แชร์

บทที่ 1198

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ซ่งซีซีอพยพนักเรียนและผู้ปกครองอย่างเป็นระเบียบไปก่อน โดยไม่บอกให้พวกเขาเก็บเป็นความลับ เพราะเก็บไว้ไม่ได้แล้ว

จากนั้นก็ให้หงเซียวไปเชิญให้ชิงเชวี่ยและคนจากสำนักเขตจิงจ้าวมา คนผู้นี้จะต้องถูกมัดตัวไปสอบสวนอย่างแน่นอน และเห็นได้ชัดว่าเขาถูกวางยา ที่เชิญชิงเชวี่ยก็เพื่อตรวจดูว่าใช้ยาชนิดใด

ส่วนคนที่หลบหนีก็ถูกลู่เจินพาคนไปจับตัวมา และพวกเขาก็ถูกนำตัวกลับมาทั้งหมด

คนอื่นๆ เริ่มมีสติขึ้นแล้ว แต่คนที่ยังไม่มีสติ เมื่อมองดูซ่งซีซีและหงเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย

ซ่งซีซีเข้าไปกอดหยานหรูอวี้ก่อน ยานหรูอวี้ก็สงบลง แล้วนางก็หันกลับมาปลอบซ่งซีซีว่า "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร"

“เด็กโง่ เจ้าไม่ควรพูดแบบนั้น เจ้ากำลังทำลายตัวเอง” กั๋วไท่ฮูหยินรู้สึกปวดใจแทนนาง ถอนหายใจเฮือกๆ “แบบนี้จะทำอย่างไรดี”

รอยยิ้มที่สั่นเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าซีดเซียวของหยานหรูอวี้ "กั๋วไท่ฮูหยินไม่ต้องห่วงข้าเจ้าค่ะ เดิมทีข้าก็ไม่คิดจะแต่งงานอยู่แล้ว สำหรับข้าชื่อเสียงเป็นเพียงภาระที่หนักอึ้ง ตอนนี้ข้าไม่เหลือชื่อเสียงแล้ว กลับทำอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น"

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่เจ้านำภัยพิบัติมาสู่ตัวเอง ผู้คนภายนอก...เ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1657

    เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉิน ยี่ฝางก็โมโหเป็นอย่างยิ่ง แต่เพราะนางรู้ดีว่าฝีมือของตนเทียบไม่ติดกับคนอื่น หากโต้แย้งไปก็มีแต่ขายหน้าตัวเอง ไหนๆ ก็ไม่ต้องยืนยามอยู่แล้ว จะทนโดนดูแคลนบ้างก็ช่างมันเถิดกุ้นเอ่อร์กับหมั่นโถวเดิมทีคิดว่าจะผลัดเวรกันเพียงสองคนก็พอแล้ว แต่ซ่งซีซีเห็นว่าทุกคนต่างเหนื่อยล้า จึงให้ผลัดกันยืนยามทั้งห้าคน จะได้พักผ่อนกันมากขึ้นหน่อยซ่งซีซีเป็นคนแรกที่รับหน้าที่เวรยาม นางถือแส้พิงประตูนั่งหันหลังพิงไว้ ประตูผุพังบานนั้นไม่อาจล็อกได้ จึงได้เพียงปิดพอเป็นพิธี ข้างนอกมืดมิดสนิท เงียบสงัดไร้เสียงรบกวนเรือนผุหลังนี้ไม่ได้มีคนอยู่มานานแล้ว ฝุ่นจับเต็มพื้น แต่ทุกคนล้วนเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องลำบาก ดังนั้นแม้แต่เสิ่นว่านจือก็ไม่ปริปากบ่น นอนลงบนพื้นดินทันทีแม้ซ่งซีซีจะเหนื่อย แต่หาได้ง่วงไม่ สมองแจ่มชัดเป็นพิเศษ ทั้งตัวยังอยู่ในสภาพตื่นตัวสูงสุดนางรู้ว่า องค์รัชทายาทแห่งซีจิงอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ เพียงแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของเมืองนางต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการเผชิญหน้ากับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวหรือไม่ก็ตาม เพราะความเป็นความตายของเขา ไม่ควรมีความเกี่ยวข้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1656

    เขาเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับยี่ฝาง แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “บางทีเจ้าว่าถูก แม่ทัพใหญ่เซียวอาจต้องการหนุนนางจริงๆ”“ว่าไงนะ?” ดวงตายี่ฝางพลันสว่างวาบ “เจ้าพบว่ามีคนคอยคุ้มกันลับๆ หรือ?”จ้านเป่ยว่างตอบเสียงเบา “คลังเสบียงตั้งอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ ปกติเราควรพบหน่วยลาดตระเวนตามทางบ้าง แต่กลับไม่เจอเลยสักครั้ง และพวกเราก็เลือกเดินทางเลาะเขา ใช้เส้นทางเล็ก ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง พวกเขาจะรู้ทางได้อย่างไร? ข้าสังเกตอย่างละเอียด จึงพบว่ามีคนทิ้งสัญลักษณ์ไว้ แสดงว่ามีคนล่วงหน้าไปสำรวจเส้นทาง อาจตอนนี้พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้คลังเสบียงแล้วก็ได้”เดิมทียี่ฝางก็คิดว่าแม่ทัพใหญ่เซียวไม่มีทางปล่อยให้หลานสาวเสี่ยงอันตรายตามลำพัง ต้องวางแผนไว้แน่นอน พอได้ยินจ้านเป่ยว่างพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งยืนยันความคิดในใจ นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตนตัดสินใจมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงพลาดโอกาสสร้างผลงานโดยเปล่า“ยังดีที่เจ้าเฉลียวฉลาด ยืนกรานจะมาด้วย” ยี่ฝางเอ่ยชมด้วยความชื่นชมจ้านเป่ยว่างส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว อยากจะบอกว่าเขาเพิ่งมารู้ตอนนี้ แต่เมื่อเห็นแววตายี่ฝางที่เปี่ยมด้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1655

    ท้ายที่สุด กุ้นเอ่อร์ซึ่งมีสมญาว่าหมั่นโถวก็พาจ้านเป่ยว่างเดินนำหน้า ขณะที่เฉินเฉินและเสิ่นว่านจือนำทางยี่ฝาง คนทั้งเจ็ดอาศัยยามราตรีเร่งเดินทางอย่างรวดเร็วครั้นพบกับดงหนามทึบที่ผ่านไปไม่ได้ อีกทั้งไม่อยากสิ้นเปลืองพลังภายใน จึงใช้เคียวเปิดทางแทนตลอดเส้นทางราวกับแยกไม่ออกว่าฟ้าสางหรือพลบค่ำ ยี่ฝางกับจ้านเป่ยว่างไม่หลงเหลือท่าทีหยิ่งยโสใดๆ อีก เพียงแต่ปรารถนาให้ตนมีปีกเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องให้ผู้อื่นลากจูงไปตลอดทางศักดิ์ศรีและหน้าตาล้วนสูญสิ้นอย่างสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าพอฟ้าสาง พวกเขาก็มาถึงเชิงเขานอกเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้วแถมไม่ได้ลงมาจากภูเขาฮึงซานโดยตรง หากแต่มาจากภูเขาที่ใช้เลี้ยงยางสนของเมืองลู่เปินเอ่อร์ หมายความว่าพวกเขาเดินทางมากกว่าหนึ่งลูกเขาทว่าซ่งซีซีก็หาได้เย้ยหยันไม่ เมื่อลงเขาแล้ว ยังให้พวกเขานั่งกินเสบียงริมทางอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดชุดที่สวมใส่ได้เปลี่ยนเป็นแบบชาวเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว แม้จะเป็นเช่นนั้น ยี่ฝางก็ยังรู้สึกว่าเช่นนี้มันโอหังเกินไป ราวกับไม่เห็นความตายอยู่ในสายตาแต่เพราะนางเหน็ดเหนื่อยถึงขีดส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1654

    ห่างจากจวนแม่ทัพใหญ่ ซ่งซีซีเองก็ได้ยินเสียงโต้เถียงกันของคนสองคนเบื้องหน้าจากจวนแม่ทัพใหญ่ยี่ฝางโกรธมาก น้ำเสียงก็พลอยหงุดหงิดตามไปด้วย “ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าจะอวดเก่งไปถึงไหน การไปครั้งนี้มีโอกาสชนะหรือ? เจ้าจะเชื่อซ่งซีซีจริงๆ หรือ? นางว่าอะไรก็เชื่อหมด ข้าว่าอะไรก็ไม่เคยเชื่อ เจ้านี่ช่างรั้นนัก! อย่าลืมนะว่าในอดีตบรรพบุรุษเจ้าก็เคยเป็นแม่ทัพใหญ่ หากพวกเขายังมีวิญญาณอยู่บนฟ้า ได้เห็นเจ้าคลานไปประจบผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้ คงต้องหลับตาไม่ลงแน่”จ้านเป่ยว่างก็เริ่มไม่พอใจเช่นกัน “เหตุใดเจ้าจึงต้องพูดให้ฟังแล้วเจ็บใจทุกครั้ง? ไม่ใช่ว่าข้าเชื่อในตัวนาง แต่เพราะตอนนี้กำลังพลของเรากับฝ่ายซีจิงต่างกันเกินไป หลังเปิดศึกสองวัน เราก็รับมืออย่างยากลำบาก พี่น้องก็ล้มตายไปไม่น้อย พรุ่งนี้หากถอนทหารฝีมือดีไปบางส่วน สถานการณ์ยิ่งจะลำบากขึ้น วิธีลอบโจมตีของซ่งซีซีเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว…”“วิธีของนางดีอย่างนั้นหรือ?” ยี่ฝางโมโหจนขัดขึ้นมา “เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าหากไม่สำเร็จ อาจต้องตายที่เมืองลู่เปินเอ่อร์?”จ้านเป่ยว่างกดเสียงต่ำลง “แม้ข้าไม่ไป พรุ่งนี้ก็ต้องออกรบอยู่ดี หากสู้ต่อไป เราจะรอดชีวิตไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1653

    ยี่ฝางมีท่าทีไม่อยากเชื่อ ภารกิจอันหนักหนาเช่นนี้ กลับส่งไปเพียงเจ็ดคนเท่านั้นหรือ?นางเพิ่งกล่าวข้างนอกว่าจะพาซ่งซีซีพวกเขาไปด้วย เพราะคิดจะอาศัยฐานะของซ่งซีซี ขอทหารจากท่านแม่ทัพเซียวเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของตน และหวังจะได้สร้างความชอบในศึกแต่บัดนี้กลับกล่าวว่าจะส่งไปเพียงเจ็ดคน เรื่องสร้างผลงานขอวางไว้ก่อน ขอแค่รักษาชีวิตกลับมาก็ถือว่าโชคดีแล้วความเสี่ยงมากกว่าผลตอบแทน ยี่ฝางหาใช่คนโง่ ย่อมไม่เต็มใจอยู่แล้วแต่นางหาได้ปฏิเสธทันที เพียงลุกขึ้นมองไปยังซ่งซีซี ถามว่า “พวกเจ้าตั้งใจจะไปกันเพียงห้าคนแต่แรกหรือ? พวกเจ้ามั่นใจนักหรือว่าจะทำภารกิจได้โดยไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย?”ซ่งซีซีสบตานางตอบกลับ “สรรพสิ่งย่อมไม่อาจไร้ซึ่งความผิดพลาด เพียงพยายามให้ถึงที่สุดก็พอแล้ว”ยี่ฝางขมวดคิ้ว “เช่นนั้นพวกเจ้ามั่นใจเพียงใด?”“ราวหกถึงเจ็ดส่วนเถิด แม้ไม่อาจสำเร็จภารกิจ ก็ยังสามารถถอนตัวได้โดยปลอดภัย”เดิมทีซ่งซีซีไม่คิดจะตอบคำถามนี้ ทว่าเมื่อมีท่านตาและบรรดาแม่ทัพอยู่ด้วย คำตอบที่ให้ยี่ฝางจึงเท่ากับตอบพวกเขาไปด้วยยี่ฝางกล่าว “คลังเสบียงย่อมมีทหารเฝ้าแน่นหนา พวกเจ้าไปกันเพียงห้าคน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1652

    ยืนอยู่สักพัก ก็เป็นยี่ฝางที่นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อน พลันเปลี่ยนท่าทีเสียดสีเมื่อครู่ ก้าวขึ้นมาถามกุ้นเอ่อร์ว่า “พวกเจ้าก็มาขออาสาไปเผาคลังเสบียงหรือ?”“พวกเจ้าก็เหมือนกันหรือ?” กุ้นเอ่อร์ย้อนถามกลับ“ข้าเห็นว่าพวกเจ้าฝีมือก็ไม่เลว หากร่วมเดินทางไปด้วยกันก็ดี แต่ขอพูดไว้ก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องฟังคำสั่งของข้ากับแม่ทัพจ้าน”ยี่ฝางเคยสังเกตพวกเขาในสนามรบ พวกเขาท่าทางคล่องแคล่ว ออกหมัดรวดเร็ว สองศึกใหญ่ผ่านไป ยังไม่เห็นใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังเป็นผู้ที่บุกแนวหน้า หากมิใช่ฝีมือกล้าแกร่ง คงสิ้นชีพไปนานแล้วอีกทั้ง ยี่ฝางรู้ดีว่า ซ่งซีซีคือหลานสาวแม่ทัพใหญ่เซียว หากนางร่วมทางไปด้วย แม่ทัพใหญ่เซียวคงจัดทหารร่วมพลเพิ่มขึ้นอีก ความเสี่ยงย่อมลดลง โอกาสสำเร็จก็เพิ่มขึ้น ไม่ว่าอย่างไร ก็ถือเป็นโอกาสสร้างความชอบแท้จริงแล้ว ตอนที่แม่ทัพจูพูดกับนาง นางยังไม่อยากไปเสียด้วยซ้ำ การลอบเข้าเมืองลู่เปินเอ่อร์นั้นอันตรายยิ่ง หากพลาดขึ้นมา อาจไม่ได้แม้แต่ซากศพกลับคืนแผ่นดินทว่าเมื่อใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน นางกลับเห็นว่านี่คือโอกาสสร้างผลงานนางเป็นใครกันเล่า?นางคือขุนพลหญิงที่แม้แต่ไทเฮายังกล่าวชมด้วยป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status