ด้วยคำสั่งสุดท้ายของพ่อ ให้เขาทำหน้าที่แทน “คุ้มครองเจ้าพ่อยากูซ่าเท่าชีวิต” ทำไมชายหนุ่มต้องเชื่อ ในเมื่อเขาไม่ต้องการเป็นยากูซ่า แต่หนีไม่พ้น เมื่อหัวใจมันรัก และอยากปกป้อง “ลูกสาวเจ้าพ่อยากูซ่า! พ่อของยูตะ คือลูกน้องมือขวา ของฮินาตะ ยากูซ่าระดับเจ้าพ่อ เขายอมสละชีวิตเพื่อหัวหน้า และยังสั่งเสียครั้งสุดท้าย ให้ลูกชายทำหน้าที่แทน ทำไมชายหนุ่มต้องเชื่อ ทำไม่ต้องปกป้องในเมื่อฮินาตะเป็นคนอื่น แต่เขาก็หนีไม่พ้น! และต้องเข้ามาพัวพันกับเธอ ด้วยการฝึกให้เธอรู้จักการป้องกันตัว ยูตะจะตัดใจไปจากเธอได้ไหม ในเมื่อหลงเสน่ห์ลูกสาวยากูซ่าเข้าไปแล้ว เขาจะจัดการกับหัวใจอย่างไร ในเมื่อเขาไม่อยากเป็น “ยากูซ่า” พอ.เป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวให้นอ.เพราะนอ.เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าพ่อย.ากู่ซ่าที่จะต้องสืบทอดตำเเหน่งแทน. พอ.รักนอ.มาก แต่พอ.ไม่อยากเป็นยากูซ่า พอ.จึงเลือกที่จะทิ้งนอ.ไป. แต่คอยดูวีดีโอที่สั่งให้ลูกน้องถ่ายนอ.ส่งให้ดูทุกวันสุดท้ายด้วยความรักที่มีมากกว่าถึงยอมกลับมาเพื่อดูแลและปกป้องนอ.ตลอดไป
View Moreเพล้ง!!เพล้ง!!
เสียงแตกกระจายของวัตถุ ชนิดหนึ่ง ตามมาพร้อมกับเสียงเล็กๆ ตะโกนด่าทออย่างกราดเกรี้ยว เสียงดังลั่น จนทำให้คนที่อยู่ด้านล่างได้ยินอย่างชัดเจน
“เอาออกไป!ฉันไม่กิน แล้วอย่ามาเรียกฉันอีกนะ”
ปัง!
เสียงปิดประตูตามหลัง ดังสนั่น จนทำให้ชายสูงวัย ส่ายหน้า มองสบตา กับชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนถอนใจลึก
“ไอโกะ นับวันยิ่งดื้อรั้น ไม่ฟังใคร ชอบหนีเที่ยว ทำป่วนจนทุกคนปวดหัวไปหมด แกเห็นฤทธิ์แล้วใช่ไหมยูตะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มเคยเห็นเธอ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เวลานั้นเธอมีอายุเพียงห้าขวบ เด็กหญิงตัวอ้วนกลม ผิวขาว แก้มแดง ดวงตากลมโตเป็นประกายน่ารัก มาบัดนี้เธอเริ่มเป็นสาวน้อยในวัยสิบเจ็ดปี กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บิดาของเธอจึงเป็นห่วงเธอมาก กลัวว่าฝ่ายตรงข้าม อาจจับตัวเธอ เพื่อมาต่อรอง เพราะเธอคือจุดอ่อนของฮินาตะ ซึ่งเป็นหัวหน้ายากูซ่า หนึ่งในห้ากลุ่มใหญ่
ฮินาตะ จึงเรียกให้ชายหนุ่มกลับมา หลังจากส่งตัวเขา ไปเรียนวิชาป้องกันตัวทุกชนิด และให้อยู่ดูแลธุรกิจในต่างประเทศที่นั่น จนถึงเวลานี้ เป็นเวลามากกว่าสิบปี
“แกพอจะรับมือกับเธอไหวไหม ฉันอยากให้แกสอนเธอทุกอย่าง เผื่อวันหนึ่ง เมื่อไม่มีฉันคอยดูแล เธอจะได้ไม่ลำบาก”
ฮินาตะเอ่ยกับชายหนุ่ม ราวกับรู้ชะตาตัวเอง ขึ้นขี่หลังเสือ ถึงแม้จะอยากลงมากแค่ไหน ก็ย่อมทำได้ยาก ถ้าพลาดก็มีสิ่งเดียวที่ต้องสูญเสียนั่นคือชีวิต สิ่งที่ห่วงที่สุดในเวลานี้คือ บุตรสาวเพียงคนเดียว ที่เกิดจากภรรยาคนไทย เธอจากเขาไปด้วยโรคร้ายตั้งแต่ไอโกะมีอายุ ได้เพียงไม่กี่เดือน
มีเงินก็ไม่สามารถซื้อชีวิต หญิงที่เขารักดังดวงใจให้ฟื้นขึ้นมาได้
“ผมจะลองดู”
ชายหนุ่มตอบสั้นๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ดวงตาว่างเปล่า จิตใจปราศจากความรู้สึกใด ๆ มานานแล้ว นับแต่บิดาของเขาจากไป เพราะปกป้องเจ้านายอย่างฮินาตะ
พ่อของเขาคือลูกน้องมือขวา ยากูซ่าระดับเจ้าพ่อ หลังจากนั้นไม่ถึงปี แม่ได้จากเขาไปอีกคน เพราะตรอมใจ
ด้วยคำสั่งสุดท้ายของพ่อ ให้เขาทำหน้าที่แทน ปกป้องคุ้มครองหัวหน้าเท่าชีวิต ทำไมชายหนุ่มต้องเชื่อ ในเมื่อเขาไม่ได้อยากเป็นเหมือนพ่อ ทำไมต้องปกป้องในเมื่อฮินาตะเป็นคนอื่น เขาสำคัญกับพ่อมากกว่าชีวิตที่เหลือ ของลูกและเมียอย่างนั้นหรือ
แต่ในที่สุด เขาก็หนีไม่พ้น!
หญิงสาวในชุดนักเรียน ปกเสื้อกะลาสี กระโปรงบานจีบรอบตัว สั้นแค่ต้นขา รูปร่างเล็กบาง ผิวเนียนขาวอมชมพู ใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตากลมโตเป็นประกาย ฉายแววดื้อรั้น ประดับไปด้วยขนตางอนยาว จมูกเล็กโด่ง รับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงเรื่อ
หญิงสาวหยุดยืนมองชายหนุ่ม ด้วยประกายตาสงสัย และรู้สึกคุ้นตา
เขายืนกอดอกพิงข้างรถ ที่บอดี้การ์ดของพ่อ ใช้ขับมารับเธอกลับ หลังจากเลิกเรียนทุกวัน แต่วันนี้บอดี้การ์ดพวกนั้นหายไป แต่มีชายหนุ่มหน้านิ่ง ดวงตาคมดุ เข้ามาแทน
ใบหน้าคมคาย คิ้วดกเข้มทอดขนาน ไปกับดวงตาคมกริบ แต่งด้วยขนตางอนยาวราวสตรี
เธอมองดูสันจมูกโด่ง รับกับริมฝีปากหยักได้รูป ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นบนตัวชายผู้นี้ เธอยอมรับว่าน่ามอง มากกว่าบุรุษมากมาย ที่เคยพบเจอ
“คุณเป็นใคร” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงต่ำ
ยูตะยืดตัวตรง มองสาวน้อยตรงหน้านิ่งขรึม เมื่อเห็นดวงตาคู่สวยน่ารัก รวมไปถึงรูปร่างและใบหน้า ต่างจากเด็กหญิงคนเดิม เมื่อสิบกว่าปีก่อน ราวคนละคน ชายหนุ่มเคยเห็นเธอจากในรูปถ่าย เพิ่งได้เห็นตัวจริงในระยะใกล้ ถนัดตาในวันนี้
น่ารักเหมือนตุ๊กตา! มันทำให้หัวใจของเขากระตุก เต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ แต่มันถูกเก็บไว้ลึกๆ ในใจ ไม่มีวันเผยให้ใครได้รู้
“ พ่อเธอสั่ง ให้ฉันมารับ”
“ไม่ไป!”
“พ่อเธอบอกว่า ถ้าเธอดื้อ อนุญาตให้ฉันทำอะไรกับเธอก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม
“ไปให้พ้น!”
หญิงสาวตะคอกใส่ชายหนุ่มเสียงห้วน
ยูตะยักไหล่ สาวเท้าเดินเข้าหา ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบกระเป๋านักเรียน ที่หญิงสาวขว้างออกมา จนเกือบหลบไม่ทัน
“ออกไป!”
ไอโกะหมุนตัวเดินหนี ซอยเท้าถี่ขึ้น จนกลายเป็นวิ่ง เมื่อถูกชายหนุ่มตามเธอไปติด ๆ อย่างไม่คิดจะยอมแพ้ จนในที่สุดหญิงสาว จึงสะดุดล้ม เพราะมัวแต่หัน ไปมองทางด้านหลัง
“โอ๊ย!”
เสียงร้องของเธอไม่ได้ทำให้เขาสงสาร กลับยิ้มเยาะ และยืนมองเธอเฉย ๆ โดยไม่คิดจะช่วยเหลืออะไร
สาวน้อยตวัดสายตาขึ้น มองชายหนุ่มตาขวาง เพราะคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอเจ็บ
ไอโกะพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับล้มลงอย่างไม่เป็นท่า
ต่างฝ่ายต่างนิ่งอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีใครขยับ จนชายหนุ่มคิดว่า ขืนเป็นแบบนี้ คงต้องอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องไปไหน เขาจึงตัดสินใจช้อนเธอขึ้นพาดบ่า แล้วเดินตรงลิ่วไปที่รถทันที โดยไม่ฟังเสียงเล็ก ๆ ที่กำลังกรีดร้อง จนทำให้ชายหนุ่ม เเสบแก้วหูไปหมด
สาวน้อยตกตะลึง ไม่เคยมีใครกล้า ทำกับเธอแบบนี้ บอดี้การ์ดทุกคนของพ่อ ต้องก้มหน้า หลบตาเธอทุกครั้ง เมื่อถูกเธออาละวาดใส่ แต่ชายคนนี้เป็นใคร ถึงได้ไม่มีความเกรงใจ ลูกสาวยากูซ่า ผู้ยิ่งใหญ่เช่นเธอ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า!!”
หญิงสาวทั้งทุบหัว ใบหน้า กลางหลังของชายหนุ่ม ด้วยกำปั้นเล็ก รัวไปหลายครั้ง และด่าทอเขาไปตลอดจนถึงรถ แต่เขากลับไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้ง ๆ ที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง เป็นรอยแดงตัดกับผิวสีนวล
ยูตะยัดเธอเข้าไปในรถ ตามเข้าไปกดหลัง และรวบแขนทั้งสองข้าง ไพล่หลังเอาไว้ แล้วมัดด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ ที่หญิงสาวใช้มัดผม เธอดิ้นรน จนเธอหมดฤทธิ์ และหมดแรงไปเอง
ผมหยักศกยาวสลวย เวลานี้ หลุดลุ่ยกระจายเต็มแผ่นหลัง
“ถ้าเธออาละวาดอีก ฉันจะจับเธอหักแขนหักขา แล้วฟาดด้วยไม้หน้าสาม เลยคอยดูสิ”
ยูตะขู่ แต่ไม่ได้ทำให้ไอโกะ เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวขืนตัวนิดหนึ่ง ก่อนเงียบไม่ตอบโต้ เพราะเธอกำลังเจ็บข้อเท้ามาก จนอยากร้องไห้ออกมา แต่กำลังพยายามข่มใจ เอาไว้ต่างหาก รอให้เธอหายดีก่อนเถิด เธอจะเอาคืนให้สาสม!
ชายหนุ่มถอนใจ กว่าจะหมดฤทธิ์ เล่นเอาเขาเหนื่อย ไม่คิดเลยว่า ผู้หญิงตัวเล็กเท่านี้ เวลาโมโห เธอแรงดี จนทำให้เขาเจ็บไปหมดทั้งหน้า
ยูตะนอนตะแคงทอดสายตามองร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอกำลังหลับสนิท...ชายหนุ่มกดจมูกลงกับแก้มนุ่มหนักๆ จนทำให้อีกคนตื่น...ปรือตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขากำลังจับมือของเธอขึ้นมาแนบข้างแก้มของตัวเอง“นอนไม่หลับเหรอคะ” เสียงหวานอู้อี้ติดจะงัวเงียเอ่ยถามก่อนขยับร่างเข้ามาชิด เอื้อมแขนเล็กกอดเขาไว้ แล้วซุกหน้ากับอกอุ่นเพื่อนอนต่อ“มีหลายเรื่องต้องคิดน่ะ”ประโยคนี้ของเขาทำเอาคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรในหัว...รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง...เพราะห่วง...ความรู้สึกของคนที่เธอกำลังกอดอยู่หญิงสาวเปิดเปลือกตา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วเชิงถามแทนเสียง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันยูตะเลือกที่จะเดินตัวเปล่าไปเปิดตู้ หยิบผ้าขนหนูมาส่งให้เธอ ก่อนพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายไอโกะมองตามร่างสูงที่เดินตัวเปล่าผ่านหน้าไปอย่างงงๆ ทั้ง ๆ ที่มีผ้า แต่เจ้าตัวกลับเอาพาดบ่าซะอย่างงั้น...แล้วนะ ก็ไม่รู้หรือไงว่าเธออาย...ถึงแม้จะเห็นและสัมผัสเขาทั้งตัว แต่มันยังไม่ชินที่จะให้เธอเห็นเขาเดินโทง ๆ ขนาดนี้คำพูดของเขานั่นอีก...มันทำให้เธอหายง่วงไปแล้ว..ตอนนี้
เขากอดเธอไว้กับตัว พากระโดด แล้วเหวี่ยงเธอขึ้นมาบนชั้นลอยพร้อมกับตัวเองอย่างง่ายๆ ราวกับว่าเขากำลังแบกนุ่นอยู่...แบกเธอขึ้นที่สูงขนาดนี้...โดยไม่ต้องใช้เชือกอีกด้วยเหอะ...เขาเท่...มีเสน่ห์....น่าหลงไหล..เกินไปแล้วนะ...กับชุดที่ใส่นี่ก็ด้วยอ่ะ...ชายหนุ่มปล่อยร่างบางลงกับพื้น แล้วหมุนตัวทำท่าจะกระโดดพุ่งตัวลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว...เหมือนกับตอนที่เอาตัวเธอขึ้นมา....แต่ทว่าเขากลับเสียจังหวะเพราะ...จุ๊บ!แขนเรียวบางที่คล้องคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังเขย่งปลายเท้าจุ๊บปากของชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้าที่ปิดใบหน้าเขาไว้อีกยูตะส่ายหน้าก่อนดึงผ้าที่ปิดปากลงไว้ใต้คาง แล้วโน้มตัวกดริมฝีปากหนัก ๆ กับเธออย่างเร็วแล้วผละออกเพราะรู้ว่าต้อง..แบบนี้เธอถึงจะยอมปล่อย…หญิงสาววิ่งตามไปดู...จนสุดราวที่กั้นไว้... เธอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านล่างซึ่งเวลานี้..ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ..โดยมีชายในชุดดำ.ยืนคุมพวกนั้นอยู่ทั่ว...และมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวอีกด้วยยูตะยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้า จ่อปลายดาบเข้ากับคอหอยของฟุมิโอะที่มีสภาพร่อแร่เต็มที...แต่ยังปากดีท้าทายเจ้าของปลายดาบอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน“ฆ่าฉัน
“พ่อคะ..พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”ประโยคแรกที่ได้ยินคือหญิงสาวเอ่ยถามคนเป็นบิดา...ที่ยืนอยู่หลังโต๊ะอีกฝั่ง บนนั้นมีแฟ้มเอกสารที่พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายกำลังบังคับให้ทำอะไรบนใบหน้าฮินาตะมีสีช้ำ หางตาบวมปูด..หางคิ้วแตกยับ ยังเห็นเลือดเกาะกรังจนมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ออกเลย มันบังคับ และซ้อมพ่อของเธอ …หญิงสาวพยามกลืนน้ำตาของความอ่อนแอเข้าไปข้างใน...สั่งใจตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้สารเลว....รู้แบบนี้เธอฆ่าลูกมันทิ้งแต่ทีแรกไปแล้ว“พ่อไม่เป็นไรลูก”ฮินาตะตอบลูกสาวกลับมาเพราะไม่อยากให้เธอกังวล เขารู้ว่า ยังไงยูตะต้องมาช่วย เขาจึงไม่ยอมเซ็นเอกสารมอบอำนาจ ยอมให้พวกมันซ้อมเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับตัวมาด้วยแบบนี้“หุบปาก!พวกแกหมดเวลาพูดกันแล้ว ถ้าแกไม่ยอมเซ็นเอกสารนะฮินาตะ ลูกสาวแกกลายเป็นศพตรงนี้แน่...ว่าไง...”สองพ่อลูกเงียบเสียงลง มองสบนัยน์ตาด้วยความหมายที่ต่างคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว พอดีกับที่ฟุมิโอะรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นลูกชายตัวเองเข้ามาเสียที เขาจึงหันไปเอ่ยถามกับลูกน้องที่ยืนคุมตัวของไอโกะเอาไว้ว่า“แล้วฮิโรชิลูกพี่แกไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”ฟุมิโอะเลิกคิ้วส
ดื้อ!แต่ก็ชอบ...ดีกว่าตอบแต่ค่ะๆๆๆ นั่นมันก็จืดชืดไปหน่อย...“เธอใส่ชุดราตรี มันเด่น ไม่คล่องตัว...แล้วฉันเป็นห่วง ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง”เขาพยายามอธิบายตามมา แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมฟัง…นอกจากไม่ฟังแล้วยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกนะนั่นน่ะ“คุณพอจะมีชุดดำแบบคุณให้ฉันใส่บ้างไหมล่ะคะ แบบครบชุดทั้งอาวุธด้วย”ยูตะหัวเราะหึในลำคอ...ก็เดาใจเธอไม่เคยผิดเลยสินะ...ว่าเมียดื้อของเขาต้องพูดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่ใช่ไอโกะ“มันต้องปีนป่าย โรยตัวจากเชือกลงมา ต้องทำให้ตัวเบา เธอยังไม่เคยฝึกอะไรแบบนี้ ทำไม่ได้หรอกนะ”“ทำได้ค่ะ...คุณก็ทำตัวเบา แล้วให้ฉันขี่หลังพาปีนขึ้นไป แล้วก็พาไต่ลงมา มันก็เหมือนเป็นการฝึกไปในตัวนะฉันว่า...”แล้วมาบอกเขาว่ามีผัวแล้วไม่ใช่เด็ก...แต่ที่พูดออกมาแต่ละประโยคนั่น มันใช่ผู้ใหญ่แล้วเถอะ“นินจามันต้องใช้ความเบา ความเร็ว..และคล่องตัว....แล้วฉันจะอุ้มเธอกระเตงไปได้ยังไงล่ะ...ไม่อยากให้ลูกศิษย์กับลูกน้องฉันมาหัวเราะเรา แล้วฝ่ายนั้นอีกพวกมันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ แล้วฉันจะคุมคนได้ยังไง…รอฉันอยู่ที่นี่เถอะนะ”“...!!...”“............นะ”“..........ไอ..นะ”เขาอ้อนก่อนทิ้งหัวที่มีผ้าคลุมสีด
ยูตะไม่รอช้า รีบพิมพ์ข้อความลับส่งถึงโกโร่...หลังจากที่ไอโกะได้วางสายไปแล้ว...ที่เลือกส่งข้อความลับนั่นก็เพราะว่า...ถ้าเขาเลือกใช้โทรศัพท์ คนอยู่ใกล้ ๆ อาจได้ยินด้วยนี่สิ...ฝ่ายโกโร่..เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็รู้แล้วว่า ลูกพี่ของเขามีคำสั่ง...และต้องปฎิบัติตามโดยไม่ให้คุณไอโกะรู้นั่นแหละคำสั่งมีอยู่ว่า ให้ถ่วงเวลาหญิงสาวเอาไว้...ก็แค่นั้น...“ โกโร่ นายรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่ามันจับตัวพ่อฉันไปไว้ที่ไหน ” ไอโกะเอ่ยถาม...เพราะรู้สึกคุ้นตากับบริเวณที่ผ่านมารอบ ๆ ตัวรถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาทางด้านหลังนั่น ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมคันหน้าของเจ้านาย ถึงได้ขับรถวนไปวนมาแบบนั้น ในเมื่อใกล้จะถึงที่หมายอยู่แล้วนั่นน่ะพวกเขาขับติดตามรถคันหน้าของเจ้านายไปสักพัก...จึงเข้าสู่เส้นทางหลักที่นายใหญ่ของพวกเขาถูกจับตัวไปจริง ๆ เสียทีก่อนถึงที่หมาย ยูตะได้ส่งข้อความไลน์บอกโกโร่ว่า..."อย่าเพิ่งบุกเข้าไปด้านหน้า เพราะเวลานี้พรรคพวกของฟุมิโอะ ได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน...พาเธอมาหาฉันที่จุดนัดพบตอนนี้เลย"เมื่อถึงจุดรวมพล...โกโร่มองเห็นรถตู้ที่จอดอยู่ในระยะไกลเป็นจำนวนมาก เขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือล
ร่างสูงของยูตะลงมาจากเวทีแล้วเดินตรงปรี่เข้ามาหาฮิบาริที่รอเขาอยูด้านล่าง เพื่อรับฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท ขณะเดินตามกันออกมาจากงานพร้อมกับคนของเขาที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้ครึ่งหนึ่ง“คนของเรามาถึงแล้วใช่ไหมฮิบาริ” เขาเสหน้าหันมาถาม ขณะรูดเน็คไทล์ลง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถแล้ว“ถึงแล้วครับ กำลังรอคำสั่งของลูกพี่”“ส่งโลเกชั่นให้แล้วบอกให้รีบตามมา...ได้เวลาตัดริบบิ้นเสียที” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงขรึม “รู้ใช่ไหมว่าพวกที่โจมตีนายใหญ่ของเราคือใคร...” เขาถามต่อ“แก๊งของคุณฟุมิโอะครับ...” ฮิบาริหันมาตอบ...ต่อเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบเสียงของตัวเองลง เพื่อรอฟังรายงานของฮิบาริต่อจากนั้น“โกโร่โทรมาบอกว่า...เมื่อกี้คุณไอกับพวกของเราถูกคุณฮิโรชิเอาลูกน้องมาขวางไว้...ดันโผล่มาตอนที่เธอกำลังรีบ...เลยโมโหซัดมีดเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน...ปักกลางตูดเข้าไปเต็มๆ”ยูตะหัวเราะพรืด...นึกภาพเวลาเธอโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วต้องขำ..น่าฟัดจะตายเหอะ...ขัดขืนนิดๆ พอมีจริตจกร้านหน่อยๆ มันทำให้เขาคึกคักทุกทีด้วยสิ..ยิ่งนึกถึงเสียงครางเรียกชื่อเขาหวานๆนั่น มันทำให้รู้สึก...คึกขึ้นมาอีกแล้วเหอะ...เวลาหน้าสิ่วหน
“รอลูกพี่ก่อนดีกว่านะครับคุณไอ..”เหมือนเคย..โกโร่เอ่ยเตือนเจ้านาย...ขณะที่เขาเดินแกมวิ่งตามเธอออกมา...เมื่อเห็นว่าเธอใจร้อน....รีบออกมาจากงานเพื่อจะตามไปช่วยบิดาโดยไม่ยอมรอลูกพี่ของเขา...เพราะความห่วงใยผู้ให้กำเนิด“เรานำหน้าไปก่อน เดี๋ยวฮิบาริก็คงบอกเอง ลูกพี่นายคงตามเรามาทัน หรือว่า...” เธอหันมาเอ่ยกับโกโร่แล้วเว้นคำพูดไว้ในตอนท้าย ขณะเดินเร็ว ๆ แล้วเปลี่ยนป็นวิ่งเหยาะๆ แทน“ครับ ๆ..เรานำไปก่อนเดี๋ยวนี้เลยครับคุณไอ”โกโร่รีบทำตามคำสั่ง เพราะรู้ว่าประโยคสุดท้ายที่เธอจะเอ่ยตามมานั้น คือคำว่าอะไร...ถ้าไม่บอกว่า...นายจะรอลูกพี่นายอยู่ที่นี่ก็ได้....หรือไม่ก็....นายใช่คนของฉันหรือเปล่า...อย่างน้อยถ้าห้ามไม่ได้ ก็ต้องตามไปคุ้มกัน...หากหญิงสาวเป็นอะไรไปแม้เพียงปลายเล็บ เขาอาจมีรูระบายอากาศทั้งตัว...และผู้เป็นคนติดตั้งให้ ก็คงเป็นเจ้านายอีกคนที่ยังอยู่ในงานนั่นเหอะบอดี้การ์ดที่ตามมาทางด้านหลัง...พากันเร่งฝีเท้าและรอทำตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง...ทุกคนรู้หน้าที่โดยไม่ต้องให้หญิงสาวเอ่ยอะไรมากนักทันทีที่ไอโกะและบอดี้การ์ดส่วนหนึ่ง เดินมาถึงลานจอดรถ...ฮิโรชิและลูกน้องของเขา ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ข
เมื่อใกล้ถึงเวลารับรางวัล แต่ฮินาตะยังมาไม่ถึง เขาโทรมาบอกกับลูกสาวว่า ให้เป็นตัวแทนของท่านขึ้นไปรับรางวัลได้เลย เพราะเครื่องบินที่นั่งมานั้นดีเลย์...เนื่องจากสภาพอากาศจึงเลื่อนเวลาลงจอดออกไปนิดหน่อย...“ไอ...”ยูตะเรียกให้ไอโกะหันมา...แล้วโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างกกหูของหญิงสาว เอ่ยย้ำกับเธออีกครั้ง ขณะที่ทั้งคู่นั่งรอรับรางวัลอยู่ด้านล่างของเวที รวมกับแขกวีไอพีคนอื่นๆ“เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลก่อนฉัน...ระหว่างที่ฉันขึ้นไปรับรางวัล นั่งอยู่ตรงนี้รอฉันลงมา เธอห้ามไปไหนเด็ดขาดเลยนะ...สัญญามาก่อนสิ”ไอโกะได้แต่บึนปาก...เพราะถูกย้ำเป็นครั้งที่ร้อย...ตั้งแต่แต่งตัวให้เธอที่บ้าน จนถึงเวลานี้ก็พูดอยู่แค่สองสามประโยควนลูปอยู่นี่เหอะ...เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็อดเถียงเขากลับไปไม่ได้อีกนั่นแหละ“ฉันมีผัวแล้ว...ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้น่า...อย่าได้ห่วง..”เขายิ้มกว้างกับประโยคแรกที่เธอเอ่ยถึงสถานะของตัวเองออกมา อย่างเต็มปากเต็มคำเป็นครั้งแรก และเขาก็เพิ่งเคยได้ยินในวันนี้น่ารักชิบ!...จนอยากจะชวนออกไปหามุมมืด...ก็หื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยนะมึงเนี่ย... “ผูกเอวฉันติดไว้กับตัวคุณเลยดีไห
เมื่อถึงวันงานสมาคมนักธุกิจภาคพื้นเอเชีย ไอโกะถึงได้รู้ว่าทำไมยูตะถึงต้องการให้เธอใส่ชุดแบบนี้มากระโปรงบานยาวย้วยที่หญิงสาวใส่ มันสามารถปิดบังด้านใน ที่เธอติดปืนพกเล็ก ๆ เอาไว้ได้นี่เอง...ชายหนุ่มกำลังขมักเขม่นกับการแต่งตัวให้หญิงสาว พร้อมกับติดอาวุธให้เธอด้วยตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ และตั้งสติตัวเองไว้ไม่ให้เขวไปกับของของเธอที่อยู่...ใกล้ตา...ใกล้มือ...และใกล้ปากขนาดนี้..เพราะไม่อยากให้เสียงาน... “ฉันว่าเธออย่าใส่ส้นสูงเลยนะ ใส่ผ้าใบน่าจะดีกว่าคล่องตัวดี”เขาแหงนหน้าขึ้นบอกกับหญิงสาว ขณะกำลังนั่งยองขา ติดปืนบริเวณปลีน่องด้านข้างให้“ก็ได้ค่ะ เพราะถึงใส่รองเท้าสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดี”หญิงสาวเห็นด้วยเพราะไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เธอก็ไม่ควรประมาทและไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็นห่วงหรืองกังวลใจกับเธอมากนักเขาบอกให้เธอระวังตัว...ไว้ตลอดเวลา อย่างห่างจากเขาไปไหน แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำก็ตามทีบริเวณงานมีทั้งตำรวจ และบอดี้การ์ดของบรรดานักธุรกิจ หรือยากูซ่าทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมงานนี้มากมาย แทบไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่ที่เธอจำได้...ก็คือหล่อนคนนั้น อิจิโอะ เธอยืนอยู่ข้างกันกับฮิโรชิ หล่อนโปร
Comments