Share

บทที่ 798

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
อ๋องเยี่ยนก็กำลังหารือเรื่องนี้กับคุณชายอู๋เซี่ยงอยู่

คุณชายอู๋เซี่ยงไม่เห็นด้วยกับการส่งคนไป แต่อ๋องเยี่ยนรู้สึกว่าหากเซี่ยอวี้นยังมีชีวิตอยู่ มันก็เป็นตัวอันตรายร้ายแรงที่ถูกทิ้งไว้ ตอนนี้ไม่ได้เปิดโปงเขา แต่อนาคตล่ะ?

"ฮ่องเต้ผู้โง่เขลาผู้นี้มีไหวพริบจริงๆ ได้ค้นพบอาวุธและชุดเกราะมากมายที่ แทนที่จะถูกประหารชีวิตถือเป็นตัวอย่างตักเตือน เขากลับสั่งให้จำคุกในสำนักกิจการราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ปิดคดีนี้ หากคดีนี้ไม่ปิด งั้นเซี่ยหลูโม่ก็จะกัดเขาเหมือนหมาบ้า ที่เซี่ยอวี้นยังมีชีวิตอยู่ สำหรับข้าแล้วมันเป็นภัยคุกจริงๆ"

อู๋เซี่ยงขมวดคิ้วและพูดว่า "แม้ว่ามันจะเป็นภัยคุกคาม แต่หากแผนการล้มเหลว จะมีผลกระทบร้ายแรง เซี่ยอวี้นอาจเปิดโปงท่านโดยตรง นางเป็นคนบ้า"

"ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะอ้างว่าเป็นการช่วยชีวิตนาง ให้นางรู้ว่าเราไปช่วยนาง แล้วค่อยหาโอกาสที่จะฆ่านาง"

อู๋เซี่ยงยังคงคัดค้าน "การทำเช่นนี้เสี่ยงเกินไป ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงเช่นนั้นจริงๆ ท่านเพียงแค่เข้าวังทุกวันเพื่อดูแลผู้ป่วยและไม่ต้องสนใจกับสิ่งอื่นใด การทำแบบนี้ถือว่าดีที่สุดเลย"

"ไม่ว่ายังไงมันก็มีความเสี่ยง ถ้านาง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นายเดชา กังสนันท์
ให้ได้หรือไม่ ตอบด้วยครับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 799

    เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ทันทีที่อกจากถนนซือเยี่ยน ซ่งซีซีก็รู้สึกถึงกระแสลมแห่งการฆาตกรรมที่อยู่รอบตัวนางกระแสลมแห่งการฆาตกรรมแบบนี้รุนแรงมาก และมาพร้อมกับกลิ่นเลือดที่คนธรรมดาไม่สามารถได้กลิ่น ซ่งซีซีค่อนข้างคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ นักรบสิ้นหวังเหล่านั้นที่อยู่ในจวนแม่ทัพคืนนั้นอาจารย์เคยบอกนางเรื่องกระบวนการฝึกนักรบสิ้นหวังในก่อนหน้านี้ มันโหดร้ายมาก ผู้ที่รอดชีวิตมาได้นั้นถือว่าได้เหยียบย่ำออกจากซากศพของสัตว์ร้ายหรือผู้คน ถือว่าเดินออกจากภูเขาซากศพและทะเลแห่งเลือดก็ไม่เกินจริงดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก และท่าสู้ที่ร้ายกาจ แต่พวกเขาก็มีกลิ่นแรงของเจตนาฆ่าและคาวเลือดอยู่เสมอ"ทุกคนเตรียมพร้อม!" เสียงของนางลอดผ่านสายลมและกระทบหูของทุกคนสายตาของทุกคนตื่นตัว มีอาวุธอยู่ในมือ รู้สึกถึงทุกการเคลื่อนไหวรอบตัวหลังจากข้ามทางแยกอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงสั่นเล็กน้อยในอากาศ มันคือเสียงดาบที่ถูกลมพัดขณะที่มันถูกแกะออกจากฝัก"หยุด!" ปี้หมิงยกมือขึ้นและหยุดขบวน จากนั้นตะโกนเสียงดังและแยกย้ายประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง "มีมือสังหาร อันตราย!"มีประชาชนไม่มาก ล้วนเป็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 800

    เมื่อเสียงกรีดร้องดังขึ้น มือสังหารทั้งเก้าก็รีบบินออกไปและกระจัดกระจายอย่างรวดเร็วปี้หมิงรู้สึกว่าเขาเดาถูกแล้ว พวกเขาไม่ได้มาช่วยคน แต่มาเพื่อฆ่าเซี่ยอวี้นต่างหากแต่เมื่อเขามองไปที่รถม้าก็ตกตะลึงมือสังหารคนนั้นถูกลากเข้าไปในรถม้า โดยทิ้งเท้าของเขาอยู่ข้างนอก และเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถขยับได้อีกเลยซ่งซีซีก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและเปิดม่านรถม้า ปี้หมิงเดินไปดูใกล้ๆ และอดไม่ได้ที่จะอึ้งไป ท่านอ๋อง?นอกจากท่านอ๋องแล้ว เซี่ยอวี้นก็ถูกมัดไว้ที่ด้านหนึ่งของรถม้าด้วย นางคือคนที่ส่งเสียงกรีดร้องเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้นางกำลังจ้องมองไปที่มือสังหารด้วยสายตาที่ดุร้ายเซี่ยหลูโม่ดึงมือสังหารออกจากรถม้าแล้วส่งให้ปี้หมิง "พาเขากลับไปที่หอต้าหลี่ เขาถูกจุดฝังเข็ม และยาพิษในปากของเขาก็ถูกขุดออกมาแล้ว แต่เราไม่สามารถประมาทไป หลังจากนำเขากลับไปให้ป้อนผงอ่อนแรงด้วย นักรบสิ้นหวังแบบนี้ นอกจากกินยาพิษได้ก็ยังสามารถตัดเส้นลมปราณของตัวเอง"ปี้หมิงให้คนเจ้าไปจับมือสังหาร แต่ก็เหลือบมองท่านอ๋องอย่างสับสน ท่านอ๋องขึ้นไปในรถม้าตั้งแต่เมื่อไร เห็นๆ อยู่ว่าตอนที่ขนส่งเซี่ยอวี้นนั้น ข้างในรถม้าไม่มีคนอย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 801

    เมื่อรถม้ามาถึงสำนักกิจการราชวงศ์ ซ่งซีซีก็ดึงนางออกจากรถม้า หลิวอิน ผู้ดูแลนักโทษราชวงศ์คนสำคัญในสำนักกิจการราชวงศ์ออกมารับช่วงต่องาน หลังจากส่งมอบแล้ว หลิวอินก็ออกคำสั่งล่ามโซ่หนักๆ ไว้บนตัวนางหลิวอินกล่าวว่า "ใต้เท้าซ่ง ฝ่าบาทได้ออกคำสั่งว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยอวี้นกัดลิ้นและฆ่าตัวตาย ฟันส่วนใหญ่ของนางจะถูกดึงออก และตัดเอ็นร้อยหวายของนางด้วย โปรดขอให้ใต้เท้าซ่งมาเข้ามาช่วยกำกับดูแล พวกท่านจะได้กลับไปรายงานด้วย"เซี่ยอวี้นกัดฟันกรอด "เจ้ากล้าดียังไง?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "รบกวนนำทาง"เซี่ยอวี้นถูกลากเข้าไปข้างใน นางคำรามและโกรธแค้นไปตลอดทาง ไม่สามารถรักษาความสงบตอนอยู่ในรถม้าได้อีกต่อไปสำนักกิจการราชวงศ์มีขนาดใหญ่มาก โดยมีตรอกกว้างขวางแยกฝั่งตะวันออกและตะวันตก ฝั่งตะวันออกเป็นที่ที่สำนักกิจการราชวงศ์ทำงาน และฝั่งตะวันตกเป็นที่ที่ผู้คนถูกกักขังเนื่องจากคนที่ถูกกักขังในสำนักกิจการราชวงศ์ล้วนเป็นสมาชิกของราชวงศ์ จึงไม่มีเรือนจำ มีเพียงลานเล็กๆ ที่แยกออกเป็นหลายๆ หลังเท่านั้นแต่พื้นที่กักขังทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ซ่งซีซีได้ออกคำสั่งให้หวังเจิง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 802

    หลังจากที่หวังเจิงอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรง เขาก็เกิดความโกรธจัดขึ้นมาและรีบพุ่งเข้าไปยังซ่งซีซีโดยไม่คำนึงถึงฐานะแต่อย่างใดแต่แล้วก็ถูกต่อยที่หน้าซ้ายและขวาอย่างละฉาด แต่เขาก็ไม่ทันได้เห็นซ่งซีซีต่อยตนเองได้อย่างไรให้ชัดเจนหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง ซ่งซีซีก็กลายเป็นคนมีน้ำใจและเอาใจคนอื่นมาก เพื่อให้เขาได้มองเห็นอย่างชัดเจน นางจึงคว้าเสื้อผ้าที่หน้าอกของเขาแล้วยกกำปั้นขึ้น เมื่อเขายกมือขึ้นเพื่อต่อต้าน นางก็ต่อยหน้าเขาโดยหลีกเลี่ยงมือของเขาได้ในขณะที่เขาตกตะลึงนั้นก็ยกเท้าเตะเขา แล้วเขาบินออกไปชนกับกำแพงอีกครั้งคราวนี้การเขาได้เห็นเคลื่อนไหวชัดเจน แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตอนนางเริ่มยกเท้าขึ้นนั้นมันก็ช้ามาก และเตะออกไปไม่เร็ว ทว่าจู่ๆ ก็เร่งความขึ้น และคาดเดาทิศทางของการหลีกเลี่ยงของเขา เขาทำได้เพียงถูกซัดคนและเตะอีกครั้งอย่างทำอะไรไม่ได้ใบหน้าของหวังเจิงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แต่อาจเป็นเพราะความเจ็บปวด เพราะการเตะสองครั้งนั้นหนักมากจนเขาไม่สามารถมีพลังงานในตันเถียนได้ชั่วขณะหนึ่งซ่งซีซีปัดแขนเสื้อของนาง มองดวงตาที่ประหลาดใจของหลิวอินแล้วพูดว่า "มาเริ่มกันเลย ข้าจะเฝ้าด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 803

    พอองค์หญิงใหญ่เสร็จก็ถึงตาฝู้หม่ากู้เมื่อมีการส่งพระราชโองการมาได้ประกาศว่าข้อหาของเขามี: การข่มขืน การลักพาตัวคน และการฆาตกรรม ทำเรื่องผิดกฏหมายมากมายฝู้หม่ากู้รู้ว่าเขาไม่สามารถรอดชีวิตได้ ดังนั้นเขาจึงขอข้อแม้ข้อหนึ่งว่าอยากจะพบพวกอนุภรรยาของเขาเขาขอร้องเซี่ยหลูโม่ "ถึงยังไงข้ากับพวกนางเป็นสามีภรรยากันและมีลูกด้วยกัน ข้าแค่ขอให้พวกนางอย่าเกลียดข้ามากเกินไป พวกนางรู้ดีว่าข้าไม่มีทางเลือกอื่น ที่ข้าอยู่อย่างยากลำบากเพียงเพื่อที่พวกนางจะได้มีชีวิตอยู่ต่อและไม่ถูกเซี่ยอวี้นฆ่าตาย แต่ข้ายังรู้สึกว่าเป็นข้าที่ทำผิดกับพวกนาง ขอเจ้าช่วยรายงานกับฝ่าบาทให้ ให้ข้าคุกเข่ากล่าวขอโทษพวกนาง"ทุกๆ คำพูดมีแต่โยนความผิดให้ตนอื่น ไม่มีความรับผิดชอบแต่อย่างใดเลยเขาไม่เคยเอ่ยถึงจวนโหวกู้เลย นี่เขารู้จักปกป้องจวนโหวกู้เลยจริงๆ แม้ว่าจวนโหวกู้จะไม่มีตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์แล้ว แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้ยึดทรัพย์สินพวกเขาและลงโทษสมาชิกในครอบครัวเขา รากฐานยังอยู่ ดังนั้นชีวิตก็คงไม่ยากเกินไปเซี่ยหลูโม่มองไปที่เขา อดีตอาเขยของตนเองกำลังโค้งคำบับหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เลิกเสแสร้งได้เลย แม้แต่หลินเฟิ้งเอ๋อ ค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 804

    ตระกูลกู้ส่งเงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงโดยบอกว่าใช้เพื่อชำระหนี้ให้กับผู้หญิงเหล่านั้น กู้ฮูหยินเอาแต่บอกว่าตนเองยากจน บอกว่าพวกเขามีเงินไม่มากนักอยู่แล้ว เงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงนั้นถือว่าทำให้คระกูลหมดตัวไปเลยซ่งซีซีหยุดไม่ให้นางบ่นต่อไป "ฝ่าบาททรงสั่งให้พวกเจ้าออกเงินหนึ่งแสนตำลึง ขาดเบี้ยเดียวก็มิได้ อีกสามวันข้างหน้า บุตรชายของเจ้าจะถูกประหารชีวิต คนตระกูลกู้สามารถเข้าไปพบเขาเป็นครั้งสุดท้ายได้"แน่นอนว่ากู้ฮูหยินต้องการไปพบ บุตรชายที่นางเลี้ยงดูอย่างยากบาก ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของคุณท่านกู้ นางก็ยังคงร้องห่มร้องไห้ว่า "ไม่เจอแล้ว เจอแล้วมันจะได้อะไร มีแต่เพิ่มความเจ็บ...ความโกรธไปเปล่าๆ เท่านั้น เขาทำเรื่องแบบนั้นไป และตระกูลกู้ของเรารับไม่ได้""ใช่ เขามีโทษร้ายแรง ไม่เจอดีกว่า" คุณท่านกู้ก็พูดเช่นเดียวกันตอนนี้พวกเขาอยากจะขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับฝู้หม่ากู้มากกว่า ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สงสารลูก แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องตาย ดังนั้นอย่าเอาครอบครัวไปพัวพันจะดีกว่าซ่งซีซีแค่มีหน้าที่มาแจ้งให้พวกเขาทราบ มันขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะตัดสินใจว่าจะพบหรือไม่ ในเมื่อไม่อยากเจอ งั้นรับเงินเสร็จ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 805

    ซ่งซีซีมองเขาอย่างเย็นชา "ข้านึกว่าใต้เท้าฉีเป็นคนมีเหตุผลและรู้ความ แต่ข้าคิดผิดไปเอง คำว่ามิใช่เหยื่อที่พูดออกมาจากปากของเจ้าอย่างสบายๆ นั้น เจ้ารู้ไหมว่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคนมากเท่าไร ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเหล่านี้ แต่ยังรวมถึงตระกูลขุนนางก็พวกนางเคยอาศัยอยู่ด้วยก็ต้องเดือดร้อนไป"ไม่ใช่ว่าซ่งซีซีต้องการมีปัญหากับเขา และไม่ใช่อยากดุเขาเพื่อระบายความโกรธ แต่เป็นเพราะว่าตอนนี้เขาเป็นคนสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาท คำพูดเหล่านี้เขาสามารถพูดกับนางได้ ก็หมายความว่าเขาอาจจะพูดกับฝ่าบาทเช่นกันตอนนี้ฝ่าบาทกำลังคิดที่จะสร้างชื่อเสียงที่ดี พอผ่านไปอีกสองปีเมื่อตั้งรากฐานมั่นคง หากเขาคิดถึงคำพูดของเขา ไม่อาจรับประกันว่าเขาจะไม่เกิดความคิดกำจัดอันตรายที่แอบแฝงให้สิ้นซาก งั้นพวกนางก็จะไม่มีทางอยู่รอดได้ฉีหลิงซีรู้ด้วยว่าเมื่อกี้เขาพูดผิดไป ไม่กล้าที่จะพูดเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีก "ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าซ่งตกลงที่จะช่วยข้าคุยกับเจ้าอาวาสและปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสำนักแม่ชีในฐานะเด็กกำพร้าได้หรือไม่? อันที่จริงทำแบบนี้ก็หวังดีกับนางด้วย อย่างน้อยแม่ลูกสองคนก็สามารถอยู่ด้วยกันได้""ถ้านี่เป็นกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 806

    เสิ่นว่านจือเดินออกมาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"ซ่งซีซีเล่าให้ฟังอย่างคร่าวๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ดีเท่าไร "เจ้ากรมฉีเคยบอกว่าข้างกายเขามีเด็กไม่ได้ ตอนนี้จะส่งเด็กมาที่นี่ การเป็นเจ้ากรมกลับกลับคำพูด ไม่สามารถจัดที่อยุ่ให้เด็กของตนเองด้วยซ้ำ ทำไมให้เด็กมาโลกนี้ล่ะ เด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย"เสิ่นว่านจือก็โมโหกับคนแบบนี้เช่นกัน "คาดว่าที่บอกว่าตนเองจะจัดการเองคงพูดด้วยอารมณ์ หลังจากกลับไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วถึงพบวว่ามันใช้ไม่ได้ ดังนั้นจึงมาขอเจ้าถึงสำนักแม่ชี แต่ส่งมาให้แล้วกลับให้แม่ลูกอยู่ด้วยกันไม่ได้ ใช้ตัวตนเป็นเด็กกำพร้าให้เจ้าอาวาสเลี้ยงดู บ้าจริงๆ มีพ่อแม่ชัดๆ กลับให้เป็นเด็กกำพร้า เจ้ากรมฉีนี่กำลังแช่งตัวเองเหรอ?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ช่างเถอะ เราแค่ทำหน้าที่ให้จัดการกับคนที่ต้องจัดการให้ดี หากตระกูลฉีไม่อยากเลี้ยงเด็กคนนั้น งั้นก็เลี้ยงไว้ที่สำนักแม่ชีแทน จริงๆ แล้วสำหรับฮูหยินเจ้ากรม ไม่ว่าจะเป็นกู้ชิงเมี่ยวหรือเด็กคนนี้ พวกเขาทั้งคู่มันอย่างกับสิ่งแทงใจ""จริงด้วย ความสุขที่พังไปแล้วยังเรียกว่ามีความสุขอยู่หรือเปล่า นางไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ?""มีแต่นางเองที่รู้""จริงสิ" เ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status