“ฮัลโหลแก”
(ยัยน้ำฟ้าแกอยู่ไหนยะ ทำไมไม่มาทำงาน) มะเหมี่ยวสาวร่างท้วมเพื่อนรักของน้ำฟ้า ตะโกนผ่านสายเข้ามาเสียงดัง ทำให้ปลายสายถึงกับดึงเจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นให้ออกห่างจากใบหู
“เบา ๆ ดิแกฉันไม่ได้หูหนวกนะยะ”
(แล้วตอนนี้แกอยู่ไหนบอกฉันมา)
“ตอนนี้ฉันอยู่เชียงราย” น้ำฟ้าคุยสายอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านจะเข้ามาได้ยินเอาเสียก่อน
(เชียงราย! แกไปทำอะไรที่นั่น แล้วทำไมไม่บอกฉัน แล้วงานที่นี่ล่ะจะเอายังไง) มะเหมี่ยวยิงคำถามรัว จนน้ำฟ้าตอบแทบไม่ทัน
“ทีละคำถามแก ฉันตอบไม่ทันหรอก”
(ถ้างั้นบอกมาว่าแกไปทำอะไรที่นั่น)
“ฉัน...ฉันมาทำงาน”
(อ้าว! แล้วงานที่นี่ล่ะจะเอายังไง ทำอะไรไม่ปรึกษาฉันเลยเนี่ย)
“ฉันขอโทษแต่มันปุบปับจริง ๆ เลยอยากวานแกช่วยแจ้งพี่นกให้หน่อยว่าฉันขอลาออก ฝากขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปลาด้วยตัวเอง”
(เออ ๆ ฉันจะบอกให้ แต่ฉันยังไม่หายโกรธแกนะ ทำอย่างกับฉันไม่ใช่เพื่อนซะอย่างนั้น) มะเหมี่ยวเอ่ยกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงงอน ๆ นั่นเพราะทั้งสองคนสนิทกันมาก ไปไหนไปกัน ตัวติดกันแทบตลอดเวลา เจอเข้าอย่างนี้จึงทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึกพอสมควร
“ฉันขอโทษจริง ๆ แก แต่มันจำเป็นจริง ๆ เอาไว้ว่าง ๆ ฉันจะโทรหาใหม่นะ แค่นี้ก่อนเจ้านายฉันมาพอดี” พูดจบน้ำฟ้าก็รีบวางสายเพื่อนทันที ทำตัวปกติไม่ให้มีพิรุธ นั่นเพราะเขาเห็นเหมันต์กำลังเดินเข้ามา
“คุยกับใครอยู่ครับที่รัก” เหมันต์เอ่ยกับภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“อ๋อ คุยกับเพื่อนอยู่ค่ะ”
“พ่อเลี้ยงมีอะไรหรือเปล่าคะ” เจ้าหล่อนส่งยิ้มให้
“วันนี้ฉันจะพาเธอเข้าไปในไร่ ไปแนะนำให้คนงานได้รู้จัก” ไม่ว่าเปล่าเหมันต์กลับเดินเข้าไปสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลัง เกยคางไว้บนบ่าอันบอบบางราวกับกำลังออดอ้อนภรรยาซะอย่างนั้น
น้ำฟ้าเองก็ทำตัวไม่ถูก แม้ว่าจะโดนอีกฝ่ายทำอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าหล่อนเองกลับยังไม่คุ้นชินเอาเสียเลย ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้ เพราะเธอรู้สึกว่ากำลังใช้ผู้ชายร่วมกับน้องสาวตัวเองอยู่นั่นเอง
“ดีเลยค่ะฉันเองก็อยากจะเข้าไปในไร่เหมือนกัน ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยมาอยู่ในไร่ใหญ่ ๆ อย่างนี้เลย” น้ำฟ้าเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างลืมตัว
“คุณลืมไปแล้วหรือว่าเคยมาที่นี่แล้ว” เหมันต์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขารู้สึกขำกับความเปิ่นของอีกฝ่าย ที่เผลอแสดงพิรุธออกมาให้เห็นอยู่บ่อย ๆ
“อ้อ...ฉันลืมไป ใช่ ฉันเคยมาแล้วนี่นา แหะ ๆ” น้ำฟ้ายิ้มแป้น เกาศีรษะแกร็กแก้เขินไปด้วย
“ถ้างั้นเราลงไปกันเถอะน้องคิมรออยู่ข้างล่างแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยสิคะ ฉันจะเดินไปได้อย่างไรกันเนี่ย”
“โทษทีฉันลืมตัวไป นึกว่าเรากำลังจะทำสิ่งที่ฉันคิดอยู่ในหัวตอนนี้” ว่าแล้วเหมันต์ก็หอมแก้มภรรยาสาวฟอดใหญ่ให้ชื่นใจ ก่อนจะปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ตั้งแต่มาที่นี่ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ล่วงเกินเจ้าหล่อนเลย ความสดใหม่ของน้ำฟ้า ทำให้เหมันต์รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากเหลือเกิน
ส่วนน้ำฟ้าก็ได้แต่เขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายคิดอยู่ในหัวมันคืออะไร เพราะเมื่อครู่รับรู้ได้ถึงความเป็นชายที่ดุนอยู่ตรงบริเวณเนินก้นเธอนั่นเอง
ลงมาถึงแล้วน้ำฟ้าก็เดินตรงเข้าไปหาลูกเลี้ยง ที่นั่งรออยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น โชคดีที่คิมหันต์เป็นเด็กดี ทำให้เธอไม่มีปัญหากับลูกเลี้ยงอย่างที่กลัวในตอนแรก เธอเข้ากับคิมหันต์ได้เป็นอย่างดี แถมตอนนี้เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นอีกด้วย
“น้องคิมทำอะไรอยู่ครับ” เจ้าหล่อนนั่งลงข้างเด็กชาย ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูที่หน้าจอมือถือด้วยอีกคน
“กำลังเล่นเกมอยู่ครับคุณแม่”
“ใกล้จบเกมยังครับเนี่ย เราจะเข้าไปในไร่กันแล้วนะ”
“ใกล้แล้วครับอีกแปบหนึ่งนะ รอน้องคิมก่อน” เจ้าตัวเล็กเอ่ย แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอมือถือ ส่วนน้ำฟ้าก็นั่งเอาใจช่วยอยู่ข้างกัน
เหมันต์มองดูคนทั้งสองอย่างพอใจ โชคดีที่ภรรยาคนใหม่เข้ากับลูกชายเขาได้ แม้จะยังมีความเคลือบแคลงใจสงสัยในตัวน้ำฟ้าอยู่ แต่ก็มั่นใจว่าเธอคนนี้ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน น่าจะมีเหตุผลอื่นที่เขาเองก็ยังต้องหาคำตอบต่อไป
“เย้! ชนะแล้ว” คิมหันต์ตะโกนเสียงดัง พร้อมทั้งชูกำปั้นข้างหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะ แสดงความดีใจถึงชัยชนะที่ได้มาจากการเกมออนไลน์
“ถ้างั้นไปกันเถอะครับน้องคิม” เหมันต์เอ่ยกับลูกชายสุดที่รัก
“ครับคุณพ่อ”
น้ำฟ้าลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะช่วยจับมือดึงลูกเลี้ยงให้ลุกขึ้นตาม จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกไปหน้าบ้าน วันนี้อากาศค่อนข้างเป็นใจ ท้องฟ้าโปร่งใส ไม่ได้มีเมฆฝนปกคลุมเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
“พ่อเลี้ยงให้คำปองไปด้วยนะคะ จะได้ช่วยไปดูแลคุณหนูให้ไงคะ” คำปองรีบเดินเร็วออกมาจากบ้าน กลัวว่าจะไม่ทัน
“เธออยู่ที่นี่ช่วยป้าบัวทำงานบ้านจะดีกว่า น้องคิมมีน้ำค้างช่วยดูแลอยู่แล้ว ขอบใจมาก”
“แต่คำปองอยากไปด้วยจริง ๆ นี่คะ” เจ้าหล่อนทำหน้าบูดบึ้งไม่พอใจเมื่อโดนผู้เป็นนายปฏิเสธ
น้ำฟ้าเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกสงสาร เลยอาสาจะช่วยพูดกับเหมันต์ให้อีกแรง
“ถ้าคำปองอยากไปก็ให้เธอไปด้วยเถอะค่ะ” เธอหันไปเอ่ยกับผู้เป็นสามี
“ไปกันแค่สามคนนี่ล่ะสะดวกกว่า หรือว่าเธอขี้เกียจดูแลน้องคิม”
“เปล่านะคะ” น้ำฟ้ารีบปฏิเสธทันควัน กลัวว่าเหมันต์จะเข้าใจผิด
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ คำปองกลับเข้าไปช่วยป้าบัวทำงานเถอะ”
“ค่ะพ่อเลี้ยง” คำปองตอบรับอย่างเสียมิได้ ทำหน้าตาบูดบึ้งจนเห็นได้ชัด แม้ว่าน้ำฟ้าจะช่วยพูดกับเหมันต์ให้ แต่ทว่านั่นกลับไม่ทำให้เธอมองในแง่ดีขึ้นเลย เธอเกลียดผู้หญิงคนนี้ที่เข้ามาแย่งเหมันต์ไป สักวันเธอจะเอาผู้ชายคนนี้มาเป็นของเธอให้ได้
“อา!! แม่งโคตรเสียว ตอดอย่างนี้ไม่รักได้ไงล่ะครับ” เหมันต์เอ่ยกับเจ้าหล่อนพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างหื่นกระหาย“แรงๆ ได้ไหมคะฉันไม่ไหวแล้ว”“ได้เลยครับที่รัก”เหมันต์ไม่รอช้าเริ่มเร่งจังหวะกระเด้า กระแทกดุ้นใหญ่หัวบานเข้าไปในร่องสวาทไม่ยั้ง ห่างเรื่องอย่างว่าไปนานเขาไม่นึกเลยว่าน้ำฟ้าจะมีความกล้ามากขึ้นอย่างนี้ นั่นทำให้เขายิ่งพอใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีกปับ! ปับ! ปับ!“อ๊ะๆ ๆ ๆ”แรงกระแทกทำให้หน้าอกกลมโตกระเพื่อมไปตามจังหวะ เหมันต์จึงหยุดมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง บีบคลึงไปด้วยกระเด้าไปด้วยอย่างสบายอารมณ์กลีบสวาทอวบอูมทั้งสองข้างเริ่มแดงช้ำ เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันฉ่ำแฉะเหนียวเป็นเส้น เจ้าหล่อนกระเด้งเอวรับจังหวะเด้าของเหมันต์ไปด้วยอย่างอัตโนมัติ“มะ...ไม่ไหวแล้วแม่งเอ้ย ซี๊ดดด” เหมันต์ทำหน้าเหยเกสูดปากเสียว บั้นท้ายยังคงกระเด้งเด้าไม่ยั้งจนคนที่อยู่ใต้ร่างแทบจะแหลกคาเตียง“พะ...พร้อมกันนะคะฉันก็ไม่ไหวแล้ว” น้ำฟ้าตอบรับสามีด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันเมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วเหมันต์ก็กอดตัวภรรยาเอาไว้แน่น พรมจูบไปตามซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย พร้อมทั้งเร่งจังหวะกระเด้าให้แรงและเร็วขึ้น
เมื่อเคลียร์ทุกอย่างที่กรุงเทพเสร็จแล้วทั้งสามคนก็บินกลับเชียงรายทันที ตอนนี้ทุกคนต่างก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นหน้าแม่เลี้ยงของไร่อีกครั้ง เหมันต์รับสาวใช้คนใหม่มาแทนคำปองแล้ว เธอเป็นสาวเหนืออายุราวสี่สิบปี สามารถเข้ากับป้าบัวคลี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ความสุขของคนในบ้านหลังนี้ได้กลับคืนมาสมบูรณ์แบบอีกครั้งแล้ว“ป้าบัวครับทำไมคุณพ่อยังไม่มาอีก” คิมหันต์เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าเพราะนั่งรอผู้เป็นพ่อมานานหลายชั่วโมงแล้ว“อีกแปบนึงค่ะคุณหนูเดี๋ยวคุณพ่อก็มา”“คุณแม่จะกลับมาด้วยไหมครับ”“ป้ามั่นใจว่าคุณแม่ต้องกลับมาด้วยแน่นอนค่ะ”พูดยังไม่ทันขาดคำทั้งหมดก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปรอต้อนรับผู้มาใหม่ทันที“คณแม่กลับมาแล้วเย้!!!”“น้องคิมลูกแม่”เมื่อเห็นเด็กชายที่เธอรักราวกับลูกแท้ๆ น้ำฟ้าก็รีบวิ่งเข้ามากอดทันที เจ้าหล่อนหอมแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง“น้องคิมคิดถึงคุณแม่ทุกวันเลยครับ”“แม่ก็คิดถึงหนูครับ ต่อไปนี้แม่จะไม่จากหนูไปไหนแล้วนะ”“เย้! น้องคิมดีใจที่สุดในโลกเลย”“อย่ามัวแต่ดีใจจนลืมไหว้เพื่อนแม่สิครับน้องคิม” เหมันต์เอ่ยกับลูกชาย“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่
น้ำฟ้ากลับเข้ามาทำงานที่ภัตตาคารแห่งเดิม ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็กลับมาพักอยู่กับมะเหมี่ยวเพื่อนรัก แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของเธอกลับลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่เชียงราย นั่นคือหัวใจและทำให้การใช้ชีวิตที่กรุงเทพไม่ได้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงชายหนุ่มผู้เป็นที่รักยิ่งอยู่ทุกวันเวลา จนมะเหมี่ยวเองก็สังเกตเห็นและพยายามถามไถ่ เธอจึงยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้เพื่อนฟัง อย่างน้อยการได้ระบายให้ใครสักคนฟังมันก็รู้สึกดีขึ้นมากอยู่ไม่น้อยเมื่อลงจากรถเมล์สายประจำแล้วสองสาวก็เดินตรงไปยังที่ทำงาน ซึ่งเดินไปตามถนนเส้นนี้อีกไม่ไกลนัก“เร็วๆ แกเดี๋ยวเข้างานสายกันพอดี” มะเหมี่ยวเอ่ยกับเพื่อนรักขณะเร่งฝีเท้าเดินไปอย่างเร่งรีบ“ไม่สายหรอกน่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้แก” น้ำฟ้าบ่นให้เพื่อนขณะที่เจ้าหล่อนเดินเอ้อระเหอลอยชายอย่างไร้ชีวิตชีวา“ไม่รีบมีหวังนางยักษ์ขมูขีชี้หน้าด่าเราแน่” ที่พูดถึงนั่นคือหัวหน้าเชฟสาวใหญ่เจ้าระเบียบที่ใครๆ ต่างก็หวาดผวาเมื่อได้อยู่ใกล้“เออๆ รีบก็รีบวะ” น้ำฟ้าเอ่ยเสียงเอื่อยก่อนจะถูกเพื่อนดึงมือให้เดินตามไปเดินมาถึงหน้าภัตตาคารแล้วก็พบว่า มีชายหนุ่มหล่อสว
“ขอบคุณจ้ะป้า”เมื่อสาวใช้ทั้งสองเดินออกไปแล้ว ประจวบเหมาะว่าภูวดลก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี“อ้าว! นึกว่าขึ้นข้างบนกันหมดแล้วซะอีก” ภูวดลเลิกคิ้วมองทุกคนก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างคิมหันต์ พร้อมทั้งกอดคอเอาไว้“รอมึงนั่นล่ะไปไหนมาวะ”“กู...ไปเดินเล่นในสวนมา” จริงๆ แล้วเขาคุยสายกับน้ำฟ้าต่างหาก รายงานให้เธอรู้ว่าตอนนี้เหมันต์ปลอดภัยดีและกลับมาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เธอจะได้สบายใจ“ยังมีอารมณ์สุนทรีย์อีกนะมึงอะ”“นิดหน่อยว่ะ” ภูวดลแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย“เอ่อ...เดี๋ยวฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ คุยกันตามสบายค่ะ” น้ำค้างรู้สึกว่าทั้งสองคงอยากมีอะไรคุยกันเป็นการส่วนตัว“ไว้ค่อยคุยกันนะครับ” ภูวดลเอ่ยกับหญิงสาว“ค่ะ” น้ำค้างส่งยิ้มให้ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างภูวดล “น้องคิมขึ้นไปดูการ์ตูนข้างบนกันดีกว่าครับ”“ครับคุณแม่” คิมหันต์ตอบรับแล้วก็หันไปเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “น้องคิมขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับอาภู”“ครับผม” ภูวดลเอื้อมมือไปจับแก้มลูกชายเพื่อนอย่างเอ็นดูหลังจากทั้งสองคนเดินไปแล้วภูวดลก็หันไปสนใจเพื่อนต่อทันที เขาอยากให้เพื่อนถามไถ่เรื่องน้ำฟ้าซะเหลือเกิน แต่ทว่าเหมันต์กลับนิ่งเ
ปัง!“คุณฉัตรชัย!”ลูกตะกั่วพุ่งจากปลายกระบอกปืนของเหมันต์เข้าไปที่กลางหลังฉัตรชัย ก่อนที่เขาจะลั่นไกฆ่าลูกเมียตนเอง เหมันต์ไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเลยสักนิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีทางทำให้พ่อกับแม่ของฉัตรชัยต้องตายเด็ดขาด เพราะเขาเองก็ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกร แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจทำเพื่อให้เด็กในท้องคำปองได้เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกคำปองรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวฉัตรชัยขึ้นไว้บนตักตนเอง แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักฉัตรชัยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเขาก็คือพ่อของลูก เธอเองก็อยากให้ลูกเกิดขึ้นมาแล้วมีพ่อเหมือนคนอื่น ๆ“คุณฉัตรชัย ฮือ ๆ”“ฉะ...ฉันขอโทษที่จะทำร้ายเธอ” ฉัตรชัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับลมหายใจใกล้จะหมดลงในอีกไม่ช้า“ฉันอภัยให้คุณทุกอย่าง ฮือๆ อย่าเป็นอะไรไปนะคะคุณต้องอยู่เพื่อลูกของเรา”เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉัตรชัยก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าตนเองยังมีลูกชายไว้สืบสกุลก่อนจะตายไปจากโลกใบนี้“ลูก...ฉันกำลังจะมีลูก เฮือก!”“ใช่ค่ะเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน คุณต้องไม่เป็นไรนะ”“ดูแลลูกแทนฉันด้วยนะ อย่าให้ลูกรู้ว่ามีพ่อเลวๆ อย่างฉัน”“คุณคือพ่อของลูกฉันนะ คุณฉัตรชัย ฮือๆ ๆ” คำ
ทุกคนถูกนำตัวมานั่งรวมกันที่หน้าบ้าน ฉัตรชัยรอให้เหมันต์กลับมาที่นี่ หลังจากนั้นเขาจะจัดการฆ่าทุกคนให้ตายอย่างทรมาน“คุณแม่ครับน้องคิมกลัวฮือๆ ๆ”“ไม่ต้องกลัวนะลูกเดี๋ยวคุณพ่อก็มาช่วยเราแล้ว” น้ำฟ้ากอดปลอบใจคิมหันต์“ใช่! เดี๋ยวพ่อมึงก็จะมาช่วย กูจะได้จัดการพวกมึงไปพร้อมๆ กันยังไงล่ะฮ่าๆ ๆ” ฉัตรชัยเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงตัวคิมหันต์ออกจากอ้อมกอดของน้ำฟ้า“ไม่เอาน้องคิมไม่ไปด้วย น้องคิมเกลียดคนใจร้ายฮือๆ ๆ”“ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้สารเลว”“ปล่อยแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้โว้ย!”“คุณแม่ช่วยน้องคิมด้วยฮือๆ ๆ” ตอนนี้ฉัตรชัยล็อกตัวคิมหันต์เอาไว้ ก่อนจะยิงปืนขึ้นบนฟ้าหนึ่งนัดเพื่อประกาศชัยชนะที่มีต่อเหมันต์“คุณฉัตรชัยปล่อยคุณหนูเถอะนะคะ” คำปองเอ่ยขอร้องด้วยน้ำตา“หุบปาก! เธอไม่มีสิทธิ์มาขอร้องอะไรทั้งนั้น สิทธิ์ของเธอหมดตั้งแต่ไม่ไปตามนัดฉันแล้ว” ฉัตรชัยหันมาตวาดใส่หน้าทันที คำปองกำลังจะเอ่ยปากบอกความจริงว่าเธอกำลังท้อง แต่ทว่าเหมันต์กลับเข้ามาถึงเสียก่อน“ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี้” เหมันต์เดินเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนภูวดลและลูกน้องแอบซุ่มอยู่บริเวณรอบบ้านไม่ให้คนของฉัตรชัยเห็น เพื่อรอเข้าโจมตีเมื่อถึงเ