นับดาวนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วนำไปแขวนในตู้เสื้อผ้า คอนโดแห่งนี้เพิ่งจะสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ แล้วเปิดให้บริการได้ไม่นาน จะว่าเธอโชคดีมากเลยก็ว่าได้ที่ได้ห้องใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าพัก แต่ขนาดห้องมันดูจะใหญ่เกินไปสำหรับหญิงสาวตัวคนเดียวไปหน่อย
วันนี้นับดาวขอลาหยุดกับหนุ่มรุ่นพี่จะได้ไม่ต้องไปทำความสะอาดที่เพนท์เฮาส์ของเขา เธอใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำความสะอาดห้องพักใหม่ แม้ว่ามันจะสะอาดแทบจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยก็ตาม แต่เข้าพักวันแรกอย่างไรก็ต้องปัดกวาดเช็ดถู
เธอทำความสะอาดห้องจนถึงบ่ายแก่ๆ ก็นอนพักที่โซฟาเปิดโทรทัศน์ให้มีเสียงคนคุยกันเพื่อคลายเหงา มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแชทเพื่อคุยกับเพื่อนสาว
**********
Nubdao : คิดถึงแกจัง
Khongkhwan : เพิ่งจะเจอกันเมื่อวันศุกร์เองนะ
Nubdao : อยู่บ้านเหรอ
Khongkhwan : ฉันออกมาเที่ยวกับพี่เขตน่ะ
Nubdao : อ๋อ งั้นเที่ยวให้สนุกนะ ฉันไม่กวนละ
**********
ของขวัญเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และเขตก็เป็นพี่ชายของของขวัญ บ้านนี้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี ชอบพากันไปเที่ยวนอกบ้านอยู่บ่อยๆ และที่เธอแชทหาเพื่อนก็เพราะอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมาเลยอยากจะหาเพื่อนคุย
นับดาวกดออกจากแชทก็วางโทรศัพท์ลงที่ข้างลำตัวแล้วหลับตาลงกะจะพักให้หายเหนื่อย แต่กลายเป็นเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว มาสะดุ้งตื่นอีกทีก็เกือบหกโมงเย็นเพราะเสียงกดกริ่งดังขึ้นที่หน้าประตู
หัวใจเธอกระหน่ำเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวมันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาที่จู่ ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้มายืนกดกริ่งเรียกที่หน้าห้อง
นับดาวลุกออกจากโซฟาแล้วออกไปดูที่หน้าจอมอนิเตอร์ว่าเป็นใครกันแน่ ก็ปรากฏใบหน้าหล่อของหนุ่มรุ่นพี่ยืนขมวดคิ้วจ้องประตูห้องตาแทบไม่กระพริบ เธอจึงรีบเปิดประตูให้เขาเข้ามา
พอประตูเปิดออกไต้ฝุ่นก็ยื่นถุงที่หิ้วมาด้วยยัดใส่มือของหญิงสาว แล้วเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาราวกับเป็นเจ้าของห้อง
“อะไรเหรอคะ” นับดาวรับถุงมาไว้ในมืออย่างงุนงง แล้วมองตามแผ่นหลังของหนุ่มรุ่นพี่
“ทำกับข้าวให้ฉันกินด้วย”
“ฮะ!” นับดาวหลุดอุทานออกมาและคิดในใจว่าเขาถ่อสังขารมาถึงคอนโดของเธอ เพื่อจะมาใช้ให้เธอทำกับข้าวให้กินแค่นี้น่ะเหรอ ซื้อกินไม่ง่ายกว่าหรือไง
“ยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ของฉันก็ซื้อมาให้หมดแล้ว ทำกับข้าวแค่นี้ หวังว่าคงจะทำได้นะ”
วันนี้ไต้ฝุ่นตั้งใจจะมาหาเธอจริงๆ แต่ไม่ได้มาจากความคิดถึงหรืออะไรหรอก แค่ตั้งใจจะมากวนช่วงเวลาพักผ่อนของเธอก็เท่านั้น คิดจะมาขอลาหยุดเหรอ ฝันไปเถอะ
“ฉันทำเป็นแต่กับข้าวง่ายๆ” แม้ว่าเธอจะช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่ยังเด็ก แต่ทักษะในการทำอาหารถือว่ายังติดลบอยู่มาก คนอื่นจะกินได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่มันก็พอกินได้สำหรับเธอ
“จะทำอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันกินได้หมด” ถ้ารสชาติไม่ได้แย่อาหารง่ายๆ เขาก็กินได้
“ค่ะ” นับดาวขานรับก็เดินเข้าไปในครัว
เธอเปิดถุงและหยิบของที่ไต้ฝุ่นออกมาดู เขาบอกเองว่ากินได้ เธอก็จะทำให้ แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังก็แล้วกัน
ไต้ฝุ่นนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือรออยู่นานสองนาน นับดาวที่เข้าครัวไปตั้งเกือบชั่วโมงก็ยังทำกับข้าวก็ไม่เสร็จ เขาจึงตัดสินใจลุกไปดูเธอในครัว ก็พบว่าอาหารที่เธอทำนั้นหน้าตาแทบจะดูไม่ได้เลย
“คิดจะฆ่าฉันทางอ้อมหรือไงยัยเตี้ย เส้นสปาเกตตีก็เละ ซอสก็ถูกผัดจนน้ำเริ่มดำ มันจะกินได้ไหมฮะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าทำเป็นแต่กับข้าวง่ายๆ แล้วพี่ซื้ออะไรมาล่ะ สปาเกตตีฉันทำไม่เป็นหรอก”
“แล้วเธอไม่มีปากหรือไง ทำไม่เป็นก็บอกมาสิ” ไต้ฝุ่นเอ็ดหญิงสาวไปหนึ่งประโยค แค่บอกว่าทำกับข้าวไม่เป็นมันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย แต่เธอก็ดื้อทำซะจนเสียของหมด
ไต้ฝุ่นเทอาหารที่นับดาวทำลงถังขยะและลงมือทำใหม่ด้วยตัวเอง นับดาวยืนมองอยู่ข้างๆ มองคนที่กำลังจดจ่อกับการทำเมนูสปาเกตตีซอสมะเขือเทศหมูสับ ท่าทางทะมัดทะแมงแบบนี้คงจะทำกินเองบ่อยๆ เพราะเขาก็อยู่ตัวคนเดียวเหมือนกัน
“ชอบทำอาหารเหรอคะ”
“อยู่คนเดียวก็ต้องหัดทำบ้างสิ”
“อ่อ ซื้อกินก็ง่ายดีออก” นับดาวเอ่ยเสียงเบา
“ถ้าไม่ช่วยก็ออกไปนั่งข้างนอกไป” ไต้ฝุ่นหันมาไล่เธออีกครั้ง ยืนอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ไปนั่งรอดีกว่าจะได้ไม่รกหูรกตา เดี๋ยวเขาทำเสร็จจะตักใส่จานแล้วยกออกไปเอง
“ค่ะ” นับดาวเบะปากเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินออกมา
ตั้งแต่รู้จักกับผู้ชายคนนี้ เธอไม่รู้ว่าโดนเขาด่าไปแล้วกี่ครั้ง ทั้งยัยโง่ ยัยบื้อ ยัยเตี้ย ตามด้วยประโยคอื่นๆ สารพัด หรือว่าเป็นเพราะเธอติดหนี้เขาอยู่ เขาถึงต้องใช้ถ้อยคำและน้ำเสียงแบบนี้กับเธอ แต่เธอก็ทำได้แค่ปิดปากเงียบ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับเธอมาก แม้ปากจะไม่ดีอย่างหน้าตาและความมีน้ำใจของเขาก็เถอะ
“ฉันทำเสร็จแล้ว เตรียมน้ำให้ด้วย”
เสียงของไต้ฝุ่นดังออกมาจากในครัว นับดาวก็เดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นมาเทใส่แก้วแล้วนำไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว แล้วออกมานั่งที่โซฟาดังเดิม
ไต้ฝุ่นถือจานสปาเกตตีออกมาก็พบว่ามีแก้วน้ำแค่ใบเดียว ก็วางจานในมือลงบนโต๊ะแล้วเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับอ้าปากออกคำสั่งอีกครั้ง
“ไปเทน้ำมาอีกแก้ว”
“กินคนเดียวแก้วเดียวไม่พอเหรอคะ” นับดาวเหลียวหลังไปเถียงมองคนที่นั่งโต๊ะด้านหลังของเธอ แต่พอเห็นจานสปาเกตตีมีสองใบ คิ้วเรียวเล็กที่ขมวดเข้าหากันเมื่อครู่ก็คลายตัวออก
“นอกจากปากดีแล้วยังสายตาฝ้าฟางอีกนะ ไม่เห็นเหรอว่าฉันทำมาเผื่อเธอด้วย ไปเทน้ำแล้วมานั่งกินกันได้แล้ว ฉันหิว”
ไต้ฝุ่นยกสองแขนขึ้นกอดอกจ้องมองสาวรุ่นน้อง คนอุตส่าห์มีน้ำใจยังมาทำหน้าหงุดหงิดใส่เขาอีก ผู้หญิงอะไรหลากหลายอารมณ์ชะมัด
นับดาวรีบลุกออกจากโซฟาไปเทน้ำอีกแก้ว แล้วเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามไต้ฝุ่น เธอไม่คิดจริงๆ ว่าเขาจะทำเผื่อเธอด้วย เพราะน้ำเสียงที่ใช้พูดกับเธอในตอนแรก มันเหมือนกับจะสั่งให้เธอทำให้เขากินราวกับเป็นเจ้านายสั่งคนใช้อย่างไรอย่างนั้น ใครจะคิดว่าเขาจะซื้อมาทำกินด้วยกัน
นับดาวนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วนำไปแขวนในตู้เสื้อผ้า คอนโดแห่งนี้เพิ่งจะสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ แล้วเปิดให้บริการได้ไม่นาน จะว่าเธอโชคดีมากเลยก็ว่าได้ที่ได้ห้องใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าพัก แต่ขนาดห้องมันดูจะใหญ่เกินไปสำหรับหญิงสาวตัวคนเดียวไปหน่อยวันนี้นับดาวขอลาหยุดกับหนุ่มรุ่นพี่จะได้ไม่ต้องไปทำความสะอาดที่เพนท์เฮาส์ของเขา เธอใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำความสะอาดห้องพักใหม่ แม้ว่ามันจะสะอาดแทบจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยก็ตาม แต่เข้าพักวันแรกอย่างไรก็ต้องปัดกวาดเช็ดถูเธอทำความสะอาดห้องจนถึงบ่ายแก่ๆ ก็นอนพักที่โซฟาเปิดโทรทัศน์ให้มีเสียงคนคุยกันเพื่อคลายเหงา มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแชทเพื่อคุยกับเพื่อนสาว**********Nubdao : คิดถึงแกจังKhongkhwan : เพิ่งจะเจอกันเมื่อวันศุกร์เองนะNubdao : อยู่บ้านเหรอKhongkhwan : ฉันออกมาเที่ยวกับพี่เขตน่ะNubdao : อ๋อ งั้นเที่ยวให้สนุกนะ ฉันไม่กวนละ**********ของขวัญเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และเขตก็เป็นพี่ชายของของขวัญ บ้านนี้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี ชอบพากันไปเที่ยวนอกบ้านอยู่บ่อยๆ และที่เธอแชทหาเพื่อนก็เพราะอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมาเลยอยากจะหาเพื่อนคุยนับด
เธอนำจานไปล้างเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินทางออกจากเพนท์เฮาส์ ไต้ฝุ่นพาเธอหาหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย เพื่อที่นับดาวจะได้เดินทางได้สะดวก และรถหรูก็เคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถบริเวณด้านข้างของตึกสูง“นั่งบื่ออยู่ได้ ลงรถดิครับ” คงไม่ได้รอให้เขาเป็นคนไปเปิดประตูให้หรอกนะ“แต่นี่มันไม่ใช่หอพักนี่คะ” ไม่รู้ว่าเธอพูดไม่เข้าใจหรือว่าเขาฟังไม่รู้เรื่องกันแน่ เธอต้องการหาหอที่พอพักอาศัยอยู่ได้ ไม่ใช่คอนโดมิเนียมที่มีการเก็บค่าเช่าแพงๆ แบบนี้“ฉันบอกให้ลงก็ลงไปสิ พูดมากอยู่ได้” เอ่ยจบเขาก็เปิดประตูลงไปรออยู่ด้านหน้าตัวรถ นับดาวก็รีบออกจากรถลงแล้วตามกันเข้าไปด้านใน“ผมขอดูห้องว่างหน่อยครับ” ไต้ฝุ่นเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์“เชิญทางนี้ครับ”ทั้งสองคนเดินตามชายคนดังกล่าวขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นหกของคอนโดมิเนียม ซึ่งคอนโดแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมดสิบชั้น และชายคนดังกล่าวก็เปิดห้องที่ว่างอยู่ให้คนทั้งสองเข้าไปดูพื้นที่ใช้สอยด้านในในห้องโล่งกว้างได้จัดแบ่งโซนอย่างชัดเจน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัวพร้อมเคาน์เตอร์ทำอาหาร และมีระเบียงสำหรับตากผ้าหรือออกไปนั่งเล่นรับลม ของใช้และเฟอร์
“ทำไมออกมาแบบนี้ล่ะคะ” นับดาวรีบหันหน้าหนี ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้จะชอบโชว์อะไรกันนักหนา“ก็ใครใช้ให้เธอมากดกริ่งเสียงดังรบกวนกันล่ะยัยโง่”“พี่จะเลิกด่าว่าฉันโง่สักทีจะได้ไหม” นับดาวหันมาจ้องใบหน้าหล่อแล้วเถียงกลับ จากนั้นก็รีบเบี่ยงสายตาหนีคนที่โป๊อยู่“แล้วมาทำไมแต่เช้า” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางเดินเข้าไปในห้อง นับดาวรีบเดินตามเข้ามาก็ปิดประตู“ฉันมีธุระเลยมาเช้าหน่อย จะได้รีบทำแล้วรีบออกไป”“คนอย่างเธอมีธุระกับเขาด้วยเหรอ”“ธุระส่วนตัวขอไม่บอกนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับคนที่ชอบหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน“ก่อนออกไปกรุณาทำงานให้เสร็จด้วยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องการให้เธอทำความสะอาดทั้งหมด ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน”“อะไรนะ” นับดาวหันมาถามเสียงสูง นี่กะจะหาเรื่องเธอใช่ไหมถึงได้ใช้ให้เธอทำมากขนาดนี้“จะแหกปากทำไม รีบไปทำงานของเธอซะ ถ้าไม่เสร็จห้ามออกจากห้องไปเด็ดขาด”นับดาวขมวดคิ้วยืนนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย เห็นว่าเธอรีบเพราะมีธุระ เขาก็เลยจงใจจะแกล้งแน่ๆ คนอะไรไม่รู้จักโต“จะจ้องอีกนานไหม นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันท้องไปแล้วนะ” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มโ
“จะแหกปากให้ได้อะไรขึ้นมา”“พี่บอกว่าอยู่คนเดียว งั้นก็แปลว่าตอนนี้ในบ้านมีแค่เราสองคน” นับดาวรู้สึกหวั่นๆ ใจ เขาคงไม่คิดอะไรมิดีมิร้ายกับเธอใช่ไหม“อืม คงไม่ได้คิดว่าฉันจะจับเธอปล้ำหรอกนะ”“มันก็ไม่แน่นี่คะ เกิดพี่หน้ามืดตามัวขึ้นมา ฉันจะเอาอะไรไปสู้” เอาตามตรงเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมช่วยเธอ แล้วยังให้มาเป็นแม่บ้านให้เขาอีก“ฉันไม่ได้พิสวาศเธอขนาดนั้น รีบๆ ทำงานของเธอซะไป”ไต้ฝุ่นเอ่ยปากไล่ให้สาวรุ่นน้อง ไม่รู้ว่าคิดบ้าอะไร ผู้หญิงปากกล้าที่เอาแต่เถียงอย่างเธอไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด และที่ให้มาทำงานใช้หนี้ก็แค่ต้องการจะแกล้งใช้งานเธอให้คุ้มกับเงินที่เสียไป ไม่อย่างนั้นอย่ามาเรียกเขาว่าไต้ฝุ่น“จะให้ทำทั้งหมดนี่เลยเหรอคะ” นับดาวมองไปรอบๆ ห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง ถ้าจะให้ทำทั้งหมดนี่แล้วมันจะเสร็จกี่โมง“อืม”“แต่มันก็สะอาดอยู่แล้วนะคะ”“เธอเป็นแค่ลูกหนี้ ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำๆ ไปเถอะ อย่าลืมนะว่า…”ไต้ฝุ่นพูดยังไม่ได้ทันจบ นับดาวก็รีบน้อมรับคำสั่ง เพราะรู้ดีว่าประโยคถัดจากนั้นก็คงจะเป็นการลำเลิกบุญคุณอย่างแน่นอน“ก็ได้ค่ะ แล้วไม้กวาดกับไม้ถูพื้นอยู่ที่ไหนคะ”เจ้าของห้องชี้
“ไปเป็นแม่บ้านเนี่ยนะ” นับดาวถามราวกับหูฝาด มันมัดมือชกกันชัดๆ“นอกจากโง่แล้วยังหูตึงอีกนะ” ไต้ฝุ่นขมวดคิ้วจ้อง นับว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขามีแต่เสียอารมณ์ ทั้งโง่ ทั้งฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โง่ แล้วทำไมฉันจะต้องไปเป็นแม่บ้าน ฉันทำงานอย่างอื่นใช้หนี้ก็ได้นี่” งานมีตั้งเยอะตั้งแยะ เธอไม่อยากจะอยู่ใกล้คนอันธพาลปากเสียที่ชอบหาเรื่องผู้หญิง“ถ้าฉลาดมากก็บอกฉันมาสิ ว่านักศึกษาปีสองอย่างเธอ จะไปทำงานอะไรที่มันได้เงินเดือนเยอะๆ นอกจากขายตัว ไม่ก็เป็นเด็กเสี่ย”“แล้วไปเป็นแม่บ้านให้พี่มันได้เงินเยอะตรงไหน” งานมันก็เหมือนๆ กันทั้งนั้น อย่างน้อยก็คงจะได้แค่รายวันขั้นต่ำ“ฉันจ้างเธอปีละล้านไปทำงานให้ฉันห้าปี แล้วหนี้ทุกอย่างถือว่าจบ” ข้อเสนอดีขนาดนี้ถ้าไม่รับไว้ก็โง่เต็มทีละ“ปีละล้าน” นับดาวเบิกตาโพลงเอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างไม่เชื่อหู จะใจป้ำเกินไปหน่อยไหมที่กล้าจ้างเธอไปทำความสะอาดบ้านด้วยค่าจ้างปีละล้าน“หัดแคะขี้หูซะบ้างนะ เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันจ้างปีละล้านแถมจะให้เงินเดือนเธอใช้อีกเดือนละหมื่น แต่ถ้าไม่ยอม…”“ทำค่ะ ทำ” ไต้ฝุ่นยังไม่ทันได้พูดจบ นับดาวก็รีบตอบตกลงทันที
“หึ ฟังไม่ผิดหรอก พ่อของเธอเป็นหนี้พวกเราอยู่ห้าล้าน นี่ยังไม่รวมดอกเบี้ยเลยนะ” ผู้จัดการบ่อนแค่นหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น“พ่อนะพ่อ เงินตั้งห้าล้านหนูจะไปหามาจากไหนคะ”แม้ว่าครอบครัวของเธอจะมีธุรกิจแฟรนไชส์อยู่หลายสาขา แต่กำไรที่ได้พ่อก็เอามาถลุงกับบ่อนพนันหมด ดีที่ยังคิดได้เหลือไว้ให้เธอกับแม่เอาไว้ใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่เป็นหนี้มากขนาดนี้ ขายธุรกิจที่มีทั้งหมดก็คงจะไม่พอชดใช้ แถมยังจะทำให้แม่ของเธอลำบากไปด้วย“ฉันช่วยเธอเอง” ไต้ฝุ่นที่ได้แต่ยืนฟังก็เสนอตัวเข้าช่วยเหลือ จากนั้นก็หันไปบอกกับผู้จัดการบ่อน “พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาเงินห้าล้านมาให้”“ครับ”“ขอบใจนายมากนะที่ช่วย นายเป็นแฟนของลูกสาวฉันเหรอ” พ่อของหญิงสาวยกยิ้มเอ่ยถามอย่างโล่งใจ อยู่ ๆ ก็มีคนมาประเคนเงินก้อนโตใช้หนี้ให้แบบนี้ก็สบายตัวไปเลย“ไม่ใช่นะคะพ่อ เขาเป็นแค่รุ่นพี่ค่ะ” นับดาวรีบปฏิเสธ เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมเอาเงินห้าล้านมาช่วยใช้หนี้ให้แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันความคิดของเธอก็บอกแค่พาพ่อออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาโอกาสคุยเรื่องคืนเงินกันทีหลัง“ผมใช้หนี้ให้แล้วต่อไปไม่ต้องเข้ามาเล่นแล้วนะครับ ผมขอบัตรคืนด้วย” ไต้ฝุ่นยื่นม