ที่เมืองเจียงเฉิน ในโถงรับแขกสกุลลู่ บ่าวหญิงคนสนิทของอันเหม่ยฉินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข พร้อมเดินนำบ่าวที่ยกหีบไม้เคลือบเงาและจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้ลู่ฮูหยินผู้กำลังนั่งปักผ้าอยู่กลางเรือน
“ฮูหยินเจ้าคะ จดหมายจากจวนโหวเจ้าค่ะ”
“ให้คนจากจวนโหวพักผ่อนและดูแลอย่างดี” ลู่ฮูหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
นางละสายตาจากผ้าไหมในมือ รีบวางเข็มปัก แล้วรับจดหมายขึ้นมาเปิดอ่าน พอเห็นลายมือของลูกเขยที่คุ้นเคย ใบหน้านางก็ยิ่งอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ และเมื่ออ่านมาถึงย่อหน้าสุดท้าย ใบหน้าที่เปี่ยมด้วยเมตตาก็ยิ้มทั้งน้ำตา
“หนานเอ๋อร์ ตั้งครรภ์แล้ว” นางพูดเบาๆ ราวกับพูดกับลมหายใจของตนเอง แล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงใส
“ดีเหลือเกิน ท้องพร้อมกันกับแม่เสียด้วย”
ลู่หยวนฉี สามีของนางที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ หันมามองด้วยความสนใจ ก่อนยิ้มกว้างขึ้นมาอีกคน
“เช่นนี้ครอบครัวเราคงจะครึกครื้นขึ้นอีกมาก เดี๋ยวข้าต้องให้คนเตรียมเรือนรับรองไว้แต่เนิ่นๆ เผื่อเจ้าตัวเล็กของเราจะได้เล่นกับหลานบ้าง”
&l
ที่เมืองเจียงเฉิน ในโถงรับแขกสกุลลู่ บ่าวหญิงคนสนิทของอันเหม่ยฉินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข พร้อมเดินนำบ่าวที่ยกหีบไม้เคลือบเงาและจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้ลู่ฮูหยินผู้กำลังนั่งปักผ้าอยู่กลางเรือน“ฮูหยินเจ้าคะ จดหมายจากจวนโหวเจ้าค่ะ”“ให้คนจากจวนโหวพักผ่อนและดูแลอย่างดี” ลู่ฮูหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนนางละสายตาจากผ้าไหมในมือ รีบวางเข็มปัก แล้วรับจดหมายขึ้นมาเปิดอ่าน พอเห็นลายมือของลูกเขยที่คุ้นเคย ใบหน้านางก็ยิ่งอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ และเมื่ออ่านมาถึงย่อหน้าสุดท้าย ใบหน้าที่เปี่ยมด้วยเมตตาก็ยิ้มทั้งน้ำตา“หนานเอ๋อร์ ตั้งครรภ์แล้ว” นางพูดเบาๆ ราวกับพูดกับลมหายใจของตนเอง แล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงใส“ดีเหลือเกิน ท้องพร้อมกันกับแม่เสียด้วย”ลู่หยวนฉี สามีของนางที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ หันมามองด้วยความสนใจ ก่อนยิ้มกว้างขึ้นมาอีกคน“เช่นนี้ครอบครัวเราคงจะครึกครื้นขึ้นอีกมาก เดี๋ยวข้าต้องให้คนเตรียมเรือนรับรองไว้แต่เนิ่นๆ เผื่อเจ้าตัวเล็กของเราจะได้เล่นกับหลานบ้าง”&l
บนระเบียงเรือนรับรองของจวนโหว ลู่ซือหนานนั่งพับผ้าอย่างเบิกบานใจ นางกำลังเตรียมชุดของใช้จำเป็นและของขวัญสำหรับอันเหม่ยฉินที่กำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด ณ เจียงเฉิน“เดือนหน้าท่านแม่ก็จะคลอดแล้ว ข้าจะต้องไปอยู่ดูแลท่านแม่ด้วยตนเองให้คลอดอย่างปลอดภัย”ลู่ซือหนานพูดอย่างตั้งใจกับสาวใช้ข้างกายที่คอยช่วยจัดของ สีหน้าเปี่ยมสุขราวกับการได้กลับบ้านในคราวนี้เป็นของขวัญชิ้นใหญ่“เขาว่ากันว่าลูกสาวเมื่อแต่งงานแล้วก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกนอกเรือน เป็นคนของสกุลอื่นไปแล้ว แต่ดูท่านโหวสิเจ้าคะ ไม่ห้ามฮูหยินกลับเจียงเฉินแล้วยังจะตามไปเยี่ยมเยียนครอบครัวเดิมอีก” เสี่ยวหลานกล่าวชื่นชมนายท่านของตน“นั่นเพราะท่านโหวรักท่านพ่อท่านแม่ข้าเหมือนพ่อแม่อีกคนอย่างไรเล่า” นางกล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะรู้สึกเวียนศีรษะแล้วยกมือเรียวขึ้นมากุมเอาไว้ที่ขมับ“ฮูหยิน เป็นอะไรไปเจ้าคะ”“ข้าไม่สบายนิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก” กล่าวจบก็จัดรายการของฝากให้มารดาต่อไป พรุ่งนี้เช้าก็จะต้องออกเดินทางแล้ว นางจะต้องเตรียมให้พร้อม
ในช่วงเวลาที่วังวนแห่งการเมืองเพิ่งจางคลายและบ้านเมืองกลับสู่ความสงบ ข่าวสารจากบ้านเกิดที่เจียงเฉินก็ทำให้ลู่ซือหนานยิ่งเบิกบานใจยิ่งนัก“ท่านแม่ใกล้คลอดแล้วเจ้าค่ะ เดือนหน้านี้เองข้าไม่เคยนึกเลยว่าจะได้มีน้องอีกในตอนนี้”ซือหนานพูดด้วยแววตาเปล่งประกาย ขณะถือจดหมายที่มีกลิ่นน้ำหมึกสดใหม่จากบ้านเกิด น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความยินดีปนขวยเขินแบบเด็กสาวเมื่อพูดถึงการมีน้องในวัยที่โตพ้นมาแล้วเผิงเหยียนเฉิงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ วางพู่กันลงทันที พูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“งานล้นมือจนข้าเกือบลืมไปเลย อย่างนี้ท่านพ่อก็แซงหน้าข้าไปก่อนแล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นคืนนี้ ข้าจะทำให้เจ้าได้เป็นมารดาบ้าง”“ครั้งก่อนท่านก็พูดแบบนี้” ลู่ซือหนานย้อนเสียงเบา หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย“ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้พลาดอีก” คำพูดยืนยันแน่วแน่ ทำให้ดวงตาซองเผิงฮูหยินลุกวาวอย่างตกใจ ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาไม่ทันตั้งตัวยังไม่ทันที่นางจะทันได้เดินหนีหรือแสร้งเมินตามประสาสตรีอายม้วน เผิงเหยียนเฉิงก็โน้มตัวอุ้มนางขึ้นเสียแล้ว ฝ่ามือเขา
ณ ศาลต้าหลี่ในเมืองหลวงโจวจิงหยู นั่งนิ่งในชุดสีเข้ม หน้าซีดเผือดปลัดซ่งจื่ออวี้สามีของนางคุกเข่าในชุดนักโทษ สายตาพวกเขามีทั้งความโกรธ ความอับอาย และความสิ้นหวังข้างกันนั้นคือซ่งมู่ฉินนายอำเภอตุนโจวและโจวเสวี่ยที่มีสีหน้ากังวลขณะที่กำลังมีการสืบสวนพยานหลายคนออกมาพูด รวมถึงเสี่ยวหนิวที่ออกมาเป็นพยานปากสำคัญในคดีแพร่โรคระบาด ทำให้โจวจิงหยูต้องจำนนด้วยหลักฐาน แล้วนั่งมองอดีตสาวใช้คนสนิทด้วยความแค้นเคือง ทว่าเสี่ยวหนิวไม่ได้หลบตาเพราะนางรู้ว่ามีที่พึ่งที่ปกป้องนางได้การสอบสวนดำเนินไปจนถึงเรื่องทุจริต ทั้งหลักฐานที่มัดแน่นและพยานบุคคลทำให้ซ่งจื่ออวี้จนมุม และเพื่อให้บิดาของตนและโจวเสวี่ยอยู่รอดจึงบอกว่าตนกระทำเพียงผู้เดียวข้างกันนั้น ขุนนางที่สอบสวนได้ลุกขึ้นรายงานสรุปผลการสืบสวนต่อเจ้ากรมอาญาที่มาร่วมตัดสินคดีใหญ่นี้“จากพยานและหลักฐานซึ่งตรวจสอบแล้วโดยแม่ทัพเวยแห่งทัพหลวง พบว่าปลัดซ่งแห่งตุนโจวและภรรยาโจวจิงหยู ได้มีการแอบนำผู้ติดเชื้อจากเขตกักโรคไปปล่อยแพร่ในเขตตุนโจว ด้วยจุดประสงค์สร้างสถานการณ์ปลอมให้สร้างผลงานแก้โรคระบาด แล
โจวจิงหยูบีบกระดาษฉบับหนึ่งแน่น มือสั่นระริก ข่าวการเปิดจดหมายลับในท้องพระโรงไปถึงนางเร็วกว่าที่คิดโจวเสวี่ยที่มาหาบุตรีถึงอำเภอตุนโจว เดินวนอยู่ไม่ไกล สีหน้าเคร่งเครียด“ข้าบอกแล้วว่าอย่าด่วนลงมือ”โจวจิงหยูตวัดสายตาขึ้น “แล้วท่านพ่อคิดว่าข้าจะทนปล่อยให้เรื่องที่ข้าอยู่เบื้องหลังโรคระบาดถูกสืบพบจนเจอหรือเจ้าคะ”นางพ่นลมหายใจแรง สายตาวาววับเต็มไปด้วยความเคียดแค้น“อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ควรเขียนจดหมายไปแบบนั้น จริงอยู่ว่าแม่ทัพเซี่ยติดหนี้บุญคุณสกุลโจว แต่เรื่องที่ตอบแทนได้ก็ได้ตอบแทนไปนานแล้ว และยิ่งเป็นเรื่องที่ให้ใช้อำนาจในทางที่ผิด นั่นยิ่งไม่เหมาะสม โชคดีเท่าไรแล้วที่ตราสกุลโจวที่อยู่กับเจ้าเป็นของเจ้าเป็นคนละอันกับตราหลักของสกุลโจว ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรให้เจ้าอีก” ผู้เป็นบิดาบ่นไปถอนหายใจไป“ข้าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก อย่างไรก็สืบไม่ถึงข้าหรอก ท่านพ่ออย่าลืมว่าข้าชำนาญเรื่องการปลอมลายมือ ลายมือนั่นก็ไม่ใช่ลายมือหลักที่ข้าใช้ประจำ” นางกล่าวด้วยความมั่นใจ&ld
หลายวันผ่านไป ซ่งจื่ออวี้เริ่มรู้สึกกังวลใจ เมื่อพ่อค้าหนึ่งในเครือข่ายลับส่งจดหมายลับมายังมือตนโดยตรง“หากข้าถูกสอบสวนเรื่องสินบน ข้าจะไม่ปิดปาก ขอให้เตรียมทางหนีไว้เถิด เพราะนอกจากเรื่องนี้เห็นว่ามีการสืบเรื่องโรคระบาดด้วย”โจวจิงหยูเมื่อได้ยินข่าวก็ถึงกับสีหน้าซีดเผือดทันที “นี่มันหมายความว่าอะไร หรือว่ามีคนสืบถึงเราแล้ว”ปลัดอำเภอหนุ่มเองก็เริ่มหวั่นใจ เขากล่าวเสียงเครียด “เราทำทุกอย่างไว้เบื้องหน้าอย่างขาวสะอาด ใครกันที่กล้าทำเช่นนี้”โจวจิงหยูเดินวนไปมาช้าๆ ดวงตาคมเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะหยุดฝีเท้าแล้วเอ่ยเบาๆ“หรือว่าเสี่ยวหนิว....” นางกล่าวถึงสาวใช้ที่ถูกส่งขายเป็นแรงงานทาส แล้วเบิกตากว้างขึ้นเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายนั้นจะนำเรื่องราวที่ตนทำไปบอกแก่ใครสักคน“ข้าขายนางไปแล้ว หรือว่านางหนีออกไปได้แล้วมาแก้แค้นที่ข้าทำกับนาง” ซ่งฮูหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นด้วยความกังวล สีหน้านางตอนนี้มีความหวาดระแวงและหวั่นใจว่าเรื่องราวในอดีตจะถูกเปิดเผยปลัดซ่งกัดฟันกรอด &ld