Share

บทที่ 1281

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เมื่อไม่ใช่อู๋เซี่ยงสายตาของอ๋องเยี่ยนก็หันไปยังอ๋องฮวย

อ๋องฮวยกำลังจะกล่าวแก้ตัว แต่อ๋องเยี่ยนกลับส่ายศีรษะ "ก็คงไม่ใช่เจ้า"

อ๋องฮวย "..." ข้าถึงกับไม่มีค่าพอจะถูกสงสัยเลยหรือ?

อ๋องเยี่ยนย่อมไม่สงสัยอ๋องฮวย เพราะเขามาเยี่ยนโจวโดยไม่ได้พกสิ่งใดติดตัวมาด้วย อีกทั้งในเมืองหลวงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่ได้สร้างผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย ต่างจากเซี่ยอวิ้นอย่างสิ้นเชิง

ตั้งแต่มาเยี่ยนโจว ผู้คนที่พบเจอเขา แม้ปากจะเรียกเขาว่า "ท่านอ๋อง" ด้วยความเคารพ แต่ลับหลังก็มีแต่คนดูถูกเขา

เขาไม่มีอำนาจที่จะสั่งการหม่าชงฮุ่ยได้

อ๋องเยี่ยนค่อย ๆ ใจเย็นลง นั่งลงอย่างช้า ๆ สายตากวาดมองทั้งสองคน "พวกเจ้าว่าหม่าชงฮุ่ยถูกเกลี้ยกล่อมหรือไม่? หรือมีใครคิดจะช่วงชิงผลสำเร็จของข้า?"

อู๋เซี่ยงยังคุกเข่าอยู่บนพื้น ขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า "การเกลี้ยกล่อมเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตั้งแต่ท่านอ๋องส่งคำแถลงการณ์จนถึงตอนนี้เพียงไม่กี่วัน อีกทั้งกำลังพลของเรากระจายไปตามห้าหกจวนโจว การโยกย้ายก็ใช้เวลานานถึงครึ่งปีเต็ม ราชสำนักไม่มีทางตรวจพบได้ อีกทั้งจะไปหาตัวหม่าชงฮุ่ยและเกลี้ยกล่อมได้อย่างไร?
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1282

    คืนนั้น อ๋องเยี่ยนไม่ได้หลับไหลตลอดทั้งคืน นี่มิใช่แผนการที่เขากับอู๋เซี่ยงตั้งใจไว้แต่แรก การเริ่มก่อการจากพื้นที่ห่างไกล แถมยังไม่มีคนของเราที่เมืองหลวง การจะบุกไปถึงนั้นต้องยากเย็นเพียงใด?แผนเดิมของพวกเขาไม่ใช่เช่นนี้ พวกเขาต้องการรวมกำลังพลให้เพียงพอแล้วค่อย ๆ เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ใกล้เมืองหลวง ตั้งรากฐานให้มั่นคง รอเวลาที่เหมาะสม ในตอนนั้น เซี่ยอวิ้นยังคงวางแผนในเมืองหลวง และได้รับการสนับสนุนจากบางตระกูลใหญ่ เพราะในตอนนั้นได้ส่งบุตรสาวของกู้ฟู่หม่าเข้าไปเป็นภรรยาน้อยในตระกูลเหล่านั้น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม อาจเป็นช่วงสงคราม หรือเกิดเหตุจลาจล กองกำลังของเราจะรวมตัวกันที่ชานเมืองหลวง บุกเข้าไปยึดวังหลวง แต่ตอนนี้ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านต้าซื่อ ทำให้เซี่ยทิงหลานถูกจับ เหล่าทหารลับของเราก็ตกอยู่ในมือของพวกนั้น จนบีบให้อ๋องเยี่ยนต้องเริ่มเคลื่อนไหว นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาลังเลอยู่นาน เพราะโอกาสชนะมีน้อยเหลือเกิน การก่อความวุ่นวายในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีผลต่อเมืองหลวง แม้ชาวบ้านจะทราบข่าวและพูดถึงกัน แต่หลายคนกลับมองว่าการกบฏครั้งนี้ช่างน่าหัวเราะ"ยั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1283

    จักรพรรดิ์ซูชิงทอดพระเนตรมองเขาแวบหนึ่ง “แน่นอนว่าเป็นเพราะชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของเจ้าที่ทำให้แคว้นซาหวาดกลัว และวิกเตอร์เองก็กลัวเจ้าอย่างแท้จริง”เซี่ยหลูโม่ไม่ได้เชื่อว่าคำพูดนั้นมาจากใจจริง กลับรู้สึกว่ามันแฝงด้วยความประชดประชัน เขายิ้มบางๆ แล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงประเมินกระหม่อมสูงเกินไป กระหม่อมไม่ได้มีอำนาจขู่เข็ญอะไรได้มากนัก แคว้นซาเพียงแต่ถูกต้อนจนหมดทางสู้แล้วต่างหาก”“ในเมื่อหมดทางสู้แล้ว แคว้นซาคงยากที่จะฟื้นตัวได้ในเวลาเพียงสองสามปี”“คาดการณ์ตามปกติแล้ว แม้พวกเขาจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่พวกเขาก็คงไม่ปล่อยให้เราพัฒนาเขตหนานเจียงได้โดยสะดวก พวกเขาน่าจะหาโอกาสก่อกวน แต่จนถึงตอนนี้กลับไม่มีอะไรเลย”จักรพรรดิ์ซูชิงทรงพินิจพลางตรัสถาม “เจ้าคิดว่าอาจมีคนร่วมมือกับพวกเขา เพื่อรอโอกาสที่เหมาะสมใช่หรือไม่?”“เป็นไปได้ไหมเล่าพ่ะย่ะค่ะ?” เซี่ยหลูโม่กล่าวก่อนหน้านี้พวกเขาได้วิเคราะห์เรื่องนี้กันแล้ว และฮ่องเต้เองก็ทรงมีแนวโน้มจะเชื่อในแนวคิดนี้ แต่ในพระทัยลึกๆ พระองค์อาจไม่ต้องการยอมรับจักรพรรดิ์ซูชิงทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตรัสตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบา “อืม” แต่ไม่ได้ตร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1284

    มู่ฉงกุยจัดการปราบโจรอย่างเป็นระเบียบ สถานที่ที่ท่านอ๋องได้กล่าวถึง เขาเริ่มสืบหาข่าวและเตรียมการป้องกันไว้นานแล้ว เมื่อเกิดสถานการณ์วุ่นวาย เขาจะนำกองทัพไปกดดัน ปัจจุบันแม้ยังไม่ได้ควบคุมทั้งหมด แต่โจรภูเขาก็ได้หนีไปและมิกล้าลงมาก่อเรื่องอีก จักรพรรดิ์ซูชิงได้รับรายงานด่วนจากฉีหลินว่า ทัพใหญ่จากแคว้นซากำลังมุ่งหน้ามาที่ชายแดน ฉีหลินรายงานว่ามีกำลังทหารถึงสองแสนห้าหมื่นนาย และยังคงเป็นวิกเตอร์ที่นำทัพอยู่ จักรพรรดิ์ซูชิงจึงทรงเรียกเจ้าหน้าที่กรมกลาโหมเข้าพบ เพื่อประเมินว่าเขตหนานเจียงจะสามารถรับมือกับกองทัพนี้ได้มากน้อยแค่ไหนหลี่เต๋อฮวยเห็นว่าฮ่องเต้ถามเช่นนี้ไม่ถูก เพราะการที่จะชนะ และการชนะได้รวดเร็ว นั้นต่างกัน “เขตหนานเจียงผ่านสงครามและความยุ่งยากมานาน บาดเจ็บและสูญเสียกำลังไปมาก พื้นที่นี้สามารถทนทานได้ แต่ประชาชนทนไม่ไหว หากจะทำสงครามจริงๆ ควรจะตีให้เด็ดขาด หากไม่เช่นนั้น พวกเขาจะเหมือนกับตั๊กแตนที่มาทำลายทุกครั้งปีแล้วปีเล่า นี่ไม่ดีต่อความสงบเรียบร้อยในเขตหนานเจียงของเรา” “เจ้าคิดว่ากองทัพตระกูลซ่งและกองทัพเป่ยหมิงจะไม่สามารถตีพวกเขาให้ถอยกลับได้หรือ?” จั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1285

    หลี่เต๋อฮวยกล่าว “วันนี้ข้าไม่กล้าพูดมากหรอก ยิ่งไม่กล้าเข้าไปหาท่านอ๋อง กลัวฮ่องเต้จะเข้าพระทัยผิด” “ถูกแล้ว กรมกลาโหมไม่ควรมีการติดต่อกับเป่ยหมิงอ๋องเป็นการส่วนตัว” เสนาบดีมู่หยุดชั่วขณะแล้วกล่าว “เจ้าควรแนะนำคนอื่นเป็นผู้ดูแลทัพ หรือหากเจ้าคิดว่าผู้บังคับบัญชาหวังไม่เหมาะกับตำแหน่งในทัพเขตหนานเจียง เจ้าก็แนะนำเจ้าสิบเอ็ดฝางสิ” หลี่เต๋อฮวยกล่าว “แม่ทัพฝางเป็นแม่ทัพประจำทัพใหญ่ การย้ายเขาไปหนานเจียงก็ไม่เหมาะ ข้ายังคิดว่าให้ฝางเทียนสวีและฉีหลินเป็นผู้นำสงครามจะดีกว่า นอกจากนี้ยังมีการกบฏในเมืองหลวง ทหารที่ประจำเมืองหลวงก็ต้องมีแม่ทัพใหญ่” เสนาบดีมู่มองเขาด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “เป็นเช่นนี้แหละ แต่เจ้าควรแนะนำบุคคลอื่นด้วย ไม่ใช่แนะนำแต่ท่านอ๋อง”หลี่เต๋อฮวยนั่งลงด้วยความรู้สึกอึดอัด ยกมือขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ "ข้าเป็นคนตรงไปตรงมา พูดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริง ท่านอ๋องคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด ส่วนขบวนการกบฏยังไม่เป็นปัญหามาก พวกมันถูกขังอยู่ที่เยี่ยนโจว ไม่สามารถออกมาได้ ให้มู่ฉงกุยไปจัดการพวกมันก็พอแล้ว" เสนาบดีมู่ยกมือขึ้น "ห้ามดูถูกผู้ทรยศ เรื่องนี้ไม่ง่ายเช่นนั้น เจ้าก็รู้ดี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1286

    หลังจากเกลี้ยกล่อมให้เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับไปแล้ว อาจารย์หยูก็ถอนหายใจและกล่าวว่า "พวกเขามีอารมณ์ก็เป็นเรื่องปกติ แทบจะให้ชีวิตทั้งหมดเพื่อยึดคืนเขตหนานเจียง ตอนนี้พวกเขากำลังจะต้องเผชิญกับสงครามอีกครั้ง จะให้เขาไม่รู้สึกหนักใจได้อย่างไร?"เขาพูดพลางมองไปที่เซี่ยหลูโม่ปราดหนึ่ง และคิดในใจว่า ท่านอ๋องคงจะเข้าใจเจ้าสิบเอ็ดฝางที่สุดเซี่ยหลู่โม่เงียบไปนาน ไม่มีอารมณ์ใดๆ ปรากฏออกมา เพียงแต่กล่าวว่า "จับตาดูให้ดี หากมีข่าวสารอะไร ให้รีบรายงานทันที""ได้ขอรับ ท่านอ๋องโปรดวางใจ" อาจารย์หยูกล่าวเซี่ยหลูโม่พูดถึงเรื่องของเยี่ยนโจว "ตอนนี้ประตูเมืองเยี่ยนโจวถูกปิดมิด ข่าวสารคงจะส่งออกยากแล้ว ตอนนี้มีความคืบหน้าอะไรบ้าง? มีการดำเนินการตามแผนที่วางไว้หรือไม่?"อาจารย์หยูตอบว่า "ยังไม่มีข่าวสารใดๆ แต่กระหม่อมเชื่อมั่นในตัวม่อเฉิง ผู้เป็นคนที่มีความสามารถสามารถใช้การได้""อืม เจ้าเชื่อเขา ข้าก็เชื่อในตัวเขาเช่นกัน" ท่านอ๋องกล่าวม่อเฉิงเป็นผู้ช่วยผู้ว่าราชการเขตเยี่ยนโจว เมื่อได้ทราบถึงการกบฏของอ๋องเยี่ยน ท่านอ๋องจึงได้ส่งคนไปติดต่อเขาคนผู้นี้มีทั้งความสามารถในการคิดคำนวณและทักษะในการรบ เขาคือ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1287

    เซี่ยหลูโม่พิงที่นวมหนานุ่ม รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดในร่างกายถูกดูดออกไปหมด หลังจากกลับจากเขตหนานเจียงและส่งมอบอำนาจทัพแล้ว ฮ่องเต้ยังคงสงสัยในตัวเขา เขาทำเป็นไม่สนใจได้ แต่บางเรื่องหากมีข้อจำกัด ก็ต้องหาวิธีอื่น เขาระมัดระวังตัว จึงยอมถอยบางส่วน เพื่อไม่ให้ช่องว่างระหว่างฮ่องเต้และพระอนุชาเปิดกว้างเกินไป จนกระทั่งการเจรจากับซีจิงเขาจึงเริ่มลุกขึ้นบ้าง แต่เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เขาควรอ่อนข้อก็อ่อนข้อไป ก็หวังว่าหากเกิดสงคราม ฮ่องเต้จะสงสัยเขาน้อยลงหน่อย "เขารู้ว่าครั้งนี้แคว้นซากลับมาโจมตีอีกครั้ง คงจะมีการเชื่อมโยงกับคนจากแคว้นซาที่ลงมือในเขตหนานเจียง จึงทำให้แคว้นซากล้าต่อสู้ต่อไป แต่เขากลับคิดว่าข้าคือภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าทัพของแคว้นซาที่มาถึงประตูเมืองเสียอีก" เขาหัวเราะขมขื่น ก่อนจะดื่มสุราที่เหลือในถ้วย ซ่งซีซีตากลมมืดมน "เรื่องแบบนี้ ก็ไม่ใช่ครั้งแรก" เซี่ยหลูโม่กอดนางไว้ ลูบผมของนาง คิดถึงครั้งก่อน ทำให้เขาหายใจไม่ออก คืนนี้เขานั่งดื่มสุราคนเดียวเพื่อคิดเรื่องนี้ จะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดหรือ? "ข้าจะไม่ให้โศกนาฏกรรมเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก" เซี่ยหลูโม่ปล่อย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1288

    แต่ท่านหมอมหัศจรรย์ดันมีโทสะขึ้นแล้ว ถึงแม้จะถูกเกลี้ยกล่อมให้ช่วย แต่ท่านก็ยังจะด่าว่า "ข้าจะไม่ช่วยพวกโง่สองคนนี้หรอก พวกเจ้าทั้งคู่ต่างก็เป็นคนโง่""ก็ต้องมีคนโง่แบบนี้บ้างใช่ไหมล่ะ?" ซ่งซีซียิ้มหวานอย่างเข้าใจ "ข้าสัญญาว่าจะเป็นคนโง่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว"ท่านหมอมหัศจรรย์ดันพูดอย่างไม่พอใจ "ข้าแค่กลัวว่าเมื่อถึงวันนั้นก็ไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว กลับมาไม่รู้จะโดนคาดโทษอะไร หัวของพวกเจ้าจะรอดหรือไม่ นั่นก็อีกเรื่อง""ถ้าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ ข้าก็มีวิธีรับมือไว้แล้ว ท่านไม่ต้องกังวล" ซ่งซีซียืนยันท่านหมอมหัศจรรย์ดันรู้ว่านางคงไม่สามารถรับปากอะไรได้ แต่ก็ยอมรับคำพูดของนาง เพราะบางที ก็ต้องมีพวกคนโง่บ้างจริงๆในใจของท่านหมอมหัศจรรย์ดันหวังว่า คนโง่ที่ว่า จะเป็นคนอื่น แต่ไม่ใช่สองสามีภรรยานี้ท่านหมอมหัศจรรย์ดันหยิบกล่องไม้เล็กๆ ออกจากชั้นที่ฝุ่นจับแล้วเป่าให้ฝุ่นออก ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแล้วเปิดกล่องข้างในกล่องมีเม็ดยาเป็นสีดำขนาดประมาณถั่วลิสง"จำไว้นะ นี่คือยาพิษ ถ้ากินเข้าไปจะทำให้เส้นเลือดและจังหวะการเต้นของหัวใจสับสน มีอาการเจ็บป่วยเฉียบพ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1289

    ซ่งซีซีส่งยาให้เซี่ยหลูโม่พร้อมกับบอกถึงอันตรายของยาให้เขาฟัง เซี่ยหลูโม่มองเห็นความลังเลของนาง ยิ้มและปลอบใจ "เจ็บแค่นี้จะนับว่าเป็นอะไร? ยังมียาที่สามารถฟื้นฟูได้อยู่ ไม่ต้องห่วง พอหมอหลวงตรวจแล้ว ข้าจะกินยาดันเสวี่ยทันที และระหว่างเดินทางก็จะปฏิบัติตามคำแนะนำของลุงดัน กินยาทุกวันเพื่อบำรุงร่างกายให้ดีขึ้น" "อย่างไรเสียก็เป็นยาพิษ" ซ่งซีซีขมวดคิ้ว "หรือไม่ เราลองคิดหาวิธีอื่นดู?" "วิธีนี้ข้าคิดว่าดีมาก ลุงดันอาจพูดร้ายแรงเกินไป แต่ถ้ามันมีอันตรายจริง ท่านคงไม่ให้ยานี้มา" "เราไม่ลองปรึกษาท่านอาจารย์หยูดูหน่อยหรือ?" ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นถาม "ไม่ต้อง!"เซี่ยหลูโม่วางยาไว้ แล้วยื่นมือไปกอดเอวของนาง "เรื่องนี้ ยิ่งมีคนรู้น้อยยิ่งดี พอข้าป่วยที่หอต้าหลี่ แล้วให้เฉินยีนำตราสัญลักษณ์ไปขอตัวหมอหลวง หมอหลวงจะตามกลับไปยังจวนแล้วท่านอาจารย์หยูและคนอื่นๆ จะตกใจ จนไม่มีอะไรเป็นที่น่าสงสัยอะไร" ซ่งซีซีแนบตัวไปกับอกของเขา รู้สึกว่าตนไม่ค่อยมีความเข้มแข็งเหมือนก่อนนี้ กลับกลัวโน่นกลัวนี่ "ข้าแค่กังวล ว่าหากเจ้ากินยาแล้วยังไม่ทันฟื้นตัวก็ต้องเดินทางไปเขตหนานเจียง ระหว่างทางไม่ได้พักผ่อนเ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status