LOGIN“กลับมาแล้ว~”
“โอ๊ย! นี่แกเดินให้มันดี ๆ หน่อยสิ” เสียงโหวกเหวกของเพื่อนสาวทั้งสามคนช่วยทำลายบรรยากาศชวนอึดอัดได้เป็นอย่างดี ลลินรีบวางแก้วน้ำผลไม้ในมือลงแล้วตั้งท่าจะเข้าไปช่วยประคองใบข้าวและแก้มเอาไว้ แต่ตั้มก็ได้เข้ามาตัดหน้าเพื่อช่วยเพื่อนของตัวเองเสียก่อน จึงทำให้เธอได้แค่ยืนมองเท่านั้น “ทำไมเมากันขนาดนี้เนี่ย ตอนออกไปยังไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยนะ” “ก็เพื่อนเธอน่ะสิยัยลิน บอกว่าจะออกไปล่าแต่ดูแล้วน่าจะโดนล่าเองมากกว่า” ฝ้ายกระแทกลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายหลังเห็นสภาพของเพื่อนรักทั้งสองคน “แต่ยัยข้าวล่าสำเร็จน้า~ แต่ฉันนี่สิ ยังไม่เห็นมีใครเลย” “ขอโทษนะครับ พอดีผมมารับน้องข้าวกลับด้วยกัน” ยังไม่ทันที่แก้มจะพูดจบ เสียงทุ้มของชายหนุ่มที่ดูอายุไล่เลี่ยกับพวกเธอก็ดังขึ้นก่อน เขาเหลือบมองหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยืนอยู่เล็กน้อยด้วยสายตาที่แสดงออกว่าถูกใจลลินขนาดไหน ยิ่งทำให้ตั้มรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิมที่ไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็อยากเข้ามาจีบผู้หญิงของเขาทั้งนั้น “ข้าวอยู่นี่ไงครับ” ตั้มพูดด้วยเสียงไม่พอใจทำให้อีกคนต้องละสายตาจากลลินอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเดินเข้ามาพยุงใบข้าวเพื่อกลับไปด้วยกันแทน “ฉันก็อยากมีหนุ่ม ๆ พากลับไปแบบนี้บ้าง~” “เธอก็กลับไปกับฉันนี่แหละ!” “แล้วเธอล่ะ จะกลับด้วยกันไหม?” ฝ้ายหันมาถามลลิน “พวกเธอจะกลับกันเลยงั้นเหรอ?” “ใช่น่ะสิ แม่ของยัยแก้มโทรตามแล้ว ฉันยังไม่เมาเท่าไหร่เลยว่าจะขับรถไปส่ง เธอจะไปด้วยกันไหม” “เดี๋ยวฉันไปส่งลินเอง” ยังไม่ทันที่ลลินจะได้ตอบฝ้ายไป ตั้มก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน เธอมองเขาด้วยสายตาที่อึดอัดใจทำให้ชายหนุ่มต้องเฉลยจุดประสงค์ของตัวเองให้หญิงสาวเข้าใจ “ทางที่เธอไปส่งแก้มมันคนละทางกับบ้านของลินไม่ใช่หรือไง จะย้อนไปย้อนมาทำไมอีก” “งั้นแกไปส่งลินนะ ฉันพายัยแก้มกลับก่อน...โอเคไหมลิน?” “อ อื้ม เธอพาแก้มกลับก่อนได้เลย” “โอเค แล้วเจอกันวันจันทร์นะ” ฝ้ายโบกมือลาเพื่อนรักตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าของแก้มขึ้นมาสะพายเอาไว้ โดยมีตั้มที่คอยช่วยพยุงหญิงสาวที่เริ่มไม่ค่อยมีสติเท่าไรนักเพื่อพาไปที่รถ ซึ่งในตอนแรกลลินเองก็กำลังจะเดินตามทั้งสามคนไป ทว่าจู่ ๆ มันก็มีความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นมา “อึก...” เท้าเล็กหยุดชะงักในตอนที่ภายในกายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มอย่างน่าประหลาด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าตอนเธอนั่งคุยกับตั้ม หญิงสาวไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ทว่าตอนนี้มันกลับมีอารมณ์บางอย่างที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาให้ลลินไวต่อสัมผัสทุกอย่างเป็นอย่างมาก ซึ่งหากจะคิดว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มที่ดื่มเข้าไปก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเธอก็ดื่มแค่น้ำผลไม้เท่านั้น ไม่ได้แตะต้องกับของมึนเมาหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่น้อย ร่างบางพยายามบีบแขนของตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผล เธอพยายามที่จะตั้งสติอยู่พักใหญ่ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องปกติ ลลินจึงได้รีบเดินกลับไปหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาเพื่อจะใช้โทรศัพท์ในการติดต่อกับคนของแผ่นดินที่เธอรู้จัก ทว่าในจังหวะเดียวกันก็เป็นช่วงที่ตั้มเดินกลับมาที่โต๊ะพอดี “หายไปไหนวะ” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณหรืออะไรบางอย่างที่ทำให้ลลินรีบไปหลบอยู่ตรงด้านหลังโซฟาทันทีที่เห็นเพื่อนเดินกลับเข้ามา สายตาของชายหนุ่มในตอนนี้สร้างความรู้สึกน่าหวาดกลัวให้กับเด็กสาวเป็นอย่างมากจนเธออยากที่จะหนีออกไป แม้จะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนวางยาให้กับตัวเองก็ตาม ลลินคลานออกมาด้วยความระวังเพื่อที่จะไปหาคนของแผ่นดินที่คอยรักษาความปลอดภัยอยู่ แต่ว่าการกระทำของเธอก็ไม่สามารถที่จะรอดพ้นสายตาของชายหนุ่มที่กำลังมองหาได้ “ลิน!” ด้วยความตกใจทำให้ลลินรีบประคองร่างกายออกมาจากตรงนั้นอย่างทุลักทุเล เธอตรงไปยังลิฟต์ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วเข้าไปด้านในด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับกดไปที่ชั้นบนสุดเพื่อจะหนีให้พ้นจากอีกคน “แฮ่ก...” เมื่อกี้เธอไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม? ทำไมสายตาและท่าทีของตั้มถึงเป็นแบบนั้น เขาดูไม่เหมือนกับคนที่เธอรู้จักเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างไรตอนนี้เธอไม่มีสติพอที่จะมาคิดในเรื่องแบบนั้นแล้ว เพราะร่างกายของลลินกำลัง ‘มีความต้องการ’ เป็นอย่างมาก ทันทีที่ลิฟต์เปิดยังชั้นเป้าหมายบนสุด หญิงสาวก็รีบเดินออกมาเพื่อหาที่หลบซ่อนตัวทันทีเพื่อจะติดต่อกับบอดีการ์ดเพื่อช่วยเหลือเธอสวบ!“อ่าส์...” เตชินท์หลุดเสียงครางออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อสามารถสอดใส่เข้าไปได้จนสุดความยาวแล้ว จากนั้นจึงเริ่มซอยสะโพกเข้าออกอย่างช้า ๆ เนื่องจากน้ำหล่อลื่นด้านในที่ทำให้เขาขยับได้สะดวกกว่าเดิม“นิ่มมากเลย” ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมากอบกุมเต้าอวบแล้วออกแรงบีบเคล้นไปตามความต้องการ โดยที่ช่วงล่างก็ยังคงออกแรงกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างไม่ลดละ เตชินท์โน้มใบหน้าลงไปฉกชิมความหวานจากเนื้อนุ่มจนยอมปทุมถันแข็งชันเป็นไต แล้วจึงไล่ขึ้นมาสูดดมความหอมจากลำคอขาวเนียนอย่างหลงใหล“อย่าทำรอยนะคะ อ๊ะ ๆ” สองแขนเรียวยกขึ้นมาโอบกอดแผ่นหลังแกร่งเอาไว้อย่างแนบชิดแล้วร้องบอกเสียงกระท่อนกระแท่นจากร่างกายของเธอที่กำลังโยกคลอนอยู่ ซึ่งเตชินท์เองก็ยอมทำตามความต้องการของลลินอย่างว่าง่ายเพราะเขารู้ดีว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่เทพพิพัฒน์ทั้งสองบ้านจะมารวมตัวกัน ดังนั้นภาพลักษณ์ของเธอจึงต้องดูดีที่สุดในสายตาของผู้ใหญ่“ยังตอดเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”“อ อื้อ!”“ไม่ให้ทำรอยแต่ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม?” เตชินท์เอ่ยถามคนใต้ร่างเสียงแหบพร่าหลังจากผละใบหน้าออกมาแล้ว โดยมือใหญ่ของเขาได้เอื้อมไปบีบที่ลำคอเล็กอย่างแรงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ดิบของตัว
หนึ่งเดือนต่อมา@โรงแรมเทพพิพัฒน์“คุยกับใครอยู่?” ร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามคนที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงเสียงเข้ม ขณะที่ลลินยกหัวขึ้นมาจากหมอนใบใหญ่เล็กน้อยแล้วตอบกลับไป“คุยกับพี่เทมป์ค่ะ พี่เขาซื้อน้องหมาตัวเล็กมาด้วย น่ารักมากเลย~”“อยู่บนเตียงกับพี่แต่พูดถึงผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ?”“หึงเหรอ~”“ถ้าบอกว่าหึงจะเลิกคุยไหม?” เขาล้มตัวลงนอนด้านข้างแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้นมานอนทาบทับบนแผงอกแกร่งซึ่งเป็นที่ที่ลลินชอบนอนอยู่เป็นประจำ“ม่ายยยย” เด็กสาวหัวเราะชอบใจตอนที่ปลายจมูกโด่งเลื่อนมาคลอดเคลียที่แก้มนวลเป็นเชิงหยอกล้อ เพราะเธอรู้ดีว่าเตชินท์ไม่ได้หึงเธอกับเทมป์แล้ว และทั้งคู่ก็เคยคุยกันอยู่บ่อย ๆ จากการไปหาเธอที่ร้านดอกไม้ในทุกวันหยุด ซึ่งเทมป์ก็มาเป็นลูกค้าประจำ รวมถึงเตชินท์ที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอเช่นกัน“สัปดาห์หน้าพี่เทมป์มีฉลองสอบเสร็จกับเพื่อน ๆ เราชวนพี่เขามาที่ผับของเราดีไหมคะ”“ตามใจ เพราะยังไงลินก็มีอำนาจตัดสินใจเท่าพี่อยู่แล้ว”“งั้นลินบอกเลยแล้วกัน”“ว่าแต่เราเหลือเวลากันอีกกี่ชั่วโมงเหรอคะ?”“น่าจะประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง เดี๋ยวไอ้ติณมันจะบอกอีกที อยากไปไหนก่อนไหม?”
“เดี๋ยวนี้ตัวติดกับพี่เตจนลืมพ่อกับแม่แล้วนะ” ฉัตรพลหยอกล้อคนที่เดินเข้ามากับภรรยาของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนเด็กสาวมักจะอยู่บ้านตลอดเวลาที่ว่าง แต่ดูเหมือนในตอนนี้เธอจะใช้เวลาอยู่ที่อื่นเสียมากกว่า“ฮืออ หนูไม่ได้ลืมทุกคนนะคะ” ลลินแสร้งเบะปากราวกับจะร้องไห้เพื่อเรียกความเห็นใจ เพราะว่าตอนนี้เหมือนทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดถึงความคลั่งรักของทั้งคู่ที่ตัวติดกันตลอดเวลา“ไม่ต้องมาทำตาใสเลย พ่อไม่สงสารหรอกนะ”“ไม่ต้องไปสนใจหรอก” เตชินท์เอ่ยบอกเด็กสาวเสียงเรียบแล้วรั้งตัวของเธอมานั่งบนหน้าตักจนลลินไม่ทันตั้งตัว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเขินอายมากกว่าเดิม“พี่เตปล่อยลินก่อนค่ะ พ่อกับแม่อยู่นะ”“แค่นั่งตัก”“แต่ตอนนี้เรากำลังจะกินข้าวกันนะคะ จะนั่งแบบนี้ได้ยังไง”“ลินกินก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยกิน”“อย่าไปตามใจพี่เขามากนะลิน” กานต์พิชชาเอ่ยปรามลูกสาวคนเล็กที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งของลูกสะใภ้หลังได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ที่คล้ายกับว่าลูกชายของเธอจะเอาแต่ใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้อยู่กับเมียตัวเล็ก แต่ฉัตรพลกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วหันไปบอกภรรยาของตนเอง“ไม่รู้ว่าใครตามใจใครกันแน่นะ”“แล้วเป็นยังไงบ้าง
“แฮ่ก~” ลลินหอบหายใจออกมาแล้วล้มตัวลงนอนทาบทับบนแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง ขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่บนโซฟาโดยมีเตชินท์เป็นคนที่นอนอยู่และลลินนั่งคร่อมด้านบน จุดเชื่อมต่อของทั้งสองคนยังคงเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แบบตอนแรก“เมียเด็กนี่แรงเยอะจังเลยนะ” เขาเอ่ยหยอกล้อโดยที่มือยังคงลูบแผ่นหลังชุ่มเหงื่อไปด้วยเบา ๆ“พี่เตเองก็แรงเยอะเหมือนกันแหละค่ะ ทำตรงนั้นของลินแสบไปหมดเลย”“แล้วชอบไหม?”“ชอบค่ะ” มาเฟียหนุ่มหลุดยิ้มกับคำตอบทะเล้นของคนรักก่อนเขาจะเป็นฝ่ายอุ้มเธอไปทำความสะอาดคราบน้ำเชื้อเหนอะหนะอย่างเช่นทุกครั้ง และกลับมานอนบนเตียงที่ตอนนี้ทั้งผ้าห่มและผ้าปูที่นอนกระจัดกระจายอย่างไม่เป็นระเบียบ“กอดของพี่เตอุ่นจังเลย~” ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกหน้าเข้าที่แผงอกแกร่งแบบที่ชอบทำเพื่อหาความอบอุ่นจากร่างกำยำแล้วเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เตชินท์ยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนวันแรกที่ตัดสินใจคบหากันจนถึงตอนนี้“มีอะไรจะบอกพี่แค่นี้เองเหรอ?”“ต้องบอกอะไรอีกเหรอคะ”“ลิน”“ฮ่า ๆ ลินคิดว่าพี่จะฟังจนเบื่อแล้วซะอีก”“อยากฟังอีก แล้วก็ไม่มีวันเบื่อด้วย จะอีกกี่ปีก็อยากฟังทุกวัน”“เพราะพี่ยังเสมอต้นเสมอปลายหรอกนะคะ ลินเลยพูดคำนี้
“ทำไมอ้อนเก่ง” ไม่ใช่ว่าลลินไม่เคยเป็นฝ่ายควบคุมเกมรักด้วยตัวเอง และไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยอ้อนเขาแบบนี้ แต่ว่าท่าทางที่ดูเหมือนแมวตัวเล็กน่ารักนั้นทำเอาหัวใจแกร่งของมาเฟียอย่างเขาหัวใจอ่อนยวบแล้วอดที่จะถามไม่ได้ถึง ‘ความน่ารัก’ ที่นับวันลลินก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ“ลินเห็นพี่ทำเพื่อลินมามากแล้วค่ะ ลินเลยอยากตอบแทนให้พี่มีความสุขบ้าง”“ที่ทำทั้งหมดเพราะแค่อยากตอบแทนงั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ เพราะหนูก็ต้องการเหมือนกัน”เตชินท์ยกยิ้มกับคำพูดเอาใจของคนตัวเล็กก่อนที่ลลินจะเป็นฝ่ายขยับขึ้นมาคร่อมบนหน้าตักของเขาไว้ แก่นกายใหญ่ที่เพิ่งอ่อนตัวลงกลับมาแข็งชันอีกครั้งหลังจากที่ถูกมือนุ่มสัมผัสได้สักพักลลินจัดการยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจับปลายหัวเห็ดแดงก่ำมาจ่อตรงปากร่องสวาทของตัวเอง จากนั้นจึงกดตัวลงช้า ๆ โดยที่มีมือของเตชินท์คอยประคองเอวคอดเอาไว้“อ อื้อ~”“ทำแบบนี้มันก็ยิ่งเข้าไปลึกสิ” เตชินท์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียงเพื่อที่จะได้โอบกอดคนตัวเล็กได้สะดวกมากกว่าเดิมโดยที่มืออีกข้างของเขาก็กำลังบีบเคล้นหน้าอกใหญ่ไปด้วย“อยากขยับไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ
“ขอเหมือนเดิมหนึ่งแก้วค่ะ” เด็กสาวในชุดสายเดี่ยวยืนสั่งบาร์เทนเดอร์เสียงหวานหลังจากที่เพื่อนทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับไปแล้ว เธอคิดว่าจะดื่มต่ออีกสักแก้วแล้วค่อยไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ของเตชินท์เพื่อคิดถึงเขาไปด้วย ระหว่างนั้นมือเรียวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะดูว่าแฟนหนุ่มได้อ่านข้อความที่เธอส่งไปหรือยัง“อ๊ะ!”“แอบมาหนีเที่ยวแบบนี้ไม่กลัวโดนทำโทษเหรอครับ” ทว่าในจังหวะที่กำลังปลดล็อคหน้าจอ ท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มบางคนก็สอดเอามาโอบที่เอวคอดของลลินอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงทุ้มที่เอ่ยประชิดกับใบหูเล็กและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยพาลทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ เธอรีบหมุนตัวกลับไปแล้วตวัดแขนโอบกอดลำคอหนาไว้แน่นด้วยความคิดถึง“ที่รักกลับมาหาหนูแล้ว”“แอบหนีพี่เที่ยวงั้นเหรอ?” เตชินท์โอบกอดที่เอวบางเอาไว้พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมบริเวณไหล่มนด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบแผ่นหลังบางของคนตัวเล็กเบา ๆ ไปด้วย“หนูส่งข้อความบอกแล้วนะคะ แต่พี่เตไม่อ่านเอง รู้ไหมว่าตลอดสองวันที่ไม่ได้คุยกันหนูคิดถึงมากแค่ไหน”“พี่รีบทำงานเพื่อจะกลับมาหาเด็กน้อยแถวนี้อยู่ แล้วก็ว่าจะกลับมาเซอร์ไพรส







