Share

ตอนที่ 3

Author: Aile'N
last update Last Updated: 2024-11-13 21:45:02

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

Writer : Aile'N

ตอนที่ 3

"เฮ้ยๆ ใจเย็นไอ้เสือ มึงจะเมาตั้งแต่สองทุ่มไม่ได้นะเว้ย"

'ภาค' หนุ่มตำรวจจากกรมสืบสวนคดีพิเศษหรือที่เรียกสั้นๆ ว่าดีเอสไอทักขึ้นเสียงหลง เมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่กอดคอถือหาง (?) กันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น ยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มเอาๆ ราวกับอดอยากปากแห้งมานมนานทั้งที่คนอย่าง 'วรธันย์ อินทรเกษมกุล' ทายาทจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง 'อินทรเกษมกุล กรุ๊ป' ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟแวร์อันดับหนึ่งของประเทศไม่น่าจะห่างหายจากเรื่องพวกนี้ได้

"เออ เป็นไรวะ มาถึงก็ดื่มเอาๆ หน้าบูดเหมือนตูดไอ้อ้วนเลยเนี่ย"

'อาทิตย์' คู่หูรวมอาชีพของภาคผสมโรงมองงงใส่ร่างสูงอีกคน ต่างกันตรงที่เขาถูกเจ้าตัวตวัดตามองเคืองใส่หลังพูดจบเพราะดันไปเปรียบเทียบหน้าคนกับก้นหมาที่บ้านใส่กัน แต่เขาก็ได้ใส่ใจสายตาเชือดเฉือนคู่นั้น แถมยิ้มเย้ยกลับไปอีกต่างหาก

"มึงก็พูดไป กูว่าตูดไอ้อ้วนยังดูดีกว่าหน้าไอ้ธันย์ตอนนี้เลยว่ะ ฮ่าๆ " ภาคแย้งขึ้น อดไม่ได้ต้องระเบิดหัวเราะร่าไปทีเพราะชอบอกชอบใจกับคำเปรียบเปรยของตนเอง ไม่ต่างจากอาทิตย์ที่รีบยกมือขึ้นแท็คทีมกันอย่างออกนอกหน้า แล้วก็พากันขำเอิ้กอ้ากต่อไป ฝ่ายจำเลยที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับหมาได้แต่มองเคืองจนตาแทบถลน เมื่อสองเกลอไม่มีท่าทีว่าจะสนก็เปลี่ยนมายกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มอีก แต่ดื่มให้ตายยังไงก็ไม่หายเครียดเลยจริงๆ

"พ่อบังคับกูแต่งงาน.." เมื่อความรู้สึกนึกคิดมันอัดรวมกันอยู่ในอกมากเกินไปจนหายใจลำบาก วรธันย์จึงตัดสินใจระบายออกไป

"แล้วไงวะ ก็เหมือนทุกที"

"เออ กูเห็นพูดแบบนี้หลายทีแล้ว ก็ไม่เห็นแต่งสักที" สองหนุ่มทำหน้างงเพียงเล็กน้อยก็กลับมาผ่อนคลาย เพราะปัญหาหนักใจที่ทำให้เพื่อนรักเรียกพวกเขาออกมาดื่มกันตั้งแต่หัววันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอย่างที่คิด

"ครั้งนี้พ่อกูยื่นคำขาด.. ถ้าไม่แต่ง กูจะไม่ได้มรดกเลยสักบาทเดียว! " คนพูดขบฟันดังกรอด แก้วเหล้าในมือถูกบีบแน่นจนกลัวจะแตกคามือ เพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อตอนหัวค่ำทีไรก็เป็นต้องอารมณ์ขึ้นทุกที

"เฮ้ย เอาจริงดิ? " คราวนี้สองสหายหันมาทำหน้าตาตื่น เพราะเรื่องที่พ่อแม่เพื่อนอยากให้แต่งงานนั้น เดิมทีก็เคยรับรู้กันอยู่และรู้สึกเฉยๆ มาตลอด ไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้จะมีเงื่อนไขสำคัญเพิ่มเข้ามาด้วย!

"เอางี้ดิ.. มึงก็แต่งกับเกวลินตบตาพ่อมึงไปก่อน เบื่อเมื่อไรค่อยหย่าก็ได้" อาทิตย์พยายามช่วยคิดหาทางออกหลังจากหายอึ้งก่อนใคร ภาคเองก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที ซึ่งหญิงสาวที่กำลังพูดถึงก็คือคู่ขาที่เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นแฟนของวรธันย์นั่นเอง

"ทำงั้นได้กูคงไม่มานั่งเครียดแบบนี้หรอก! เขาหาเมียมาให้กูเสร็จสรรพ เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ เพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึงสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ! " ร่างสูงชักสีหน้าหงุดหงิดรำคาญใส่เพื่อน แต่ก็ผิดที่เขาเองที่ไม่ยอมเล่าออกไปให้หมด พวกนั้นจึงไม่รู้ว่าเขาไม่มีทางเลือกมากขนาดนั้น

"ฮะ? ได้หรอวะ"

"เชี่ย.. งี้มันคลุมถุงชนชัดๆ เลยหนิ" ทั้งสองหนุ่มทำหน้ามึนงงตกใจกับสิ่งที่ได้ยินอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนละครหลังข่าวขึ้นกับเพื่อน

"ก็เออน่ะสิ! กูมีทางเลือกที่ไหน มรดกไม่ได้ไม่พอ ยัยนั่นยังจะได้ส่วนที่ควรจะเป็นของกูไปตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ แม่ง.. เข้ามาชุบมือเปิบชัดๆ! " วรธันย์กัดฟันแน่นจนสันกรามนูนเด่น พยายามข่มอารมณ์แม้จะทำได้ยากเย็นเต็มที

"สามสิบเปอร์เซ็นต์ก็เท่ากับกลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนเลยนะเว้ย ใช้ดีๆ ทั้งชาติก็ไม่หมดอ่ะ" ภาคเอ่ยพลางหรี่ตาประเมินสถานการณ์ไปพร้อมๆ กับคิดหาทางออกช่วยเพื่อน

"ก็เออน่ะสิ กูถึงเครียดอยู่เนี่ย กูไม่ยอมให้ใครก็ไม่รู้มาแย่งสิ่งที่กูควรจะได้ไปง่ายๆ หรอกนะ! " ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนมีใครมาสุมไฟใส่กลางอก ซึ่งใครที่ว่าก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละ!

"แล้วจะเอาไง ก็ต้องแต่งป้ะ" อาทิตย์ถามอย่างปลงๆ มองสบตาเพื่อนทั้งสองอย่างต้องการความคิดเห็น เพราะตัวเขานั้นคิดจนสมองรวนก็ไม่เจอทางออกสำหรับเรื่องนี้

"ก็คงต้องเป็นงั้นอ่ะ แล้วพ่อมึงบอกอะไรอีกวะ เขาอยากให้แต่งทำไม คนไม่ได้รักกันแต่งกันไปก็ไปกันไม่รอด ต้องหย่าอยู่ดีป้ะวะ" ภาคเองก็เห็นตรงกันว่าไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ เลยถามหาเหตุผลที่คนเป็นพ่อตัดสินใจทำแบบนี้กับลูกชายเพียงคนเดียวขึ้นมาแทน

"เขาอยากอุ้มหลาน.." คนถูกถามตอบพร้อมกับถอนหายใจอย่างตึงเครียด เรื่องแต่งงานเขายังไม่อยากจะคิด แล้วเรื่องมีลูกจะมาอยู่ในสมองของเขาได้ยังไงกัน!

"อ้อ เข้าใจล่ะ" ภาคพยักหน้าเข้าใจ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเมื่อเข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่ทั้งสองที่มีลูกชายเพียงคนเดียวก็คือคนที่กำลังนั่งทำหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า การแต่งงานและมีทายาทคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะมันถึงเวลาสมควรแล้วที่วรธันย์จะต้องสร้างครอบครัวและมีทายาทสืบสกุลต่อไปเสียที

"มึงก็.. แต่งๆ ไปเหอะ ทนๆ เอา มีลูกให้เขาเมื่อไหร่ เขาพอใจค่อยหย่าก็ได้นี่หว่า หรือว่าที่เมียมึงขี้เหร่มากจนอึ๊บไม่ลงวะ" อาทิตย์ถามกลั้วเสียงขำเล็กๆ

สิ้นคำคนถูกถามก็พลันนึกไปถึงใบหน้าว่าที่ภรรยาในอนาคตอันใกล้.. ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารินลดาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ตรงสเป็ค ชนิดที่ว่าถ้าไม่ได้เจอกันด้วยสถานการณ์แบบนี้เขาคงตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ แต่พอได้เจอกันแบบนี้นอกจากจะรักไม่ลงแล้วยังเกลียดเข้าไส้!

"ก็.. ไม่แย่" ร่างสูงโคลงศีรษะไล่ความคิดแปลกๆ ในแวบแรก ก่อนตอบไปแบบกลางๆ ไม่เจาะจงให้คนฟังรู้สึกสนใจ

"ก็ยังดี มึงก็ทนๆ ยอมๆ พ่อมึงไปก่อน ท่องไว้ว่าเพื่อเงิน มีหลานให้เขาสักคนค่อยหย่า ถึงตอนนั้นเขาคงไม่ห้ามมึงแล้วแหละ สมใจแล้วนี่" ภาคสรุปสิ่งที่พอจะทำได้ก่อนปล่อยเบลอไม่คิดอะไรเครียดๆ ให้เสียบรรยากาศอีก แค่นี้ก็ดื่มต่อไม่ลงแล้ว

"เฮ้อ มึงนี่ก็นะ ดันเกิดมาเป็นลูกคนเดียวอีก" อาทิตย์ถอนหายใจ ส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายพลางนึกย้อนมาถึงตัวเอง ดีนะที่เขาไม่ใช่ลูกคนเดียว ไม่งั้นถูกพ่อแม่กดดันหนักอย่างเพื่อนแน่ๆ แต่จะว่าดีก็ไม่ดีไปเสียทีเดียว เพราะเขาเป็นลูกชายคนโตพ่อแม่ไม่ถึงกับกดดันแต่ก็คาดหวังไม่น้อยเลยเหมือนกัน

"กูเลือกเกิดได้หรือไง" คนถูกว่าแยกเขี้ยวคำรามใส่ พอจะทำให้วงสนทนาเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาได้บ้าง

พอได้ข้อสรุปเพื่อนทั้งสองก็คุยกันไปเรื่องอื่น ไม่วกกลับมาเรื่องเครียดๆ อีก พวกนั้นเฮฮาได้ทันทีที่เหล้าเข้าปาก มีเพียงวรธันย์คนเดียวที่เฮไม่ออกเลยทำเพียงนั่งดื่มและคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ แน่ล่ะ.. มาเจออย่างเขาใครไม่เครียดก็บ้าแล้ว!

ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าชีวิตชายโสด (?) ที่เพรียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะอย่างเขาจะมาลงเอยแบบนี้ เขาสนุกและพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ทำงานทุกวันแต่ก็หาความสนุกใส่ตัวไม่เคยขาด ยิ่งไม่มีพันธะผูกมัดกับใครก็ยิ่งไปได้สุดเท่าที่ใจต้องการ แต่ต่อไปมันจะไม่มีแบบนั้นอีกนี่สิ..

จะว่าเสียดายก็เสียดาย แต่ลึกๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเขาจะอยู่แบบนี้ไปตลอด เมื่อไรที่พร้อมเขาเองก็อยากจะสร้างครอบครัวอย่างคนอื่นเขาเหมือนกัน เพื่อนๆ ต่างบอกว่าเขาหวงความโสดแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เขาแค่ยังไม่เจอใครที่อยากจะลงเอยด้วยก็เท่านั้น เจอแต่เหมือนจะใช่แต่ก็ได้แค่เหมือนทุกที..

วันต่อมา

รินลดาตื่นเช้าเป็นปกติแม้วันนี้จะมีเรียนสาย เพราะเดิมทีเคยชินกับการตื่นมาช่วยแม่ทำกับข้าวไปขายในตลาด ซึ่งมื้อเช้านั้นจะทำแค่อาหารง่ายๆ เช่น โจ๊ก ข้าวเหนียวหมูปิ้ง แซนวิชและกับข้าวเบาๆ อีกสองสามอย่าง โดยเน้นเมนูทานง่ายสำหรับนักเรียน นักศึกษาและคนทำงานในวันรีบเร่ง ส่วนกับข้าวหลักๆ ที่ทำเยอะจริงๆ คือมื้อเย็นซึ่งเธอขอคุณหญิงไว้แล้วว่าจะไปช่วยแม่ขาย แต่ตอนนี้พอไม่ได้ช่วยแม่ทำกับข้าวอย่างเดิมแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ร่างบางเลยเดินเลียบๆ เคียงๆ ไปที่ห้องครัวเผื่อว่าจะช่วยป้าๆ แม่บ้านทำครัวได้บ้าง

"อ้าว คุณหญิง ตื่นเช้าเชียว ต้องการรับอะไรดีคะ ป้าจะทำให้" ป้าจิตรหัวหน้าแม่บ้านถามขึ้นเพราะหันมาเห็นเธอก่อนใคร

"เอ่อ เปล่าค่ะ หนูแค่ไม่มีอะไรทำ เลยจะเข้ามาช่วย" ร่างบางเลิกลั่ก ปฏิเสธเสียงเบาเพราะยังไม่คุ้นชินกับการถูกปฏิบัติดีด้วยเท่าไร

"ตายแล้ว! ไม่ได้นะคะ คุณหญิงเป็นคู่หมั้นของคุณธันย์ ไม่มีใครกล้าให้ทำอะไรหรอกค่ะ แค่เหยียบเข้ามาในครัวก็ไม่ควรแล้ว" อีกฝ่ายลนลานปฏิเสธกลับมาราวกับเป็นเรื่องใหญ่โตจนรินลดาได้แต่ทำหน้างง

"...ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ หนูเต็มใจช่วย" เสียงหวานยืนยันคำเดิมอย่างตั้งใจ ถึงเธอจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยฐานะที่สูงกว่าแต่เธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด ไม่รู้สึกยินดีกับการได้นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร สิ่งไหนที่เธอพอจะทำได้เธอก็อยากช่วยเต็มที่

"ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ถ้าคุณท่านทั้งสองรู้จะดุป้าเอา เชิญไปนั่งรอมื้อเช้าในห้องนั่งเล่นดีกว่า เดี๋ยวป้าให้เด็กยกของว่างไปให้นะคะ" ป้าจิตรอ้อนวอนเสียงอ่อนทำใจคนฟังอ่อนยวบตามไปด้วย รินลดากลัวป้าถูกคุณหญิงดุอย่างที่เจ้าตัวอ้างเลยยอมพยักหน้าและเดินกลับออกมารอที่ห้องนั่งเล่น สักพักคุณหญิงก็ลงมาจากชั้นบน

"อรุณสวัสดิ์จ้ะ ตื่นเช้าจัง เมื่อคืนหลับสบายมั้ยจ๊ะ" คุณหญิงเอ่ยทักกันด้วยน้ำเสียงสดใส ใบหน้าอ่อนเยาว์เผยรอยยิ้มที่คนมองคิดว่าสวยเหมือนรอยยิ้มของแม่ออกมาจนอดยิ้มตอบไม่ได้

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ.. รู้สึกแปลกที่นิดหน่อย แต่ก็หลับสบายดีค่ะ" ร่างบางผุดลุกเข้าไปประคองคนอายุมากกว่ามานั่ง จังหวะเดียวกันป้าจิตรก็พาเด็กๆ ยกของว่างมาให้ คุณสุรศักดิ์ที่ไปดูต้นไม้ในสวนหลังบ้านก็กลับเข้ามาพอดี

"เจ้าธันย์ออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอมกลับบ้าน" ร่างสูงนั้นพูดลอยๆ ขึ้นมาให้คุณหญิงรับรู้ ซึ่งเธอก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับลูกชายดี

"คุณพี่ก็อย่าเพิ่งไปกดดันลูกมากเลยค่ะ แกคงไม่ชอบใจนัก" คุณนาฏยาเอ่ยอย่างจำใจ แน่นอนว่าไม่มีใครชอบถูกบังคับ เธอเข้าใจทั้งลูกชายและสามี ทุกคนต่างมีเหตุผลส่วนตัวที่พอมันไม่ตรงกันก็เลยขัดแย้งกันแบบนี้

"ผมยอมมามากพอแล้วคุณหญิง" คุณสุรศักดิ์พูดเสียงเข้ม ผู้เป็นภรรยาก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ ก็อย่างที่บอกว่าเธอเข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่สามีไม่ได้อยู่ที่เธอ ผู้นำตระกูลไม่ว่ารุ่นไหนๆ ก็ต้องมีทายาทสืบสกุลเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งลูกชายเพียงคนเดียวอายุเฉียดครึ่งชีวิตเข้าไปแล้วก็ยิ่งต้องรีบมี..

ลึกๆ แล้วคุณหญิงก็นึกโทษตัวเองอยู่เหมือนกันที่ร่างกายอ่อนแอจนไม่สามารถมีลูกหลายๆ คนได้ ไม่งั้นวรธันย์คงไม่ต้องถูกกดดันถึงขนาดนี้..

"เฮ้อ พาน้องเครียดแต่เช้าเลยนะคะ ปล่อยๆ ลูกไปก่อนเถอะค่ะ อย่าเคี่ยวนักเลย ให้เวลาแกทำใจสักหน่อย เดี๋ยวก็คงยอมรับได้เอง" คุณหญิงถอนหายใจอย่างจำยอม ทำได้แค่ช่วยพูดให้สามีเข้าใจลูกอีกหน่อยเพราะสถานการณ์มันก็ค่อนข้างจะกะทันหันเกินไป คุณสุรศักดิ์พอเห็นภรรยาบ่นเครียดก็ยอมลงให้ ยอมให้ลูกชายยังทำตัวเหลวไหลต่อไปได้อีกสักพัก แต่ไม่ยอมให้ยกเลิกงานแต่งอย่างเด็ดขาด!

..

..

หลังจากนั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืน ไม่พอยังลามมารบกวนเวลาทำงานในเช้าวันนี้ด้วย วรธันย์ก็ยังหาบทสรุปเรื่องงาน (บังคับ) แต่งไม่ได้ จะให้ยอมแต่งง่ายๆ อย่างที่เพื่อนแนะนำนั้น บอกตรงๆ ว่าพอรู้ธาตุแท้ของฝ่ายว่าที่เจ้าสาวแล้วทำใจยอมรับง่ายๆ ไม่ได้ แต่ทันใดในขณะที่กำลังจะเลิกคิดนั้นก็เกิดแสงสว่างเล็กๆ ขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดในสมอง.. จริงอยู่ว่าเขาถูกมัดมือชกไม่ให้ปฏิเสธได้ แต่ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธงานแต่งไม่ได้นี่นา! จะถูกพ่อเขาจ้างมาเท่าไรก็ช่างสิ แต่ถ้าเขาจะทำให้อีกฝ่ายอดทนอยู่จนถึงวันแต่งไม่ได้และเป็นฝ่ายยกเลิกงานแต่งไปเองล่ะ เขาก็จะไม่ต้องฝืนใจ มรดกก็ยังคงอยู่ มีแต่ได้กับได้เห็นๆ!

คิดได้แบบนั้นร่างสูงก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างพึงพอใจ ความเครียดสะสมมลายหายไปเป็นปลิดทิ้งราวกับไม่เคยมีมาก่อน นั่งทำงานต่อไปอย่างอารมณ์ดี๊ดี..

แกรก!

"ธันย์คะ! " คนที่นั่งทำงานอย่างใช้สมาธิเป็นอันต้องสะดุ้งตกใจเมื่อผู้มาใหม่เปิดประตูพรวดเข้ามาโดยไม่เคาะบอกหรือแจ้งผ่านเลขาล่วงหน้าก่อนว่าจะมา พอมองเลยไปด้านหลังก็เห็นแต่เลขาถลาตามเข้ามาทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนว่าพยายามห้ามแล้วแต่ไม่สำเร็จ

"เกว.. จะเข้ามาผมบอกให้เคาะประตูหรือแจ้งเลขาผมก่อนไง" เสียงต่ำเอ่ยตำหนิอดีตคู่ขาที่เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นแฟนอย่างไม่พอใจ เพราะเรื่องนี้เขาต้องย้ำทุกครั้งที่อีกฝ่ายบุกมาหาแต่ก็เหมือนพูดให้ดินฟ้าอากาศฟัง เจ้าหล่อนไม่เคยสนใจใยดีคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย

"ทำไมต้องแจ้งด้วยคะ เกวไม่มีสิทธิ์เข้ามาหรือว่าคุณแอบซุกอีหนูคนไหนไว้" ร่างสูงเพรียวบนส้นสูงปลายแหลมหรี่ตามองจับผิดทั้งเขาและกวาดมองไปทั่วห้อง

"ไม่ใช่.. แต่.. เผื่อผมติดลูกค้าสำคัญ" วรธันย์เอ่ยเลี่ยงทั้งที่จริงอยากจะบอกว่ามันเป็นมารยาทที่ทุกคนพึงปฏิบัติก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะกลายร่างเป็นยักษ์มาหักคอเอา ไม่ได้กลัวหรอกแต่รำคาญเสียงแหลมๆ ของเจ้าหล่อนมากกว่า

"ยังจะมีใครสำคัญเท่าเกวอีกหรอคะ" ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีสดของคนพูดยกยิ้มหวาน หลังถือวิสาสะหมุนเก้าอี้ทำงานของร่างสูงหันมาหาแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนตักแกร่ง คล้องวงแขนกอดคอ เอียงแก้มซบไหล่หนาอย่างออดอ้อน

'เกวลิน' เป็นผู้หญิงที่เขาคบหานานที่สุดไม่ว่าจะในสถานะคู่ขาหรือแฟน เหตุผลง่ายๆ ก็แค่เจ้าหล่อนงี่เง่าน้อยที่สุดจากในบรรดาผู้หญิงที่เคยพบเจอมา แน่นอนว่างี่เง่าน้อยสุดไม่ใช่จะไม่งี่เง่าเลย.. นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ตกลงปลงใจแต่งงานกับหล่อนตั้งแต่ที่พ่อบอกแรกๆ หล่อนยังไม่ใช่.. แม้จะเข้ากันได้ดีในหลายๆ เรื่องแต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าอยากแต่งงานใช้ชีวิตคู่กับคนๆ นี้ ก็เลยไม่เคยพาไปแนะนำกับพ่อแม่ ได้แต่คบไปวันๆ

"แล้วนี่มามีอะไรหรือเปล่า" ร่างสูงไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับ และถือเป็นโชคดีที่เปลี่ยนความสนใจของเจ้าหล่อนได้

"แหม ไม่มีมาไม่ได้หรอคะ พูดแบบนี้เกวน้อยใจนะเนี่ย" ร่างเพรียวกอดออเซาะพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดน้อยใจ เห็นแรกๆ ก็รู้สึกดีอยู่หรอก แต่เห็นบ่อยเกินไปก็ชักจะเบื่อ..

"ผมทำงาน ไม่มีเวลาเทคแคร์ เกรงว่าคุณจะเบื่อน่ะ" ประธานหนุ่มเอ่ยอ้างไปเหมือนทุกทีที่เคยอ้างเวลาไม่อยากเจออีกฝ่าย อารมณ์เขาไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นแค่คู่ควงกันนัก ไม่ได้อยากเจอตลอดเวลา บางทีเจอกันก็อยากหนีไปไกลๆ แต่บางวันก็มีอารมณ์อยากเจอ ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร..

รักหรือ? ก็ไม่น่าใช่

"ไม่เบื่อหรอกค่ะ ที่ไหนมีคุณเกวไม่เคยเบื่อเลย" เกวลินบอกเสียงหวานพร้อมกับยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มสาก ก่อนเคลื่อนมาที่ริมฝีปากหนาอย่างอ้อยอิ่ง กะยั่วยวนให้ร่างสูงตบะแตก แต่เหมือนเขาจะชักช้าไม่ได้ดั่งใจ มือเรียวจึงรั้งใบหน้าคมลงมาประกบปากจูบเสียเอง เรียวขาสวยยกข้ามมานั่งคร่อมตักแกร่งอย่างเต็มตัว ก่อนบดเบียดสะโพกเข้ากับเป้ากางเกงเขาจนอะไรบางอย่างที่นอนสงบนิ่งอยู่ในนั้นเริ่มตื่น.. จากนั้นงานที่ทำค้างไว้ก็ไม่เดินอีกเลย

..

..

..

..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 34 (ตอนจบ)

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 34 (ตอนจบ) วันเวลาผ่านพ้นไปกิจวัตรประจำวันของรินลดาก็ยังคงวนเวียนแบบเดิมซ้ำๆจนอายุครรภ์ล่วงเลยมาจนถึงแปดเกือบเก้าเดือนและมีวันกำหนดคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแต่เธอรู้ว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงวันนั้นเนื่องจากช่วงนี้มีอาการเจ็บท้องเตือนบ่อยขึ้นบางทีก็เจ็บจนร้องไห้ผู้เป็นสามีจึงต้องลางานมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงใกล้คลอด"ไหวไหม"ร่างสูงเอ่ยถามภรรยาท้องแก่ที่นั่งเอนหลังดมยาดมพลางหอบหายใจแรงกว่าปกติเนื่องจากเจ็บท้องเตือนขึ้นมาอีกแล้วและดูเหมือนวันนี้จะเจ็บมากกว่าปกติเขาจึงให้คนเตรียมรถเตรียมของใช้สำหรับคลอดไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน"อึก...ไม่ไหว...แฮ่ก"แรงปวดไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงเลยแม้แต่น้อยมือเล็กที่บีบมือใหญ่ไว้ส่งผ่านความรู้สึกมาถึงร่างสูงแม้ไม่ทั้งหมดแต่ก็ทำให้เขาได้รับรู้ว่าเธอกำลังจะทนไม่ไหวไม่ต้องรอให้พูดอะไรซ้ำวรธันย์ก็เรียกเด็กในบ้านให้รีบเตรียมของขึ้นรถส่วนเขาก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีช้อนตัวภรรยาขึ้นอุ้มและตรงไปที่รถอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่าสถานการณ์เริ่มวุ่นวายแต่ก็ไม่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะทุกคนเตรียมการนี้ไว้สักพักใหญ่แล้วเพียงตื่นเต้นยิน

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 33

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 33ตกเย็นวรธันย์ก็พาภรรยามาที่บ้านใหญ่พร้อมด้วยกล่องของขวัญหนึ่งใบที่ทำเอาทุกคนต่างมองด้วยความสนใจครั้นถามว่าเอามาให้ใครและข้างในมีอะไรเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงบอกแค่ว่าจะเฉลยในตอนที่ทานข้าวเสร็จเล่นเอาคุณหญิงนาฏยาคันไม้คันมือยิกๆอยากแย่งมาเปิดดูให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำได้แค่เก็บอาการและอดใจรออย่างใจเย็น"เอ้อแม่มีอะไรจะบอก"คุณหญิงพูดขึ้นท่ามกลางมื้ออาหารที่เริ่มดำเนินมาสักพักหนุ่มสาวเลยพร้อมใจกันวางช้อนส้อมเพื่อรอฟังในสิ่งที่มารดากำลังจะบอก"แม่คุยพ่อและคุยกับพ่อแม่หนูแล้วว่าจะให้ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่เนี่ยน้ากว่าจะเกลี้ยกล่อมได้เหนื่อยแทบตายแน่ะ"คุณหญิงบอกอย่างอารมณ์ดีได้ยินแบบนั้นรินลดาก็จ้องหน้าแม่สามีอย่างไม่อยากจะเชื่อหูก่อนจะหันไปมองพ่อกับแม่ที่ทำหน้าเกรงอกเกรงใจอยู่ไม่คลาย"ก็จะให้มาอยู่เฉยๆไม่ให้ทำอะไรเลยมันไม่ได้จริงๆค่ะเกรงใจ"อรนภาเอ่ยแทรกขึ้นมาความจริงคุณหญิงชวนเธอกับสามีมาอยู่ด้วยกันหลายครั้งแล้วแต่เธอปฏิเสธเพราะเกรงใจอีกอย่างก็ไม่คุ้นชินกับบ้านหลังใหญ่หรูหราแบบนี้เท่าไรคราวนี้ที่ยอมก็เพราะยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าให้อยู่ก็ข

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 32

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 32สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกงเข็มนาฬิกา ว่าที่เจ้าสาวถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันด้วยทีมช่างที่คุณหญิงนาฏยาจัดหามาให้ ได้คุณหญิงและผู้เป็นแม่คอยช่วยดูแลอีกที กำหนดการในช่วงเช้าวันนี้คือการเข้าพิธีแต่งงานแบบไทย เรียบง่าย ลดขั้นตอนพิธีบางอย่างออกไป คงเหลือไว้แต่พิธีหลักๆ ที่สำคัญ สถานที่จัดงานคือบ้านหลังใหญ่ของฝ่ายว่าที่สามีที่ยังคงนอนหลับอยู่อีกห้องหนึ่ง เพราะขั้นตอนการแต่งตัวน้อยกว่าฝ่ายเจ้าสาวจึงยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาพร้อมกันใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงในการแต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวและบรรดาแม่ๆ กระทั่งแล้วเสร็จในช่วงเช้าพอดี ฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วทว่ายังถูกขัดขวางไม่ให้ได้เจอเจ้าสาวจนกว่าจะเริ่มพิธีไม่เพียงแค่เจ้าของงานที่ต้องเตรียมตัวแต่เช้า ฝ่ายจัดสถานที่และฝ่ายแม่ครัวเองก็วิ่งวุ่นไม่ต่างกันเพราะต้องเตรียมอาหารเลี้ยงพระและ แขกคนสำคัญที่แม้จะเชิญมาแค่ไม่กี่คนก็ต้องดูแลให้ดีสมฐานะเจ้าบ้าน พยายามให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"ใจเย็นๆ อย่าตื่นเต้นมากนัก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน" อรนภาลูบหลังลูกสาวเ

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 31

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 31ด้วยไม่ได้นอนทั้งคืนและอ่อนเพลียจากพิษไข้ คืนแรกที่ต้องนอนแยกห้องกันตามข้อตกลงเลยทำให้รินลดาหลับสนิท ต่างจากวรธันย์ที่นอนมองเพดานว่างเปล่ามานานหลายชั่วโมงแล้ว เขายังไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลยแม้แต่น้อย เขาคิดถึงร่างนุ่มนิ่มของคนรักที่เคยได้นอนกอด มากไปกว่านั้นคือเป็นห่วงกลัวว่าคนป่วยจะไข้ขึ้นสูงกลางดึกแล้วไม่มีคนดูแลสุดท้ายร่างสูงก็ยอมแพ้ต่อความห่วงใย เขาทนไม่ไหวจึงหอบเอาผ้าห่มกับหมอนเดินไปที่ห้องนอนเล็ก มือหมุนเปิดลูกบิดอย่างแผ่วเบา ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง ลงมือปูผ้าห่มลงบนพื้น ไม่ลืมตรวจเช็คอุณหภูมิของคนหลับด้วยว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ เมื่อพบว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงวรธันย์ก็ล้มตัวลงนอนข้างเตียง แต่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องตื่นก่อนและรีบออกไปจากห้อง บทลงโทษของคนที่ทำอะไรไม่คิดคือแยกห้องนอนและห้ามวอแวอีกฝ่ายจนกว่าจะถึงวันแต่งงานในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า นี่แค่วันเดียวก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะอดทนได้จนถึงวันแต่งงานหรือเปล่ารินลดาหลับยาวจนถึงเช้า เธอลืมตามองไปรอบๆ อย่างสำรวจ เพราะเมื่อคืนเหมือนจะมีบางช่วงที่กึ่งหลับกึ่งตื่นและรู้สึก

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 30

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 30"เฮ้อ...""อะไร ถอนหายใจแต่เช้า ไหวไหมเนี่ย ท่าทางเราดูเพลียๆ นะ ไม่ได้หลับได้นอนหรือไงหื้ม" เลขาท่านประธานถามขึ้นอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเด็กฝึกงานในความปกครองนั่งถอนหายใจก่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยท่าทางอ่อนล้าในเช้าวันหนึ่ง จะว่าถูกเธอใช้งานหนักก็ไม่ใช่ ถึงจะเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานแต่พ่วงตำแหน่งคู่หมั้นของเจ้านาย ยังไงก็เปรียบเสมือนเจ้านายเธออีกคน ใครจะไปกล้าใช้งานหนักกัน"ประมาณนั้นแหละค่ะ เจ้าที่แรงมาก ไม่ยอมให้หลับให้นอนเลย" เสียงหวานอ่อนระโหยโรยแรงบ่นพึมพำออกมาคล้ายคุยกันตัวเองมากกว่า คำว่า 'เจ้าที่แรง' ทำคนฟังได้แต่ทำหน้าสงสัย พลันนึกไปถึงคอนโดหรูที่เจ้านายพัก ก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าที่แรง...ขณะที่รุ่นพี่คิดไปไกล...เจ้าที่ในความหมายของคนอายุน้อยกว่าตอนนี้กำลังนั่งจามอยู่ในห้องทำงานอย่างไม่ทราบสาเหตุ ใช่...เจ้าที่ที่ก่อกวนเวลานอนของเธอก็คือเจ้านายพี่นั่นแหละ!หลังจากวันสารภาพบาป (?) นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว และตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมารินลดาต้องรับมือกับ 'ผีทะเลกินดุ' แทบจะทุกคืน! พอได้มีคืนแรกด้วยกัน คืนต่อๆ ไปก็มาไวและถี่เสียจนตั้งรับไม

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 29

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 29"หนูกลัว..." น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยขึ้นในตอนที่ได้กลับมาเหยียบบ้านอินทรเกษมกุลอีกครั้ง แววตากลมใสสั่นระริก ดวงหน้าปรากฏความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แม้จะคุยกันมาดีแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอก็ยังมีความพร้อมไม่มากพออยู่ดี"พี่อยู่ทั้งคน" ฝ่ามือใหญ่กุมทับมือเล็กที่เย็นเฉียบสร้างความอบอุ่นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ ทว่าก็ทำคนฟังใจชื้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะความวิตกกังวลมันมีมากกว่า เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะผิดหวังในตัวเธอมากกว่าว่าใครจะมองยังไง แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่สบายใจอีกเหมือนกัน"ไปเถอะ เชื่อใจพี่...ไม่มีอะไรต้องกลัว" ร่างสูงให้กำลังใจ กระชับมือเล็กแน่นขึ้น ก่อนพาเดินเข้าบ้านไป ในเวลานี้ทุกคนต่างมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามที่วรธันย์ได้โทรมาขอไว้ ทั้งพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของรินลดา"อ้าว มากันแล้ว สวัสดีจ้ะ นั่งๆ" คุณหญิงนาฏยาทักทายทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม มือรับไหว้ว่าที่ลูกสะใภ้ก่อนเชิญทั้งสองมานั่งคุยกันระหว่างรอทานมื้อค่ำ"น้องหญิง ไม่สบายหายดีหรือยังคะ พี่ธันดูแลน้องดีหรือเปล่าเนี่ย" ประโยคแรกเอ่ยกับร่างบางด้วยรอยยิ้มสดใส ประโยคหลังหันมามองแรงใส่ล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status