Spark
ตอนแรกฉันก็กะจะดื่มต่ออีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็โดนน้องเขาลากออกจากร้านอยู่ดี แถมพี่กานยังบอกว่ารอบนี้พี่เลี้ยงเองอีกต่างหากสรุปแล้วมีความสุขแบบไม่เสียเงินสักบาทจริง ๆ
“เอากุญแจมา ผมขับให้” เสียงของน้องเวย์เอ่ยมาพลางยื่นมือมาตรงหน้าและฉันก็มอบกุญแจรถให้แต่โดยดี เพราะฉันเมาขนาดนี้คงไม่ขับรถหรอก
“คอนโดพี่ อยู่ที่ไหนผมจะไปส่ง” ฉันหันไปยิ้มให้คนขับก่อนจะแชร์โลเคชั่นเข้าไปที่จอมอนิเตอร์ของรถทันที จากนั้นน้องเขาก็ตั้งใจขับรถไม่ได้หันมาสนใจฉันอีก แต่ท่าทีแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันอดมองน้องเขาไม่ได้มันกร้าวใจสุด ๆ
ขับรถมาได้สักพักก็ถึงคอนโดของฉันตอนแรกน้องเขาจะเดินกลับ แต่เป็นฉันเองที่รั้งแขนของน้องเขาไว้ พลางทำใบหน้าออดอ้อนเท่าที่คนอายุ 27 ปีจะทำได้
“ไปส่งพี่ถึงห้องหน่อยสิ พี่เมาอยู่นะ” น้องเวย์ทำหน้าถมึงทึงใส่ แต่สุดท้ายก็มาส่งถึงห้องอยู่ดี เพียงฉันเปิดประตู ฉันเขามีท่าทีจะหันหลังกลับ แต่ฉันไม่ยอมหรอกเพราะจู่ ๆ หัวใจฉันมันก็เต้นระริกยิ่งกว่าเดิมจนทำเรื่องที่ถ้าไม่เมาก็จะไม่ทำเด็ดขาด อย่างเช่นกระชากดึงตัวน้องเวย์เข้าห้องก่อนจะปิดประตูห้องดัง
‘ปัง!!!!’
“ทำแบบนี้คือ.....”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่คืนหนึ่งสิ นะ นะ” ฉันคล้องคอน้องเวย์พลางแหงนหน้ามองด้วยนัยน์ตาเว้าวอนกับคนสูงโปร่งตรงหน้า
“ในฐานะ...???” น้องเวย์หันหน้ามาตั้งคำถามกับฉัน
“อะไรก็ได้ จะให้พี่เป็นพี่สาวก็เป็นให้ได้ จะให้เป็นคู่นอนก็เป็นให้ได้ แค่อยู่กับพี่ พี่เหนื่อยนะ ไม่อยากอยู่คนเดียว”
ฉันคล้ายวงแขนลงก่อนจะเดินเป๋ไปทิ้งตัวที่โซฟาห้องรับนั่งเล่น
“นั่งดี ๆ” น้องเวย์ไม่พูดเปล่า เขาลงมานั่งข้าง ๆ ฉันก่อนจะดึงเดรสที่ถกขึ้นจนเห็นชั้นในตัวบางให้เข้าที
“ดื่มน้ำหน่อยมั้ย เห็นสภาพแล้วดูไม่ได้”
“ชิส์ ทำไมพี่มันไม่น่ากินเหรอ ใช่สิไม่ใช่สาวเอ๊าะ ๆ จะกลับก็ได้นะพี่จะไปส่ง” ฉันเริ่มหงุดหงิด อ่อนไหวหนักทำท่าจะลุกจากโซฟาเพื่อไปเปิดประตูให้น้องเขากลับ แต่จู่ ๆ ก็ถูกคนที่นั่งอยู่รั้งดึงข้อมือจนเซถลาไปหาน้องเขา แถมจัดท่าให้ฉันนั่งบนตักเขาอีก
“งอนอะไร...” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำเอาใจฉันที่กำลังครุกรุ่นเหลวเป็นน้ำ
“ไม่ได้งอน”
“แต่ตอนนี้ ท่าทีมันบอกว่างอนหรือจะเถียง” น้องเวย์ก้มหน้าเข้าใกล้หน้าฉันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รดหน้ากันถี่ ๆ ทำเอาเห่อร้อนไปทั้งตัว
“ก็น้องเวย์ชอบทำตัวเหมือนรังเกียจตัวพี่”
“ถ้ารังเกียจจะมานั่งถึงในห้องนี้มั้ยล่ะ พี่ก็ออกจะฉลาดแค่นี้คิดไม่ได้”
“โหยยยยย แรงมว๊ากกกกก”
“จะไปนอนมั้ยผมพาไป”
“ไม่นอน!!!” ฉันตอบเสียงแข็งพลางมองหน้าน้องเวย์
“แล้วจะให้ผมอยู่ทำมะเขืออะไร”
“จูบพี่หน่อย” ฉันเอามือคล้องคอน้องเวย์พลางทำหน้าจริงจัง
“เอาจริง???” น้องเขาเลิกคิ้วมองหน้าฉันอีกครั้ง
“อื้อ...ยิ่งกว่าจริง อ่อยจนท้อแล้วเนี่ย” และฉันก็ทำหน้าจริงจังตอบไป
สิ้นคำตอบฉัน มือหนาของน้องเขาข้างหนึ่งที่กำลังจับสะโพกฉันอยู่ก็เคลื่อนย้ายมากุมที่ท้ายทอยก่อนจะกดใบหน้าของฉันให้เข้าใกล้เขา ริมฝีปากเราเริ่มสัมผัสกัน พูดตามตรงนี้เป็นจูบครั้งแรกของฉันเลย
ตอนแรกฉันเป็นคนเว้าวอนต้องการจูบก็จริง ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ คนตรงหน้ากลับหนักหน่วงกว่าที่คิด ภาพที่วาดไว้คือ จูบแสนละมุนหอมหวาน แต่เปล่าเลย นี่มันจูบดูดวิญญาณชัด ๆ ริมฝีปากบางของฉันทั้งถูกขบ ดูด ดึงจนแดง เรียวลิ้นร้อนของน้องเขาก็ดุนเข้าไปในโพรงปากฉันอย่างตั้งใจ มันร้อนแรงชนิดที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำให้เสียวซ่านได้ขนาดนั้น ในหัวสมองมีแต่รักใส ๆ หัวใจสี่ดวง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นรักร้อนแรงดังไฟแผดเผาของจริง
น้องเวย์ผละจูบออกเพราะเห็นว่าฉันเริ่มใช้มือดันหน้าอกน้องเขาพลางครางในลำคอ ‘อื้อ..อื้อ’ เป็นระยะ
‘แฮ่ก...แฮ่ก’ แน่นอนว่าฉันหายใจไม่ทันก็มันเป็นจูบครั้งแรกนินา
แขนแกร่งข้างหนึ่งของน้องเขารัดเอวฉันแน่น ใช้นัยน์ตาคมเข้มมองมาที่นัยน์ตาฉันอย่างตั้งใจ มุมปากยกยิ้มพลางเลียลิ้นไปตามเรียวปากของตน
‘โอ๊ย อกอิแป้นจะแตก โดนเด็กอ่อยมันรู้สึกแบบนี้นิเอง’
“พอใจรึยัง” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามแต่ดวงตาก็ยังฉ่ำกว่าปกติ
“พอใจค่ะ” ฉันยิ้ม ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างบีบแก้มทั้งสองข้างของน้องเวย์ ก่อนที่จะพยายามลุกออกจากตักน้องเขาเพราะกลัวน้องเวย์จะหนัก แต่สุดท้ายก็ถูกแขนแกร่งรั้งให้ให้อยู่ตามเดิม ฉันหันไปเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า
“ไม่หนักเหรอ พี่จะลุกให้ไงคะ”
“ทำให้อยากแล้วจะหนีไปได้ไง” แขนแกร่งที่โอบเอวฉันเลื่อนขึ้นไปจับใต้ราวนมอย่างจงใจจนฉันต้องหันไปมอง
“อยาก?? แบบไหนล่ะ”
“ก็แบบนี้ไง” น้องเวย์ไม่พูดเปล่าแต่ใช้มืออีกข้างลูบไล้ไปตามขาขาวเนียนของฉันอย่างตั้งใจทำเอาสองมือของฉันที่คล้องคออยู่ก็ยิ่งรัดน้องเขาแน่น ยิ่งตอนที่มือหนาเลื่อนมือขึ้นมาจนสัมผัสกึ่งกลางกายของฉันที่ยังมีชั้นในตัวบางกั้นอยู่
“อ่ะ...เดี๋ยวสิ” ฉันสะดุ้งจนรัดน้องเขาแน่นมากขึ้น แต่แทนที่น้องเวย์จะหยุด ดันขยับมือสัมผัสตรงนั้นถี่ขึ้นจนฉันหายใจแรงไปตามสัมผัสวาบหวามนั่น
“แกล้งพี่ทำไม”
“ไม่ชอบรึไง”
“มันก็.....”
“อยากต่อมั้ยล่ะ หรือพอแค่นี้” พอน้องเวย์พูดให้เป็นทางเลือกว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ตัวฉันก็คิดหนักว่าถ้าฉันไปต่อมันจะทำให้ความสัมพันธ์ถลำลึกไปมากกว่าที่เป็นรึเปล่า ฉันค่อนข้างกลัวความผิดหวัง แต่ถ้าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งก็อยากไปต่ออยู่แล้ว
“แล้วเต็มใจทำให้มั้ยพี่ไม่บังคับ” ฉันพูดเสียงกระเส่า กระซิบข้างหูก่อนจะงับใบหูน้องเขาไปหนึ่งที
น้องเวย์ไม่ตอบอะไรกลับมา แต่สัมผัสส่วนล่วงกลับเป็นคำตอบได้อย่างดี สองมือของน้องเวย์ขยับต่างหน้าที่กันไป มือหนึ่งแหวกชั้นในตัวบางสัมผัสกลีบหวานที่เริ่มมีน้ำรักชุ่มฉ่ำ ส่วนอีกมือบีบเฟ้นหน้าอกฉันอย่างร้อนแรง พลางดึงสายชุดเดรสและสายชั้นในละออกจากไหล่ฉันทำให้หน้าอกคู่สวยปรากฏต่อหน้าน้องเวย์เต็มตา
ฉันเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย นิ้วมือเขาที่แทรกตัวในโพรงอ่อนนุ่มเข้าออกยิ่งทำให้ฉันขยับสะโพกหนี แอ่นหน้าอกด้วยความซ่าน คนตรงหน้าที่ตอนแรกพรมจูบไปทั่วลำคอระหงส์ พอฉันซ่านจนแอ่นอกขึ้นก็เปลี่ยนไปโลมเลียเนินนมไปมาก่อนจะใช้อุ้งปากครอบงำยอดถันอย่างเอาแต่ใจ
“อ่า...น้องเวย์พี่....”
“ทำไม เสียวเหรอครับน้ำเต็มมือผมเนี่ยเห็นมั้ย” น้องเขาไม่พูดเปล่ากลับโชว์นิ้วของตัวเองที่เต็มไปด้วยน้ำหวานของฉัน ทำเอาฉันอายจนมุดหน้าเข้าอกแกร่งของเขา
“แกล้งพี่อ่ะ”
“หึ...นี่ยังแค่เริ่มต้นผมจะแกล้งพี่อีกเยอะ” น้องเขาวางตัวฉันนอนราบไปกับโซฟา ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันให้เหลือแค่ร่างเปลือยเปล่า แน่นอนว่าแม้แต่ชั้นในตัวบางกับบราก็ไม่เหลือให้ฉันได้บดบัง น้องเวย์นั่งแทรกกลางระหว่างขาของฉันก่อนจะแยกมันกว้าง อาย ฉันอายมาก นอกจากกลีบหวานจะอ้าซ่าแล้วเมื่อลมแอร์พาดผ่านทำเอาจนกระตุกตัวขนลุกซู่ชูชัน
“ดะ..เดี๋ยวเวย์.... ตรงนั้นมัน....อ่าห์..” ฉันไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ว่าจะมาเห็นภาพนี้ตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหล่าที่ทำให้ใจเต้นระริกนี้ กำลังก้มลงไปกึ่งกลางกายของฉัน สันจมูกโด่งแตะเข้ากับจุดคริตอริส ทำให้ฉันต้องยกสะโพกหนี แต่เพราะแขนแกร่งทั้งสองข้างของเขาล็อกขาทั้งสองข้างของฉันไว้มีเหรอที่จะขยับหนีได้
เรียวลิ้นร้อนสากของน้องเวย์ลากผ่านไปตามร่องกลีบฉ่ำทำเอาฉันแทบคลั่งหลั่งน้ำรักออกมาไม่ขาด เสียงที่พยายามกลั้นมันไว้ตอนนี้กลับครางออกมาระงมอย่างไม่อาย
‘ใช่แล้ว นี่คือประสบการณ์เซ็กซ์ครั้งแรกในรอบ 27 ปีของฉันตั้งแต่เกิดมามันเกินคำบรรยายไปมาก ทำให้รู้ว่า ทฤษฎีหรือจะสู้ลงมือปฏิบัติ อ่านฉากอิโรติกในนิยายยังไม่รู้สึกเสียวซ่านเท่าสัมผัสจริงจังที่โดนกระทำอยู่ตรงนี้’
นิยายเรื่องนี้อัปจบแน่นอน ฝากด้วยนะคะ หมาเด็กคลั่งรักพี่สาวคนสวย
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.5ทริปฮันนีมูนของพวกเราสามีภรรยา ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครับ แต่ก็ถือว่าเต็มอิ่มทั้งท่องเที่ยว ตระเวนกินอาหารเลิศรส หรือแม้ภารกิจปั๊มลูกน้อย ก็ทำทุกโอกาสเมื่ออยู่ในห้องพัก ชนิดไม่ต้องได้หลับได้นอนเลยครับเราเดินทางกลับมาถึงประเทศบ้านเกิดกันอย่างเหนื่อยล้า พอมาถึงคอนโดเราก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงกันทั้งคู่หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากทริปฮันนีมูน เราสองคนกลับมาใช้ชีวิตลูปเดิมเคลียร์งานที่ค้างไว้กันจ้าละหวั่น ทำเอาแรก ๆ ผมรู้สึกเคว้งเลยครับ จากที่อยู่กับเมียแทบ 24 ชม./วัน ตอนนี้กลับไม่ได้เจอเธอ 8-10 ชม. ผมก็แทบนอยแล้ว“เวย์...ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า” พ่อตาของผมเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพลางกุมขมับอยู่“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ คงเพราะนอนน้อย”“งานที่บริษัทไม่ได้เร่งขนาดนั้น ค่อย ๆ ทำก็ได้ เดี๋ยวป่วยหนักขึ้นมายัยออยก็มาบ่นพ่ออีกว่าใช้งานเราหนัก”“ครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจัดการเอกสารสุดท้ายเสร็จผมก็จะไปพักแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”เมื่อคุณพ่อของเมียผมเดินออกไป ผมก็ตั้งหน้าจัดการเอกสารอันสุดท้ายก่อนจะรีบกลับบ้านไ
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.4ร่างเปลือยเปล่าของออยเมียผมตอนนี้ ค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตัวบนเอวของผม ซึ่งกำลังนอนราบอยู่ เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ง่ายต่อการรวบผมหยาบ ๆ ให้เข้าที่โดยใช้สองมือของตัวเอง เอาจริงท่านี้โคตรเซ็กซี่เลย เพราะในขณะที่เธอทำนั้น สองเต้าคู่สวยของเธอขยับไปตามแรงโน้มถ่วงจนภาพที่ออกมามันเรียกอารมณ์ได้อีกแล้ว (จริง ๆไม่ว่าแบบไหนก็เรียกอารมณ์กามผมได้หมดแหละ ถ้าเป็นเมียผมน่ะ ฮ่า...)สองมือของเธอทาบหน้าอกผมไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมผมอยู่ด้านบนจะหลุบตามองผมอย่างเย้ายวน“อะไรกันคะ แค่เมียขึ้นมานั่งคร่อม ก็แข็งแล้วเหรอเด็กน้อย”“หึ...งั้นก็ช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้ สุขสมหน่อยสิครับ” ผมพูดพลางยกมือสองข้างประสานท้ายทอย ยกยิ้มมุมปากมองคนด้านบนที่ตอนนี้ กำลังใช้มือลูบไล้ผมไปทั้งแผงอกอย่างเชิญชวนแต่แทนที่เธอจะถอยลดตัวไปด้านล่างเธอกลับพลิกหันหลัง นั่งคร่อมลำตัวผม ก่อนจะโน้มตัวลงไป
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.3ผมที่เดินนำไปถอดเสื้อผ้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพราะร่างกายเปลือยเปล่า ก็การลงแช่น้ำร้อน โรงแรมมีกฎแบบนี้ นิครับผมลงแช่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำร้อนที่ตอนนี้แช่แล้วเข้ากับบรรยากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้สุด ๆ ทำเอารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาอย่างหนักผมนั่งเปลือยในบ่อ พลางพิงหลังบนหินประดับ ไม่นานนัก ร่างของเมียผมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหย่อนกายลงบ่อน้ำร้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมตื่น เอ้ย มีความสุขครับเมียผมนั่งอยู่ตรงข้ามใช้มือกวักน้ำร้อนรดไหล่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันมาสบตากับผม แล้วเพ่งนัยน์ตามองรูปร่างผมอย่างตั้งใจ ใช่แล้วครับตอนนี้แม้แต่ผ้าเช็ดตัวผมก็เอาออกไปหมด เปลือยที่เรียกว่าล่อนจ้อนแหละครับ ฮ่า“ถ้าเมียมองขนาดนี้มาดูใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ” ผมทำท่าทางยั่วยวนสุด ๆ จนคนตรงหน้าหัวเราะร่า“แหมสามี...อ่อยขนาดนี้ อยากสัมผัสแผงอกนั่นเลยค่ะ” เธอไม่พูดเปล่า แต่ลุกขึ้นเดินมานั่งข้าง ๆ ผม หึใครจะอยากให้นั่งข้าง ๆ กัน ผมเอี้ยวตัวใช้สองมือหนาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมาน
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.2ณ.สนามบิน “ทำไมให้พกชุดเยอะขนาดนี้ เวย์” สีหน้าของเมียผมเลิกคิ้วมองอย่างใคร่รู้“ทริปเยอะ ต้องเปลี่ยนชุดบ่อย” ผมตอบไปแบบนั้น“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอยังหันมาเลิกคิ้วมองผม น่ารักจังเหมือนเจ้าหนูจำไม“เดี๋ยวก็รู้” ผมก็ยังกักแพลนไม่บอกเธอหรอก ใครจะบอกว่าผมมีแพลนทำลูกกับเมียผมล่ะ จริงมั้ย ฮ่า...ณ.สนามบินต่างประเทศ J“ว้าว ประเทศ J...อยากมาตั้งนานแล้ว รู้ได้ไงว่าพี่อยากมาที่นี่”“เดาเอาสงสัย ใจตรงกันมั้ง”“จริงเหรอ ไม่ได้แอบถามใครใช่มั้ย”“ผมจะถามใครได้ล่ะ รีบไปกันเถอะครับอากาศหนาว เดี๋ยวพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะเที่ยวไม่สนุกนะ ผมตั้งใจทำทริปฮันนีมูนนี้เพื่อเราเลยนะครับ”“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปที่พักกันก่อน คุณสามีนำทางเลยค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับเรียกสามี และนั่นทำให้ผมยิ้ม ผมเดินเข้าไปคล้องคอเธอก่อนจะพาเธอนั่งแท็กซี่ท้องถิ่นไปยังที่หมายซึ่งสถานที่ ๆ ผมเลือกนั้นแน่นอนว่าเพื่อสัมผัสความเป็นประเทศ J แล้วนั้นผมต้องเลือกโรงแรมดั้งเดิมของประเทศนี้แน่นอน แถมห้องพักที่นี่ยังมี บ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัว ไพรเวทสุด ๆเมื่อเราเดินทางมาถึง
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.1ณ.ห้องทำงานในบริษัท ผมที่กำลังง่วนกับการทำโปรเจค AI โครงการใหญ่ที่กำลังถึงโค้งสุดท้ายแล้วอย่างขยันขันแข็ง แน่นอนว่าผมต้องการให้มันเสร็จตามกำหนดการที่ผมได้วางไว้ เพราะไม่อยากให้แผนการบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลื่อนออกไปนั่นเองถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่างานตรงหน้า แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งสำคัญที่สุด ไม่สิต้องเรียกว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตต่างหาก นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เมีย’ณ.ห้องประชุม“สุดยอดไม่คิดเลยว่า บริษัทเราจะสามารถสร้างเครื่องจักรกลอัจฉริยะนี่ขึ้นมาได้จริง ๆ รับรองว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทเราก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” เสียงของท่านประธาน (พ่อของเมียผม) เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“ต้องขอบคุณที่ท่านประธานตาแหลม ได้คุณเวย์มาร่วมงานกับบริษัทเราจริง ๆ ครับ เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้พวกผมสนับสนุนเต็มที่เลย” เหล่าผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้น“สมกับเป็นลูกเขยผมมั้ยล่ะ ลูกสาวผมตาถึงจริง ๆ” คุณพ่อของออยเอ่ย“นั่นสิครับ คุณเวย์นี่ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”“พวกท่านก็ชมผมเกินไปแล้วครับ ผลงานที่ออกมาแบบนี้ได้เพราะการร่วมมือของทุก
วิวาห์และแล้ววันสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งวันของฉันก็มาถึง งานแต่งของฉันกับเวย์เราเลือกจัดงานแต่งแบบไทยที่บ้านของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องด้วยชุดไทยประยุกต์สีขาวเงินนวลตา ทรงผมเกล้ามวยต่ำ ประดับด้วยปิ่นปักผมเรียบหรูให้ดูสวยงามมากขึ้น ใบหน้าถูกแต่งด้วยโทนนู้ดส้มอย่างละเมียดละไม“ว้าว เพื่อนรักสวยมากแม่” ยัยแพรวที่แทบจะตัวติดฉันตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้นางก็อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน“จริงเหรอ สวยแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปถามแพรวเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง เอาจริงวันนี้มันเป็นวันสำคัญฉันก็อยากสวยที่สุดในชีวิตสักวันนั่นแหละ“สวยจริง ๆ ไม่ได้อวยเพราะเป็นเพื่อนรักแกหรอก”“งั้นเหรอ”“แกตื่นเต้นใช่ไหมออย”“ฉะ..ฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอแพรว” ไม่เกินจริง ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันที่แต่งงานจะมาถึง ในชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เคยมีภาพแบบนี้ในหัวมาก่อนจริง ๆ“อืม มองจากดาวอังคารก็ดูออกจริง ๆ เฮ้อ..ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นแกแต่งงานล้ำหน้าฉันไปแบบนี้ เศร้าเลยแฮะ แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่แกเจอคนที่สามารถฝากชีวิตได้ซะที”“แกเองก็รีบตามมาล่ะ อย่าปล่อยให้พี่เจเดนเคว้งนานเกินจนเขาท้อ”“รู้แล้วนะ วันนี้วันดีแกอย่าพูด