หัวใจเต้นระริก
(หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป)
สัปดาห์ที่ผ่านมางานของฉันหนักหนาสาหัสมาก แทบไม่ได้ออกไปไหนแม้แต่กับยัยแพรวก็ไม่ได้เจอหน้า ทำเอาล้าไปจนเข้ากระดูกปวดร้าวไปทั้งตัว เหนื่อยจนแทบบ้า...กว่าจะเคลียร์คิวจองทำฟันให้เบาบางก็เล่นเอาแทบอยากหนีไปพักสักระยะ
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพักในห้องพักแพทย์ นอนเหยียดตรงบนเตียงทั้งแบบนั้นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาไถ่เล่น ๆ จนสะดุดตาชื่อน้องเขาในไลน์
“ตั้งแต่วันนั้นที่ขอไลน์กับเบอร์ไป น้องเขาไม่เห็นจะติดต่อมาบ้างแฮะ หรือว่าฉันควรเป็นฝ่ายทักไปก่อนดี” ฉันพิมพ์ ๆ ลบ ๆ อยู่นาน แต่สุดท้ายดันมือลั่นไปกดส่งอิโมจิหัวใจซะอย่างนั้นโอ๊ย จังหวะนรกสุด ๆ
“ลบทันมั้ยนะ แต่ช่างมันเถอะ แค่อิโมจิหัวใจเอง”
ฉันวางมือถือลงข้างเตียงพยายามเลิกสนใจมือถือ ก่อนจะหลับตาลงเพียบงีบสักพัก
‘Line!!!’ เสียงข้อความตอบกลับดังขึ้น
“ไม่จริงมั้ง ฉันเพิ่งจะส่งข้อความไปเอง” ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูและพบว่าเสียงข้อความที่ดังมาจากน้องเวย์จริง ๆ
WAY : [อิโมจิ ?]
Oi : ขอโทษทีส่งผิด
WAY : อ่อ...
ฉันนิ่งมองจอสักพัก และมองอยู่แบบนั้น
“อะไรกัน ตอบแค่ ‘อ่อ’ จริง ๆ เหรอเนี่ยทำไมน้องเขาไม่พิมพ์อะไรอีกหน่อยชิส์ น่าหงุดหงิดชะมัด” ฉันปิดเสียงมือถือพร้อมโยนลงข้างตัวไปอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะงีบหลับนอนไปทั้งอย่างนั้น ตื่นมาอีกทีก็จวบค่ำมืดฉันจึงถอดเสื้อกาวน์แขวนไว้ก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาล
ตอนแรกก็ว่าอยากจะนัดยัยแพรวให้ออกไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่เจ้าตัวดันปลีกตัวมาไม่ได้เพราะพี่เจเดนไม่ยอมให้มันออกมา สงสัยเพราะโดนจับได้ว่าไปบาร์โฮสต์กับฉันคราวก่อนจึงโดนคาดโทษจากคนที่มันรัก
ความสัมพันธ์ของยัยแพรวกับพี่เจเดนมันดูอิรุงตุงนังดีนะ ปากยัยแพรวบอกจะทำเป็นไม่สนใจเขา แต่พอพี่เขาพูดอะไรนิดหน่อยก็ยอมหมด แล้วที่ผ่านมาตั้งใจจะทำเมินเอาคืนพี่เขาที่เคยทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของมันเสียใจ ดูท่าคงล้มเหลวไม่นานนี้แล้วล่ะ
ส่วนฉันนะเหรอ ชีวิตโสดสบายไม่มีใครจะมาคอยห้าม หรือคอยเอาใจอยู่แล้ว พูดไปเหมือนจะดี แต่พอมาคิด ๆ พอเอาแต่ทำงานไปวัน ๆ อย่างเหนื่อยล้า มันก็แอบเหงามาก ๆ อยู่เหมือนกันนะ
“สงสัยคืนนี้ต้องฉายเดี่ยว หาหนุ่มน้อยมาเอาอกเอาใจอีกสักวัน” แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางคือบาร์โฮสต์ของพี่กาน ไป ๆ มา ๆ ตอนแรกโดนลากไป แต่ตอนนี้ดันติดใจเองซะแล้วสิ
ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดของตัวเองก่อนจะขับรถมุ่งหน้ามายังบาร์โฮตของพี่กาน ไม่นานนักฉันก็ยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
ชายหนุ่มยืนต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าดุจเจ้าหญิง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่บรรดาหญิงสาวที่ต้องการถูกเอาอกเอาใจมาใช้บริการกันเนื่องแน่น รวมไปถึงฉันด้วย หนุ่ม ๆ หลายคนพยายามที่จะเข้ามาส่งยิ้ม พรีเซนต์ตัวเองให้ฉันเลือก แต่ไม่ล่ะฉันมีเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือน้องเวย์
พีอาร์ของร้านเดินเข้ามาต้อนรับฉัน ก่อนจะพาฉันไปนั่งโต๊ะ VIP โต๊ะหนึ่ง (บัตรคราวก่อนที่ยัยแพรวยังทิ้งไว้ให้อีก 1 ใบไงล่ะ) จากนั้นพีอาร์จึงได้สอบถามว่าฉันมีหนุ่มที่สนใจเป็นพิเศษรึเปล่า แน่นอนว่าฉันมี
“น้องเวย์ เรียกน้องเวย์ให้หน่อยได้รึเปล่าคะ” ฉันพูดแบบนั้นไป แต่พีอาร์ตรงหน้ากลับเงียบก่อนจะเอ่ยถามฉันอีกครั้ง
“น้องเวย์เหรอครับทางร้านไม่มีชื่อน้องคนนี้นะครับ”
“เอ๋ แต่คราวก่อนฉันเลือกน้องคนนี้จริง ๆ นะ ถามพี่กานได้เลย”
“คุณผู้หญิงรอสักครู่นะครับ” พีอาร์เดินลับตาไปสักพักก่อนจะมาพร้อมกับพี่กานที่เดินมาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
“ว่าไงน้องออย วันนี้มาร้านพี่คนเดียวเหรอคะ น้องแพรวล่ะ”
“รายนั้นแฟนดุคะพี่ ว่าแต่น้องเวย์ไม่อยู่เหรอคะ ทำไมพีอาร์ถึงเรียกให้ไม่ได้ หรือว่าน้องเขาติดลูกค้าคนอื่นอยู่”
“หืม...น้องออยต้องการเวย์เหรอ”
“ค่ะ...รอบก่อนบริการดีมาก ๆ เลย”
“วันนี้น้องเวย์ ไม่ได้มาร้านพี่น่ะ น้องออยสนใจคนอื่นแทนมั้ยคะ” ฉันที่พอรู้ว่าน้องเวย์ไม่อยู่ก็พลอยทำเอาเซ็ง ๆ และดูเหมือนพี่กานก็คงดูออก
“วันนี้ให้น้องคนอื่น ๆ บริการก่อนดีมั้ย ไว้ถ้าน้องเวย์มาไว้พี่ค่อยแจ้งน้องออยไป”
“ก็ได้ค่ะ ขอเด็ด ๆ ไม่แพ้น้องเวย์นะคะ”
“ได้เลยค่ะ” พี่กานยิ้มให้ฉันก่อนจะให้พี่อาร์จัดการต่อ คราวนี้พี่อาร์เรียกหนุ่ม ๆ ในร้านที่ขึ้นชื่อว่าดาวเด่นมายืนเรียกเป็นตับให้เลือก อื้อหื้อ ก็หล่อสมคำว่าดาวเด่นแหละ แต่ว่า....ทำไมหัวใจจึงไม่เต้นตึกตักเอาซะเลย
ฉันเลือกหนุ่ม ๆ มาสองคน แน่นอนว่าทั้งคู่คอยเอาอกเอาใจ เอนเตอร์เทนดีมาก บอกให้นวดไหล่ก็นวดให้ บอกให้ร้องเพลงก็ร้องไห้ฟัง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ พูดจาเสนาะหูสุด ๆ ชงเหล้าให้กันไม่หยุด มันก็สบายใจอยู่หรอกแต่ทำไมกันกลับนึกถึงใบหน้าบึ้งตึกนั้นมากกว่า
ดื่มเยอะความเมาเริ่มคืบคลาน แต่ฉันก็ยังพอยั้งตัวเองให้ไม่เมาจนสติเลอะเลือนมากกว่านี้ แต่ไม่นานนักพี่กานก็เดินเข้ามาเรียกหนุ่ม ๆ ทั้งสองคนออกไป
“น้องออย พี่ขอตัวเด็กทั้งสองคนนี้ก่อนนะ ไม่งั้นจะเกิดเรื่องใหญ่”
“ทำไมคะ หรือว่าลูกค้าประจำต้องการตัวน้อง ๆ ” ฉันเอนหลังพิงพนักพิงโซฟานั่งไขว้ห้างพาดแขนไปตามพนักพิงก่อนจะมองพี่กานด้วยความไม่เข้าใจ มันมีด้วยเหรอที่เรียกเด็กโฮสต์คืนจากลูกค้า
“...” พี่ออยเอาแต่ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรให้ฉันเข้าใจเลยสักนิด แถมยังพาออกไปดื้อ ๆ ปล่อยให้ลูกค้าอย่างฉันงงฉ่ำ เออเอาเข้าไป
ฉันปล่อยตัวทิ้งร่างบนโซฟา ความเหนื่อยล้ายังมี ความรู้สึกโดดเดี่ยวคืบคลานเข้ามาภายในความนึกคิด และหนาวเย็นไปจนขั้วหัวใจ เพราะเมาเหรอฉันถึงมีความรู้สึกอ่อนไหวขนาดนี้ เมนส์ก็ไม่ได้มานิหว่า
ฉันแหงนหน้าหลับตาสักพัก จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังเดินเข้ามา ก็คงพี่กานแหง ๆ ฉันเลยพูดทั้งที่ยังหลับตาแหงนหน้าไปแบบนั้น เพราะเริ่มหนักหัวหน่อยๆ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าคนที่เข้ามานั้นนั่งลงโซฟาข้าง ๆ ฉัน
“ว่าไงคะพี่กาน จะพาหนุ่มมาให้เลือกใหม่เหรอคะ ออยว่าออยกลับดีกว่ายังไงก็คงไม่มีคนที่ถูกใจแล้ว”
“แน่ใจว่าจะกลับ” นั่นคือเสียงที่ตอบฉันกลับมา เดี๋ยวนะนี่ไม่ใช่เสียงพี่ออย ฉันเงยหน้ามองไปยังคนต้นเสียง
“นี่..น้องมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันดีดขึ้นนั่งตัวตรง ก่อนจะมองตาโตไปที่คนข้าง ๆ
“ทำไมเสียใจเหรอที่เป็นผม”
“เปล่า ก็พี่กานบอกว่าน้องไม่ได้เข้าร้านวันนี้นินา”
“แล้วไง พอผมไม่มาพี่ก็เลยเรียกเด็กคนอื่น”
“ก็มันช่วยไม่ได้ เข้ามานั่งเสียเงินไปแล้ว”
“เหอะ...เป็นใครก็ได้สินะ”
“แต่พี่มาถึงร้าน พี่ก็เรียกหาน้องเวย์คนแรกเลยนะคะ แต่พีอาร์ที่นี่เหมือนจะไม่รู้จัก ทำไมเหรอไม่ค่อยมีลูกค้าเรียกน้องเวย์เหรอ”
“คงงั้น ทำไมอยากให้ผมรับแขกเยอะ ๆ” น้องเวย์ยื่นหน้ามาใกล้ฉัน เพียงแค่นี้หัวใจฉันมันก็ระริกแล้วแกเอ่ย สมแล้วที่เขาบอกว่า คนที่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ มันก็ใช่
“ไม่ใช่ซะหน่อย คนหล่อ แถมหยิ่ง ๆ ดุ ๆ แบบนี้พี่จองได้คนเดียวก็พอ หมดตัวก็ย่อมได้”
“เหอะ นี่ก็จะอวดรวยไปไหน”
“ก็รวยจริง ทำงานมาเหนื่อย ๆ อยากมีเวลาใช้เงินบ้างนะสิ” พอพูดเรื่องงานที่ไรฉันก็พานเหนื่อยอ่อนทุกที
“คราวหน้าไม่ต้องมาร้านนี่อีก”
“อ้าว...ไม่มาแล้วจะเจอน้องเวย์สุดหล่อได้ยังไงคะ”
“อีกอย่างเบอร์ก็ได้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไลน์ก็มี”
“ชิส์ ถามคำตอบคำนะเหรอ”
“ดูมือถือตัวเองก่อนจะพูด” เสียงเข้มของน้องเขาดูจริงจังจนฉันหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา โอ้โห...ของจริง ทั้งไลน์มา ทั้งโทรมา แต่เพราะฉันปิดเสียงมือถือไปก็เลยไม่ได้ดูเลย
“ขอโทษพี่ลืมเปิดเสียงมือถือ”
“เหอะ...”
“งอนเหรอ เดี๋ยวพี่ง้อ”
“เมาแล้วเรื้อนจังฟ่ะ กลับเถอะผมไปส่ง”
“คอนโดพี่ หรือคอนโดน้องดีคะ”
“พูดมาก ระวังตัวหน่อยเป็นผู้หญิง”
“ค่ะ ผู้หญิงอายุ 27 ปีแล้วค่ะ มีเงิน มีความรับผิดชอบ พร้อมแต่ง”
น้องเวย์ทำหน้าเอือมพลางส่ายหน้าไปมา ทำเอาฉันหลุดอดยิ้มไม่ได้ นี่แหละสเปกที่หามานาน ก็แค่อยากแหย่ให้กระชุ่มกระชวย
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.5ทริปฮันนีมูนของพวกเราสามีภรรยา ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครับ แต่ก็ถือว่าเต็มอิ่มทั้งท่องเที่ยว ตระเวนกินอาหารเลิศรส หรือแม้ภารกิจปั๊มลูกน้อย ก็ทำทุกโอกาสเมื่ออยู่ในห้องพัก ชนิดไม่ต้องได้หลับได้นอนเลยครับเราเดินทางกลับมาถึงประเทศบ้านเกิดกันอย่างเหนื่อยล้า พอมาถึงคอนโดเราก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงกันทั้งคู่หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากทริปฮันนีมูน เราสองคนกลับมาใช้ชีวิตลูปเดิมเคลียร์งานที่ค้างไว้กันจ้าละหวั่น ทำเอาแรก ๆ ผมรู้สึกเคว้งเลยครับ จากที่อยู่กับเมียแทบ 24 ชม./วัน ตอนนี้กลับไม่ได้เจอเธอ 8-10 ชม. ผมก็แทบนอยแล้ว“เวย์...ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า” พ่อตาของผมเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพลางกุมขมับอยู่“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ คงเพราะนอนน้อย”“งานที่บริษัทไม่ได้เร่งขนาดนั้น ค่อย ๆ ทำก็ได้ เดี๋ยวป่วยหนักขึ้นมายัยออยก็มาบ่นพ่ออีกว่าใช้งานเราหนัก”“ครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจัดการเอกสารสุดท้ายเสร็จผมก็จะไปพักแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”เมื่อคุณพ่อของเมียผมเดินออกไป ผมก็ตั้งหน้าจัดการเอกสารอันสุดท้ายก่อนจะรีบกลับบ้านไ
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.4ร่างเปลือยเปล่าของออยเมียผมตอนนี้ ค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตัวบนเอวของผม ซึ่งกำลังนอนราบอยู่ เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ง่ายต่อการรวบผมหยาบ ๆ ให้เข้าที่โดยใช้สองมือของตัวเอง เอาจริงท่านี้โคตรเซ็กซี่เลย เพราะในขณะที่เธอทำนั้น สองเต้าคู่สวยของเธอขยับไปตามแรงโน้มถ่วงจนภาพที่ออกมามันเรียกอารมณ์ได้อีกแล้ว (จริง ๆไม่ว่าแบบไหนก็เรียกอารมณ์กามผมได้หมดแหละ ถ้าเป็นเมียผมน่ะ ฮ่า...)สองมือของเธอทาบหน้าอกผมไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมผมอยู่ด้านบนจะหลุบตามองผมอย่างเย้ายวน“อะไรกันคะ แค่เมียขึ้นมานั่งคร่อม ก็แข็งแล้วเหรอเด็กน้อย”“หึ...งั้นก็ช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้ สุขสมหน่อยสิครับ” ผมพูดพลางยกมือสองข้างประสานท้ายทอย ยกยิ้มมุมปากมองคนด้านบนที่ตอนนี้ กำลังใช้มือลูบไล้ผมไปทั้งแผงอกอย่างเชิญชวนแต่แทนที่เธอจะถอยลดตัวไปด้านล่างเธอกลับพลิกหันหลัง นั่งคร่อมลำตัวผม ก่อนจะโน้มตัวลงไป
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.3ผมที่เดินนำไปถอดเสื้อผ้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพราะร่างกายเปลือยเปล่า ก็การลงแช่น้ำร้อน โรงแรมมีกฎแบบนี้ นิครับผมลงแช่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำร้อนที่ตอนนี้แช่แล้วเข้ากับบรรยากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้สุด ๆ ทำเอารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาอย่างหนักผมนั่งเปลือยในบ่อ พลางพิงหลังบนหินประดับ ไม่นานนัก ร่างของเมียผมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหย่อนกายลงบ่อน้ำร้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมตื่น เอ้ย มีความสุขครับเมียผมนั่งอยู่ตรงข้ามใช้มือกวักน้ำร้อนรดไหล่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันมาสบตากับผม แล้วเพ่งนัยน์ตามองรูปร่างผมอย่างตั้งใจ ใช่แล้วครับตอนนี้แม้แต่ผ้าเช็ดตัวผมก็เอาออกไปหมด เปลือยที่เรียกว่าล่อนจ้อนแหละครับ ฮ่า“ถ้าเมียมองขนาดนี้มาดูใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ” ผมทำท่าทางยั่วยวนสุด ๆ จนคนตรงหน้าหัวเราะร่า“แหมสามี...อ่อยขนาดนี้ อยากสัมผัสแผงอกนั่นเลยค่ะ” เธอไม่พูดเปล่า แต่ลุกขึ้นเดินมานั่งข้าง ๆ ผม หึใครจะอยากให้นั่งข้าง ๆ กัน ผมเอี้ยวตัวใช้สองมือหนาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมาน
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.2ณ.สนามบิน “ทำไมให้พกชุดเยอะขนาดนี้ เวย์” สีหน้าของเมียผมเลิกคิ้วมองอย่างใคร่รู้“ทริปเยอะ ต้องเปลี่ยนชุดบ่อย” ผมตอบไปแบบนั้น“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอยังหันมาเลิกคิ้วมองผม น่ารักจังเหมือนเจ้าหนูจำไม“เดี๋ยวก็รู้” ผมก็ยังกักแพลนไม่บอกเธอหรอก ใครจะบอกว่าผมมีแพลนทำลูกกับเมียผมล่ะ จริงมั้ย ฮ่า...ณ.สนามบินต่างประเทศ J“ว้าว ประเทศ J...อยากมาตั้งนานแล้ว รู้ได้ไงว่าพี่อยากมาที่นี่”“เดาเอาสงสัย ใจตรงกันมั้ง”“จริงเหรอ ไม่ได้แอบถามใครใช่มั้ย”“ผมจะถามใครได้ล่ะ รีบไปกันเถอะครับอากาศหนาว เดี๋ยวพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะเที่ยวไม่สนุกนะ ผมตั้งใจทำทริปฮันนีมูนนี้เพื่อเราเลยนะครับ”“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปที่พักกันก่อน คุณสามีนำทางเลยค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับเรียกสามี และนั่นทำให้ผมยิ้ม ผมเดินเข้าไปคล้องคอเธอก่อนจะพาเธอนั่งแท็กซี่ท้องถิ่นไปยังที่หมายซึ่งสถานที่ ๆ ผมเลือกนั้นแน่นอนว่าเพื่อสัมผัสความเป็นประเทศ J แล้วนั้นผมต้องเลือกโรงแรมดั้งเดิมของประเทศนี้แน่นอน แถมห้องพักที่นี่ยังมี บ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัว ไพรเวทสุด ๆเมื่อเราเดินทางมาถึง
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.1ณ.ห้องทำงานในบริษัท ผมที่กำลังง่วนกับการทำโปรเจค AI โครงการใหญ่ที่กำลังถึงโค้งสุดท้ายแล้วอย่างขยันขันแข็ง แน่นอนว่าผมต้องการให้มันเสร็จตามกำหนดการที่ผมได้วางไว้ เพราะไม่อยากให้แผนการบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลื่อนออกไปนั่นเองถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่างานตรงหน้า แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งสำคัญที่สุด ไม่สิต้องเรียกว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตต่างหาก นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เมีย’ณ.ห้องประชุม“สุดยอดไม่คิดเลยว่า บริษัทเราจะสามารถสร้างเครื่องจักรกลอัจฉริยะนี่ขึ้นมาได้จริง ๆ รับรองว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทเราก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” เสียงของท่านประธาน (พ่อของเมียผม) เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“ต้องขอบคุณที่ท่านประธานตาแหลม ได้คุณเวย์มาร่วมงานกับบริษัทเราจริง ๆ ครับ เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้พวกผมสนับสนุนเต็มที่เลย” เหล่าผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้น“สมกับเป็นลูกเขยผมมั้ยล่ะ ลูกสาวผมตาถึงจริง ๆ” คุณพ่อของออยเอ่ย“นั่นสิครับ คุณเวย์นี่ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”“พวกท่านก็ชมผมเกินไปแล้วครับ ผลงานที่ออกมาแบบนี้ได้เพราะการร่วมมือของทุก
วิวาห์และแล้ววันสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งวันของฉันก็มาถึง งานแต่งของฉันกับเวย์เราเลือกจัดงานแต่งแบบไทยที่บ้านของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องด้วยชุดไทยประยุกต์สีขาวเงินนวลตา ทรงผมเกล้ามวยต่ำ ประดับด้วยปิ่นปักผมเรียบหรูให้ดูสวยงามมากขึ้น ใบหน้าถูกแต่งด้วยโทนนู้ดส้มอย่างละเมียดละไม“ว้าว เพื่อนรักสวยมากแม่” ยัยแพรวที่แทบจะตัวติดฉันตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้นางก็อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน“จริงเหรอ สวยแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปถามแพรวเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง เอาจริงวันนี้มันเป็นวันสำคัญฉันก็อยากสวยที่สุดในชีวิตสักวันนั่นแหละ“สวยจริง ๆ ไม่ได้อวยเพราะเป็นเพื่อนรักแกหรอก”“งั้นเหรอ”“แกตื่นเต้นใช่ไหมออย”“ฉะ..ฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอแพรว” ไม่เกินจริง ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันที่แต่งงานจะมาถึง ในชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เคยมีภาพแบบนี้ในหัวมาก่อนจริง ๆ“อืม มองจากดาวอังคารก็ดูออกจริง ๆ เฮ้อ..ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นแกแต่งงานล้ำหน้าฉันไปแบบนี้ เศร้าเลยแฮะ แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่แกเจอคนที่สามารถฝากชีวิตได้ซะที”“แกเองก็รีบตามมาล่ะ อย่าปล่อยให้พี่เจเดนเคว้งนานเกินจนเขาท้อ”“รู้แล้วนะ วันนี้วันดีแกอย่าพูด