LOGINแค่ครั้งเดียวไม่เรียกเมียหรอกนะ / เออ แค่ครั้งเดียวก็ไม่เรียกผัวเหมือนกันนั่นแหละโว้ย!!
View More“ลาออก?”
เธอส่งยิ้มให้เขา มันคือรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาด้วยซ้ำ แต่ทว่าณิรินก็เลือกที่จะยิ้ม “ค่ะ ขออภัยที่บอกกล่าวอย่างกะทันหันนะคะ แต่ว่าณิรินได้เตรียมประกาศรับสมัครเลขาใหม่ให้ท่านแล้วค่ะ แล้วก็ณิรินจะอยู่สอนงานจนกว่าเลขาคนใหม่จะทำงานได้..” “ฝันไปเหอะ! ใครจะอนุญาตให้เธอลาออกไม่ทราบ!” เธอมองหน้าเขา..โดยที่ใบหน้าของณิรินยังคงยิ้ม “ณิรินอนุญาตตัวเองได้ค่ะ..” ให้มันจบลงตรงนี้ในแบบที่เราทั้งสองคนยังพอจะมองหน้ากันในอนาคตได้เถอะ อย่าให้ถึงขนาดที่เธอไม่สามารถมองหน้าเขาได้อีกเลย . . . หกเดือนก่อนหน้านั้น “มานั่งด้วยกันสิณิริน” ณิรินยกยิ้มขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น เธอกำลังถือถาดอาหารพร้อมกับมองหาที่นั่ง เพราะเจ้านายที่สั่งงานเอาไว้เยอะมากเสียจนเธอต้องใช้เวลาในการพักเที่ยงอันมีค่าของตัวเองจัดการงานพวกนั้นบางส่วน จนลงมาทานมื้อเที่ยงช้ากว่าที่ควรจะเป็น “นี่อย่าบอกนะว่าบอสสั่งงานแกเพิ่มอีกแล้วน่ะ” ณิรินวางถาดอาหารลงบนโต๊ะก่อนที่เธอจะเริ่มลงมือทานอย่างรีบร้อน “จะไปเหลือเหรอ..” พะพายถอนหายใจออกมาเบาๆ ทั้งที่ในตอนแรก เธออิจฉาณิรินมากแท้ๆ ที่ได้ทำงานกับเจ้านายที่หล่อและโด่งดังมากๆ แต่ทว่าในตอนนี้พะพายกลับรู้สึกสงสารณิรินมากกว่า ถึงแม้ว่าค่าตอบแทนที่ได้มันจะมากมายชนิดที่ว่าเกือบเท่าเงินเดือนสองเดือนของเธอ แต่ทว่าณิรินแทบไม่เคยมีเวลาเป็นของตัวเองเลย สี่ปีที่ณิรินทำงานเป็นเลขาของบอสธีรักษ์ เพื่อนรักของเธอไม่มีเวลาว่างมาเจอกันแม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์อย่างวันเสาร์หรือว่าวันอาทิตย์ แม้แต่ในตอนที่ณิรินถูกบอกเลิก..เพราะแฟนเก่ามันให้เหตุผลว่าณิรินไม่มีเวลาให้ ซึ่งณิรินมันก็ไม่มีเวลาให้แฟนมันจริงๆ นั่นแหละ ในตอนที่มันต้องเสียใจกับการถูกบอกเลิก บอสยังไม่ให้มันได้พักเลย.. มันทำงานเหมือนกับว่าเป็นหนี้อยู่หลายล้านอย่างนั้นแหละ “ไปก่อนนะพะพาย ขอบใจที่แกจองที่ไว้ให้นะ” เมื่อพูดจบณิรินก็ลุกขึ้นไปในทันที พะพายทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ กับอาการรีบร้อนของเพื่อนรัก “เงินมันก็สำคัญแต่ว่าสุขภาพก็สำคัญนะโว้ยณิริน..” ณิรินส่งยิ้มให้กับคำเตือนที่แสนห่วงใยของเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ อาจจะเพราะว่าเราทำงานที่เดียวกัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงยังพอได้พบเจอพะพายอยู่บ้างในบางครั้ง งานที่เธอกำลังทำอยู่มันกินชีวิตของเธอจริงๆ นั่นแหละ แต่นี่คือคำถามข้อแรกของการเข้ามาทำงานในตำแหน่งของท่านประธานที่เขาเอ่ยถามเธอเลย “แน่นอนว่าเธออาจจะสมัครเข้ามาที่นี่เพราะเงินเดือนที่มหาศาล แต่ว่าเธอก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าด้วยนะว่าสิ่งที่เธอต้องแปลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนเหล่านั้นมันคือเวลาทั้งหมดของเธอ..” ในตอนนั้นณิรินตอบรับอย่างไม่ลังเลเลย เพราะเธอต้องการเงินมากจริงๆ ..แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินเก็บบางส่วนแล้ว และณิรินวางแผนเอาไว้ว่าสิ้นปีนี้เธอจะลาออกไปเปิดร้านเค้กเล็กๆ ของตัวเอง เพราะอย่างนั้นในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ เธอก็อยากจะทำงานให้ท่านประธานในตำแหน่งที่คอยซัพพอร์ตเขาอย่างดีที่สุด ณิรินเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และเธอพบว่าเจ้านายของเธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอ พร้อมกับนั่งอ่านรายงานเรื่องการพ้นสภาพการเป็นผู้จัดการของคุณสิงหาที่เธอเขียนเอาไว้ “อืม..เขียนได้ไม่เลวเลยนี่ แต่สำหรับไอ้เวรนั่นไม่ได้มีข้อดีให้เธอเขียนถึงมากมายขนาดนี้หรอก แค่เขียนไปเลยว่าไอ้สิงหามันยักยอกเงินบริษัทไป เพราะสาเหตุนั้นทำให้มันพ้นจากการอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการ..” ณิรินก้มหน้าลงเล็กน้อย “ค่ะท่าน ท่านต้องการให้ณิรินสั่งมื้อเที่ยงมาให้ไหมคะ” ดวงตาคมปรายสายตามามองหน้าเธอ ก่อนที่เขาจะเบนสายตากลับไปยังเอกสารที่อยู่ในมือ “ไม่ต้อง ผมว่าจะออกไปทานข้างนอก เลื่อนตารางงานออกให้หน่อยสิ..พอดีคุณแม่ต้องการให้ไปดูตัวน่ะ” นั่นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นในทุกสัปดาห์ ท่านประธานใหญ่มักจะสั่งให้ท่านประธานไปดูตัวอยู่เสมอ.. “ค่ะท่าน” ธีรักษ์ลุกขึ้นก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาณิริน “นี่คือเรื่องน่าเบื่อที่สุดในชีวิตของผมเลย..” “เช่นนั้นท่านประธานก็เลือกคู่ดูตัวสักคนแล้วแต่งงานด้วยให้รู้แล้วรู้รอดไป แบบนั้นท่านประธานใหญ่ก็จะไม่สั่งให้ท่านประธานไปดูตัวแล้วล่ะค่ะ” ณิรินแนะนำพร้อมกับแย้มยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่แสนน่ารัก “..ช่างเป็นคำแนะนำที่ไม่พูดออกมาจะดีกว่านะณิริน ไปรับผมด้วยล่ะ เพราะคืนนี้หลังดูตัวผมมีนัดต่อกับเพื่อน เดี๋ยวจะส่งโลเคชั่นไปก็แล้วกัน” เขาพูดออกมาพร้อมกับส่งกุญแจรถให้กับเธอ นี่คงเป็นอีกวันที่เวลาหลังเลิกงานของเธอถูกใช้ไปกับเรื่องของเราอีกแล้วสินะ “ค่ะท่าน” แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือก นอกจากยิ้มแล้วพูดคำว่า “ค่ะท่าน” ออกไป เขาเดินจากไปแล้ว แต่ทว่ากลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขายังวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอคล้ายกับว่าเขายังอยู่ตรงนี้ ณิรินยังคงจำวันที่เธอเข้ามาสัมภาษณ์งานได้อย่างชัดเจน วันนั้นท่านประธานเป็นคนสัมภาษณ์เธอเอง ครั้งแรกที่เจอกัน เธอตกใจจนแทบพูดออกมาไม่เป็นภาษา เพราะมันยากจะเชื่อที่คนหล่อมากขนาดที่เป็นพระเอกซีรีย์สบายๆ จะมาเป็นท่านประธานและเจ้านายของเธอ เขาดูดีในแบบที่หากเดินผ่านกันเพียงครั้งเดียว ผู้ที่พบเจอใบหน้านั้นก็คงไม่มีวันลืมเลือนใบหน้าที่พระเจ้าทรงปั้นอย่างเขาได้หรอก แล้วยิ่งในตอนที่เขาใส่แว่นตา ดาเมจความหล่อของเขายิ่งมีพลังทำลายล้างที่ต้องคูณสิบเข้าไป..ณิรินถามตัวเองอยู่ซ้ำๆ ว่าเธอจะทำงานกับเขาได้โดยที่ไม่หลงใหลและคลั่งไคล้เขาได้อย่างไรกัน จนเธอได้มาเห็นกับตาถึงการทำงานที่เหมือนโรงงานนรกของเขา..วันหยุดที่ไม่ได้หยุด และเวลาเลิกงานที่ไม่เคยมี! งานของเธอจะสิ้นสุดลงในตอนที่เธอส่งเขากลับไปที่บ้านเสร็จแล้วเท่านั้น แล้วเธอจะไปตกหลุมรักผู้ชายที่กลืนกินเวลาชีวิตของเธอไปได้ยังไงกันล่ะ ไม่มีทางซะหรอก! “พี่ณิรินคะ ผู้จัดการสิงหาต้องการพบท่านประธานด่วนเลยค่ะ” อิมเมจเดินเข้ามาพร้อมกับขนตาที่เปียกชุ่ม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอิมเมจคงจะถูกผู้จัดการต่อว่ามาอย่างแน่นอน “พี่เสียใจด้วยนะที่ต้องบอกว่าท่านประธานไม่อยู่น่ะ ผู้จัดการต้องนัดพบท่านประธานพรุ่งนี้แล้วล่ะ..” แต่การพ้นจากการเป็นผู้จัดการของคุณสิงหามันคือตอนเย็นของวันนี้ เพราะอย่างนั้นหากภายในวันนี้ไม่มีคำสั่งของท่านประธานหรือว่าท่านประธานใหญ่ เขาก็จะพ้นจากการเป็นผู้จัดการของบริษัทเราโดยสมบูรณ์.. ไม่มีพรุ่งนี้ให้เขาได้เข้ามาพบท่านประธานแล้วล่ะ“เท่าที่จำได้กูบอกว่าให้ณิรินไปส่ง แล้วมึงเสนอหน้ามาด้วยทำไมวะไอ้ธีร์”บรรยากาศในรถตอนนี้ดูเหมือนว่าจะร้อนระอุมากกว่าบรรยากาศในห้องทำงานเมื่อครู่อีก เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังพาคุณสิงหาไปที่รถ และเมื่อเธอกำลังจะเดินถึงรถ ท่านประธานก็ตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับเปิดประตูด้านหลังรถเพื่อยัดคุณสิงหาเข้าไปในนั้นแล้วเขาก็สั่งให้เธอขับรถ ส่วนตัวเองเดินเข้ามาเพื่อนั่งข้างคนขับ นี่มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่จนณิรินไม่รู้ว่าเธอจะรับมือกับความแปลกของท่านประธานอย่างไรดี“กูก็อยากไปหาหมอเหมือนกัน พอดีว่ากูไปต่อยหมามาก็เลยเจ็บมือ ทำไม..มีแต่มึงที่ไปหาหมอได้คนเดียวงั้นเหรอ”ตลอดทางทั้งสองคนก็จิกกัดกันไม่ยอมปล่อย จะว่ายังไงดีล่ะ ถึงแม้ว่าทั้งสองคน ทั้งท่านประธานและคุณสิงหาจะไม่ถูกกันแต่ทว่าในช่วงเวลาที่เขากำลังเถียงกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังมองเพื่อนกำลังทะเลาะกันมากกว่าแต่ณิรินไม่อยากจะพูดออกไปแบบนั้นหรอก เธอกลัวว่าท่านประธานจะไม่ชอบใจ ว่าแต่การที่เธอพยายามจะหนีท่านประธานออกมานั้นมันไม่ได้ผลอย่างนั้นสินะ เพราะต่อให้เธอพยายามหลบหนีเขามากแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามตามติดเธอมากแค่นั้น..แต่ช่าง
ขณะที่ณิรินกำลังยืนส่งยิ้มแห้งๆให้แก่ท่านประธานธีรักษ์ เสียงโวยวายที่ด้านนอกห้องก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาในห้องของท่านประธานอย่างไร้มารยาท และที่นี่มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะทำเรื่องเช่นนั้น นั่นก็คือผู้จัดการสิงหา..“ไอ้ธีร์..กูแค่เอาเงินกองกลางของบริษัทไปใช้ในโปรเจคใหม่ล่วงหน้า แค่นี้มึงถึงกับจะไล่กูออกจากการเป็นผู้จัดการเลยเหรอวะ!!”สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปไม่ได้คือเขาและไอ้สิงหาไม่ใช่แค่เจ้านายลูกน้องหรือว่าเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่ไอ้สิงหามันดันเป็นเพื่อนในวัยเด็กของเขาอีกต่างหาก แต่ทว่าในตอนที่เขาล่วงรู้ความสัมพันธ์ของแม่กับพ่อของไอ้สิงหา ธีรักษ์ก็เลือกที่จะเดินออกมาให้ห่างจากความสัมพันธ์เพื่อนในวัยเด็กและทุกๆ ความสัมพันธ์ที่มันเกิดขึ้นมาระหว่างเขาและครอบครัวของไอ้สิงหา รวมไปถึงเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่แสนเปราะบางของเขาและแม่ด้วยที่นี่คือบริษัทที่พ่อสร้างขึ้นมาและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมเสียที่นี่ไปให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น..ไม่เว้นแม้แต่แม่ของเขา“แต่สุดท้าย กูก็ไม่ได้ไล่มึงออกนี่..อีกทั้งในตอนที่อยู่ที่นี่กูคือเจ้านายและมึงคือลูกน้องนะ..ทำอะไรให้ม
“.....”ณิรินกำลังยืนมองใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกในห้องน้ำ เธอพาตัวเองกลับมาที่คอนโดได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่รู้เพียงว่าสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเธออาบน้ำและตั้งใจไปร้านขายยาแต่โทรศัพท์ของเธอดันดัง..และเบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ที่ถูกบันทึกชื่อเอาไว้ว่า “แม่”ณิรินหลับตาลงช้าๆ ..สิ่งที่เธอกำลังพบเจออยู่ในตอนนี้มันก็แย่มากพอทนแล้วทำไมแม่จะต้องโทรมาในวันนี้ด้วยนะแม่ทิ้งเธอไปมีสามีใหม่ตั้งแต่เธออายุพึ่งจะสองขวบ เธอใช้ชีวิตอยู่กับพ่อที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบ พ่อที่พยายามส่งเสียเธอจนเธอเรียนจบ เธอได้เข้าทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้ค่าตอบแทนในจำนวนเงินที่มากพอจะดูแลพ่อได้สบายๆ แต่พ่อกลับเสียไปในสองเดือนแรกที่เธอเริ่มทำงาน พ่อจากไปด้วยโรคร้ายที่รุมเร้า และก่อนที่พ่อจะจากไปพ่อบอกว่าชีวิตของพ่อนั้นมีเธอเป็นเหมือนของขวัญที่ดีที่สุด พ่อทำหน้าที่พ่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่นคือส่งเธอเรียนจบและได้เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวมีงานทำที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เพราะอย่างนั้นพ่อจึงจากไปอย่างหมดห่วงจริงๆ ..เธอโชคดีที่มีพ่อแบบนั้น แต่กับแม่..มันไม่ใช่แบบนั้นเลย“ค่ะแม่..”“น้องรินพ
คำถามนั้นทำให้ธีรักษ์งักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ริมฝีปากของเขามันจะแสยะยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเขาไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่าจะได้เห็นณิรินตอบรับหรือว่าให้ความร่วมมือกับเขาอย่างดีเยี่ยมเช่นนี้มาก่อนเลยและนี่คือความรู้สึกแปลกใจที่ดีมากทีเดียว เขาชอบอะไรที่มันคาดเดาไม่ได้แบบนี้มากๆ เลยล่ะ“ก็บ่อยครั้งมากเสียจนผมแทบจะแยกเรื่องจริงกับตอนที่คิดถึงคุณในฝันไม่ออกเลยล่ะ”คำหวานที่ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นของเขาทำให้เธออดรู้สึกสับสนไม่ได้เลย ณิรินพยายามบอกตัวเองแล้ว ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาในวันนี้มันเชื่อไม่ได้ และเธอไม่ควรเก็บเกี่ยวคำกล่าวแสนหอมหวานหรือว่าสายตาที่แสนร้อนแรงของเขาไปเฝ้าฝันถึง ไม่ควรรู้สึกเกินเลย..เธอก็แค่สนุกไปกับมันก็พอเพียงแต่แค่พูดน่ะมันง่าย ทว่าเมื่อถึงเวลาที่กระทำจริงๆ เธอจะสามารถลืมเลือนเรื่องราวเหล่านี้ได้จริงๆ งั้นเหรอ..“ยกเอวขึ้นมาให้ผมมองชัดๆ หน่อยสิ ที่ตอดลิ้นจนแทบขาดเพราะเขินงั้นเหรอ?”นิ้วมือของอีกฝ่ายค่อยๆ เปิดร่างกายของเธออย่างอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความรุ่มร้อน ปลายนิ้วของเขาสัมผัสบริเวณที่ถูกปิดสนิท ซึ่งชุ่มชั้นจากการปรนเปรอด้วยริมฝีปาก..ธีรักษ์คิดว่านี่มันมากเกินกว่าท
ริมฝีปากของเธอขยับคล้ายจะเอ่ยคำ แต่ยังไม่ทันได้เปล่งวาจา เขาก็ทาบทับริมฝีปากลงมาอีกครั้งแล้วเปลี่ยนแปลงความหนักเบาไปเรื่อยๆ กักเสียงอื้ออึงเอาไว้ในลำคอ ระดมจูบอย่างบ้าคลั่ง..เขายินยอมให้เธอผ่อนลมหายใจ แต่ทว่าไม่ยินยอมให้ผละจากปลายลิ้นนั้นสอดลึกคล้ายจะคว้านไล้ให้ทั่วทุกซอกมุม โรมรันเข้ามาดุจนักเดินทางกลางทะเลทรายที่พึ่งพบเจอแหล่งน้ำ เขาใช้ลิ้นไล่ต้อนจนร่างกายของเธอเสียการควบคุมนี่มันอันตรายแล้วละสิ เพราะดูเหมือนว่าสติที่เหลือของเธอกำลังจะถูกดูดกลืนไปอย่างช้าๆในจุดที่มองไม่เห็น ข้างในกลับพัวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทิ้งเอาไว้เพียงเสียงคลุมเครือที่หลุดรอดออกมา“อื้อ..”ในปากพัวพันจนชาหนึบขณะที่ฝ่ามือของเขากำลังมุดเข้าไปในกระโปรงของเธอไล้ตั้งแต่หัวเข่าไปจนถึงโคนขาอ่อนเธอตกใจและพยายามจะถอยหนี แต่ทว่าทั้งริมฝีปากที่กำลังถูกพันธนาการและมืออีกข้างของเขาที่ทำหน้าที่โอบกอดเธอเอาไว้..ร่างกายเล็กๆ ที่กำลังสูญเสียการควบคุมของณิรินจึงไม่อาจถอนหนีได้ตามใจ“เชื่อใจกันหน่อยสิณิริน..”ใบหน้าของเขาเคลื่อนลงต่ำในทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออกไป เรียวขาของเธอถูกแยกกว้าง ยังไม่ทันที่ณิรินจะได้ตั้งสติ ใบหน้
เธอหลบสายตาของเขาไม่ได้เลย..ความร้อนแรงที่แฝงอยู่ในดวงตาคู่นั้นทำให้ณิรินรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกสะกดเอาไว้ความฝันและความจริงมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เธอและเขายืนอยู่ข้างๆ กันก็จริงอยู่ แต่ทว่าหากได้ลองมองดูดีๆ ก็จะเห็นความเหลื่อมล้ำระหว่างเราทั้งสองคนเขามักจะยืนอยู่ข้างหน้าของเธออยู่เสมอ ส่วนเธอก็จะต้องยืนอยู่ด้านหลังและคอยทำตามที่เขาสิ่งที่เขาสั่งอยู่ตลอดเวลาเธอที่เขาเห็น ไม่ใช่ตัวเธอจริงๆ แม้แต่นิดเดียว หากเขาจะชื่นชอบณิรินที่ไม่ว่าเขาจะสั่งอะไร เธอก็จะตอบว่า “ค่ะท่าน” นั่นก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเขาไม่ได้ชื่นชมหรือว่าชื่นชอบที่ตัวของเธอ เขาแค่ชอบที่เธอว่าง่ายและไม่คิดจะถกเถียงเขาเลยแม้แต่นิดเดียว..“จะทำแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ ยังมีงานอีกมากมายที่ณิรินต้องกลับไปทำ..คำว่าไปเที่ยวมันห่างไกลจากความจริงมากเกินไปหน่อย”ธีรักษ์เริ่มขยับเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น จากที่เขาใช้เพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้นที่สัมผัสเธอ ในยามนี้เขากำลังใช้ฝ่ามือและอ้อมแขนเพื่อโอบ กอดณิรินเอาไว้อย่างถือวิสาสะ“เรื่องนั้นผมพูดจริงนะ..ถึงยังไงณิรินก็เป็นเลขาผมนี่ เจ้านายและเลขาจะออกไปพักผ่อนด้วยกัน โดย
Comments