ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง
“อ๊ะ...”
ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัว
หล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง
“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”
เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร
“อย่า... ปล่อยค่ะ...”
“พี่ต้องการอัน...”
เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียหมด มือใหญ่ลูบไล้สำรวจไปตามสัดส่วนสาว เขาทั้งบีบ ทั้งขยำ ก่อนจะมาเน้นหนักที่เต้านมอวบใหญ่
“อืมมม นมอันใหญ่ขึ้นนะ... อืมมม หอมด้วย...”
เขาดึงมือของหล่อนที่พยายามกอดหน้าอกเอาไว้ขึ้นไปตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะก้มลงดูดเลียยอดถันด้วยกิริยาหยอกเย้า หล่อนพยายามทัดท้าน แต่ความวาบหวามจากสัมผัสของเขาก็เอาชนะสาวไร้เดียงสาอย่างหล่อนอีกครั้ง
“อา... อา...”
เพียงแค่ถูกเขาดูด ถูกเขาเลียยอดถัน และขยำก้อนเนื้อนุ่มเท่านั้น สติของหล่อนก็หลุดหลง ร่างกายคล้ายถูกจับเหวี่ยงเข้าไปในกองเพลิงปรารถนา สะโพกกลมกลึงบิดเร่าส่ายสะบัด เผยอเสียดสีขึ้นหาความแข็งแรงที่ลิ้มลองมาแล้วว่าดุดันแค่ไหนอย่างเชิญชวน
“อา... พี่แม็ก... ได้โปรด... อา...”
และทันทีที่นิ้วแข็งแกร่งของแม็กซิมัสชอนไชเข้ามาภายในกลีบสาวคับแน่น ความโหยหารวดร้าวในกายสาวก็แตกระเบิด หล่อนเผยอเนินนางเปียกชุ่มขึ้นหยอกเย้ากับนิ้วยาวอย่างเต็มใจ ดวงหน้างามแดงซ่าน ปากอิ่มเผยอครวญครางไร้ยางอาย
“อา... ได้โปรด... พี่แม็กขา... อา...”
“แม่สาวร้อนรัก”
เขาครางกระหึ่มลำคอด้วยความพึงพอใจกับการตอบสนองร้อนฉ่าที่ได้รับ ปากและนิ้วของเขาแสนวิเศษเหลือเกิน มันร่ายมนตร์ใส่จนกายสาวหลอมละลายกลายเป็นหยาดน้ำร้อนจัด
ยอดถันสองข้างถูกปรนเปรอด้วยปากและลิ้นอย่างทัดเทียม ในขณะที่ความเป็นหญิงก็ถูกนิ้วยาวคุกคามไปพร้อมๆ กัน
“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... พี่แม็ก... ได้โปรด... อา... อา...”
ไฟสวาทแผดเผาจนหล่อนไม่อาจจะทานทนต่อความรู้สึกแสนวิเศษนี้ได้อีก ร่างกายลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง... ในที่สุดมันก็แตกกระจายอยู่กลางท้องฟ้า
“กรี๊ดดดดด... อา...”
หล่อนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ และไม่สามารถหยุดสั่นเกร็งได้เช่นกัน
เสียงคำรามด้วยความหื่นกระหายของแม็กซิมัสดังท่ามกลางความมืดมิด พร้อมกับกลีบเนื้ออ่อนที่ถูกความแข็งชันดุนดันแรงขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งเขาสามารถมุดตัวเข้ามาข้างใน
“อืมมม แน่นมาก... แน่นจัง...”
เขาคำรามรดใบหน้า ก่อนจะเริ่มต้นเคลื่อนไหว จังหวะสวาทของแม็กซิมัสดุดันเสมอ เขารุนแรง โยกคลึงบ้าคลั่ง สะโพกเพรียวของเขาทรงพลังมาก มันส่ายมันสั่น และมันก็จ้วงแทงไม่ยั้งตามแรงอารมณ์ของเจ้าของ
“โอ้ว... พระเจ้า... แน่นมาก...”
จังหวะการซอยสะโพกของแม็กซิมัสดุดันขึ้นเรื่อยๆ ดุดันจนหล่อนต้องสูดปากแรงๆ เพื่อต่อสู้กับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นจากการเสียดสี
“อ๊า... อา... อา... พี่แม็ก... อา...”
พลังพิศวาสแผดเผาจนจิตวิญญาณแทบมอดไหม้ ทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าหา กายสาวสั่นสะเทือนราวกับถูกจับเขย่า เขาสอดใส่ร้อนแรงตะกุยเข้าหาดุดัน ในขณะที่อุ้งปากร้อนระอุก็โน้มลงมากลืนกินจะงอยถันสีหวานตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย
“อ๊า... อา... อา...”
แม้ทุกสัมผัสของแม็กซิมัสจะรุนแรงเกินคำว่าป่าเถื่อน แต่หล่อนกลับรู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กับจังหวะรุกรานหนักหน่วงของเขา เนื้อตัวสาวสั่นสะท้าน ก่อนจะรับรู้ถึงความสุขสุดยอดของเพศรสอีกครั้ง
“กรี๊ดดดดด... อา... อา...”
หล่อนนอนแผ่หลา หมดแรงอยู่บนเตียง ในขณะที่คนตัวโตยังคงเคลื่อนไหวความเป็นชายอยู่ภายในร่องสาวต่อเนื่อง เขาคุกคาม รุกรานด้วยท่อนเนื้อยาวใหญ่ จังหวะเคลื่อนไหวของบั้นเอวดุดัน ซอยถี่ระรัว
ความเสียวซ่านเกิดขึ้นที่ใจกลางร่างสาวอีกครั้ง การเสียดสีดุดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงคำรามลั่นของคนตัวโตเจ้าของลีลาเซ็กซ์ร้อนแรง
“โอ้ววว... รัดแน่นมาก... พระเจ้า... ไม่ไหวแล้ว... โอ้ววว”
เขาสอดใส่เร็วแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสายธารสวาทร้อนจัดฉีดพุ่งเข้าใส่ภายในกายสาวล้ำลึก
ตอนนี้ใบหน้าของแม็กซิมัสแดงก่ำ และบิดเบี้ยว เสียงคำรามของเขาไม่ต่างจากเสียงของสัตว์ป่าที่กำลังได้รับความเจ็บปวด เขากระตุกเกร็งอยู่เหนือร่างอวบอัดชื้นเหงื่ออยู่นานเกือบนาที ก่อนจะซวนซบลงมาหาอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
ปั้นหยานอนนิ่ง น้ำตาไหลริน เมื่อพายุสวาทสงบลง แล้วความเป็นจริงย้อนคืนกลับมา
หล่อนไม่รู้ว่าทำไมแม็กซิมัสถึงทำอย่างนี้กับหล่อน แต่สิ่งที่รู้แน่นอนในตอนนี้ก็คือ เขาคิดว่าผู้หญิงที่นอนด้วยคืออันนา...
หล่อนเจ็บ... เจ็บจนพูดไม่ออก เจ็บจนแทบจะหยุดหายใจอยู่แล้ว
น้ำตาไหลรินเป็นทางจนเปียกหมอน และเฝ้ารอให้แม็กซิมัสหลับใหล เพื่อที่จะออกไปจากห้องนอนของอันนาก่อนที่เจ้าของห้องจะกลับมา
ความลับ...
ใช่... สิ่งที่เกิดในห้องนี้ ในค่ำคืนนี้มันจะกลายเป็นความลับที่มีแค่หล่อนเพียงคนเดียวที่รู้ไปตลอดกาล
อันนารีบกระโจนลงจากรถของประวิทย์ที่ขับมาส่ง และวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะชะงักกึกเมื่อเห็นรถของแม็กซิมัสยังจอดอยู่ที่เดิม
“พี่แม็ก...”
หล่อนยืนนิ่ง หน้าตาซีดเผือด เพราะคิดไม่ออกว่าแม็กซิมัสที่ถูกหล่อนวางยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้
อันนาเต็มไปด้วยความร้อนใจ และกำลังจะวิ่งเข้าบ้าน แต่รถของคุณย่าวารีก็แล่นเข้ามาในบ้านพอดิบพอดีราวกับนัดเวลากันเอาไว้ไม่มีผิด
หล่อนอยากจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้านให้รู้แล้วรู้รอด แต่คุณย่าก้าวลงมาจากรถและเห็นสภาพของหล่อนเข้าเสียก่อน
“อ้าว ยายอัน ทำไมตื่นเช้านักล่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“แล้วนั่น... ไปทำอะไรมา ทำไมสภาพยับเยินนัก”
คุณย่าวารีกวาดตามองสำรวจหลานสาวด้วยความแปลกประหลาดใจ
“ปะ เปล่าหรอกค่ะคุณย่า ว่าแต่คุณย่าทำไมกลับเร็วนักล่ะคะ”
“นี่ก็ไม่เร็วนะ จะเจ็ดโมงเช้าอยู่แล้ว”
“เอ่อ... งั้นอันขอตัวก่อนนะคะ”
อันนาไม่ฟังเสียงเรียกตามหลังของคุณย่าวารี หล่อนกัดฟันวิ่งเข้าไปในบ้าน และมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของตนเองด้วยความร้อนใจ เพราะเป็นห่วงในสวัสดิภาพของแม็กซิมัส
เมื่อมาถึงหน้าห้อง หล่อนก็ตัดสินใจดันบานประตูเข้าไปทันที และภาพที่เห็นภายในนั้นก็ทำให้หล่อนช็อกมาก ก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“กรี๊ดดดดด... นังปั้นหยา! อีพี่สารเลว!”
อันนารีบตรงดิ่งเข้าไปกระชากเส้นผมของปั้นหยาที่ยังนอนสลบไสลอยู่บนเตียงข้างกายของแม็กซิมัสแรงๆ จนปั้นหยารู้สึกตัวตื่นเพราะความเจ็บ
“น้องอัน...”
ปั้นหยาหน้าตาซีดเผือด ปากสั่นระริก เมื่อพบว่าตัวเองเผลอหลับไป และลืมกลับไปห้องก่อนที่จะเช้า
“มึง... มึงแย่งผัวกู!”
เพียะ!
ใบหน้าของปั้นหยาสะบัดไปตามแรงตบจากฝ่ามือของอันนาที่กระแทกลงมาบนแก้มหลายครั้ง หญิงสาวร้องออกมาด้วยความอัปยศอดสู จนกระทั่งแม็กซิมัสที่เพลียหลับเพราะมีเซ็กซ์กับหล่อนแทบทั้งคืนรู้สึกตัวตื่นขึ้น
เขาทำหน้างงๆ และขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองหน้าหล่อนสลับกับใบหน้าของอันนา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น น้องอัน ทำไม...?”
“อันต้องถามพี่แม็กมากกว่า ว่าทำไมไปเอากับอีปั้นหยา!”
แม็กซิมัสจ้องหน้าปั้นหยาที่ท่วมท้นไปด้วยหยาดน้ำตา ดวงตาสีเขียวจัดเบิกโพลงด้วยความตื่นตกใจ เขาก้มลงมองตัวเองใต้ผ้าห่ม ก่อนจะมองร่างของปั้นหยา
ผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขเมื่อคืนไม่ใช่อันนา แต่คือ... คือผู้หญิงแพศยาคนนี้หรือ?!
สายตาที่เต็มไปด้วยความขยะแขยงชิงชังของแม็กซิมัสที่จ้องมองมาอย่างกล่าวหา ยิ่งทำให้ปั้นหยารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น หล่อนส่ายหน้าไปมา และพยายามอธิบาย
“พี่... พี่จะกลับห้อง...”
“มึงคิดว่าแย่งผัวกูแล้วจะหนีไปง่ายๆ เหรออีพี่ทรยศ อีพี่
สารเลว!”“น้องอัน... พี่... พี่ไม่รู้ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ แต่พี่... จะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้แน่... ได้โปรดเชื่อพี่...”
ปั้นหยาสะอึกสะอื้น พยายามตะเกียกตะกายจะลงจากเตียง แต่แขนเรียวถูกมือใหญ่ของแม็กซิมัสคว้าเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับสายตาเลือดเย็นที่เขาใช้มองมา
“เธอสินะที่เป็นคนวางยาปลุกเซ็กซ์ฉัน”
“ไม่... ไม่ใช่นะคะ หยาไม่รู้เรื่อง”
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน