Masuk“ของในห้องขาดเหลืออะไรอีกบ้าง” นั่งกินมื้อเย็นไปได้สักพักเขาก็ถามขึ้น
“คิดว่ามีครบแล้วนะคะ”
“แต่ในตู้เย็นของเธอมันมีแค่น้ำ” ตั้งแต่เข้าห้องมาเขาก็สังเกตทุกอย่างในห้อง ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างมีครบเพราะคอนโดมีให้ แต่ถ้าจะขาดก็คงจะมีแค่ของกิน
“อ๋อค่ะ ฉันซื้อมาแค่น้ำ”
“ไม่คิดจะซื้อของกินติดห้องไว้บ้างหรือไง เผื่อจะหิวตอนดึก”
“ฉันไม่ชอบกินจุกจิกตอนกลางคืน” นับดาวรีบตอบออกไป จะว่าไม่ชอบก็ไม่เชิง แต่สถานการณ์ตอนนี้เธอคิดว่าไม่กินจะดีกว่า ประหยัดเงินเอาไว้ก่อน
หลังจากกินเสร็จนับดาวก็เก็บจานไปล้าง ส่วนไต้ฝุ่นก็เดินออกจากห้องไปเลยไม่พูดไม่จา ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือว่ากินอิ่มแล้วเลยจะกลับเพนท์เฮาส์เลย
เวลาผ่านไปราว ๆ สิบห้านาทีเสียงกริ่งหน้าประตูห้องของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง นับดาวลุกขึ้นไปดูก็เป็นหนุ่มรุ่นพี่จึงได้เปิดประตูให้
“มาทำไมอีกคะ”
“เอาไป” เขายื่นถุงใบใหญ่ในมือให้ แล้วก็หันหลังเดินออกไปเลย
นับดาวกางถุงออกก้มลงมองของที่อยู่ด้านใน ก็มีทั้งขนมขบเคี้ยว ขนมปัง นม น้ำผลไม้ ไข่ไก่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เธอรีบชะเง้อคอออกไปนอกประตู และยังเห็นแผ่นหลังของเขาอยู่ก็รีบตะโกนออกไป
“ขอบคุณนะคะ” ไม่รู้ว่าไต้ฝุ่นจะได้ยินหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเธอก็ต้องพูดคำนี้ออกไป ไม่อย่างนั้นจะไม่สบายใจที่เอาแต่รับของของเขามา
นับดาวนำของกินที่ไต้ฝุ่นซื้อมาให้ไปเก็บในตู้เก็บของในห้องครัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ
เธอขึ้นมานอนอยู่บนเตียงขนาดหกฟุต หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นแม่ ป่านนี้ก็น่าจะเดินทางไปถึงเชียงใหม่แล้ว
“ถึงเชียงใหม่รึยังคะแม่”
(มาถึงแล้วจ้ะ นี่ก็เพิ่งจะกินข้าวกันเสร็จ กำลังจะไปอาบน้ำ)
“อากาศที่นู้นคงจะเย็นสบายกว่าที่นี่มากเลยนะคะ”
(จ้ะ อากาศที่นี่ดีมาก เสียดายที่ลูกไม่ได้มาด้วย แล้วนี่ลูกกินข้าวรึยัง)
“กินแล้วค่ะ”
(อยู่คนเดียวต้องกินข้าวให้ตรงเวลาและดูแลตัวเองดีๆ นะนับดาว พ่อกับแม่เป็นห่วง)
“ค่ะแม่ งั้นแม่ไปอาบน้ำเถอะค่ะ ฝันดีนะคะ”
(ฝันดีจ้ะ)
เธออยากจะบอกว่าคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน แต่ก็กลัวพวกท่านจะเป็นกังวล
นักศึกษาคนอื่นที่จากบ้านมาเรียนไกลๆ เขายังอยู่กันได้เลย เธอก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้เหมือนกัน อย่างน้อยที่มหาวิทยาลัยก็ยังมีเพื่อน มีคนรู้จัก เลิกเรียนก็ยังมีงานแม่บ้านที่ต้องทำ ค่ำมาก็กลับคอนโดมาหาข้าวกิน อาบน้ำและเข้านอน นับดาวได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง
คืนแรกของการนอนคนเดียวในห้องโล่งกว้างและสถานที่แปลกใหม่ทำให้เธอไม่คุ้นชินกับที่นอนเอาเสียเลย ไม่ว่าจะข่มตานอน จะพลิกตัวไปมาก็ไม่อาจจะหลับลงได้ เธอจึงลุกไปอุ่นนมที่หนุ่มรุ่นพี่ซื้อมาให้เผื่อได้กินอะไรอุ่นๆ จะทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น
หลังจากกินนมเสร็จเธอก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง และผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
นับดาวตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่หลังจากได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกตอนเจ็ดโมงครึ่ง วันนี้เธอมีเรียนเก้าโมงและคอนโดก็ยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เดินทางไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง
เธอลุกออกจากเตียงเข้าไปหุงข้าวทิ้งไว้แล้วก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา แล้วออกมาทอดไข่เจียวกินกับข้าวหุงร้อนๆ ที่สุกพอดี ส่วนข้าวที่เหลือในหม้อเธอก็จัดการตักใส่กล่องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น ช่วงเย็นจะได้นำมาทำข้าวผัดต่อ
นับดาวเข้าเรียนคาบแรกในชุดวิชาการวิจัยการตลาด โดยที่มีเพื่อนสนิทอย่างของขวัญมานั่งเรียนอยู่ด้วย
“คอนโดใหม่เป็นยังไงบ้าง นอนหลับสบายดีไหม” เสียดายที่เมื่อวานมีนัดกับพี่ชาย และนับดาวก็ย้ายกะทันหันโดยที่ไม่บอกล่วงหน้าทำให้ไปได้ไปหา
“ก็สบายดี” นับดาวตอบเพื่อนสวนทางกับความเป็นจริง เพราะกว่าเธอจะหลับลงได้นี่ไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่โมง แต่ที่แน่ๆ มันเลยห้าทุ่มขึ้นไปอย่างแน่นอน
“ช่วงนี้สีหน้าแกดูเหนื่อยๆ นะ เย็นนี้เราไปหาอะไรทำคลายเครียดกันดีไหม” ของขวัญพอจะรู้เรื่องครอบครัวของนับดาวจากคำบอกเล่าของเจ้าตัวอยู่บ้าง แต่บางเรื่องนับดาวก็ไม่ได้บอกเธอทั้งหมด
“ฉันไปไม่ได้หรอก” เพราะเธอยังต้องไปทำงานชดใช้หนี้ต่อ
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ฉันต้องไปทำงานน่ะ”
“โถ่ เพื่อนรักของฉัน แค่เรียนก็เหนื่อยจะแย่แล้ว นี่ยังต้องไปทำงานอีก ถ้าแกมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ” ของขวัญพร้อมจะช่วยเหลือเพื่อนเสมอ
“ขอบใจแกมากนะเพื่อนรัก” นับดาวส่งยิ้มหวานทำตายิบๆ ส่งไปให้เพื่อน
“ว่าแต่แกไปทำงานอะไรเหรอ”
“งานแม่บ้านน่ะ”
“ฉันหางานใหม่ให้เอาไหม แกชอบแพ้ไม่ใช่เหรอ งานแบบนี้คงไม่เหมาะหรอก” ของขวัญชักจะเป็นห่วงเพื่อน งานพาร์ตไทม์มีตั้งมากมาย ทำไมนับดาวถึงเลือกจะทำงานแม่บ้าน
“ไม่เป็นไร ฉันทำได้”
“โอเคๆ ถ้าไม่ไหวก็บอกฉันแล้วกัน” เมื่อนับดาวยืนยันที่จะทำ ของขวัญจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อว่าไปทำงานงานที่ไหน
วันนี้นับดาวมีเรียนถึงแค่บ่ายสอง และไม่รู้ว่าหนุ่มรุ่นพี่มีเรียนในเวลาใดบ้าง ช่องทางการติดต่อก็ไม่เคยขอเอาไว้ เธอจึงแยกตัวกับของขวัญแล้วไปยืนรอแถวๆ หน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์เผื่อว่าจะเจอกัน
ไต้ฝุ่นที่กำลังลงมาจากตึกคณะพร้อมกับกลุ่มเพื่อนก็เห็นหญิงสาวหันซ้ายหันขวาราวกับมองหาใครบางคน เขาจึงหันไปเอ่ยกับเพื่อนที่มาด้วยกัน
“มึงไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวกูตามไป” ไต้ฝุ่นบอกกับกลัฟ เพื่อนสนิทที่เรียนสาขาเดียวกัน หลังจากเรียนคาบนี้เสร็จพวกเขามีนัดเตะฟุตบอลกัน
“นี่มึงแอบนัดสาวไว้เหรอวะ” กลัฟตบบ่าเพื่อนราวกับรู้ทัน
“สาวบ้านมึงน่ะสิ กูมีธุระ ขอเวลาแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวกูตามไป” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางมองหน้าเพื่อนสลับกับเบี่ยงสายตามองไปที่หญิงสาวที่ยังมองไม่เห็นเขา
“เออๆ” กลัฟเออออตามเพื่อน ไต้ฝุ่นบอกมีธุระก็คือธุระ ยอมเชื่อเพื่อนมันหน่อย จากนั้นก็แยกตัวไปรอที่สนามฟุตบอล
ไต้ฝุ่นเดินเข้าไปหานับดาวที่ตอนนี้ย้ายไปนั่งที่ม้าหินอ่อน คงจะมายืนรออยู่นานเลยเมื่อย
“มาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้านหลังก็ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งโหยง
“เอ่อ… ฉันมารอพี่นั่นแหละ”
“รอฉันทำไม ไม่เจอหน้ากันแค่ไม่กี่ชั่วโมง อย่าบอกนะว่าคิดถึง” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
“ไม่ตลกค่ะ” แม้จะรู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่ถูกแซวแบบนั้น แต่นับดาวก็แสร้งปั้นสีหน้าจริงจังเพื่อกลบเกลื่อน
“สรุปมาทำไม” ไต้ฝุ่นเริ่มใช้น้ำเสียงเข้ม หยอกนิดหยอกหน่อยไม่ได้ก็เข้าคำถามเลยแล้วกัน
“ฉันเลิกเรียนแล้วค่ะ”
“แล้วยังไง”
“ก็จะเข้าไปทำความสะอาดที่เพนท์เฮาส์ แต่ไม่รู้ว่าพี่เลิกเรียนกี่โมง เบอร์ก็ไม่มีถึงต้องมาดักรอถามนี่ไงคะ”
“เอาโทรศัพท์ของเธอมานี่” ไต้ฝุ่นยื่นมือออกไปตรงหน้า ในเมื่อกล้ามาขอกันแบบนี้ เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
“เอาไปทำไมคะ”
“จะเอาไหมล่ะเบอร์”
“อะ อ๋อ เอาค่ะ” นับดาวรีบเปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบโทรศัพท์ยื่นให้กับหนุ่มรุ่นพี่
ไต้ฝุ่นบันทึกเบอร์ของเขาไว้ในโทรศัพท์มือถือของนับดาว และกดโทรออกมายังเครื่องของเขาเพื่อบันทึกเบอร์ของเธอเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็ถือวิสาสะแอดไลน์ของกันและกัน
“รหัสส่งให้ในแชท ฉันไว้ใจเธอขนาดนี้หวังว่าคงไม่ยกเค้าฉันนะ” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางยื่นโทรศัพท์ส่งคืนเจ้าของ
นับดาวพยายามคิดว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาคงไม่ใช่ไต้ฝุ่นที่มาเหมาชานมไข่มุกที่ร้านอย่างแน่นอน แต่ลูกค้ารายเดิมก็ยังคงกลับมาซื้ออย่างต่อเนื่องติดต่อกันทุกวันจนเธอมาอยู่บ้านได้สองอาทิตย์ นับดาวจึงอดไม่ได้ตัดสินใจไปดักดูที่สาขาที่เขาไปอุดหนุน และแล้วก็เจอตัวสักที“พี่ไต้ฝุ่น” เธอเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแฟนหนุ่มของเธอจริงๆไต้ฝุ่นยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเก้อเขิน โดนจับได้แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหลบหลีกไปทางไหน“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“พี่มาซื้อน้ำน่ะครับ”“รู้ค่ะว่ามาซื้อน้ำ แล้วทำไมต้องมาซื้อทุกวัน ซื้อไปให้ใคร แล้วมาอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่”นับดาวยิ่งคำถามรัวๆ ด้วยความอยากรู้ หรือที่เขาบอกว่าไปนอนที่ร้านเฮียเคน เขากำลังโกหก แท้ที่จริงแล้วไต้ฝุ่นอยู่ที่เชียงใหม่มาโดยตลอดนับตั้งแต่วันที่มาส่งเธอ“ให้พี่ตอบคำถามไหนก่อนดี”“ตอบมาให้หมดเลยค่ะ” เอ่ยจบเธอก็คว้าข้อมือของแฟนหนุ่มเพื่อพาไปคุยกันที่ด้านหลังร้านไต้ฝุ่นดึงแฟนสาวเข้ามาสวมกอดแล้วค่อยๆ ตอบทีละคำถามที่เธออยากรู้ และนั้นก็ทำให้นับดาวถึงกับหลุดยิ้มออกมากับความใจดีของเขาที่อยากจะช่วยอุดหนุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้ก
หลังจากเสร็จกิจกรรมรัก ทั้งสองคนก็พากันไปอาบน้ำ และขึ้นมานอนกอดกันบนเตียง“พ่อกับแม่พี่มีเชื้อสายจีนเหรอคะ” นับดาวได้ยินทั้งพี่ทั้งน้องพากันเรียกป๊าและม๊าจึงเกิดความสงสัย“อือ พ่อของพี่เป็นคนจีน แต่พอได้แต่งงานกับแม่ก็พากันย้ายมาอยู่ที่ไทย”“งั้นพวกพี่ก็เป็นลูกครึ่งสิคะ ถึงว่าหล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลย” นับดาวเอ่ยปากชมลูกชายทั้งสองคนของบ้าน“ชมพี่ได้คนเดียวครับ คนอื่นห้ามชม” ไต้ฝุ่นก้มลงมองใบหน้าหวาน แล้วส่งสายตามองค้อนให้แฟนสาว“คนอะไรหึงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง” นับดาวกระตุกยิ้มชอบใจ“กับใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น”“ก็ได้ค่ะ นับดาวจะชมแค่พี่คนเดียว โอเคไหมคะ” นับดาวจำต้องยอมอ่อนข้อให้กับคนขี้น้อยใจ แล้วเลื่อนปลายจมูกไปกดหอมที่แก้มของเขาเพื่อให้แฟนหนุ่มหายงอน“โอเคมากเลยครับ” ไต้ฝุ่นยิ้มรับก็กดหอมแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวสลับกันไปมาอยู่หลายครั้ง จนนับดาวส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ“พอแล้วค่ะ แก้มช้ำหมดแล้ว”“รู้ไหมว่าตัวหอมมาก พี่อยากหอมทั้งคืนเลย”“ทำอย่างกับไม่เคยหอมกันอย่างนั้นแหละ”“ก็ต้องหอมเอาไว้หลายๆ ฟอดหน่อย อีกสองวันก็จะกลับเชียงใหม่แล้ว พี่คงคิดถึงจนนอนไม่หลับ”และแล้วก็มาถึงวันที่เธอต้องก
นับดาวเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับเชียงใหม่ แต่ก่อนจะเดินทางก็ต้องไปนอนค้างที่บ้านของแฟนหนุ่มตามที่ได้รับปากเขาไว้ ซึ่งไต้ฝุ่นก็เลือกที่จะกลับบ้านในช่วงเย็นของวันที่สอบเสร็จไต้ฝุ่นใช้ความเร็วในการขับรถกลับบ้านที่หกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะมืออีกข้างหนึ่งได้จับมือของแฟนสาวไปตลอดทางเพื่อมอบความอบอุ่นและกำลังใจ เขาเห็นนับดาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาจึงคิดว่าเธอคงจะรู้สึกประหม่ากับการไปเจอครอบครัวของเขาเป็นครั้งแรก“ไม่ต้องกลัวนะ พ่อกับแม่พี่เป็นคนใจดีมาก” ไต้ฝุ่นเอ่ยปลอบขวัญแฟนสาว“ค่ะ” นับดาวคลี่ยิ้มน้อยๆ ส่งไปให้รถหรูได้เคลื่อนตัวเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีรถหรูจอดเรียงรายนับสิบคัน ใจของนับดาวก็เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ทำใจมาแล้ว แต่พอมาถึงมันก็รู้สึกตื่นเต้นปนกับความกลัวอยู่ดี เธอนั่งนิ่งอยู่ในรถเพื่อทำใจจนไต้ฝุ่นเดินมาเปิดประตูพร้อมทั้งถอดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วจับมือเธอก้าวลงจากรถพอปิดประตูรถได้ เขาก็โอบที่เอวของเธอแล้วดันหญิงสาวถอยหลังจนแผ่นหลังแนบชิดกับประตูรถ“จะทำอะไรคะ”“ให้กำลังใจเมียไงครับ” เอ่ยจบก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอแผ่วเบาหนึ่งครั้ง“ทำใจให้สบาย คิดว่าที
เช้าวันจันทร์ทั้งคู่พากันไปแวะกินโจ๊กที่หน้าปากทางเข้าคอนโดก่อนจะเดินทางไปเรียน พอลงจากรถไต้ฝุ่นก็รีบเดินเข้าไปหาหญิงสาวแล้วจับมือของเธออย่างเปิดเผยเพื่อเดินไปส่งถึงหน้าตึกคณะตลอดทางที่เดินไปด้วยกันก็มีสายตาหลายคู่จ้องมองมาทางพวกเขา ผู้หญิงบางกลุ่มก็พูดคุยกันราวกับเสียดายที่ชายหนุ่มมีแฟนแล้ว และบางส่วนก็รู้สึกยินดีที่ทั้งคู่คบกันสักที เพราะเห็นไต้ฝุ่นมาคอยเดินตามนับดาวอยู่นานและช่วงเย็นเขาก็มารับเธอที่หน้าตึกคณะเพื่อพาไปยังชมรมฟุตบอล นับดาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่จู่ ๆ เขาก็พามาโดยที่ไม่ได้บอกกันไว้ล่วงหน้า“พากันจับมือมาแล้วโว้ย” เสียงของเสือดังขึ้นเป็นคนแรก“แม่งสวยว่ะ ถึงว่ามันจะเป็นจะตายตอนที่โดนเมียทิ้ง” แบดซ์เอ่ยปากชมเมียเพื่อน และพูดถึงคราวที่ไต้ฝุ่นเสียศูนย์เพราะเฮิร์ตหนัก“นี่น้องนับดาวเหรอวะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย” โจหันไปถามเพื่อนๆ“ไอ้ไต้ฝุ่นมันคงไม่พาใครมาที่ชมรมแบบนี้หรอก ถ้าไม่ใช่น้องนับดาว” ภูเขาเอ่ยตบท้าย ก่อนที่คนที่ถูกเอ่ยถึงจะมายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา“มึงพาใครมาวะ” แม้ทุกคนจะเดาออกอยู่แล้ว แต่เสือก็แสร้งถามออกไปเพื่อให้ไต้ฝุ่นเป็นคนแนะนำเอง“นี่นับดาว เมียของกู
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีหนึ่ง และดีที่วันนี้เป็นเสาร์ทั้งคู่จึงพากันนอนตื่นสายได้ แต่ก็ใช่ว่าตื่นแล้วจะได้ลุกขึ้นไปหาอะไรกิน เพราะเขารบเร่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจะอาบน้ำด้วยกันท่าเดียว“นะครับ ขออาบด้วยนะ”“ไม่เอา เมื่อคืนก็อาบด้วยกันแล้วไง” นับดาวรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาว่าคืออะไร จึงได้ปฏิเสธเพราะทันทีที่เธอตอบตกลงยอมคืนดีเมื่อวานเย็น เขาก็แทบไม่ปล่อยให้เธอได้พัก ไม่รู้ว่าไปหิวโหยมาจากไหน ทั้งริมฝีปากอวบอิ่ม ก้อนกลมสองเต้าอวบ และทุกสัดส่วนบนเรือนร่างรวมไปถึงน้องสาวของเธอก็โดนเขาจับกินหมด“นั่นมันเมื่อคืน แต่ตอนนี้อยากอาบกันด้วยอีก” เขาเอ่ยพลางกระชับตัวหญิงสาวเข้าไปสวมกอดแล้วกดจูบที่แผ่นหลังขาวเนียนไร้เสื้อผ้าปกคลุม แก่นกายขนาดใหญ่แข็งชูชันจนเธอรู้สึกได้ว่ามันจ่ออยู่ที่ก้นงามงอน“คนลามก”“เธอก็ชอบไม่ใช่เหรอ ครางชื่อพี่ทั้งคืนเลย” ไต้ฝุ่นเอ่ยแซวพลางขบเม้มที่ติ่งหูของนับดาว พ่นลมหายใจหื่นกระหายเป่ารดที่ข้างแก้มอมชมพูจนขนกายของหญิงสาวลุกซู่เขาเลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ซอกคอ จากนั้นก็พลิกตัวเธอขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่ด้านบน นับดาวใช้มือทั้งสองข้างเท้ากับพื้นที่นอน กระตุกยิ้มอย่างรู้ทันคนเจ้าเ
วันนี้ของขวัญก็ได้กลับไปนอนที่คอนโดของตัวเองแล้ว ยอมรับว่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไต้ฝุ่นทำให้เธอได้เห็นถึงความพยายามว่าเขาอยากง้อเธอมากแค่ไหน เขายอมทำทุกอย่างให้โดยที่เธอไม่ต้องร้องขอ เธอคิดว่าเขาอาจจะเข้ากับเพื่อนรักของเธอไม่ได้เพราะเป็นคนถือตัวและพูดน้อยเวลาอยู่กับคนอื่น แต่เปล่าเลย สองคนนั้นเข้ากันได้ดีกว่าที่คิด และทุกๆ เย็นเขาก็มารอรับเธอกลับคอนโดไม่เว้นว่างเลยแม้แต่วันเดียว“พี่ช่วยถือกระเป๋านะ”“ค่ะ”ไต้ฝุ่นยื่นมือออกไปรับกระเป๋าแล้วนำไปสะพายไว้ที่แขนและเดินเคียงข้างกันไปขึ้นรถ พอไปถึงคอนโดนับดาวก็ขอกระเป๋าคืนเพื่อจะหยิบคีย์การ์ดไปเปิดประตู“ขอเข้าไปได้ไหม” ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะแทรกตัวเข้าไปแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ต้องทำตัวดีหน่อยนับดาวยืนนิ่งราวกับกำลังชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก็ตอบกลับไป“ค่ะ”ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับแล้วรีบเดินเข้าไปในห้อง วันนี้นับดาวดูมีน้ำเสียงที่อ่อนลง ทำให้เขาแอบเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงยอมใจอ่อนแล้วนับดาวเอากระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาเทใส่แก้วยกขึ้นดื่ม ไต้ฝุ่นที่เดินตามหลังก็ถือวิสาสะกอดเธอจากทางด้านหลัง ส่วนคนที่โ







