หล่อนอับอายจนต้องก้มหน้ามองพื้น ในขณะที่เคลวินไม่ได้แสดงทีท่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ ก็แน่ล่ะ ในเมื่อเขาผ่านผู้หญิงนมใหญ่มาอย่างโชกโชน และแม้แต่ณิชา อดีตคนรักของเขาก็นมใหญ่เช่นกัน
“ผมฝากเงินค่าจ้างพวกคุณเอาไว้ที่แม่บ้านแล้วนะครับ ไปรับได้เลย ส่วนรถจอดรออยู่แล้วครับ”
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมยกมือไหว้เคลวิน ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้ายกับเฌอปราง
“คืนนี้พี่รับรอง น้องเฌอปรางจะต้องสวยโดดเด่นยิ่งกว่าเจ้าสาวอีกค่ะ”
หล่อนฝืนยิ้มเศร้าหมอง และก็อดที่จะปรายตามองเคลวินไม่ได้ ซึ่งก็ได้เห็นความสะใจบนใบหน้าหล่อจัดอย่างชัดเจน
“พวกเราไปนะคะ”
“ครับ”
ครั้งเมื่อช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเดินจากไปแล้ว เฌอปรางก็ยืนก้มหน้าเงียบๆ หัวใจหวั่นไหวเหลือเกิน จนกระทั่งเคลวินก้าวเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ และออกคำสั่ง
“เธอดูเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะ เฌอปราง”
หล่อนจำต้องช้อนตาขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่มีทางเลือก
“เอ่อ... ค่ะ”
“ฉันดีใจนะที่ตัวเองเลือกผู้หญิงไม่ผิด” รอยยิ้มของเคลวินเลือดเย็นจนหล่อนหน้าซีด
“ณิชาจะต้องกระอักเลือด เมื่อเห็นเราสองคนไปร่วมงาน”
“ค่ะ...”
หล่อนตอบรับออกไปสั้นมาก เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดคำใดออกไปดี
“เธอรู้ใช่ไหมว่าคืนนี้จะต้องทำตัวยังไงบ้าง”
“เอ่อ... หนู...”
หล่อนจำต้องช้อนตาขึ้นสบประสานกับดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจของเคลวินอีกครั้ง
“เราจะต้องแสดงบทบาทเป็นคู่รักที่รักกันมาก”
“เอ่อ... ค่ะพ่อเลี้ยง”
“และไม่ว่าฉันจะทำอะไร ให้เธอทำตาม ห้ามขัดขืน หรือขัดคำสั่งเด็ดขาด ทำได้ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เพราะสิ่งเดียวที่ฉันต้องการจากค่ำคืนนี้ ก็คือการทำให้ณิชากระอักเลือด เมื่อรู้ว่าเราสองคนรักกันมาก และฉันก็ไม่ได้เป็นฝ่ายถูกณิชาเท แต่เป็นณิชาเองต่างหากที่ถูกนอกใจ”
“ค่ะ”
น้ำเสียงของหล่อนสั่นเทาจนน่าสมเพช หล่อนอยากจะหลับตาลง และหายไปจากที่นี่ซะ แต่ก็ทำไม่ได้
“ดีมาก ถ้าเธอทำดี คืนนี้ฉันจะให้รางวัลกับเธอ”
“รางวัล... อะไรเหรอคะ”
เขายิ้มเย็นชา ไหวไหล่ที่กว้างมากๆ ของตัวเองเล็กน้อยอย่างต้องการบอกให้รู้ว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่กำลังจะพูดเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันจะทำให้เธอมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนยังไงล่ะ”
“เอ่อ...”
“เซ็กซ์ไง”
แข้งขาของหล่อนอ่อนแรงมาก และหล่อนก็คงจะล้มพับไปในไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ หากไม่มีมือใหญ่ที่อบอุ่นจนร้อนระอุมาโอบเอวคอดเอาไว้เสียก่อน
“ทำไมตัวสั่นจัง กลัวฉันหรือ”
“เอ่อ... ปะ เปล่าค่ะ”
“หรือว่าหนาวล่ะ”
เขามองหล่อนด้วยสายตาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม ก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ
“เธอคงไม่คุ้นกับชุดราตรีเปิดแขนแบบนี้ล่ะสิ”
“คง... จะใช่ค่ะ”
แล้วคนตัวโตก็ถอดเสื้อสูทสีทองออกจากตัวและนำมาคลุมให้กับหล่อน
“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะพ่อเลี้ยง หนูทนได้ค่ะ”
“จะทนทำไมล่ะ คลุมเอาไว้ก่อน เดี๋ยวถึงงานแต่งของณิชาแล้ว ฉันค่อยเอาคืน”
“แต่ว่า...”
“บนรถแอร์ยิ่งเย็น ฉันไม่ต้องการให้เธอแข็งตายก่อนที่จะช่วยฉันทำให้ณิชากระอักเลือด”
นี่สินะ เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลของเคลวิน
“เอ่อ... ขอบคุณค่ะ”
หล่อนจำต้องยอมให้เสื้อสูทสีทองของเขาคลุมอยู่บนสองหัวไหล่ ขณะถูกเขารั้งให้เดินลงบันไดไปช้าๆ โดยที่มือใหญ่ยังคงวางอยู่บนเนินสะโพกสาวตลอดเวลา
“ยิ้มเอาไว้ ฉันไม่ต้องการให้คนที่นี่สงสัยในความสัมพันธ์ของเรา”
“ค่ะ... พ่อเลี้ยง อ๊ะ...”
หล่อนร้องอุทานเมื่อร่างถูกเคลวินดึงเข้าไปแนบชิดยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวของสองร่าง ทำให้เกิดการเสียดสีกันของผิวเนื้อ หล่อนแทบจะหายใจไม่ออก กายสาวที่ไม่ควรรู้สึกอะไรเลย มันกลับร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไร้ยางอาย
มือใหญ่ที่ประทับอยู่บนเนินสะโพกสาว เริ่มต้นเคลื่อนไหวไปมาโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หล่อนสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือใหญ่สัมผัสกับบั้นท้ายงอน
“ไม่มีอะไร ยิ้มเอาไว้...”
เขากระซิบข้างหูแบบนี้ แต่มือยังลูบไล้บั้นท้ายอวบต่อเนื่อง หัวใจสาววาบหวิว
“เดินตรงไปที่รถ... ยิ้มหวานๆ”
เพราะสองร่างเดินเคียงข้างกันแบบแทบจะสิงสู่ ทำให้ต้นขาด้านข้างของหล่อนสัมผัสกับลำขาแข็งแรงที่ขยับเขยื้อนไหวด้วยความมั่นใจและทรงพละกำลังต่อเนื่อง
ความวาบหวามระเบิดในอกสาว และมันก็ทำให้หล่อนแทบหายใจหายคอไม่ออก ในที่สุดก็เหมือนจะหมดแรง จำต้องหยุดเดินและซบหน้าอิงแอบกับเรือนกายทรงพลังของเคลวินเอาไว้ เขาหยุดเดิน โอบกอดหล่อนไว้ หล่อนรับรู้ได้ถึงกายหนุ่มที่เกร็งเครียดขึ้นกว่าปกติ กลิ่นอายจากเนื้อตัวของเขาเซ็กซี่มาก และมันก็เย้ายวนชวนให้หล่อนปั่นป่วนเหลือเกิน
“เธอแสดงดีมาก เฌอปราง”
นี่เขาคิดว่าที่หล่อนยืนอิงแอบแนบแก้มกับหน้าอกกว้างของเขาเป็นการแสดงอย่างนั้นเหรอ
“เอ่อ... ค่ะ...”
เขาหัวเราะเบาๆ ลมหายใจอบอุ่นปะทะเข้ากับต้นคอของหล่อนเมื่อเขาโน้มหน้าเข้ามากระซิบอีกครั้ง
“แต่เราต้องขึ้นรถแล้ว”
“ค่ะ...”
เขาดันหล่อนออกห่างเล็กน้อย สบตากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเอียงอายและหวั่นไหวของหล่อน ก่อนจะรั้งให้ก้าวขึ้นไปบนรถหรูที่จอดรถอยู่
“ฉันหวังว่าเธอจะแสดงได้เยี่ยมแบบนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าณิชานะ เฌอปราง”
เขาพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความคาดหวัง และจากนั้นก็ขับรถ พาหล่อนออกจากบ้านหลังใหญ่ไปในที่สุด
หล่อนนั่งนิ่ง สองมือประสานกันบนตักเล็ก และก็เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับละครฉากใหญ่ที่กำลังรออยู่ข้างหน้าอย่างไม่มีทางเลือก
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ