"เป็นผู้ปกครองอย่างนั้นเหรอคะ" ซาเฟียร์ขบกลีบปากของตัวเองอย่างแรง
ที่ผ่านมาเธอมีเฮียซานย์เป็นผู้ปกครองแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เฮียซานย์เป็นทุกอย่าง จัดการได้ทุกเรื่อง เฮียเป็นมากกว่าพี่ชาย เป็นดั่งพ่อที่ดีที่สุดของเธอ ใครเหรอจะมาทำหน้าที่นี้แทนเฮียได้ดีไปกว่าตัวของเฮียเอง "หน้าที่ของผู้ปกครองคือต้องทำอะไรบ้างเหรอคะ" ซาเฟียร์เชิดหน้าถาม ท่าทางไม่ยี่หระ ไม่แยแส เอาง่ายๆ คือเพื่อนของพี่ชายแค่ทำทุกอย่างตามหน้าที่ เขาไม่ได้ใจดีกับเธอเหมือนที่พี่ชายของเธอบอกเอาไว้เลย "ทำทุกอย่างที่พี่ชายเธอเคยทำ" "เฮียซานย์ตามใจหนูทุกอย่าง เฮียให้ทุกอย่างที่หนูขอ แน่ใจเหรอคะว่าพี่ภพทำได้ทุกอย่างเหมือนเฮีย" "เคยรู้รึเปล่าว่าการได้ทุกอย่างเพราะนิสัยเอาแต่ใจตัวเองบางครั้งมันอาจจะทำให้พี่ชายของเธอเหนื่อยใจ" "...เฮียบอกเหรอว่าเฮียเหนื่อยใจเพราะหนู" "ไม่จำเป็นต้องบอก เพราะฉันโตกว่าเธอและมีความคิดมากกว่าเธอ" "..." "ขณะที่ซานย์กำลังลำบากเพราะมีคนปองร้าย เธอเองก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย เธอควรโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองและสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้แล้ว ฉันนี่แหละจะเป็นคนฝึกเธอเอง!" หนุ่มหล่อจ้องมองน้องสาวของมาเฟียใหญ่ที่ตอนนี้ต้องรับบทบาทที่หลากหลายหน้าที่ ซานย์อ่อนโยนเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่รักและอ่อนแอกว่า ซาเฟียร์อาจจะไม่รู้และไม่เคยเห็นอีกหนึ่งบทบาทนั่นคือการเข่นฆ่า การทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด แม้ซานย์จะยิ่งใหญ่พอตัว มีคนของเขาคอยรับใช้ แต่ก็จำเป็นต้องระวังพวกที่หวังผลประโยชน์และจ้องจะแทงข้างหลังอยู่ดี "พี่จะฝึกอะไรหนู หนูโตแล้ว แม้จะยังเรียนอยู่แต่หนูก็ไม่ได้ไม่ประสีประสาแบบที่พี่คิดนะ" "เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการเข้ามหาลัยที่นี่ ฝึกการอยู่คนเดียวให้เป็น ฝึกการใช้ชีวิตในแบบที่ไม่มีซานย์คอยช่วยเหลือให้ได้ นี่คือสิ่งที่เธอต้องทำ" จบคำนั้น หนุ่มหล่อก้าวขาออกมาจากห้องพักหรูที่เขาคือผู้ที่เป็นเจ้าของทันที ใบหน้าหล่อเหลายังคงความเรียบเฉย แวบหนึ่งที่หลุดความหงุดหงิดผ่านแววตา คล้ายมีสัญญาณเตือนที่เตือนให้เขารู้ว่า ต่อจากนี้ชีวิตของเขาคงไม่สงบสุขอีกต่อไป บ้านอัศวราช "คนสวยของอาภพ" เรียวปากหยักได้รูปเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือหนาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ด ทันทีที่ดวงตากลมใสแป๋วของหลานสาวหันกลับมามองด้วยความสนใจ อาภพของหลานๆ ยิ้มกว้างอวดความหล่อในทันที "วันนี้มีขนมด้วยนะครับ" คนฟังทำตาโต อันดาดันตัวลุกก่อนที่ขาเล็กขาวจั๊วจะเดินต้วมเตี้ยมตรงมาหาผู้เป็นอา ภพนิพิฐย่อตัวลงกับพื้น ตวัดท่อนแขนโอบรั้งร่างแบบบางเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ปลายจมูกโด่งคมสันฝังลงที่แก้มเนียนนุ่มหนักๆ องศาไม่ยอมน้อยหน้า รีบส่งเสียงทักทายผู้เป็นอาอีกคน "เอิ๊ก~" "คิดถึงอาล่ะซี มานี่เลย มาให้อาภพหอมเดี๋ยวนี้เลย" เปี่ยมรักหันมองตามทิศทางของเสียง มุมปากบางกระตุกรอยยิ้มเล็กๆ พักนี้อันดากับองศาติดอาภพแจเลย "วันนี้ทำไมกลับบ้านไวนักล่ะ" "เบื่อๆ น่ะเฮีย" ภพนิพิฐวางหลานๆ ลงบนฟูกพลางทิ้งตัวลงนั่งด้วยกัน ขณะตอบคำถามแด๊ดดี้ของหลานๆ หนุ่มโสดก็ไม่ได้หันไปมองหน้าผู้เป็นพี่ชาย จากนั้นก็เลือกที่จะเทของฝาก อันดาองศาส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ "ขนมรสข้าวโพดอบกรอบ ของโปรดคนสวย รสมันม่วงของโปรดสุดหล่อ" นิ้วยาวฉีกซองขนม ไม่นานมือเล็กบอบบางก็เอื้อมมารั้งขนมไปกุมไว้ จ่อปากเล็กพลางลิ้มรสอย่างถูกอกถูกใจ "อร่อยล่ะซี อาภพรู้ใจเด็กๆ ที่สุดเลยใช่ไหมคะ" "พูดคะพูดขากับหลาน อย่าบอกนะว่าคลั่งเด็กจนอยากได้ลูกกูไปเป็นลูกของมึงเอง เอาใจเก่งแบบนี้กูว่าใช่แล้วล่ะ" "เบาหน่อยสิเฮีย ลูกสาวกับลูกชายผมได้ยินแด๊ดดี้พูดไม่เพราะเลย" "นั่นไงกูว่าล่ะ" คนที่ถูกแย่งลูกหน้าตึง ส่วนคนที่หยอกล้อพี่ชายจนสำเร็จกดยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ "อันดาอร่อยไหมคะ" คนถูกถามกระพริบตาปริบๆ พลางพยักหน้ารับ องศาเอียงคอมองตาละห้อย ในขณะที่ผู้เป็นอาโน้มใบหน้าลงไปใกล้ อ้าปากแย่งขนมหลานชายกระทั่งองศาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ครืด~ ครืด~ โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเรียกสายตาของคนที่พึ่งจะก้าวขาออกมาจากห้องน้ำได้เป็นอย่างดี ภพนิพิฐใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดน้ำจากเส้นผมลวกๆ กระชับผ้าขนหนูที่อยู่บนเอวสอบก่อนจะสาวเท้าเข้าไปคว้าโทรศัพท์มาถือเอาไว้ เบอร์โทรที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอส่งผลให้คนตัวโตกดรับสายแทบจะทันที [ คุณภพครับ คุณผู้หญิงคนนั้นที่มาพักบนคอนโดของคุณภพ ตอนนี้เธอลงมาด้านล่างครับ ท่าทางเหมือนจะออกไปข้างนอก ] แวบหนึ่งที่ภพนิพิฐปรายตาไปมองเวลาบนนาฬิกาแขวนผนัง เวลาสามทุ่มกว่า ซาเฟียร์กำลังทำให้เขาไม่พอใจ "ห้ามไว้ ฉันกำลังไปที่นั่น" [ ได้เลยครับ ] สิ้นเสียงตอบรับคนตัวโตโยนโทรศัพท์ลงไปบนที่นอนทันที "นี่จะสร้างปัญหาตั้งแต่มาอยู่ที่ไทยเป็นวันแรกเลยเหรอวะ ตอนที่อยู่ที่นั่นไอ้ซานย์คงปวดหัวน่าดู" หนุ่มหล่อชักสีหน้าก่อนจะหมุนตัวไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ เสร็จสรรพก็คว้ากุญแจรถแล้วออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว คอนโด N. "...เขาจะมาเมื่อไหร่คะ หนูรอนานแล้ว" "ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ คุณภพบอกว่าจะมาที่นี่ ถึงยังไงก็จะต้องมาอย่างแน่นอน" "แต่หนูรอนานแล้ว หนูแค่จะออกไป..." "ไปไหน!" เสียงจากทางด้านหลังส่งผลให้ซาเฟียร์หันขวับ ก่อนจะประสานสายตาเข้ากับใบหน้าหล่อเหลามีออร่าความหล่อโดดเด่นสะดุดตามาตั้งแต่ไกล "หนูแค่จะออกไปกินข้าว ทำไมพี่ภพต้องให้เขาห้ามหนูไว้ด้วย" "จะออกไปกินข้าว ตอนสามทุ่มนี่นะ?" "หิวข้าวตอนสามทุ่มมันเป็นเรื่องที่แปลกตรงไหนเหรอคะ ตอนอยู่ที่นั่นหิวตอนห้าทุ่มหนูยังได้กินตอนห้าทุ่มเลย" "แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่นั่น เธอไม่ได้รู้จักที่นี่ด้วยซ้ำ คิดว่าพอออกไปแล้วจะกลับมาที่นี่ถูกไหม" เมื่อเข้าใจถึงเหตุผล ใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงก่ำเพราะความหิวถึงกับอ่อนกำลังลง ดวงตากลมสวยเปลี่ยนเป็นความออดอ้อนอย่างไม่รู้ตัว "ก็พี่ทิ้งหนูไว้คนเดียว หนูก็จำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเอง" -----ตอนนี้เรื่องเมียเสือ ภูพิงค์-ไอติม จบแล้ว ไปอ่านได้นะคะ
สวนหลังบ้าน"มีมี่ มี่จ๋า~""ก๊อดๆ~" เสียงตอบรับจากนกแก้วซันคอนัวร์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านยังเรียกความสนใจจากไอเดียได้เหมือนทุกครั้งมีมี่ นกแสนรู้ที่ถูกฝึกและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกป้อนโบยบินออกจากกรงแล้วมาเกาะที่บ่าของซาเฟียร์ ดวงตากลมใสแป๋วคล้ายกับตาของเด็ก ปากสีดำวาววับท้าทายให้ซาเฟียร์โน้มริมฝีปากไปจุ๊บเบาๆ ที่ปากของนก ไอเดียส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ"มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง" ภพนิพิฐเดินตามมาสมทบ วงแขนอบอุ่นและแข็งแรงโอบที่เอวภรรยาเอาไว้หลวมๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองที่ใบหน้าของผู้เป็นภรรยาในระยะใกล้ สลับกับการหันมองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เช่นกัน"ไอเดียรักมีมี่เหรอลูก มี่เอ้ย""ก๊อดๆ~" เจ้านกน้อยยังคงส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับการเอียงคอมองผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน ดีแล้วที่เจ้านกแสนรู้ไม่ส่งเสียงกรีดร้อง เพราะหากได้ส่งเสียง รับรองว่าเสียงจะก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณมือเล็กป้อมๆ ของไอเดียยกขึ้นไปลูบเบาๆ ที่หัวนก ความเมตตาอารี เด็กน้อยได้มาจากทั้งผู้เป็นพ่อและคนเป็นแม่ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กสัมผัสกับกลิ่นเจ้าของตัวน้อย ในอนาคตหากไอเดียเดินมาเล่นที่สวน เป็นไปได้ว่านกน้อยที่อยู่ในกรงสวยงาม
ภายในห้องครัว"คนสวยของแด๊ดดี้ทำอะไรอยู่ครับ""อันดาเช็ดจานให้หม่ามี๊ค่ะ""เก่งจังเลยค่ะ ลูกสาวของแด๊ดดี้เก่งที่สุดเลย" เวลาที่อยู่กับลูกๆ และภรรยา ภูมิรพีอ่อนโยนเสมอ ประกายตาคู่นี้ยังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคง รักที่มีต่อภรรยายังคงเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ส่วนลูกๆ ก็ยังคงเป็นรักที่บริสุทธิ์ของเขาเช่นเดิม"หม่ามี๊ท้องโตแล้ว องศาจะช่วยหม่ามี๊ล้างจานครับ""องศาล้างจาน อันดาเช็ดจานให้แห้งนะ" แด๊ดดี้และหม่ามี๊มองหน้ากัน การที่เด็กสองคนซึ่งเติบโตในเวลาเดียวกัน ใช้ชีวิตในแบบเดียวกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เข้าอกเข้าใจกันดี มันเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่โคตรสบายใจ"แด๊ดดี้ภูมิใจในตัวลูกๆ ที่สุดเลย" องศายิ้ม อันดาเองก็ยิ้มเช่นกัน"ลูกๆ ของแด๊ดดี้ รู้หรือเปล่าครับว่าอาภพและอาภูเกี่ยวข้องอะไรกับแด๊ดดี้""คูมย่าบอกว่า น้องของแด๊ดดี้อันดาต้องเรียกว่าคูมอาค่ะ""เก่งมากครับ อาภพกับอาภูเป็นน้องชายของแด๊ดดี้ แด๊ดดี้รักน้องของแด๊ดดี้มากๆ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นสายเลือดเดียวกัน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกันเวลาที่คนใดคนหนึ่งลำบาก จำไว้นะลูก การมีพี่น้องที่รักกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ" เปี่ยมรักอมยิ้มอย่างมีความ
Special 5 "สวัสดีค่ะพี่ภูมิ สวัสดีค่ะพี่ภู แด๊ดดี้" หญิงสาวในชุดนักศึกษายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะยิ้มให้คนสุดท้ายที่เธอเอ่ยถึง ภพนิพิฐรั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาหา จังหวะที่คืนไอเดียสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ปลายจมูกโด่งแอบกดลงที่ขมับบาง สูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของภรรยาสาวเข้าจนเต็มปอดอย่างเคยชิน "แด๊ดดี้อาบน้ำให้ลูกแล้วเหรอคะ หอมเชียว" "เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ" "ได้ค่ะ" ซาเฟียร์แจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกคนเฉกเช่นทุกครั้ง คล้อยหลังจากพี่สะใภ้ ภูพิงค์เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยความไว "น่าอิจฉาคนที่เมียยังใส่ชุดนักศึกษานะ คงเห็นแล้วใจสั่นเป็นบ้า" ภูพิงค์กดยิ้มที่มุมปากพลางปรายตามองเจ้าของหญิงสาวคนที่พึ่งจะอุ้มลูกออกไป ในขณะที่อีกด้าน ภูมิรพีเลือกที่จะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "เหมือนว่าจะไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก มึงมองไม่เห็นความกังวลที่อยู่ในสายตาของพี่มึงหรือไง" คนที่กำลังถูกพูดถึงกดปลายลิ้นที่มุมปาก คนหนึ่งช่างเปิดประเด็น ส่วนอีกคนก็ช่างสังเกตซะเหลือเกิน "ต่อหน้าพี่ต่อหน้าน้องทำเป็นจูบขมับ อยู่กันสองต่อสองนี่เตียงไม่ยับเลยเหรอวะ" "ทะลึ่งละ คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องเอาก็รักอยู่ดี"
"หนูไม่อยากให้แด๊ดดี้เหนื่อยนี่คะ""ไม่เหนื่อยหรอกน่า ลูกและเธอเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่นะ อย่าคิดมาก" ซาเฟียร์สอดแขนเข้าไปโอบกอดที่เอวสอบ ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มแห่งความสุขประดับขึ้นบนใบหน้างดงาม"หนูโชคดีจัง แด๊ดดี้ของหนูน่ารักที่สุด แด๊ดดี้ทำให้หนูรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว" คนฟังอมยิ้ม อาศัยจังหวะที่รถติดสัญญาณไฟกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ"สายหรือยัง พอมีเวลาให้พี่สักหน่อยไหม" แก้มของคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ซาเฟียร์กัดปากของตัวเองเบาๆ เธอเข้าใจทันทีว่าผู้เป็นสามีต้องการสื่ออะไร"เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะถึงเลือกที่จะฝากลูกไว้กับคุณย่าแล้วก็มาส่งที่หนูที่มอ.เอง""ฉลาดจัง พี่ขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงได้ไหมล่ะ""แค่พี่ใช้เส้นสายในเรื่องการเรียนของหนู หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ" ภพนิพิฐระบายรอยยิ้มออกมาถ้าจะให้พูดกันตามความรู้สึก เขาไม่ได้ติดขัดไม่ว่าเธอจะเรียนจบที่ระดับชั้นไหน เหตุผลที่เขายอมให้เธอกลับไปเรียนอีกครั้งเพราะเขาแค่อยากตามใจเธอ อยากเปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำทุกอย่าง ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องลำบากอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้
Special 4 "แอะ~" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีดังออกมาจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่อยู่ในชุดบอดี้สูทสีครีม ผิวของคนตัวน้อยขาวจั๊ว บ่งบอกว่าได้มาทั้งของพ่อและของแม่ ในส่วนของใบหน้าแม้จะออกมาทิศทางของผู้เป็นแม่มากกว่า ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ยังพยายามโต้เถียงว่าบุตรสาวหน้าตาเหมือนตนเองอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูน้อยไอเดียจะหน้าตาเหมือนใคร ไม่ว่าจะได้พ่อหรือว่าได้แม่มา สุดท้ายก็ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้เลย ลมเย็นๆ ในเวลาเช้าลอยกระทบลงมาบนเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลา สุดท้ายกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ค่อนข้างคุ้นเคยซึ่งส่งกลิ่นมาจากในห้องนอนก็เรียกสายตาคมกริบให้ตวัดกลับไปมองที่ทิศทางด้านในตามเดิม ความหวงแหนผุดขึ้นเมื่อหน่วยตาคมประสานเข้ากับเรือนร่างของภรรยาสาว ซาเฟียร์กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหลังให้นมลูกจนครบสามเดือน มีการวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ในช่วงพักกลางวันคนตัวเล็กจะกลับมาให้นมบุตรที่บ้าน เพราะเหตุผลนี้และอีกเหตุผลคือได้ตกปากรับคำเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น พ่อของลูกจึงยินดีกับการไปเรียนในครั้งนี้ของผู้เป็นเมีย "ทำไมต้องใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้" คนที่อุ้มลูกคาอกมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศ
Special 3ภายในบ้านหลังใหญ่ของอัศวราชเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายนอกตัวบ้านคุณปู่ภีมพลซึ่งเป็นที่รักของหลานๆ เก็บกวาดต้นไม้ที่เฉาตาย พร้อมกับการลงต้นไม้ปลูกใหม่ ความขยันนี้ไม่ได้มีที่มาที่ไปไกลเท่าไหร่นัก สุดท้ายหลานๆ นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันให้คุณปู่จัดการทุกอย่าง เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ขยันมากยิ่งๆ ขึ้นไป"น้องไอเวียนหัวเหรอลูก แม่ลืมบอกว่าแม้แต่ผักบางชนิด หากมันจะแสลงมันก็แสลงขึ้นมาดื้อๆ เลยนะ" เบญญาถามสะใภ้คนเล็กอย่างไอติม คุณแม่หลังคลอดยังคงสวยสดไม่เปลี่ยน ไอติมหน้ายังสดใส เป็นเรื่องปกติที่คล้อยหลังจากช่วงหลังคลอดในช่วงเดือนแรกผ่านพ้นไป จะมีการเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มน้ำนมให้มากขึ้น เรื่องของอาหารแสลงจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังมากเช่นกัน"ไอเวียนหัวนิดหน่อยค่ะแม่" "แม่ว่าพักก่อนนะ เดี๋ยวแม่ดูแลอิคคิวให้เอง" คุณย่ายังคงเป็นที่รักของลูกๆ ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือดูแลหลานๆ อยู่เสมอเด็กชายองศา เด็กหญิงอันดาตอนนี้อยู่ในวัยสองขวบเศษ ช่างพูดช่างคุยช่างสงสัย จากนั้นก็เป็นน้องไอเดียลูกสาวของคุณพ่อภพและคุณแม่ซาเฟียร์ที่ลืมตาดูโลกและเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวราชเป็นหลานคนที่สาม หนึ่งสัปดาห์ต่