Home / มาเฟีย / วิวาห์รอหย่า / บทที่ 2 จนตรอก

Share

บทที่ 2 จนตรอก

last update Last Updated: 2025-04-30 21:39:33

บทที่ 2 จนตรอก

          “ถ้าจะมารับเด็กกลับไป แกต้องเอาใบหย่ามาก่อน”

          แค่ปลายเท้าเดินเข้าไปหยุดยังโซนห้องรับรองแขก เสียงทรงอำนาจจากปากผู้ชายที่ทิวัตถ์ชิงชังเป็นอันดับหนึ่งก็ดังขึ้น หยางจินนั้นแสดงความต้องการ กรอบหน้าเงยมองลูกชายที่เพิ่งได้คืนกลับมา แล้วเห็นเจ้าตัวมองไปรอบๆ ราวกับมองหาอะไรสักอย่าง

          “ไม่ต้องห่วง หนูลลิษดูแลอยู่”

          หยางจินเอ่ยบอก เขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงกับจะทิ้งขว้างยัยเด็กตัวเล็กนั่นหรอก ฝ่ายแขกผู้มาใหม่ยังมีสีหน้าราบเรียบวางเฉย ขณะขยับตัวไปพิงกับกรอบประตู มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ

          “หนูลลิษพาเด็กนั่นมา ให้พ่อมันเห็นหน้าหน่อย” หยางจินพลิกตัวไปส่งเสียงเรียกอีกหนึ่งคนสำคัญ หลังลูกชายคนเล็กสาดความเงียบเข้าใส่

          ดวงตาของทิวัตถ์นั้นเป็นประกายด้วยความคิดถึง ฝ่ายคนมากประสบการณ์ที่มองตามแค่อึดใจก็เริ่มรู้ว่าตัวเองเดินเกมพลาดอย่างแรง เพราะสายตาของบุตรชายไม่ได้อยู่ที่ยัยเด็กตัวเล็กในอ้อมกอด แต่อยู่ที่ลลิษาว่าที่ลูกสะใภ้ใหญ่ของเขา

          “แกไม่ได้อยากได้เด็กนี่คืน แกแค่อยากมาเห็นหน้าลลิษ”

          “อื้อ...”

          ทิวัตถ์ครางรับ เพราะดูเหมือนว่าผู้ชายที่เขาชังจะเริ่มตีโจทย์ออกแล้ว

          “แกมันเลือดเย็นเหมือนใครกัน” หยางจินถามเสียงต่ำ ลูกชายคนนี้ของเขามันเกินความคาดหมาย เป็นเช่นนี้มาตลอด ตั้งแต่ที่มันกับแม่ของมันก้าวเท้าออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วไม่หวนกลับมาอีก จนวันนั้น วันที่เขาต้องการมากที่สุด วันที่มันคลานเข่ากลับมาเอง

          “ตัวผมคัดลอกดีเอ็นเอมาจากท่าน” ทิวัตถ์ตอบได้โดยไม่คิด เขาจะเหมือนใครไปได้ นอกจากคนที่ทำให้เกิดมาโดยไม่ได้ส่งต่อความรักมาให้ด้วย แม้พูดกับหยางจิน สายตากลับมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขามาตลอด คนที่ไม่รังเกียจ ไม่ทิ้งเขาไปไหน กระทั่งวันที่อีกฝ่ายต้องเลือก

          “แต่ฉันไม่ได้เลือดเย็นเหมือนแก” หยางจินเถียง แม้รู้ดีว่าตัวเองไม่ต่างจากคนไร้หัวใจ

          “พรากลูกเขามายังกล้าพูด”

          คนฟังกลั้วหัวเราะ ตาเลื่อนไปมองหยางจินเพราะอยากให้อีกฝ่ายทบทวนสิ่งที่กล่าวออกมาด้วยว่ามันสวนทางกันแค่ไหน ก่อนจะดึงความสนใจไปอยู่ที่ลลิษาอีกครั้ง มองอยู่ราวสองนาที แล้วเอ่ยออกมาเสียงทุ้มน่าฟัง

          “พี่กลับก่อนนะลลิษ”

          ทิวัตถ์ทำตามที่พูด ขยับพลิกตัวเดินมุ่งหน้าออกจากบ้าน แม้ได้ยินเสียงเรียกไล่หลังก็ไม่ลดฝีเท้าที่ออกแรง

          “หยุด...หยุด”

          “ไอ้ไท่”

          “เอาเด็กนี่กลับไปด้วย ฉันไม่เลี้ยงให้เปลืองนมเปลืองผ้าอ้อมหรอก”

          หยางจินหน้าเสียและเจ็บใจไม่น้อย นึกว่าแผนการจะสำเร็จ ที่ไหนได้เขาอาจจะทำให้ตัวเองมีภาระ แล้วหันไปเอ่ยถามกับคนสนิทอย่างตรีและทศเสียงเข้ม

          “เด็กนั่นอยู่ไหน”

          “รออยู่นอกรั้วครับท่าน”

          “เอาเด็กไปคืน”

          “เดี๋ยวลลิษพาไปเองค่ะ”

          หญิงสาวที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น สองเท้าก้าวไวๆ ตรงไปหาคนที่เธอมีความห่วงใยให้เสมอมา ปากนั้นออกเสียงเรียกเพื่อหยุดเขาไว้

          “พี่ไท่คะ”

          แค่เธอเรียก เขาก็หยุดรอ

          “พาลลิษไปข้างนอกบ้านหน่อยได้ไหมคะ” ลลิษาไม่ได้ส่งสายตาอ้อน ดวงหน้าเรียบเฉย รู้อยู่ว่าทิวัตถ์ต้องทำให้อย่างแน่นอน เพราะเขาไม่เคยปฏิเสธเธอเลย

          ทิวัตถ์มองลลิษากลับด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่ความอ่อนโยนปรากฏให้เห็น แล้วเดินวนไปเปิดประตูให้ ขณะนั้นเองเสียงของเด็กที่เงียบมานานก็แผดดังขึ้น

          แง้งงง

          “ไม่ต้องร้องนะคะ เดี๋ยวก็ได้เจอแม่แล้วค่ะ” ลลิษาปลุกปลอบ ตั้งแต่เธอถูกตามให้มาช่วยดูแลแก ก็เพิ่งได้ยินเสียงแกร้อง หรือคงเพราะได้เจอคนสำคัญอีกคนหนึ่งกระมัง

          เพียงอึดใจรถแอสตันมาร์ตินก็เคลื่อนตัวออกมุ่งหน้าไปยังรั้วบ้าน แล้วจอดสนิทลงอีกครั้ง สายตาสองคู่เห็นดีว่าร่างหนึ่งรีบถลาเข้ามาหาอย่างเร็วไว

          “คุณไท่”

          ปรีดิทาปากสั่น สายตาตั้งความหวัง ก่อนจะเห็นคนเปิดประตูลงมา แม้จะเป็นเธอคนนั้น คนที่เธอรู้ว่ามีความสำคัญกับทิวัตถ์ก็ไม่มีเวลาสนใจ เพราะลูกสำคัญกว่า ลำตัวถลาเข้าไปโอบอุ้มลูกที่ถูกส่งต่อมา

          “ลูก...หนูปราณ”

          แค่ได้กอด ปรีดิทาก็ร้องไห้โฮ รู้สึกคล้ายๆ ได้ยกภูเขาออกจากอก ใบหน้าโน้มลงไปจูบหน้าผากอย่างแสนจะคิดถึงและห่วงหา ส่วนปราณปรียาเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของมารดาเสียงร้องไห้ก็หายไปทันใด

          “ขอบคุณนะคะ” ปรีดิทาไม่ลืมขอบคุณลลิษา แม้จะไม่รู้ว่าเหตุการณ์ด้านในเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ลูกคืนกลับสู่อ้อมกอด

          ลลิษายิ้มรับ ก่อนโน้มตัวลงไปพูดกับคนในรถ

          “พี่ไท่คะ ลลิษฝากพาคุณโปรดไปส่งด้วยนะคะ” เธอไม่ได้รอคำตอบ พลันดึงตัวขึ้นกลับมาพูดกับคนที่เธอไม่ได้สนิทด้วย

          “คุณพ่อจะไม่รามือแน่นอนค่ะ คนคนเดียวที่จะปกป้องคุณได้ก็เป็นคนที่คุณคิดว่าจะหนีเขาไป และคุณโปรดคะฝากทำแผลให้พี่ไท่ด้วยนะคะ” ลลิษาเอ่ยบอกราวกับเดาใจปรีดิทาได้ สายตามองไปด้านในรถ มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าวิธีไหนจะทำให้หยางจินพ่าย          

          หนึ่งในนั้นคือคนที่มีใบหน้านิ่งเรียบราวกับไร้หัวใจ

          “ตอนนี้คุณพ่อต้องพึ่งพี่ไท่ค่ะ เขาจะเป็นเกราะกำบังให้คุณโปรดได้” ลลิษายังกล่าวต่อไป 

          ปรีดิทาเม้มปากแน่น สมองขบคิด หยางจินคงจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ และเขาจะทำทุกทางแน่นอน ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

          ใบหย่า...

          เธอหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงยังอยากยื้อไว้ ทั้งที่เธอและเขาถอยห่างออกจากกันราวกับจะอยู่โลกคนละใบอยู่แล้ว ไม่ทันให้คิดอะไรต่อ คำถามห้วนๆ ก็ดังขึ้นให้เธอจับข้อมือของตัวเอง

          “ข้อมือไปโดนอะไรมา”

          ปรีดิทาก้มหน้าลงมองข้อมือที่มีรอยแผล ในตอนที่เธอรีบร้อนออกจากบ้านของทิวัตถ์ จังหวะหนึ่งเธอได้ล้มลง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร นอกจากมีรอยถลอกเล็กน้อย ก่อนจะต้องรีบยัดเก็บหัวใจไว้ที่เดิมเมื่อได้ยินประโยคต่อมา

          “ลลิษ พี่ถาม” ทิวัตถ์เค้นเสียงถามหลังก้าวเท้าลงจากรถเมื่อคำตอบที่ได้เป็นความเงียบ

          “ลลิษถูกลอบทำร้ายค่ะ”

          “เพราะอะไร”

          “พวกมันน่าจะอยากได้ตัวของลลิษ”

          ลลิษาจ้องมองไปยังคนที่ห่วงใยเธอ แล้วเห็นความกังวลของทิวัตถ์ชัดเจนจึงต้องเอ่ยออกไป แต่น้ำเสียงค่อนข้างเบา

          “ลลิษไม่ได้พลาดหรอกค่ะ พี่ไม่ต้องห่วง แล้วไว้เจอกันใหม่ค่ะ” ลลิษารีบตัดบท ยกยิ้มบอกให้ทิวัตถ์เชื่อมั่นแล้วเดินไวๆ เข้ารั้วบ้านไป

          ทิวัตถ์ไม่วายมองตามอย่างกังวลและเป็นห่วงอยู่ราวหนึ่งนาที จากนั้นดึงตาไปสั่งการกับคนที่ยืนนิ่งอยู่

          “ขึ้นรถ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 4 ตัวแทน (2)

    บทที่ 4 ตัวแทน (2) หลังจากได้รับข้อความนั้นปรีดิทาขบเนื้อปากด้านล่างไม่รู้กี่หน ความอึดอัดเคลื่อนย้ายเข้าสู่หัวใจมากขึ้น ดวงตาอมโศกหันมองยัยตัวเล็กที่หลับไปอีกครั้ง จนเวลาล่วงผ่านมาถึงตอนเย็น เสียงที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามวลอากาศลดน้อยลงก็แว่วดัง เสียงของรถแอสตันมาร์ตินที่เคลื่อนมาจอด เขาคงกลับมาแล้ว ตามมาด้วยเสียงที่ทำให้เธอสะดุ้งนิดๆ ก๊อก ก๊อก ปรีดิทาไม่ได้ถ่วงเวลาที่จะก้าวเดินไปเปิดประตู รู้ดีว่าอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น จึงเปล่าประโยชน์หากจะชักช้า แต่ในตอนที่ประตูค่อยๆ ถูกเปิดก็มีลมหายใจสะดุดอยู่เหมือนกัน ทว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้นไม่ใช่ทิวัตถ์ “คุณโปรดคะ คุณไท่ให้เนมมาบอกว่า ให้คุณโปรดอาบน้ำแล้วรีบขึ้นไปหาบนห้องค่ะ” คำบอกกล่าวนั้นปรีดิทาหน้าจืดลงไปแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว ความกังวลวนเวียนกลับเข้ามาเมื่อหันไปมองปราณปรียา “โปรดฝากเนมดูยัยหนูสักพักได้ไหม” “ได้ค่ะ เดี๋ยวเนมกับรำจะช่วยดูแลคุณหนูเองค่ะ” ปรีดิทายิ้มขอบคุณ สองเท้าก้าวกลับเข้าด้านใน แต่ไม่ได้ไปอาบน้

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 3 ตัวแทน (03)

    “ถ้ามีอะไรอยากให้เนมช่วยบอกเนมได้เลยนะคะ เนมก็เคยเลี้ยงเด็กอยู่บ้างค่ะ” จารวีขันอาสา ฝ่ายคุณแม่มือใหม่พยักหน้ารับ แต่หากเธอยังไหวก็อยากจะเลี้ยงยัยหนูด้วยตัวเอง สองเท้าก้าวไวๆ กลับไปหาลูกสาวแสนรัก “หลับสบายเลยนะคะคนเก่ง” ปราณปรียายังหลับด้วยท่าทางน่าเอ็นดู รอยยิ้มกระจายเต็มดวงหน้าของคนเป็นแม่ แม้จะรู้สึกง่วงแต่ปรีดิทากลับเดินไปหยิบหนังสือที่นงลักษณ์เก็บใส่กระเป๋ามาด้วยออกมาเปิด เธอต้องเตรียมข้อมูลสำหรับการสอน โน้ตบุ๊กก็ถูกเปิดขึ้นด้วย พอเวลาผ่านไปสักพัก ปรีดิทาก็หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นต่อสายหาคนสำคัญ “ป้าอยู่ได้ใช่ไหมคะ” นงลักษณ์เป็นอีกคนที่หญิงสาวห่วงใยไม่น้อย เมื่อได้ฟังคำตอบก็เบาใจไปได้บ้าง และเมื่อจัดการหลายอย่างเสร็จก็ก้าวเท้าขึ้นเตียงไปนอนกับลูกสาว แง้งง ปรีดิทาสะดุ้งตัวตื่นขึ้นในหนึ่งชั่วโมงต่อมา เพราะเสียงร้องของลูก “หิวนมหรือจ๊ะคนดี” หญิงสาวรีบเอาลูกเข้าอก เฝ้ามองแกกินนมด้วยความหิว หลังจากอิ่มแกก็กลับมาตาแป๋วอีกครั้ง “เร

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 3 ตัวแทน (02)

    “ไม่กี่อาทิตย์คงหนีได้แล้ว” ทิวัตถ์รู้ดีว่าเขาจะเป็นที่พักพิงของปรีดิทาไม่นานหรอก หลังจากนี้เจ้าตัวคงคิดหาทางจะจากไป หญิงสาวกดหน้าแล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้ม เธอไม่ปฏิเสธ เธอจะหนีไปอย่างแน่นอน โดยเงินส่วนหนึ่งจากเขาก็จะช่วยสนับสนุน คนที่ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้อีกแล้วอย่างเธอก็ไม่ต่างจากหมาจนตรอก เธอทำและยอมได้ทุกอย่าง เพื่อลูก เพื่อในวันหนึ่งจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง “เอาที่ที่หยางจินหาไม่เจอด้วยละกัน ขี้เกียจฟังคำอ้อนวอนอีก” “ไม่ต้องห่วงค่ะ แม้แต่คุณก็จะหาโปรดไม่เจอ และโปรดจะไม่มีวันเป็นหมาจนตรอกแบบนี้อีก” เธอขอสัญญาว่าจะทำอย่างที่เอ่ยแน่นอน พลางหันไปมองจารวีที่กำลังเดินผ่านหน้าห้องรับแขก “เนม” “คะคุณโปรด” “ช่วยหยิบอุปกรณ์ทำแผลให้โปรดหน่อยสิ” ปรีดิทาบอกเสียงเรียบ สายตาเบนไปมองคนที่สมควรได้รับการทำแผล จารวีล่าถอยไปหยิบอุปกรณ์ ไม่นานก็กลับมายื่นให้แก่เจ้านาย “ขอบคุณจ้ะ” หญิงสาวยิ้มขอบคุณ แล้วหันไปสบตากับคนที่นั่งเงียบที่กำลังคล้ายจะอ้าปา

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 3 ตัวแทน

    บทที่ 3 ตัวแทน ปรีดิทาถึงกับปากสั่นในความเลือดเย็นของทิวัตถ์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่เธอตกหลุมรัก จนได้แต่งงานกัน ความหวานปะแล่มๆ ไม่ได้โดดเด่นตามสไตล์คนพูดน้อยอย่างเขาทำให้หัวใจของเธอชุ่มฉ่ำได้ เธอไม่ได้ต้องการการเอาอกเอาใจ ขอแค่เขารักก็เพียงพอ ก่อนดึงตัวเองกลับมามองนงลักษณ์อย่างลำบากใจ ฝ่ายคนที่ไม่เป็นที่ต้อนรับวางหน้าเครียด เพราะไม่อยากปล่อยให้คุณหนูอยู่ที่นี่ตามลำพัง ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน กระทั่งปรีดิทาเปิดตาขึ้นหลังหลับลงเพื่อตัดสินใจ “ตอนนี้โปรดจำเป็นต้องพึ่งเขาค่ะป้า” นอกจากทิวัตถ์จะเลือดเย็นแล้ว เขายังสอนให้เธอเป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกัน ในเวลานี้ทางเลือกของเธอแทบไม่มี การทำให้ลูกปลอดภัยจากห

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 2 จนตรอก (02)

    “ขึ้นรถ” ปรีดิทายังไม่ได้ก้าวเท้าขึ้นไป เธอนิ่งคล้ายกำลังตัดสินใจ แน่นอนว่าเธออยากหนี อยากไปตอนนี้เลย แต่การหนีต้องจบลงในครั้งเดียว ไม่ใช่หนีแบบไม่จบไม่สิ้น หนีไปแล้วยังถูกตามเจอแล้วถูกจับกลับมา หรือต้องอยู่แบบหวาดระแวง สมองจึงขบคิดและทบทวน ที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดว่าต้องรับมือกับหยางจินจึงไม่ได้หาหนทางใดๆ ไว้เลย เธอก็อยู่ส่วนเธอ ส่วนหยางจินก็ไม่ได้เข้ามายุ่มย่าม และตัวของชายหนุ่มเองนั้นก็พูดถึงบิดาให้ฟังน้อยมาก จนแทบจะไม่พูดด้วยซ้ำ แต่เธอก็พอรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ทิวัตถ์ชัง ชั่วครู่หนึ่งหญิงสาวก็หยิบสมาร์ตโฟนโทร.บอกเพื่อนบ้านที่รออยู่ว่าไม่ต้องรออีกแล้ว จากนั้นก้าวเท้าขึ้นรถ แล้วความเงียบก็กลืนกินไปทั่ว ปรีดิทานั่งขบปากอย่างกังวล หนทางเดียวที่มองเห็นตอนนี้มีแต่เขา มีแต่ยอมไปก่อน แต่การยอมนี้ต้องนำพาเธอกับลูกไปสู่อิสระอย่างเ

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 2 จนตรอก

    บทที่ 2 จนตรอก “ถ้าจะมารับเด็กกลับไป แกต้องเอาใบหย่ามาก่อน” แค่ปลายเท้าเดินเข้าไปหยุดยังโซนห้องรับรองแขก เสียงทรงอำนาจจากปากผู้ชายที่ทิวัตถ์ชิงชังเป็นอันดับหนึ่งก็ดังขึ้น หยางจินนั้นแสดงความต้องการ กรอบหน้าเงยมองลูกชายที่เพิ่งได้คืนกลับมา แล้วเห็นเจ้าตัวมองไปรอบๆ ราวกับมองหาอะไรสักอย่าง “ไม่ต้องห่วง หนูลลิษดูแลอยู่” หยางจินเอ่ยบอก เขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงกับจะทิ้งขว้างยัยเด็กตัวเล็กนั่นหรอก ฝ่ายแขกผู้มาใหม่ยังมีสีหน้าราบเรียบวางเฉย ขณะขยับตัวไปพิงกับกรอบประตู มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ “หนูลลิษพาเด็กนั่นมา ให้พ่อมันเห็นหน้าหน่อย” หยางจินพลิกตัวไปส่งเสียงเรียกอีกหนึ่งคนสำคัญ หลังลูกชายคนเล็กสาดค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status