Share

บทที่ 823

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เสิ่นว่านจือยิ้มเล็กน้อยและบินไปหาซ่งซีซี ซ่งซีซีเอียงตัวหลบเลี่ยง คว้าแขนของนางแล้วลากนางไปด้านหลัง เสิ่นว่านจือหมุมตัวและกระโดดบินขึ้นไป

พวกเขาทั้งสองต่อสู้กันเกือบร้อยท่า และมันก็ยังยากที่จะบอกผู้ชนะคือผู้ใด การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมากจนผู้คนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่หมัดและเท้าของพวกนางส่งเสียงดังก้องในสายลม หลายครั้งที่พวกนางแตะหินที่อยู่ข้างๆ จากนั้นมันก็พังทลายเป็นชิ้นๆ ทำให้ทุกคนตกตะลึง

การแข่งขันระหว่างพวกนางทั้งสองทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการทดสอบที่พวกเขาเพิ่งทำนั้นเป็นเพลงมวยที่สวยแต่กระบวนท่าแต่ใช้การไม่ได้เลย ตามการต่อสู้นี้ ใต้เท้าซ่งสามารถทำให้พวกเขาล้มลงได้ภายในสองสามท่า

หลังจากต่อสู้กันมากกว่าร้อยท่าแล้ว ทั้งสองก็หยุดมือ และถอยกลับไปข้างๆ หลังจากต่อสู้กันมานาน ก็แค่ผมผมยุ่งเหยิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จ้านเป่ยว่างกำลังเฝ้าดูอยู่ และในใจของเขาก็ซับซ้อนจนไม่อาจบรรยายได้ เขาได้เห็นความแขงแกร่งของซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือในสนามรบเขตหนานเจียง แต่ในเวลานั้นพวกนางกำลังออกศึก ล้วนแต่ใช้พลังงานและ การเคลื่อนไหว และความเร็ว แต่นางสู้กับเสิ่นว่านจือนั้นล้วนเอาจริงเอาจังเลย อีกอย่างมีท่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Erawady Mitrabhakdi
เรื่องยาวมาก เดินเรื่องช้าไป แต่โดยรวมก็สนุกดี
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 824

    สองวันต่อมา พวกของลู่เจินทั้งสามคนได้เตรียมงานเลี้ยงไหว้ครู ชวนเสิ่นว่านจือไปที่ตึกว่างเจียง ยังชวนท่านอ๋องและพระชายาไปเป็นพยานด้วยเสิ่นว่านจือรู้สึกเสียใจเล็กน้อยหลังจากกลับบ้านในวันนั้น ด้วยนิสัยใจคอของนางจะรับลูกศิษย์ได้อย่างไร มันจะรู้สึกไม่เป็นอิสระเมื่อถูกอะไรผูกมัด และนางก็อายุน้อยกว่าพวกเขาเสียอีก ไม่ใช่ว่าไม่สามารถแสดงอำนาจของอาจารย์ไม่ได้ แต่เพราะมันไม่จำเป็นต้องรับลูกศิษย์จริงๆ แค่สอนฝีมืให้ การเป็นอาจารย์เสิ่นก็ดีแล้วแหละ?เมื่อนางพยายามหาทางปฏิเสธ พวกเขาบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงไหว้ครู และจะจัดขึ้นที่ตึกว่างเจียงด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสำคัญกับเรื่องนี้มาก นี่มันทำให้นางเกิดความรู้สึกภูมิใจในตัวอย่างเหลือเชื่อเลยหลังจากคิดดูเรื่องนี้ให้ดีๆ แล้ว นางรู้สึกว่าถึงยังไงสถาบันชื่อเยียนจะถูกส่งมอบให้กับนางในอนาคต ดังนั้นก็รับไปเถอะหลังจากคิดตกแล้ว นางก็เลือกอาวุธที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา และพาเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีไปที่ตึกว่างเจียง หลังจากที่เสิ่นว่านจือยอมรับการกราบไหว้และถวายชาแล้ว นางก็พูดว่า "ให้ข้าขอชี้แจงข้อหนึ่งก่อน ที่พวกเจ้าทั้งสามไหว้ข้าเป็นอาจารย์ก็อย่าไปพูดข้างนอกท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 825

    หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงไหว้ครู เสิ่นว่านจือพูดกับซ่งซีซีข้ามักจะรู้สึกว่างานเลี้ยงไหว้ครูนี้เป็นเหมือนเรื่องตลก ข้าเองก็ทำลูกศิษย์ไม่ดีด้วยซ้ำ แล้วจะไปรับลูกศิษย์อีก และพวกเขามีอายุมากกว่าข้ามาก พวกเขายังเป็นสมาชิกของกองทัพซวนเจีย ถ้าข้าสอนพวกเขาไม่ดี จะไม่นำปัญหามาสู่คเจ้าในอนาคตเหรอ?"ซ่งซีซีจับมือของเสิ่นว่านจือ และให้เซี่ยหลูโม่กลับเรือนก่อน นางกับว่านจือเดินเล่นในสวน"หากเจ้าไม่ยินยอมก็ถือว่างานเลี้ยงไหว้ครู้นั้นไม่เคยเกิดขึ้น เจ้าเป็นอาจารย์เสิ่นของพวกเขา ส่วนไม่ว่าเจ้าจะสอนงานได้ดีหรือไม่นั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย อาจารย์แค่สอนให้เฉยๆ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเขาที่เรียนรู้ถึงขั้นไหน เจ้ามีวรยุทธ์ที่ดี เจ้าก็สามารถควบคุมพวกเขาได้ ถ้าพวกเขาฝึกไม่ดี นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า""ข้าแค่คิดว่าพวกเขาเป็นข้าราชการในราชสำนัก แต่ข้าใช้วิธีแวดวงการต่อสู้ไปสอนพวกเขามันจะไม่ค่อยดีหรือเปล่า?""แน่นอนว่าฝ่าบาทต้องการให้กองทัพซวนเจียจะแข็งแกร่งขึ้น เพราะกองทัพซวนเจียและกองทหารรักษาการณ์ในเมืองหลวงเป็นผู้ปกป้องพระราชวัง"เสิ่นว่านจือพึมพำ "มันสำคัญมา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 826

    คืนนี้ที่จวนเป่ยหมิงอ๋อง ในที่สุดทุกคนก็ทานอาหารเย็นร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาได้สักทีจากนั้น ซ่งซีซีก็ตระหนักได้ว่าศิษย์พี่เสิ่นยังไม่กลับภูเขาเหม่ยชานเลย นางรู้สึกประหลาดใจมาก "ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ยังไม่กลับเหรอ? ข้านึกว่าพี่กลับไปแล้ว และยังบ่นว่าทำไมไม่บอกสักหน่อยก็ไปแล้วนี่"ซ่งซีซีถูกตีที่หัวอีกครั้ง และเสิ่นชิงเหอก็พูดด้วยความโกรธ "เจ้านี่ใจร้ายจริงๆ ข้าเรียกเจ้ามาหลายครั้ง แต่เจ้าก็ไม่สนใจข้า ข้ายังคิดอยู่ว่าตนเองทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจหรือเปล่า แต่แล้วเจ้าไม่เห็นข้าเนี่ยนะ"เซี่ยหลูโม่รู้สึกเจ็บปวดใจมาก เขาลูบหลังศีรษะให้นาง แล้วอธิบายว่า "ช่วงนี้นางยุ่งมาก คงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่เลยไม่ได้ยินที่ศิษย์พี่เรียกนาง... แค่พูดก็พอ อย่าลงมือสิ"น้ำเสียงของเซี่ยหลูโม่มีความเคารพ ถึงยังไงเขาเป็นศิษย์พี่ใหญ่ แต่ก็บ่นเล็กน้อยเช่นกันเสิ่นชิงเหอหัวเราะ "ก็ไม่ได้ออกแรงใดๆ นอกจากนี้ นางก็ชินกับมันแล้วนี่ ถ้าบอกว่าคนที่สอนบทเรียนให้นางมากที่สุด ก็ต้องเป็นอาจารย์ของเจ้า ศิษย์อาของข้าเลย"เซี่ยหลูโม่เงียบไปครู่หนึ่ง "บางครั้งอาจารย์ก็ลงมือไม่รู้จักหนักเบาด้วย เดี๋ยวมีโอกาสข้าจะว่าเขาด้วย"เสิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 827

    อาจารย์หยูกล่าวว่า "ส่งยาไปแล้ว แต่ยังไม่มีข่าวว่าเขารอดชีวิตมาได้หรือไม่"เสิ่นชิงเหอซึ่งไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองกล่าวว่า "สถานการณ์เมืองซีจิงในตอนนี้ซับซ้อนมาก รัชทายาทได้ดูแลประเทศไปแล้ว แต่ฮ่องเต้ไม่สิ้นพระชนม์ ขณะนี้ขุนนางเก่าเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งในราชสำนักคัดค้านต่อนโยบายการปกครองที่เกินเลยของรัชทายาท ยิ่งกว่านั้นแม้ว่ารัชทายาทจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตรัชทายาท แต่เขาไม่เห็นด้วยกับนโยบายของอดีตรัชทายาทเลย ซูลันจีเคยสนับสนุนอดีตรัชทายาทอย่างเต็มที่ ดังนั้นต่อให้เขาไม่ตาย เกรงว่าสถานการณ์ก็จะไม่ดีเช่นกัน""ฮ่องเต้ดวงแข็งจริงๆ" เสิ่นว่านจือกล่าว "ไหนบอกว่าเขากำลังจะตายไปนานแล้ว แต่เขายังไม่สิ้นลมหายใจ เขาใช้อะไรมายืดอายุขัยทำให้เขาไม่ยอมหลับตาสักที?"เสิ่นชิงเหอกล่าวว่า "แน่นอนว่ามีความโกลาหลครั้งใหญ่ในประเทศ อดีตรัชทายาทเอาชนะใจประชาชนมาโดยตลอด และการส่งมอบช่วงต่อระหว่างฮ่องเต้องค์เก่ากับอดีตรัชทายาทก็เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่แล้งอดีตรัชทายาทจากไปก่อน แล้วเปลี่ยนรัชทายาทคนใหม่ โดยพื้นฐานแล้ว ข้าราชการทั้งหมดเป็นคนของอดีตรัชทายาท รัชทายาทคนใหม่แม้แต่ซูลันจีก็ไม่สนับสนุน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 828

    เขากล่าวเสริมว่า "อาจารย์ของข้าเคยกล่าวไว้ว่า ซีซีเป็นลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในด้านศิลปะการต่อสู้ที่เขาเคยเห็นมา ท่าต่างๆ นางแค่มองดูคั้งเดียวก็สามารถทำได้แล้ว"เสิ่นชิงเหอพูดด้วยรอยยิ้ม "อาจารย์ของเจ้าได้พูดอย่างนั้นจริงๆ แต่มีอีกประโยคข้างหลังเขายังไม่ได้บอกกับเจ้า นั่นคือนางขี้เกียจเกินไป วันๆ คิดแต่วิ่งรอบภูเขา ปีนต้นไม้ขุดรังนก จับงูพิษในรู แล้วกระดิกหางของหนูไปขู่เด็กๆ ไปทั่ว"กุ้นเอ๋อร์พูดอย่างไม่ความรู้สึก "ข้าก็เป็นเหยื่อด้วย นางกระดิกหางหนูมาหา แต่นางโยนหนูใส่ข้า ข้าร้องไห้และกลับไปหาอาจารย์ อาจารย์ก็ลงโทษข้า โดยบอกว่าลูกผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ แต่วันรุ่งขึ้น อาจารย์ก็ไปสถาบันว่านซงเหมินเพื่อเอาความแล้ว"เสิ่นว่านจือก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย และพูดต่อว่า "ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงและลดค่าเช่าเป็นเวลาหนึ่งปีให้"ความรู้สึกสะเทือนใจของซ่งซีซีก็หายวาบไว้ นางพูดด้วยความเขินอาย "เรากำลังพูดถึงเรื่องเมืองซีจิงอยู่เลย ทำไมพูดถึงวัยเยาว์ของข้าได้อย่างไร กินข้าว กินเลย"กุ้นเอ๋อร์วางตะเกียบลงแล้วมองไปที่เสิ่นว่านจือ "ลดค่าเช่าหนึ่งปีเหรอ? จริงเหรอ? เจ้ารู้ได้อย่างไร""สถาบันชื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 829

    ณ จวนแม่ทัพหลังจากที่หวังชิงหลูมีอารมณ์ฉุนเฉียวมาครั้งหนึ่ง บวกกับอายุครรภ์ก็มากขึ้นเรื่อยๆ นางก็หยุดสร้างปัญหาอีกเลยเพียงแต่อาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าแย่ลงพอเข้าสู่ฤดูหนาว กินยามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ป่วยอยู่ตลอดพวกเขายังคงไม่สามารถตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมาได้ เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกไม่สบาย ก็จะบ่นว่าหวังชิงหลูไม่มีความสามารถอย่างกับซ่งซีซี ซ่งซีซีรู้จักคนได้มากมายจริงๆหวังชิงหลูก็ไม่เอาแต่ใจนาง อย่าว่าแต่ดูแลผู้ป่วย แม้แต่มาทักทายก็ไม่มา แต่ละวันมีแต่นางหมิน ลูกสะใภ้คนโตคอยดูแลนางตลอดฮูหยินผู้เฒ่าบ่นกับจ้านเป่ยว่างว่า "ตอนนี้เจ้าเป็นผู้นำองครักษ์รักษาพระองค์แล้ว ทำไมแม้แต่ภรรยาของตนเองยังสั่งสอนไม่ได้ นางอกตัญญู ต่อต้าน และมักจะขัดแย้งกับแม่อยู่เสมอ มีภรรยาที่ไม่ดีจะนำความหายนะมาสู่สามชั่วอายุคนนะ"ตอนนี้ จ้านเป่ยว่างกำลังพัฒนาอาชีพการงานของเขาอยู่ และไม่ต้องการทะเลาะกับหวังชิงหลู ทุกครั้งต้องทะเลาะอย่างเหนื่อยทั้งกายและใจ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงปลอบแม่ในขณะที่ขอร้องให้พี่สาวดูแลท่านแม่ให้มากหน่อยนางหมินยังตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "น้องรองดูแลท่านแม่เป็นหน้าที่ของข้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 830

    เมื่อกลับมาถึงเรือน หวังชิงหลูกำลังเย็บปักถักร้อย นางได้ทำตัวว่าง่ายขึ้นมากหลังจากทะเลาะในครั้งนั้นจ้านเป่ยว่างบอกนางด้วยความวิตกกังวลว่ามอบอำนาจในการดูแลบ้านให้กับพี่สะใภ้ใหญ่แล้ว หวังชิงหลูเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเขา "มันควรจะมอบให้กับพี่สะใภ้อยู่แล้ว อย่าว่าแต่ข้าท้องในตอนนี้ แม้ว่าข้าไม่ได้ท้องก็ไม่ควรให้ข้ามาดูแลจวน"จ้านเป่ยว่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก นั่งลงแล้วมองดูนาง แล้วพูดว่า "งานเย็บปักถักร้อยจะไม่ดีกับสายตาเจ้าอย่าทำเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่คนใช้ไป ข้าจำได้ว่างานเย็บปักถักร้อยของหงเอ๋อร์ก็ค่อนข้างดีเช่นกัน งั้นก็ให้นางทำเลย""ข้าในฐานะแม่ ข้าก็ต้องทำเสื้อผ้าให้ลูกตนเองสักสองสามชินสิ" หวังชิงหลูเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า "นอกจากนี้ แม้ว่าครอบครัวของเรามีสามคนมีเงินเดือน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลี้ยงดูครอบครัวใหญ่เช่นนี้ ท่านแม่ยังต้องกินยา ดังนั้นก็ช่วยประหยัดเงินด้วย"จ้านเป่ยว่างไม่รู้ว่าทำไมนางถึงพูดถึงการประหยัดเงิน ให้คนใช้ไปทำงานพวกนี้ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับประหยัดเงินนี่แต่ว่า ขอแค่นางไม่อารมณ์เสียก็พอ ตราบใดที่บ้านไม่เกิดปัญหา ชีวิตก็ยังไปต่อได้ตอนน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 831

    วันรุ่งขึ้น จ้านเป่ยว่าง เลิกงานดึก เลยซื้อเม็ดซืนเจียวไม่ได้ เลยฝากนางหมินไปซื้อเม็ดซืนเจียวที่ร้านขายยาเย่าหวังแปดเม็ดในวันพรุ่งนี้ จากนั้นช่วยคัดเลือกแม่นมและผดุงครรภ์ด้วยนางหมินรับปาก เพราะก็ต้องเตรียมยาดันเสวี่ยล่วงหน้าให้กับท่านแม่ด้วยแม้ว่านางก่อนหน้านี้นางอ้างว่าตนเองไม่สบายเลยไม่ได้ดูแลงานในบ้าน แต่ก็รู้ว่าจริงๆ แล้ว จวนแม่ทัพที่ดูยิ่งใหญ่นั้นมีเงินในบัญชีไม่เท่าไร ดังนั้นก่อนที่นางจะออกไปซื้อยาในวันรุ่งขึ้น จึงไปเบิกเงินที่ห้องบัญชี แต่กลับพบว่ามีเงินเพียงสิบตำลึงเท่านั้นนางรู้ว่าไม่มีเงิน แต่ไม่รู้ว่ามีเงินเหลือเพียงสิบตำลึงในจวนแม่ทัพเท่านั้น ซึ่งทำให้นางตกใจมากนางคิดว่าน่าจะมีอย่างน้อยสองสามร้อยตำลึงในบัญชี เพราะบ้านรองไม่ได้แยกออกไป และรายได้ส่วนใหญ่จากบ้านรองก็จะมอบให้บัญชีส่วนกลางเช่นกัน บวกกับเงินเดือนของสามีนาง ท่านพ่อด้วยและน้องรองจ้านเป่ยว่าง บวกกับทองคำหนึ่งร้อยตำลึงที่เป็นรางวัลนั้น ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีเงินเหลืออยู่สองสามร้อยตำลึงกระมัง?แต่แล้วกลับมีเงินเพียงสิบตำลึงเท่านั้นนางตรวจสอบบัญชีทีละรายการและพบว่าได้ใช้เงินไปกับสินเดิมของน้องสามวไปบ้าง ยี่ฝางม

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status