ตัวว่ารักฉันตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีคือรักไปแล้ว "คิกๆ" ฉันนั่งยิ้มกว้าง ทำตาหวานเยิ้มมองเขา อีตาพี่คนนี้มันโรแมนติกตัวพ่อเลยนี่นา( ꈍᴗꈍ) "แปะๆ" ฉันตบมือรัวๆ แล้วพูดว่า "ร้องเพราะมากเลยค่ะ" "เพลงนี้แต่งเองนะ" "จริงเหรอ" "ใช่...มันเป็นความรู้สึกของผม...ถึงคุณ" "โอ๊ย~" ฉันเอามือจับที่บริเวณหัวใจของตัวเอง แล้วกระตุกทำท่าเหมือนจะตาย "เว่อร์" เขาหัวเราะ แล้วลุกไปเก็บกีตาร์ จากนั้นจึงนอนบนเตียง แล้วตะแคงข้างหันมากอดฉัน "จุ๊บ" เขายื่นหน้า มาจูบริมฝีปากฉันเบาๆ และแน่นอนว่าฉันไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่>.ฉันขบเม้มริมฝีปากเขา แล้วค่อยๆสอดลิ้นเล็กเข้าไปในโพรงปาก ใช้ลิ้นเล็กเกี่ยวรัดลิ้นหนาอย่างหยอกล้อ มือที่ว่างอยู่ก็ยื่นไปปลดกระดุมเสื้อเขา ส่วนเขาใช้มือหนา ลูบไล้ที่บริเวณต้นขา ก่อนจะผลุ
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากที่ตกลงเป็นแฟนกัน เขากับฉันก็เจอกันบ้าง แต่ไม่ได้บ่อย ส่วนใหญ่จะวีดีโอคอลมากกว่าเพราะเขางานยุ่งและคืนนี้เขาสะพายกระเป๋าหนึ่งใบ มายืนอยู่หน้าห้องของฉันแล้วบอกว่า "ผมจะมาอยู่ที่นี่หนึ่งสัปดาห์" "พี่ไม่ทำงานทำการหรือไงคะ?" ฉันเอียงคอถามด้วยความสงสัย "เคลียร์หมดแล้วครับ" "อย่าบอกนะว่า...ที่พี่โหมทำงานหนักตลอดหนึ่งเดือนนี้เพราะจะลามาอยู่กับหนู" "ใช่" เขายิ้มกว้าง "โห~" น้ำตาของฉันไหลริน "ร้องไห้ทำไม" เขายื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน "ฮือ~" ฉันยิ่งร้องไห้หนัก เขาจึงดึงฉันเข้าไปกอดปลอบใจ แล้วอุ้มฉันเข้าห้อง จากนั้นจึงวางลงบนเตียงกว้าง"ไม่ดีใจเหรอ?" "ฮึก...ดีใจสิคะ" ฉันสะอื้นตอบ ก่อนหน้าที่เคยผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็เคยคิดว่าเป็นเพราะฉันดีไม่พอหรือเพราะอะไร ทำไมคนอย่างฉันไม่สมควรถูกรักบ้าง ทั้งๆที่ทุกความสัมพันธ์ฉันให้ใจไปเต็มร้อยและซื่อสัตย์กับทุกความสัมพันธ์เสมอ และในวันนี้ฉันได้คำตอบแล้วว่า'เพราะที่ผ่านมาฉันรักไม่ถูกคน' กว่าฉันจะก้าวผ่านความเจ็บปวดและเยียวยาจิตใจตัวเองจากคนก่อนๆค่อนข้างสาหัสทีเดียว ฉันเก็บความผิดพลาดจากคนก่อนๆมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แล้วเริ
เมื่อขับรถตามมาจนถึงจุดหมาย ก็พบว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ฉ้นกับคุณใต้หล้าจึงลงจากรถ "ฮือๆ" เสียงสะอื้นของเหมยดังลอดออกมา ฉันมองเข้าไปก็ไม่เห็นตัวเหมยเพราะคนที่จับตัวเหมยมายืนล้อมเหมยเอาไว้ "สาแก่ใจหรือยัง" เสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยความคับแค้นระคนเศร้าใจดังขึ้น ฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงของคนที่เอาปืนขู่ฉัน "ฮึกๆ...ฮือๆ...ฉันขอโทษ...ฉันไม่รู้" เหมยสะอื้น "ไม่รู้? พูดง่ายๆว่าไม่รู้...ฮ่าๆ" ชายคนนั้นหัวเราะเหมือนคนเสียสติ คุณใต้หล้าจับมือฉันเดินเข้าไปใกล้ พวกเขาได้ยินฝีเท้าของพวกเราจึงพากันเปิดทางออก ทำให้ฉันเห็นโลงศพสามโลงตั้งอยู่ หน้าโลงศพ มีผู้หญิงอายุราวๆสี่สิบปีหนึ่งคน เด็กผู้หญิงอายุราวๆสิบสองปีหนึ่งคน และเด็กชายอายุราวๆเก้าขวบหนึ่งคน เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันก็พอนึกเรื่องราวออก ฉันมองไปที่เหมยแล้วเดินเข้าไปหา "เหมย" "คาริสา...ฮือๆ" "แกกลับไปทำงานแล้วเหรอ?" "ใช่" "คดีแรกเหรอ?" "ฮึก...ฮือๆ...ใช่...แต่ฉันไม่รู้นี่...ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้" "เมาแล้วขับใช่ไหม" "น่าจะใช่...ฮือ" "เฮ้อ~" ฉันถอนหายใจ ไม่รู้จะช่วยยังไง ถ้าพูดในเรื่องของหน้าที่เหมยก็ทำถูกแล้ว แต่ถ้าจะพูดถึง