LOGINอีกด้าน
ปึก!
เสียงวางแก้วเหล้าอย่างแรงดังขึ้นภายในห้องทำงานใหญ่ของนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของคาสิโน ขณะที่เตชินท์ยกมือขึ้นมานวดคลึงขมับเบา ๆ จากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เข้าเล่นงาน
วันนี้เป็นวันน่ารำคาญอีกวันหนึ่งที่นอกจากเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้ว ยังมีพวกนักพนันที่มาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ของเขาให้ต้องจัดการ
ภายในกายของชายหนุ่มร้อนรุ่มด้วยฤทธิ์ของเครื่องดื่มที่ดื่มเข้าไป ทำให้ตอนนี้เตชินท์มีความต้องการเป็นอย่างมากที่อยากจะระบายอารมณ์หงุดหงิดและร้อนรุ่มดังกล่าวกับใครสักคน
เขาจัดการหยิบโทรศัพท์เพื่อจะต่อสายหาลูกน้องให้หาผู้หญิงมาให้อย่างเช่นเคย ทว่าในจังหวะเดียวกันเสียงเปิดประตูห้องอย่างถือวิสาสะของคนที่เพิ่งเข้ามาก็ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“เธอ”
“นายครับ!” ชายฉกรรจ์จำนวนสองคนรีบตามหญิงสาวร่างแบบบางเข้ามาติด ๆ พร้อมกับกำลังจะมาลากตัวผู้บุกรุกออกไป แต่แล้วเมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นใคร พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องลูกสาวคนเล็กของนายใหญ่ทั้งสอง
“คุณหนู...”
“กูเพิ่งรู้ว่าระบบความปลอดภัยของเรามันห่วยจนคนนอกสามารถเข้ามาได้แบบนี้”
“ขะ...ขอโทษครับ”
เตชินท์ปรายตามองลูกน้องของตัวเองด้วยสายตาเยือกเย็น ก่อนจะละสายตากลับมาที่หญิงสาวซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้งเพื่อจะตำหนิเธอ
“เธอไม่คิดว่าตัวเองล้ำเส้น...”
“อึก...ช่วยลินด้วยค่ะ”
ท่าทางและน้ำเสียงที่แปลกไปของคนตรงหน้าทำให้มาเฟียหนุ่มต้องชะงักแล้วไล่สำรวจตามร่างกายของหญิงสาวเพื่อประเมินในสิ่งที่เธอพูด ระหว่างนั้นลลินก็พยายามที่จะลูบตามส่วนต่าง ๆ ของตัวเองไปด้วยเพื่อบรรเทาความร้อนรุ่มทั้งหมด
ความกลัวมากมายที่ประเดประดังเข้ามาทำให้ลลินมองหาแต่คนที่สามารถช่วยเหลือเธอได้เท่านั้น
‘แค่มาถึงตรงนี้ยังไงก็ปลอดภัยแล้ว’...เพราะมีทั้งเตชินท์และลูกน้องของเขาอยู่ด้วย ถึงแม้ที่ผ่านมาชายหนุ่มจะไม่ยอมรับเธอ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายเหมือนกับคำพูดที่เปล่งออกมา เท่านี้ลลินก็ยังสามารถเบาใจได้
“ผมว่าคุณหนูโดนยาหรือเปล่าครับ” คนที่ยืนอยู่ออกความเห็นหลังจากเห็นท่าทางของหญิงสาวในตอนนี้ แต่เตชินท์กลับไม่ได้แสดงสีหน้าที่ร้อนรนเท่ากับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่มาเฟียอย่างเขาน่าจะรู้ผลของยานี้ดีมากกว่าใคร
“ยางั้นเหรอ”
“ช่วยลินด้วยค่ะ มันร้อนไปหมดเลย” เธออ้อนวอนคนตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริก แต่ทว่าเตชินท์ก็ยังคงไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเช่นเดิม ความเงียบของเขายิ่งทำให้คนตัวเล็กตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
“อึก! งั้นลินจะโทรหาพี่ดิน”
“มันต้องมียาแก้ครับ” เสียงของคนด้านหลังทำให้มือเรียวที่กำลังจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ต้องชะงัก ก่อนที่บอดี้การ์ดทั้งสองคนจะปรึกษากับเจ้านายของตนเองเพื่อหาทางช่วยหญิงสาว
“นายครับ แต่ที่เราไม่มียาแก้” เพราะที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้ของแบบนั้น ถึงจะเป็นคาสิโนและสถานบันเทิงที่ค่อนข้างเป็นธุรกิจสีเทาก็ไม่ใช่ว่าที่นี่จะต้องมียาทุกชนิดที่ต้องการ พวกเขาแค่ขายยาที่ปลุกอารมณ์ให้กับลูกค้าก็เท่านั้น...ไม่จำเป็นต้องมีของไว้เพื่อแก้ยาชนิดนี้
“ถ้างั้นให้พวกผมไปหา...”
“ไม่ต้อง”
“พวกมึงออกไปรอข้างนอก เดี๋ยวผู้หญิงคนนี้กูจัดการเอง” ดวงตาคมลุ่มลึกฉายแววบางอย่างออกมา ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อจะดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินมาหาร่างบางที่ยืนอยู่
“ฮึก...คุณจะทำอะไรลินคะ”
น้ำตาใสไหลพรากมาอาบสองแก้มนวลด้วยความหวาดกลัว เธอทั้งกลัวสายตาที่คาดเดาไม่ได้ของเตชินท์ในตอนนี้ รวมถึงกลัวสิ่งที่ตัวเองดื่มเข้าไป หลากหลายอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มทำให้ลลินไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองเลือกขอความช่วยเหลือผิดคนหรือไม่ ทว่า...
“ฉันก็จะช่วยเธอนี่ไง” ปลายนิ้วชี้ของชายหนุ่มเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน สายตาของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
เธอต้องการเขา...ต้องการจะให้เตชินท์ช่วยทำให้เธอมีความสุขในค่ำคืนนี้
“คุณจะช่วยลินจริง ๆ ใช่ไหมคะ”
“อยู่ที่เธอว่าต้องการมันรึเปล่า”
“ละ...ลินต้องการคุณค่ะ”
“กินเหล้ามางั้นเหรอ?”
“อึก! ไม่ใช่ค่ะ” เพียงแค่ฝ่ามือหยาบที่ไล่สัมผัสร่างกายก็ทำให้เด็กสาวตรงหน้าเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอไล่มองความสมบูรณ์แบบของชายหนุ่มอย่างพิจารณา ทั้งปลายจมูกโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป ลำคอ และแผงอกแกร่งของเขาที่โผล่พ้นออกมาให้เห็น ทำให้ความปรารถนาในตัวของลลินเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ขณะที่เตชินท์ยกยิ้มมุมปากเมื่อเจอเรื่องน่าสนุกที่วันนี้ก็มีคนมาให้เขาระบายอารมณ์ถึงที่โดยไม่ต้องทำอะไร แถมคนนั้นยังเป็นคนที่ครอบครัวพยายามจะยัดเยียดสถานะ ‘น้องสาว’ ให้อีกต่างหาก
พรึ่บ!
แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรมากกว่านั้น สุดท้ายก็เป็นลลินเสียเองที่ทนต่อความต้องการไม่ไหว ร่างบางที่ยืนอยู่ปัดมือของชายหนุ่มซึ่งกำลังสัมผัสเธอออกอย่างแรง พร้อมกับก้าวเข้ามาประชิดตัวกับร่างกำยำ ปลายเท้าเล็กเขย่งขึ้นเพื่อจะให้ความสูงของตัวเองเสมอกับใบหน้าคมคาย ก่อนลลินจะเป็นฝ่ายประกบริมฝีปากเข้าหาเตชินท์อย่างอุกอาจ
“อืม...” เสียงครางดังออกมาจากลำคอของหญิงสาวเมื่อได้รับสัมผัสที่พึงพอใจจากชายหนุ่ม พร้อมกับท่อนแขนเรียวเล็กที่ยกขึ้นมาคล้องลำคอหนาของเตชินท์เอาไว้อัตโนมัติตามอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าในตอนนี้ เธอพยายามที่จะบดขยี้ริมฝีปากไปกับคนตรงหน้าเพื่อให้แนบชิดกับเขามากที่สุด
“อื้อ!!” ทว่าความเงอะงะของเด็กสาวก็ได้สร้างความขัดใจให้กับผู้ชายอย่างเตชินท์เป็นอย่างมาก เขาออกแรงรั้งเอวคอดเข้าหาตัวอย่างแรงแล้วเป็นฝ่ายบดขยี้ริมฝีปากสลับกับขบเม้มเพื่อให้อีกคนยอมเปิดปากออก ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเป็นฝ่ายสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันด้านในจนจูบที่เคยไร้เดียงสาในตอนแรกกลายเป็นรสจูบที่หนักหน่วงเมื่ออีกฝ่ายได้คุมเกมเอง
ขณะเดียวกันมือเรียวของลลินก็กำลังไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้าออกอย่างเร่งรีบเพื่อให้สัมผัสเขาได้มากกว่าเดิม ในตอนนี้สมองของเธอมีเพียงความต้องการเท่านั้น และมันก็เหมือนว่ายิ่งนานเข้าอารมณ์ปรารถนาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมตลอดเวลา
ซึ่งแน่นอนว่าความร้อนแรงของคนตรงหน้าสามารถทำให้ผู้ชายร้ายกาจอย่างเตชินท์พึงพอใจได้อย่างง่ายดาย เพราะเธอสามารถปรนนิบัติเขาได้ไม่ต่างจากผู้หญิงที่เรียกมาเลยแม้แต่น้อย
ทั้งคู่ยังคงบดจูบกันมาตลอดทางโดยมีเตชินท์ที่เป็นฝ่ายผลักดันร่างเล็กให้ไปที่ห้องนอนของเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก มือแกร่งออกแรงกระชากด้านหลังของชุดเดรสตัวบางออกอย่างแรงจนผ้าราคาแพงขาดวิ่น พร้อมกับถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกด้วยความชำนาญระหว่างทางที่เดินเข้ามา เมื่อมาถึงเตียงนอนขนาดใหญ่แล้วจึงออกแรงเหวี่ยงร่างของหญิงสาวลงบนเตียงตามอารมณ์ดิบของตัวเอง
พรึ่บ!
“โอ๊ย!”
ไม่รอให้อารมณ์ปรารถนาของหญิงสาวต้องขาดห้วง มาเฟียหนุ่มก็จัดการถอดเสื้อของตัวเองออกอย่างไม่ใยดีพร้อมกับก้าวขึ้นมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้ สองมือใหญ่ตรึงข้อมือของลลินไว้แน่นโดยไม่สนว่าเธอจะเจ็บเพราะแรงของเขาหรือไม่ ก่อนจะพ่นถ้อยคำร้ายกาจออกมา
“อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไง ถ้ารู้ว่าลูกสาวที่ใสซื่อของตัวเองมาขึ้นเตียงกับฉันแบบนี้”
สวบ!“อ่าส์...” เตชินท์หลุดเสียงครางออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อสามารถสอดใส่เข้าไปได้จนสุดความยาวแล้ว จากนั้นจึงเริ่มซอยสะโพกเข้าออกอย่างช้า ๆ เนื่องจากน้ำหล่อลื่นด้านในที่ทำให้เขาขยับได้สะดวกกว่าเดิม“นิ่มมากเลย” ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมากอบกุมเต้าอวบแล้วออกแรงบีบเคล้นไปตามความต้องการ โดยที่ช่วงล่างก็ยังคงออกแรงกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างไม่ลดละ เตชินท์โน้มใบหน้าลงไปฉกชิมความหวานจากเนื้อนุ่มจนยอมปทุมถันแข็งชันเป็นไต แล้วจึงไล่ขึ้นมาสูดดมความหอมจากลำคอขาวเนียนอย่างหลงใหล“อย่าทำรอยนะคะ อ๊ะ ๆ” สองแขนเรียวยกขึ้นมาโอบกอดแผ่นหลังแกร่งเอาไว้อย่างแนบชิดแล้วร้องบอกเสียงกระท่อนกระแท่นจากร่างกายของเธอที่กำลังโยกคลอนอยู่ ซึ่งเตชินท์เองก็ยอมทำตามความต้องการของลลินอย่างว่าง่ายเพราะเขารู้ดีว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่เทพพิพัฒน์ทั้งสองบ้านจะมารวมตัวกัน ดังนั้นภาพลักษณ์ของเธอจึงต้องดูดีที่สุดในสายตาของผู้ใหญ่“ยังตอดเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”“อ อื้อ!”“ไม่ให้ทำรอยแต่ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม?” เตชินท์เอ่ยถามคนใต้ร่างเสียงแหบพร่าหลังจากผละใบหน้าออกมาแล้ว โดยมือใหญ่ของเขาได้เอื้อมไปบีบที่ลำคอเล็กอย่างแรงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ดิบของตัว
หนึ่งเดือนต่อมา@โรงแรมเทพพิพัฒน์“คุยกับใครอยู่?” ร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามคนที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงเสียงเข้ม ขณะที่ลลินยกหัวขึ้นมาจากหมอนใบใหญ่เล็กน้อยแล้วตอบกลับไป“คุยกับพี่เทมป์ค่ะ พี่เขาซื้อน้องหมาตัวเล็กมาด้วย น่ารักมากเลย~”“อยู่บนเตียงกับพี่แต่พูดถึงผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ?”“หึงเหรอ~”“ถ้าบอกว่าหึงจะเลิกคุยไหม?” เขาล้มตัวลงนอนด้านข้างแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้นมานอนทาบทับบนแผงอกแกร่งซึ่งเป็นที่ที่ลลินชอบนอนอยู่เป็นประจำ“ม่ายยยย” เด็กสาวหัวเราะชอบใจตอนที่ปลายจมูกโด่งเลื่อนมาคลอดเคลียที่แก้มนวลเป็นเชิงหยอกล้อ เพราะเธอรู้ดีว่าเตชินท์ไม่ได้หึงเธอกับเทมป์แล้ว และทั้งคู่ก็เคยคุยกันอยู่บ่อย ๆ จากการไปหาเธอที่ร้านดอกไม้ในทุกวันหยุด ซึ่งเทมป์ก็มาเป็นลูกค้าประจำ รวมถึงเตชินท์ที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอเช่นกัน“สัปดาห์หน้าพี่เทมป์มีฉลองสอบเสร็จกับเพื่อน ๆ เราชวนพี่เขามาที่ผับของเราดีไหมคะ”“ตามใจ เพราะยังไงลินก็มีอำนาจตัดสินใจเท่าพี่อยู่แล้ว”“งั้นลินบอกเลยแล้วกัน”“ว่าแต่เราเหลือเวลากันอีกกี่ชั่วโมงเหรอคะ?”“น่าจะประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง เดี๋ยวไอ้ติณมันจะบอกอีกที อยากไปไหนก่อนไหม?”
“เดี๋ยวนี้ตัวติดกับพี่เตจนลืมพ่อกับแม่แล้วนะ” ฉัตรพลหยอกล้อคนที่เดินเข้ามากับภรรยาของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนเด็กสาวมักจะอยู่บ้านตลอดเวลาที่ว่าง แต่ดูเหมือนในตอนนี้เธอจะใช้เวลาอยู่ที่อื่นเสียมากกว่า“ฮืออ หนูไม่ได้ลืมทุกคนนะคะ” ลลินแสร้งเบะปากราวกับจะร้องไห้เพื่อเรียกความเห็นใจ เพราะว่าตอนนี้เหมือนทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดถึงความคลั่งรักของทั้งคู่ที่ตัวติดกันตลอดเวลา“ไม่ต้องมาทำตาใสเลย พ่อไม่สงสารหรอกนะ”“ไม่ต้องไปสนใจหรอก” เตชินท์เอ่ยบอกเด็กสาวเสียงเรียบแล้วรั้งตัวของเธอมานั่งบนหน้าตักจนลลินไม่ทันตั้งตัว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเขินอายมากกว่าเดิม“พี่เตปล่อยลินก่อนค่ะ พ่อกับแม่อยู่นะ”“แค่นั่งตัก”“แต่ตอนนี้เรากำลังจะกินข้าวกันนะคะ จะนั่งแบบนี้ได้ยังไง”“ลินกินก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยกิน”“อย่าไปตามใจพี่เขามากนะลิน” กานต์พิชชาเอ่ยปรามลูกสาวคนเล็กที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งของลูกสะใภ้หลังได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ที่คล้ายกับว่าลูกชายของเธอจะเอาแต่ใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้อยู่กับเมียตัวเล็ก แต่ฉัตรพลกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วหันไปบอกภรรยาของตนเอง“ไม่รู้ว่าใครตามใจใครกันแน่นะ”“แล้วเป็นยังไงบ้าง
“แฮ่ก~” ลลินหอบหายใจออกมาแล้วล้มตัวลงนอนทาบทับบนแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง ขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่บนโซฟาโดยมีเตชินท์เป็นคนที่นอนอยู่และลลินนั่งคร่อมด้านบน จุดเชื่อมต่อของทั้งสองคนยังคงเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แบบตอนแรก“เมียเด็กนี่แรงเยอะจังเลยนะ” เขาเอ่ยหยอกล้อโดยที่มือยังคงลูบแผ่นหลังชุ่มเหงื่อไปด้วยเบา ๆ“พี่เตเองก็แรงเยอะเหมือนกันแหละค่ะ ทำตรงนั้นของลินแสบไปหมดเลย”“แล้วชอบไหม?”“ชอบค่ะ” มาเฟียหนุ่มหลุดยิ้มกับคำตอบทะเล้นของคนรักก่อนเขาจะเป็นฝ่ายอุ้มเธอไปทำความสะอาดคราบน้ำเชื้อเหนอะหนะอย่างเช่นทุกครั้ง และกลับมานอนบนเตียงที่ตอนนี้ทั้งผ้าห่มและผ้าปูที่นอนกระจัดกระจายอย่างไม่เป็นระเบียบ“กอดของพี่เตอุ่นจังเลย~” ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกหน้าเข้าที่แผงอกแกร่งแบบที่ชอบทำเพื่อหาความอบอุ่นจากร่างกำยำแล้วเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เตชินท์ยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนวันแรกที่ตัดสินใจคบหากันจนถึงตอนนี้“มีอะไรจะบอกพี่แค่นี้เองเหรอ?”“ต้องบอกอะไรอีกเหรอคะ”“ลิน”“ฮ่า ๆ ลินคิดว่าพี่จะฟังจนเบื่อแล้วซะอีก”“อยากฟังอีก แล้วก็ไม่มีวันเบื่อด้วย จะอีกกี่ปีก็อยากฟังทุกวัน”“เพราะพี่ยังเสมอต้นเสมอปลายหรอกนะคะ ลินเลยพูดคำนี้
“ทำไมอ้อนเก่ง” ไม่ใช่ว่าลลินไม่เคยเป็นฝ่ายควบคุมเกมรักด้วยตัวเอง และไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยอ้อนเขาแบบนี้ แต่ว่าท่าทางที่ดูเหมือนแมวตัวเล็กน่ารักนั้นทำเอาหัวใจแกร่งของมาเฟียอย่างเขาหัวใจอ่อนยวบแล้วอดที่จะถามไม่ได้ถึง ‘ความน่ารัก’ ที่นับวันลลินก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ“ลินเห็นพี่ทำเพื่อลินมามากแล้วค่ะ ลินเลยอยากตอบแทนให้พี่มีความสุขบ้าง”“ที่ทำทั้งหมดเพราะแค่อยากตอบแทนงั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ เพราะหนูก็ต้องการเหมือนกัน”เตชินท์ยกยิ้มกับคำพูดเอาใจของคนตัวเล็กก่อนที่ลลินจะเป็นฝ่ายขยับขึ้นมาคร่อมบนหน้าตักของเขาไว้ แก่นกายใหญ่ที่เพิ่งอ่อนตัวลงกลับมาแข็งชันอีกครั้งหลังจากที่ถูกมือนุ่มสัมผัสได้สักพักลลินจัดการยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจับปลายหัวเห็ดแดงก่ำมาจ่อตรงปากร่องสวาทของตัวเอง จากนั้นจึงกดตัวลงช้า ๆ โดยที่มีมือของเตชินท์คอยประคองเอวคอดเอาไว้“อ อื้อ~”“ทำแบบนี้มันก็ยิ่งเข้าไปลึกสิ” เตชินท์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียงเพื่อที่จะได้โอบกอดคนตัวเล็กได้สะดวกมากกว่าเดิมโดยที่มืออีกข้างของเขาก็กำลังบีบเคล้นหน้าอกใหญ่ไปด้วย“อยากขยับไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ
“ขอเหมือนเดิมหนึ่งแก้วค่ะ” เด็กสาวในชุดสายเดี่ยวยืนสั่งบาร์เทนเดอร์เสียงหวานหลังจากที่เพื่อนทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับไปแล้ว เธอคิดว่าจะดื่มต่ออีกสักแก้วแล้วค่อยไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ของเตชินท์เพื่อคิดถึงเขาไปด้วย ระหว่างนั้นมือเรียวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะดูว่าแฟนหนุ่มได้อ่านข้อความที่เธอส่งไปหรือยัง“อ๊ะ!”“แอบมาหนีเที่ยวแบบนี้ไม่กลัวโดนทำโทษเหรอครับ” ทว่าในจังหวะที่กำลังปลดล็อคหน้าจอ ท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มบางคนก็สอดเอามาโอบที่เอวคอดของลลินอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงทุ้มที่เอ่ยประชิดกับใบหูเล็กและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยพาลทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ เธอรีบหมุนตัวกลับไปแล้วตวัดแขนโอบกอดลำคอหนาไว้แน่นด้วยความคิดถึง“ที่รักกลับมาหาหนูแล้ว”“แอบหนีพี่เที่ยวงั้นเหรอ?” เตชินท์โอบกอดที่เอวบางเอาไว้พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมบริเวณไหล่มนด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบแผ่นหลังบางของคนตัวเล็กเบา ๆ ไปด้วย“หนูส่งข้อความบอกแล้วนะคะ แต่พี่เตไม่อ่านเอง รู้ไหมว่าตลอดสองวันที่ไม่ได้คุยกันหนูคิดถึงมากแค่ไหน”“พี่รีบทำงานเพื่อจะกลับมาหาเด็กน้อยแถวนี้อยู่ แล้วก็ว่าจะกลับมาเซอร์ไพรส







