แชร์

บทที่ 8: ระบำแห่งเปลวไฟ (1/2)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-16 14:19:57

องค์รัชทายาทนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นแววตาของไลลา ก่อนจะทอดพระเนตรลงไปยังกำไลข้อเท้าเงินร้อยกระพรวนที่นางหยิบขึ้นมาเป็นชิ้นต่อไป เสียงกรุ๊งกริ๊งแผ่วเบาที่ดังขึ้นปลุกความทรงจำที่ทั้งเย้ายวนและอันตรายให้หวนคืนมาอีกครั้ง

“ไลลา... ไม่สิ ซิงจวน...”

“จะเรียกหม่อมฉันว่าอะไรก็แล้วแต่พระองค์เถิดเพคะ” ซิงจวนในร่างทาสสาวเอ่ยขึ้น

“ก่อนที่ข้าจะเล่าเรื่องต่อไป มีบางอย่างที่ข้าต้องสารภาพตามตรง” พระองค์เริ่มต้นด้วยสุรเสียงที่จริงจัง แฝงความละอายพระทัย “มันอาจทำให้เจ้าเจ็บปวด... นอกจากเจ้าในฐานะไลลาแล้ว ข้าได้เผลอกายและใจให้กับสตรีอื่นด้วย... แต่อย่างไรก็ตาม ข้าขอยืนยันว่าซิงจวนคือรักแรกและรักเดียวของข้าเสมอมา และไลลาคือสัมพันธ์สวาทด้วยรักครั้งแรกของข้า... แต่นางผู้นี้... นางแตกต่างออกไป”

เมื่อเห็นซิงจวนพยักหน้ารับฟังอย่างสงบ พระองค์จึงได้เริ่มเล่าเรื่องราวต่อไป

“หลังจากแยกกับไลลา ข้าเดินทางต่อไปยังแคว้นพาร์ซา เพื่อเจรจาเรื่องการเปิดเส้นทางการค้าใหม่กับนครซาร์ราบาด ในครั้งนี้ผู้ที่เราต้องเจรจาด้วยไม่ได้มีแต่เจ้าผู้ครองนครโดยตรง แต่ยังมีมหาเศรษฐีผู้กุมอำนาจการค้าส่วนใหญ่ของที่นั่น เขาต้องการสร้างสายสัมพ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 13: ระบำแห่งความทรงจำ

    องค์รัชทายาทจ้องมองรอยยิ้มอันสดใสของซิงจวน รอยยิ้มของรักแรกที่พระองค์โหยหามาตลอด คำขอของนางที่ให้หยุดพักเรื่องราวไว้ก่อนนั้น ไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองในพระทัยเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้พระองค์ตระหนักว่า สตรีตรงหน้าไม่ใช่เพียงภาพฝันหรือวีรสตรีในตำนาน แต่คือนางผู้มีเลือดเนื้อ มีความเหนื่อยล้า และมีความต้องการเช่นเดียวกับพระองค์ความรัก ความซาบซึ้ง และแรงปรารถนาที่ถูกเก็บกดมานานแสนนานได้ปะทุขึ้นในใจของพระองค์อย่างรุนแรง พระองค์ไม่ได้เอ่ยคำใดต่อ แต่ใช้การกระทำเป็นคำตอบพระองค์โน้มพระพักตร์ลงไปมอบจุมพิตให้แก่นาง... จุมพิตที่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา มันไม่ได้มีความลังเลของอิซาเบลล่า ไม่ได้มีความเร่าร้อนท้าทายของยาซมิน และไม่ได้มีความโหยหาที่เจือความเศร้าของไลลา แต่มันคือจุมพิตขององค์รัชทายาทที่มอบให้แก่พระชายา... ภรรยาเพียงคนเดียวของพระองค์“ซิงจวน...” พระองค์กระซิบเรียกชื่อนาง “ข้ารักเจ้า... รักทุกตัวตนของเจ้า”ซิงจวนยิ้มรับผ่านจุมพิตนั้น นางสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริงของพระองค์ แววตาของนางทอประกายขี้เล่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“เช่นนั้น... พระองค์พูดเองนะเพคะ”ไม่รอคำตอบ แสง

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 12: ความอบอุ่นในดินแดนหิมะ

    รุ่งอรุณของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้องหอ แต่บทสนทนาแห่งความทรงจำกลับต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนที่หลอมรวมสองวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว ความอ่อนล้าและความสุขสมก็ทำให้พระชายาขององค์รัชทายาทผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของพระองค์เสียก่อนที่จะได้เอ่ยถึงปริศนาของตลับเงินตลอดทั้งวัน องค์รัชทายาททรงปฏิบัติพระราชกิจด้วยพระทัยที่ล่องลอย ภาพของซิงจวนในร่างของไลลาและยาซมินยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึง ความรัก ความทึ่ง และความรู้สึกผิดที่ถูกชะล้างไปด้วยความเข้าใจ ก่อเกิดเป็นสายใยที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าพันธนาการใดๆ พระองค์เฝ้ารอเวลาค่ำคืนอย่างใจจดใจจ่อเมื่อเสร็จสิ้นราชกิจทั้งหมด พระองค์ก็รีบเสด็จไปยังตำหนักส่วนพระองค์ของพระชายาทันที แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องรับแขก พระองค์ก็ถึงกับนิ่งไปด้วยความประหลาดใจห้องที่เคยตกแต่งอย่างวิจิตรตามแบบฉบับตะวันออก บัดนี้กลับถูกเปลี่ยนโฉมไปโดยสิ้นเชิงในวันเดียว พรมขนสัตว์หนานุ่มปูทับพื้นไม้ขัดเงา เก้าอี้นวมบุผ้ากำมะหยี่สีเข้มตั้งอยู่หน้าเตาผิงที่แกะสลักจากหินอ่อน บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของดินแดนตะวันตกที่พระองค์คุ้นเคย พระองค์ไม่แปลกใจเท่าไรกับการเปลี่ยนแปล

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 11: ระบำแห่งสองวิญญาณ

    ซิงจวนในร่างของยาซมินยังคงยืนอยู่ตรงหน้าองค์รัชทายาท แววตาของนางซับซ้อนเกินกว่าจะอ่านได้ มันคือแววตาของนักสู้ผู้ผ่านความตาย แววตาของนางระบำผู้เย้ายวน และแววตาของซิงจวนผู้เปี่ยมรัก... ทั้งหมดหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว นางเริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่แท้จริงเบื้องหลังระบำแห่งเปลวไฟนั้น...“เมื่อหม่อมฉันไปถึงนครซาร์ราบาดในร่างใหม่... หม่อมฉันไม่ได้อยู่เพียงลำพังเพคะ ความทรงจำของยาซมินได้นำทางหม่อมฉันไปยังที่ซ่อนของคณะระบำที่เหลือ พวกนางคือสตรีนักสู้จากเผ่าเดียวกับยาซมิน ทุกคนต่างมีภารกิจเดียวกัน คือการทวงคืน ‘ดวงเนตรแห่งอัคคี’ กลับคืนสู่บ้านเกิด”“พวกเราไม่ใช่เพียงคณะระบำ แต่คือหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ทุกคนมีหน้าที่ของตนเอง บางคนเชี่ยวชาญด้านการสอดแนม บางคนชำนาญเรื่องยาสมุนไพรและยาสลบ และบางคนคือยอดฝีมือในการต่อสู้ที่ซ่อนคมดาบไว้ใต้ท่วงท่าที่อ่อนช้อย ส่วนหม่อมฉัน... ในฐานะยาซมิน... คือหัวหน้า คือนักวางแผน และเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดของคณะ”“โชคดีที่มหาเศรษฐีผู้นั้นเป็นคนลุ่มหลงในกามารมณ์และศิลปะที่ฉาบฉวย แผนการของเราจึงเริ่มต้นขึ้นได้อย่างง่ายดาย เรานำเสนอตัวเองกลาวเมืองว่าเป็

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 10: ความโลภ

    ซิงจวนในร่างของไลลายิ้มบางๆ นางมองลึกเข้าไปในดวงเนตรขององค์รัชทายาทที่ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายอย่างท่วมท้นระคนกันไป“เรื่องราวว่าหม่อมฉันได้มาอย่างไรมันน่าเหลือเชื่อ แต่เรื่องราวที่เหลือเชื่อนี้ ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้พระองค์ทรงประจักษ์แก่ใจ... แต่หม่อมฉันขอให้พระองค์เชื่อใจ และหลับตาลงก่อนได้หรือไม่เพคะ”แม้จะยังสับสน แต่แววตาที่จริงใจของนางก็ทำให้องค์รัชทายาทพยักหน้ารับอย่างช้าๆ พระองค์หลับพระเนตรลง ซิงจวนจึงหยิบผ้าแพรเนื้อนุ่มขึ้นมาผูกปิดพระเนตรของพระองค์ไว้เบาๆ บดบังการมองเห็นทั้งหมด เหลือเพียงความมืดและเสียงรอบกายพลันเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้ง...กรุ๊ง... กริ๊ง...เสียงกระพรวนจากกำไลข้อเท้าเงินดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน มันเคลื่อนไหวไปรอบๆ ตัวพระองค์อย่างเชื่องช้า ราวกับการร่ายรำที่มองไม่เห็นหัวใจขององค์รัชทายาทกระตุกวูบ พระองค์ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ตามเสียงกระพรวนที่นำทางไป ไม่นานนักเสียงก็หยุดลง พร้อมกับสัมผัสอุ่นร้อนที่ปลายนิ้วซึ่งกำลังปลดผ้าผูกตาออกเมื่อลืมพระเนตรขึ้น ภาพตรงหน้าก็ทำให้พระองค์แทบหยุดหายใจ...ยาซมิน... นางระบำผู้เลอโฉมในชุดผ้าแพ

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 9: ระบำแห่งเปลวไฟ (2/2)

    "ข้ารู้สึกผิดต่อไลลาอย่างสุดซึ้ง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธแรงดึงดูดที่ข้ามีต่อยาซมินได้ นางคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความแข็งแกร่งของไลลาและความสดใสของซิงจวน นางคือพายุที่พัดเข้ามาในหัวใจที่เคยสงบนิ่งของข้า และทำให้กำแพงที่ข้าเคยสร้างไว้เพื่อรอคอยไลลาพังทลายลง ข้าตกอยู่ในสภาวะที่อันตราย... สภาวะที่พร้อมจะยอมจำนนต่อท่วงทำนองต้องห้ามที่นางกำลังบรรเลง"“หลายวันต่อมา ในค่ำคืนแห่งการเจรจาธุรกิจ มหาเศรษฐีได้จัดงานเลี้ยงส่วนตัวขึ้นอีกครั้ง เหล่านางระบำของยาซมินทำหน้าที่รินสุราและให้ความบันเทิง ข้าสังเกตเห็นว่าพวกนางกำลังมอมเหล้าองครักษ์ของข้าและทหารยามของคฤหาสน์ด้วยสุราผสมยาสลบอ่อนๆ พร้อมทั้งโปรยเสน่ห์ยั่วยวนจนทุกคนเคลิบเคลิ้มและหย่อนยานต่อหน้าที่”“ข้ารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ข้าไม่ได้หลงใหลในเสน่หาผิวเผินเหล่านั้นและไม่ได้ต้องการดื่มสุรา จึงพยายามปลีกตัวออกจากงานเลี้ยงกลับไปยังห้องพักเพื่ออ่านตำรา แต่ยาซมินก็ตามข้ามา นางเข้ามาและรุกข้าอย่างหนักหน่วงด้วยเสน่ห์ทั้งหมดที่นางมี เพื่อให้ข้าดื่มสุราให้ได้” องค์รัชทายาทหยุดเล่า สบตากับซิงจวนอย่างรู้สึกผิด “ข้ารู้ว่านางมีแผนการบางอย่างจึงแสร้งทำเป็นเผล

  • สตรีเหล่านั้น หม่อมฉันรู้จักดีเพคะ   บทที่ 8: ระบำแห่งเปลวไฟ (1/2)

    องค์รัชทายาทนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นแววตาของไลลา ก่อนจะทอดพระเนตรลงไปยังกำไลข้อเท้าเงินร้อยกระพรวนที่นางหยิบขึ้นมาเป็นชิ้นต่อไป เสียงกรุ๊งกริ๊งแผ่วเบาที่ดังขึ้นปลุกความทรงจำที่ทั้งเย้ายวนและอันตรายให้หวนคืนมาอีกครั้ง“ไลลา... ไม่สิ ซิงจวน...”“จะเรียกหม่อมฉันว่าอะไรก็แล้วแต่พระองค์เถิดเพคะ” ซิงจวนในร่างทาสสาวเอ่ยขึ้น“ก่อนที่ข้าจะเล่าเรื่องต่อไป มีบางอย่างที่ข้าต้องสารภาพตามตรง” พระองค์เริ่มต้นด้วยสุรเสียงที่จริงจัง แฝงความละอายพระทัย “มันอาจทำให้เจ้าเจ็บปวด... นอกจากเจ้าในฐานะไลลาแล้ว ข้าได้เผลอกายและใจให้กับสตรีอื่นด้วย... แต่อย่างไรก็ตาม ข้าขอยืนยันว่าซิงจวนคือรักแรกและรักเดียวของข้าเสมอมา และไลลาคือสัมพันธ์สวาทด้วยรักครั้งแรกของข้า... แต่นางผู้นี้... นางแตกต่างออกไป”เมื่อเห็นซิงจวนพยักหน้ารับฟังอย่างสงบ พระองค์จึงได้เริ่มเล่าเรื่องราวต่อไป“หลังจากแยกกับไลลา ข้าเดินทางต่อไปยังแคว้นพาร์ซา เพื่อเจรจาเรื่องการเปิดเส้นทางการค้าใหม่กับนครซาร์ราบาด ในครั้งนี้ผู้ที่เราต้องเจรจาด้วยไม่ได้มีแต่เจ้าผู้ครองนครโดยตรง แต่ยังมีมหาเศรษฐีผู้กุมอำนาจการค้าส่วนใหญ่ของที่นั่น เขาต้องการสร้างสายสัมพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status