ชะตาท่านข้าขอลิขิตเอง

ชะตาท่านข้าขอลิขิตเอง

last updateÚltima atualização : 2025-12-01
Idioma: Thai
goodnovel16goodnovel
Classificações insuficientes
102Capítulos
63visualizações
Ler
Adicionar à biblioteca

Compartilhar:  

Denunciar
Visão geral
Catálogo
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP

หนังสือนิยายลึกลับทำให้นางรู้จักเขา ตัวร้ายผู้แสนร้ายกาจ ผู้ขึ้นเป็นฮ้องเต้ที่ชั่วร้าย สุดท้ายตายเพราะขายวิญญาณให้ปิศาจ เมื่อตายแล้วย้อนมาเกิดใหม่ ภารกิจช่วยเขาจึงเริ่มขึ้น แต่เอทำไมเขาจ้องแต่จะฆ่านางหว่า?

Ver mais

Capítulo 1

บทนำ

บทนำ

วันนี้อากาศหนาวเหน็บกว่าทุกวัน หิมะสีขาวบริสุทธิ์ตกโปรยปรายไม่หยุดตั้งแต่เช้าจวบจนกลางวันก็ยังมิมีทีท่าว่าจะหยุด ยิ่งส่งเสริมให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทว่าท่ามกลางความหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถกระทบกระเทือนผิวกายขาวดุจหิมะภายใต้อาภรณ์สีม่วงสดสลับแดง นางกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ได้เลย

ดวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือประกอบกับดวงตาดอกท้อสดใสแลดูงดงามและน่ารักในเวลาเดียวกัน จมูกเล็กเชิด ปากสีชมพูระเรื่อ พวงแก้มแดงจางๆเป็นผลมาจากอากาศหนาวเย็นนัก ยิ่งทำให้แม้นางนั่งเฉยๆก็สามารถดึงดูดผู้คนได้อย่างง่ายดาย

เรือนร่างบอบบางมีส่วนเว้าส่วนโค้งพอควรเจริญเติบโตตามแบบฉบับเด็กสาววัยสิบสี่ย่างสิบห้า วัยใกล้ปักปิ่นกำลังจะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

สตรีหนังหนาที่สามารถนั่งท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บขนาดบุรุษยังหลบเข้าบ้านตนเองเพื่อแสวงหาความอบอุ่น สตรีผู้นั้นคือข้าเอง

นามของข้าคือ เซียวเฟยเจิน แปลว่าผู้โบยบินสู่ทรัพย์สมบัติ ท่านพ่อข้าเป็นผู้ตั้งชื่อนี้ให้เอง ถึงชื่อจะดูธรรมดาแต่ข้าชอบความหมายมันนะ

เพราะข้าชอบอิสรภาพและเรื่องเงินๆทองๆยิ่งนัก

เรื่องที่ชอบรองลงมาคือเรื่องกินแต่หากให้ชื่อมีอาหารเข้ามาด้วยคงแปลกพิลึกน่าดู

ที่นี่คือหมู่บ้านในดินแดนทางเหนือ ของแคว้นเฉียนเหลียง ราชวงศ์ปกครองปัจจุบันคือ ราชวงศ์หย่ง องค์ฮ่องเต้คือ หย่งเจิ้นนั่นเอง

หมู่บ้านที่ข้าอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กในดินแดนหนาวเหน็บทางเหนือเรียกได้ว่าห่างไกลจากความเจริญยิ่งนัก

“เจินเอ๋อร์เข้ามาอ่านหนังสือในบ้านสิลูก อยากแข็งตายรึ ไอ้ลูกคนนี้” บุรุษเคราประปรายเปิดประตูหน้าบ้านชะโงกหน้าออกมาเรียกข้าคือท่านพ่อของข้าควบด้วยตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน

แต่มิใช่บิดาแท้ๆหรอกนะ ข้าเป็นลูกกำพร้า ท่านพ่อเคยเล่าว่าเขาเจอข้าตอนอายุประมาณหนึ่งขวบถูกห่อด้วยผ้าไหมเนื้อดีวางไว้ที่หน้าบ้านของเขา

ด้วยความที่ข้าหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักท่านพ่อท่านแม่จึงเก็บข้ามาเลี้ยง ไม่นานพวกท่านก็ให้กำเนิดลูกชายมาอีกคนหนึ่ง สุดท้ายแล้วครอบครัวข้าจึงมีอยู่ด้วยกันสี่คน ข้า พ่อ แม่ และน้องชายจอมซนอีกคนหนึ่งที่ตอนนี้อายุราวสิบสองขวบเศษ

“ข้าอยากแข็งตายจะแย่ ท่านพ่อก็รู้ว่าสตรีเช่นข้าน่ะตายยาก ท่านอย่าห่วงเลย เข้าไปนั่งหน้าเตาไฟเถอะท่านน่ะ”

ข้าตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงใสกังวานทว่าห้วนและไร้หางเสียงเฉกเช่นคนบ้านป่า สิ่งที่ข้าพูดมิได้เกินจริงอันใด เหตุผลที่ข้าสามารถนั่งอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บเป็นวันๆได้เช่นนี้มิใช่เพราะข้าหนังหนาหรืออย่างไร

แต่เพราะข้ามีพลังวิเศษ ข้าสามารถสร้างม่านเกราะปกป้องสิ่งของหรือคนผู้ใดก็ได้ตามที่ข้าต้องการเพียงแค่สัมผัสและระลึกจิต

ยิ่งข้ากับสิ่งของที่ต้องการปกป้องเกี่ยวพันกันมากเท่าไหร่เกราะของข้าก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น

ในทางกลับกันหากข้ากับสิ่งของนั้นมิได้มีสายสัมพันธ์อันดีใดเลยเกราะของข้าก็แทบไม่มีประโยชน์ใดเลย

ซึ่งตอนนี้ข้าใช้พลังปกคลุมตัวเองอยู่

ในโลกนี้มิใช่ทุกคนจะมีพลังแปลกๆเช่นข้าแบบนี้หรอกนะ จะมีก็เพียงกระหยิบมือที่ได้รับพลังพิเศษเช่นนี้

คนที่นี่เรียกมนุษย์เช่นพวกข้าว่าผู้วิเศษ

มีตำนานกล่าวขานว่าผู้วิเศษคือมนุษย์ที่สวรรค์ให้พลังมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันเอง นับเป็นของขวัญที่สวรรค์มอบให้นั่นเอง

ดังนั้นหากลูกหลานบ้านไหนเกิดมามีพลัง ไม่ว่าผู้นั้นจะเกิดในตระกูลยากจนเร้นแค้นขนาดไหนขอเพียงนำไปรายงานตัวกับองค์ฮ่องเต้ เด็กผู้นั้นจะถูกยกระดับฐานะขึ้นทันที โตขึ้นจะได้รับตำแหน่งผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ ตำแหน่งนี้เทียบเท่ากับขุนนางขั้น 2 เลยทีเดียว นี่ยังไม่รวมทรัพย์สินที่ทรงจะประทานให้อีกมากมาย

แล้วแบบนี้จะมีใครไม่นำเด็กที่เกิดมามีพลังไปรายงานตัวงั้นหรือ

มีสิ ข้าไง ด้วยเพราะอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงข้าจึงสามารถหลบซ่อนตัวตนได้ง่าย บิดามารดาที่เลี้ยงข้ามาเป็นคนสมถะ ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงจึงไม่มีใครปากโป้งไปแจ้งทางการ

ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการรายงานพลังของตนเองหรอกนะ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้น

ใกล้แล้ว ใกล้ถึงเวลาที่ข้าจะเผยตัวตนแล้วล่ะ

“พ่อจะไปล่าสัตว์ต่างหากเห็นเจ้านั่งอยู่หน้าบ้านก็เพียงพูดพอเป็นพิธีเท่านั้น เดี๋ยวชาวบ้านเขามาเห็นแล้วจะหาว่าข้าไม่รักลูก”

“เหรอ”

ข้าอยากจะลากเสียงให้ยาวไปถึงอีกบ้านหนึ่งกับท่าทีประชดประชันทำราวกับมิได้เป็นห่วงข้าเช่นนั้น

ถึงแม้ว่าเราสองคนมิได้มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือดกันแต่ข้ารักท่านพ่อ และข้าก็รู้ว่าท่านพ่อรักข้าเช่นกัน

“ท่านจะไปล่าสัตว์หรือ ขะ...”

“ไม่ พ่อมิให้เจ้าไปด้วย”

ข้าชะงักฝีเท้าตนเองทันทีเมื่ออีกฝ่ายรู้ทัน ข้าชอบขอติดสอยห้อยตามท่านพ่อเข้าป่าบ่อย ๆ พอเข้าป่าไปปุบข้าก็มักจะหายวับแยกทางกับท่านพ่อปับ เพราะข้ามิได้ประสงค์ติดตามท่านพ่อไปช่วยล่าสัตว์อยู่แล้ว ที่ขอตามไปเพื่อเป็นข้ออ้างมิให้ท่านแม่ห้ามปรามข้าเท่านั้น

ข้าชอบเข้าไปเดินเล่นในป่า และที่สำคัญในส่วนลึกของป่ายังมีที่ลับของข้าที่หนึ่งซ่อนอยู่ด้วย ที่นั่นมีกระท่อมหลังเก่าตั้งอยู่ ด้วยความตาดีของข้าทำให้ข้าพบโดยบังเอิญ

แต่มิใช่กระท่อมร้างผู้คนหรอกนะ ที่นั่นมีเจ้าของเป็นชายเฒ่าใจดีปากร้ายผู้หนึ่ง เห็นเขาบอกว่าเป็นคนจากที่อื่นเดินทางมาจำศีลบำเพ็ญเพียรที่นี่ เหตุผลที่ข้าชอบไปที่นั่นมิใช่เพียงชายผู้นั้นเพียงอย่างเดียว แต่ในกระท่อมเก่าๆมีทั้งตำราเรียน หนังสือชีวประวัติราวกับห้องสมุดขนาดย่อยเลยก็ว่าได้

ที่ข้าสามารถเขียนอ่านได้อย่างคล่องแคล่วก็เพราะชายผู้นั้นสอนและให้ยืมอ่านหนังสือพวกนั้นนั่นแหละ

ข้าเคยสงสัยด้วยนะว่าทำไมคนหัวดีเช่นเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ก็มิได้คำตอบ ข้าที่จำเป็นต้องขวนขวายเอาความรู้จากอีกฝ่ายจึงไม่อยากถามต่อด้วยเพราะกลัวโดนไล่ตะเพิดออกจากกระท่อมน่ะสิ

ทำไมคนป่าเมืองหนาวอย่างข้าต้องลำบากหาความรู้เข้าหัวน่ะหรือ อย่างไอ้เฟยเจินทำสิ่งใดย่อมหวังผลอยู่แล้วหรือไม่ก็โดนบังคับมา ซึ่งครานี้เป็นอย่างหลัง

ในความเป็นจริงแล้วข้ามิใช่คนของโลกนี้หรอก ข้าคือสาวยุคศตวรรษที่ยี่สิบนู่น แต่ดันตายอย่างอนาถโชคยังดีที่ก่อนตายข้าเพิ่งอ่านหนังสือนิยายลึกลับเล่มหนึ่งจบ ด้วยความที่ตอนจบของเรื่องไม่สมดังใจข้าเสียเลยจึงนั่งด่าคนแต่งไปเสียหลายรอบ

ตอนจบของเรื่องตัวร้ายชายตายเพราะโดนความชั่วเข้าครอบงำ ตัวละครตัวนี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

เขาเป็นถึงบุตรของสนมเอก บิดาเป็นถึงฮ่องเต้คนปัจจุบัน ชายหนุ่มจึงดำรงตำแหน่งเป็นองค์ชายสาม แต่โชคร้ายหรือด้วยเพราะคนแต่งจัดวางให้ชีวิตเด็กน้อยอายุหกขวบต้องกำพร้ามารดา ทว่ามิใช่เพราะสิ้นชีพหรืออย่างไรแต่จู่ ๆก็หายตัวไปไร้ร่องรอย ไม่แม้บอกลาลูกชายตนเองสักคำ คนภายนอกจึงลือกันว่านางหนีตามบุรุษคนรักไปเพราะใคร ๆต่างก็รู้ว่านางเข้าวังมาเพราะโดนฮ่องเต้หมายตาต้องใจมิใช่ด้วยความสมัครใจ

แต่บุตรอย่างตัวละครผู้นี้แม้ยังเด็กแต่ชาญฉลาดยิ่งนัก เด็กน้อยไม่คิดอย่างนั้นจึงหนีออกจากวังเพื่อไปตามหาท่านแม่ของตนเอง สิบกว่าปีผ่านไปไม่มีใครพบเด็กน้อยใจกล้าผู้นี้อีกเลย

จนกระทั่งวันหนึ่งเด็กน้อยในวันนั้นกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามทว่าดวงตาแข็งกร้าว หัวรุนแรงในวันนี้ เขาแสดงตัวพร้อมหลักฐานว่าตนเองคือองค์ชายสาม พร้อมทั้งโดนฮองเฮารับไปเลี้ยงดูต่อ

นักเขียนบรรยายว่าตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเด็กน้อยเก่งกาจ ฝ่าฟันอุปสรรคอันตรายต่าง ๆด้วยตัวคนเดียว พูดถึงเรื่องฆ่าคนเขาสามารถฆ่าได้โดยไม่รู้สึกผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ จึงได้รอดมาถึงทุกวันนี้

ทว่าชายหนุ่มกลับมามือเปล่าเขาหามารดาไม่เจอ แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ ไม่กลัวใคร จิตใจหยาบไม่สนหัวใครทั้งนั้น

นั่นแหละจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนองเลือดของตัวละครตัวนี้

ฮองเฮาที่ไร้บุตรมีแต่บุตรีทรงรับเป็นบุตรบุญธรรม ต่อหน้าเหมือนจะดีทว่าความเป็นจริงแล้วฮองเฮาต้องการใช้ลูกคนนี้เป็นอาวุธและหุ่นเชิดของตนในเวลาเดียวกัน

ที่ตัวละครตัวนี้ขึ้นครองราชย์ได้เพราะแผนการของฮองเฮาทั้งนั้น หลังจากขึ้นครองราชย์สุดท้ายก็ถูกความชั่วร้ายกลืนกิน บ้านเมืองราวกับถูกปิศาจร้ายครอบครอง และจบลงด้วยพระเอกกับนางเอกของเรื่องมาจัดการ จบชีวิตลงอย่างน่าอนาจทั้ง ๆที่ความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังทั้งหมดมิใช่เขาเลยสักนิด

เด็กคนหนึ่งที่บอบช้ำจากการโดนมารดาทอดทิ้ง

เด็กที่รักบุพการีขนาดออกไปตามหาด้วยตัวคนเดียว

เด็กคนหนึ่งที่ถูกความรักของแม่เลี้ยงหลอกใช้

มีใครให้แย่กว่านี้อีกไหม

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นนิยายรักที่ยังไง๊ยังไงพระเอกกับนางเอกสุดท้ายก็ต้องสมหวังกันอยู่ดี แต่จบเช่นนี้ จบด้วยการจัดการคนชั่วผิดตัว คนบงการยังอยู่ดี ข้ารู้สึกไม่ชอบใจเสียเลย

นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการมาเกิดใหม่ในโลกของหนังสือที่ย้อนมาตอนเริ่มเรื่อง

คนที่ให้สิทธิ์นี้แก่ข้า ข้าจะเรียกว่าสวรรค์แล้วกันนะ มอบหมายภารกิจ เปลี่ยนชะตาตัวร้ายให้ข้า หลังจากข้าโดนรถชนตายคาที่ระหว่างที่กำลังเดินออกจากหอสมุด

พอข้าลืมตาอีกทีก็ได้รับภารกิจและก็ฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยแรกเกิดพร้อมทั้งความทรงจำทั้งหมดในชาติที่แล้ว

บางทีข้าก็คิดว่าการที่ตนเองเป็นเด็กกำพร้าอาจเป็นความตั้งใจของสวรรค์ และพลังที่ติดตัวมานี้ก็นับว่าข้าควรกล่าวขอบคุณเบื้องบนมากแล้ว

วันเวลาผ่านไป ข้าเรียนรู้การใช้พลังตนเอง เรียนรู้ทักษะของการเผชิญโลกกว้างที่มิใช่บ้านป่าของตนเอง พอรู้ว่ามีตาเฒ่าที่รู้หนังสืออยู่ในป่าใกล้ตนขนาดนี้จึงรีบตีสนิททันที

เขาสอนวิชาข้า ข้าช่วยปิดบังตัวตนของเขา ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายเท่านั้นก็พอ

ข้าหลุดจากความคิดตนเมื่อได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดของพ่อบุญธรรมตน

“คราวนี้ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกน่าท่านพ่อ ข้าจะสร้างเกราะให้ท่านต่างหาก”

เท้าเล็กภายใต้รองเท้าขนสัตว์กันหนาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าหาท่านพ่อของตนเอง ข้าเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตเบาๆที่หน้าผากของอีกฝ่าย

แสงสีขาวบริสุทธิ์เรืองรองออกมารอบตัวของท่านพ่อก่อนที่จะจางหายไปอันบ่งบอกได้ว่าพลังของข้าทำงานสร้างเกราะเสร็จแล้ว หลังจากนี้ภายในสิบสองชั่วยามไม่ว่าจะมีอันตรายใด ๆ จะฟันก็ไม่เข้า อาคมใด ๆก็ไม่อาจทะลุเกราะข้าได้อย่างแน่นอน

เพราะเกราะที่ข้าสร้างให้คนที่ตนเองรักอย่างท่านพ่อมักแข็งแกร่งมาก ข้าคิดว่าแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยสร้างมาเลยด้วยซ้ำ

เพราะข้ารักท่านพ่อ ท่านพ่อก็รักข้า คิดแล้วก็อุ่นใจแต่ลึกๆในใจข้าก็รู้สึกวูบโหวงมิใช่น้อยเมื่อใกล้แล้ว

ใกล้ถึงเวลาที่ข้าจะต้องจากที่นี่ไปทำภารกิจของตนเองเสียที

ท่านพ่อมองข้าตอบด้วยความรักทีหนึ่งก่อนจะเอื้อมมาลูบศีรษะข้าอย่างเบามือและเดินจากไป

มือบางขาวนวลเนียนดุจหิมะของข้ายกขึ้นมากอดตนเองเพราะรู้สึกหนาวเหลือเกิน ข้ากำลังยืนกลางแจ้งท่ามกลางหิมะตก ลมหนาวพัดมาไม่ขาด นาน ๆ ทีข้าจึงรู้สึกหนาวเช่นนี้

ทำไมข้าถึงเพิ่งมารู้สึกหนาวน่ะหรือ....

เงื่อนไขการใช้พลังอีกหนึ่งข้อของข้าคือ หากข้าสร้างเกราะนี้ให้ใคร เกราะที่ปกป้องข้าก็ยิ่งเบาบางลงตามความแข็งแกร่งที่ข้ามอบให้ผู้อื่นนั่นแหละ

เมื่อกี้ข้ามอบเกราะให้ท่านพ่อเต็มที่บัดนี้รอบตัวข้าจึงไร้เกราะป้องกันอยู่เลยน่ะสิ

ไม่รอให้ตัวเองยืนจนแข็งตายอยู่หน้าบ้านข้ารีบซอยเท้าเข้าไปหาความอบอุ่นภายในบ้านทันที

แต่แล้วดูเหมือนว่าโชคชะตาจะไม่เป็นใจให้ข้า คงคิดว่าข้าหนังหนายิ่งกว่าหมีขั้วโลกเหนืองั้นสิ เสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่วิ่งเข้ามาทางบริเวณที่ข้ายืนอยู่ พร้อมทั้งเสียงตะโกนดังมาถึงก่อนตัวทำให้ฝีเท้าข้าชะงัก

“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านหัวหน้าหมู่บ้านขอรับ อยู่ไหมขอรับ”

“พี่หลี่ลั่วเสียงดังมาแต่ไกลเลย พ่อข้าไม่อยู่หรอกเจ้าค่ะ ออกไปล่าสัตว์เมื่อครู่นี่เอง...ท่านมีเรื่องด่วนหรือเปล่าเจ้าคะ”

หลี่ลั่วคือผู้ช่วยหัวหน้าหมู่บ้านของท่านพ่อข้าเอง บ้านเขาอยู่นู่น ทางเข้าหมู่บ้านนู่น ส่วนบ้านข้าอยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน

ระยะทางนับว่าไกลพอสมควร อีกฝ่ายวิ่งมาเช่นนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องสำคัญมาแจ้งพ่อข้า

“ด่วนและสำคัญมาก แฮ่ก ๆ”

“พักเหนื่อยก่อนเดี๋ยวขาดอากาศหายใจตายเสียก่อน ข้าขี้เกียจหาผู้ช่วยท่านพ่อใหม่”

“เอ้า ไอ้นี่หนิ แช่งข้าเสียแล้ว” ข้าหลบมะเหงกของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เหอะเรื่องความว่องไว ข้ารับรองไม่เป็นสองรองใครหรอกนะ

ขนาดลิงบางตัวยังต้องอายข้าเลย

“เรื่องด่วนอะไร พี่หลี่ลั่ว”

“ก็ที่หน้าหมู่บ้านมีขบวนของทหารกลุ่มเบ้อเริ่มรออยู่น่ะสิ เห็นบอกว่าเป็นตัวแทนมาส่งราชโองการจากองค์ฮ่องเต้ บอกว่ามาขอพบพ่อของเจ้าน่ะ”

Expandir
Próximo capítulo
Baixar

Último capítulo

Mais capítulos
Sem comentários
102 Capítulos
บทนำ
บทนำวันนี้อากาศหนาวเหน็บกว่าทุกวัน หิมะสีขาวบริสุทธิ์ตกโปรยปรายไม่หยุดตั้งแต่เช้าจวบจนกลางวันก็ยังมิมีทีท่าว่าจะหยุด ยิ่งส่งเสริมให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทว่าท่ามกลางความหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถกระทบกระเทือนผิวกายขาวดุจหิมะภายใต้อาภรณ์สีม่วงสดสลับแดง นางกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ได้เลยดวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือประกอบกับดวงตาดอกท้อสดใสแลดูงดงามและน่ารักในเวลาเดียวกัน จมูกเล็กเชิด ปากสีชมพูระเรื่อ พวงแก้มแดงจางๆเป็นผลมาจากอากาศหนาวเย็นนัก ยิ่งทำให้แม้นางนั่งเฉยๆก็สามารถดึงดูดผู้คนได้อย่างง่ายดายเรือนร่างบอบบางมีส่วนเว้าส่วนโค้งพอควรเจริญเติบโตตามแบบฉบับเด็กสาววัยสิบสี่ย่างสิบห้า วัยใกล้ปักปิ่นกำลังจะเป็นสาวเต็มตัวแล้วสตรีหนังหนาที่สามารถนั่งท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บขนาดบุรุษยังหลบเข้าบ้านตนเองเพื่อแสวงหาความอบอุ่น สตรีผู้นั้นคือข้าเองนามของข้าคือ เซียวเฟยเจิน แปลว่าผู้โบยบินสู่ทรัพย์สมบัติ ท่านพ่อข้าเป็นผู้ตั้งชื่อนี้ให้เอง ถึงชื่อจะดูธรรมดาแต่ข้าชอบความหมายมันนะเพราะข้าชอบอิสรภาพและเรื่องเงินๆทองๆยิ่งนักเรื่องที่ชอบรองลงมา
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
นี่มันเรื่องอะไรหนอ
บทที่ 1“ก็ที่หน้าหมู่บ้านมีขบวนของทหารกลุ่มเบ้อเริ่มรออยู่น่ะสิ เห็นบอกว่าเป็นตัวแทนมาส่งราชโองการจากองค์ฮ่องเต้ บอกว่ามาขอพบพ่อของเจ้าน่ะ”“....” ข้าเงียบทว่าดวงตาข้าเปล่งประกายเรืองรองราวกับมีเรื่องถูกใจ"ท่านหัวหน้าไปทางโน้นใช่หรือไม่ ข้าจะวิ่งไปตามเอง...ตายแล้ว นี่มันเรื่องอะไรหนอ”หมู่บ้านข้าก็เป็นเช่นนี้แหละ อารมณ์ดีก็พูดจาไพเราะ อารมณ์เสียก็ด่ากันตรง ๆ ตั้งแต่ข้าเกิดมิมีสักหนที่คนของทางการจะเข้ามายุ่งในหมู่บ้านแห่งนี้จึงไม่แปลกหากลูกบ้านจะมีท่าทีทำสิ่งใดไม่ถูกในสถานการณ์เช่นนี้ข้าเลือกเดินเข้าบ้านไปด้วยท่าทีเฉยเมยเช่นเดิมราวกับข้ามิได้แปลกใจเลยว่าไยจึงมีคนของฮ่องเต้มาหาท่านพ่อเพราะข้าคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าไม่เกินเดือนหลังจากข้ากลับจากการเข้าไปซื้อของในตัวมืองใกล้ ๆตอนนั้นข้าได้ทำการปล่อยข่าวเรื่องการมีตัวตนของผู้วิเศษ ณ หมู่บ้านในป่าลึก ข่าวแพร่กระจายเร็วยิ่งกว่าเชื้อโรคไม่นานจึงไปถึงหูของราชสำนักใช้เวลาสืบหาความจริงไม่กี่วันก็คงส่งคนมารับตัวข้าเข้าวังไปรับใช้ฮ่องเต้ในฐานะผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์น่ะสิท่านพ่อข้าอย่างไรก็ต้องยอมแน่เพราะมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าหากพบเจอผู้วิเศษแ
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
ออกไป
“ข้าไม่มีหลานดื้อด้านอย่างเจ้า”ข้ายังจำวาจาตอกกลับของอีกฝ่ายได้ดี“ว่าอย่างไรไอ้หนู ไขปัญหาที่ข้าถามได้แล้วรึ”ตาเฒ่าที่นางกล่าวถึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดแหบ ใบหน้าครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้รับการโกนเป็นปีข้าอยู่กับตาเฒ่าผู้นี้ตั้งแต่เด็ก หนวดยามนั้นเท่าไหร่ก็ยาวเท่านั้นมาเสมอ คงเป็นเพราะไม่มั่นใจในใบหน้าที่แท้จริงของตนเองกระมังจึงไม่โกนหนวดออกให้เรียบร้อยข้าล่ะเสียดายแทนจริง ๆ ขนาดมองภายนอกดูตอนนี้ข้ายังคิดว่าความจริงแล้วอีกฝ่ายต้องหล่อเหล่าเอาการเชียวแหละ“ยังเจ้าค่ะ ขะ...”ปึก ไม้เท้าที่เคยนอนสงบเสงี่ยมข้างกายเจ้าของบัดนี้ถูกตาเฒ่าโยนออกมากระทบเหม่งข้าพอดี แรงขนาดไม่หนักเกินไปทว่าก็ไม่เบาจนคนหนังหนาอย่างข้าไม่รู้สึก ทำให้ข้ายกมือขึ้นมาลูบบริเวณที่โดนปอย ๆ“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าหากไขปัญหามิได้ไม่ต้องมาหาข้า...หากอยากเป็นบัณฑิตยอมไม่ควรผิดคำสัญญาต่อผู้ใด”“แต่ข้า...”“ออกไป เดี๋ยว! นี้!”“ข้ามีเรื่องสำคัญมาบอกท่านนะเจ้าคะ เรื่องนี้หยวน ๆกันมิได้หรือ”สุดท้ายข้าก็ต้องวิ่งเปิดเปิงออกมาเมื่อตาเฒ่าตั้งท่าจะสาดน้ำในขันใส่ข้าเป็นแบบนี้ทุกที นอกจากจะเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดแล้ว เขายังเป็นบุคค
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
วันออกเดินทาง
บทที่ 2วันออกเดินทาง“นี่ท่านแม่ ท่านจะให้พี่สาวขนไปหมดนี่เลยหรือ”เซียวเฟยฉี น้องชายข้าพยายามยั้งมือท่านแม่ที่กำลังขนถุงผ้ากว่าเกือบสิบห่อออกจากห้องครัวบ้าน ข้ายืนมองนิ่ง ๆ พลางอมยิ้มเอ็นดูครอบครัวข้า“ก็เออสิวะ เดินทางไปเมืองหลวงใช้เวลาแรมเดือนโน่น ก็ต้องเตรียมเสบียงเตรียมของอร่อยไว้ให้ลูกข้าเยอะ ๆ สิวะ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าพี่สาวเอ็งกินจุขนาดไหน”“ข้ารู้แต่ขบวนมารับย่อมตักเตรียมเสบียงมาไว้เรียบร้อยแล้ว เตรียมของที่จำเป็นไปพอมิดีกว่าเหรอท่านแม่ เดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้านนอกเข้ากรุง ขนของราวกับย้ายบ้านไป”เฟยฉีอายุเพิ่งสิบสองคงเคยเห็นเคยได้ยินชาวบ้านพูดเรื่องอย่าขนของพะรุงพะรังเวลาเข้าเมืองเช่นนั้นจะโดนมองว่าบ้านนอกเข้ากรุงซึ่งก็จริงเพราะขนาดขนออกมาวางไว้ให้เหล่าทหารที่ติดตามมาดูแลขบวนรถม้าขนขึ้นไปไว้บนรถยังมองสายตาเหยียดใส่พวกข้าเลยไม่ต้องพูดถึงขันทีทั้งสองที่ยืนรอข้าขนของขึ้นรถอยู่ ดวงตาไม่ให้ความเคารพไม่พอยังเอนเอียงไปในทางดูหมิ่น....คงกำลังคิดในใจว่าข้าบ้านนอกเป็นแน่แต่คนอย่างข้าน่ะหรือจะสนใจคนอื่นข้าสนใจจิตใจของคนที่ข้ารักมากกว่า ท่านแม่เลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่เล็ก อยู่ดี ๆ ข้าต้องห่างบ
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
ท่านผู้วิเศษ
บทที่ 3การเดินทางจากดินแดนทางตอนเหนือสิ้นสุดลงเมื่อขบวนเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของแคว้น พวกทหารพาข้ามาส่งถึงในเขตวังหลวงบริเวณที่อนุญาติให้รถม้าเข้ามาได้ มีเจ้าหน้าที่ทั้งชายและหญิงยืนรอตรวจคนก่อนเข้าวังซึ่งข้าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเป็นเรื่องปกติก่อนเข้าวังซึ่งเป็นเขตที่ใกล้โอรสสวรรค์มากที่สุด หากมีคนหวังปองร้ายคงมิใช่เรื่องดีนักไม่นานข้าก็ถูกปล่อยตัวออกมา ทั้งข้าวของส่วนตัวข้า อาหารที่นำมาเยอะจนเหลือถูกทหารที่เดินทางมาในขบวนเดียวกับข้าอาสาช่วยยกเดินตามข้ามา“เดี๋ยวพวกข้าช่วยนะขอรับท่านผู้วิเศษ”น้ำเสียงอ่อนหวานผิดกับตอนแรกที่เจอกันทำให้ข้าหยักยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ตลอดหลายวันที่เดินทางอาหารที่ข้านำมาเยอะแยะพร่องไปหมดจนเหลือไม่กี่ถุงก็เพราะพวกเขานี่แหละเรียกได้ว่าข้าใช้วิธีซื้อใจทหารโดยการใช้ของกินที่ทั้งอร่อยและช่วยทำให้สบายตัวแก่พวกนั้นนั่นเองอย่างน้อย ๆข้าต้องการแค่ให้พวกเขาดูแลช่วยเหลือข้าในขบวนให้ดีก็เท่านั้นข้ามิคิดว่าของเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้นจะขนาดซื้อใจได้ถาวรหรอกเช่นเดียวกับขันทีทั้งสองที่ปกติอยู่ในวังอย่างสบายเมื่อไปเจอสถานการณ์ลำบากย่อมไม่ชิน ของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วยเหลือได้
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
มีนัดดื่มน้ำชา
บทที่ 4ข้าเดินเข้าห้องนอนด้วยท่าทางเกียจคร้านเต็มทน ก่อนเข้าห้องข้าไม่ลืมบิดขี้เกียจให้พวกนางดูอีกสองรอบ ขยิบตาให้อีกหนึ่งรอบเพื่อไล่พวกนางถงเอ๋อร์ที่เห็นการกระทำทั้งหมดของข้าถึงกับอั้นหัวเราะไม่อยู่นับตั้งแต่เราสองคนเดินทางด้วยกันตลอดหลายวันท้ายที่สุดนางก็กลายเป็นคนของข้าอย่างเต็มรูปแบบนางเป็นคนซื่อสัตย์คิดอย่างไรก็พูดหรือทำเช่นนั้น ประจบเจ้านายไม่เก่งและมือเท้าทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ ซึ่งข้าชอบนิสัยเหล่านี้ของถงเอ๋อร์ยิ่งนักในทางกลับกันนี่ก็เป็นเหตุผลที่นางเป็นนางกำนัลในวังผู้ไม่ก้าวหน้านักก็เป็นเพราะนิสัยเหล่านี้เช่นกัน“ท่านผู้วิเศษเฟยเจิน หากท่านต้องการพบผู้วิเศษคนอื่น พรุ่งนี้ช่วงสายมีนัดดื่มน้ำชาที่ห้องโถงตำหนักเจ้าค่ะ ท่านถึงแม้จะเป็นผู้มาใหม่ก็สามารถเข้าร่วมได้”“งั้นหรือ ถึงเวลาแล้วมาเตือนข้าแล้วกัน”“เจ้าค่ะ”หลังจากนั้นข้าก็โบกมือไล่ถงเอ๋อร์ออกไป ส่วนข้าก็เดินสำรวจห้องหับหลังนี้วันรุ่งขึ้นเพลานี้ยามซื่อ (9:00-10:59 น.) อันเป็นเวลานัดดื่มน้ำชาร่วมกันของตำหนักนี้ ข้าเดินตามถงเอ๋อร์ออกมาเพื่อมุ่งไปยังห้องโถงที่เอาไว้ทั้งต้อนรับแขก ห้องทานอาหาร และห้องประชุมแบบมิใช่ทา
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
เปลี่ยนชุดให้ข้า
บทที่ 5หกวันผ่านไปอย่างรวดเร็วงานจัดแข่งขันล่าสัตว์สำหรับวัดฝีมือของเหล่าบุรุษในราชวงศ์มาถึงเสียทีข้าซึ่งเป็นผู้วิเศษจึงได้รับคำเชิญให้ร่วมงานด้วยอย่างมิต้องสงสัยในระหว่างที่ถงเอ๋อร์กับนางกำนัลที่ถูกส่งมาให้ข้าเฉพาะกิจช่วยกันแต่งตัวให้ข้าด้วยชุดที่ทางผู้ดูแลวังในส่งมาให้นั้นข้าก็นั่งเหยียดแข็งเหยียดขาให้พวกนางแต่งอย่างว่าง่ายอาภรณ์ที่พวกนางนำมาให้เป็นเสื้อผ้าเนื้อดีเลิศอยู่แล้ว ทั้งชุดถูกถักทอจากไหมสีชมพูทั้งชุดและตัดให้ดูหวานขึ้นอีกด้วยการปักลวดลายดอกเหมย บริเวณรอบชายแขนเสื้อถูกออกแบบให้เป็นพวงเล็ก ๆ ดูน่ารักล้ำสมัยในเวลาเดียวกันข้ามองชุดนั้นตาปริบ ๆ ให้ตายเถอะถึงใครจะว่าสวยเช่นไรข้าไม่มีทางใส่เด็ดขาด“เปลี่ยนชุดให้ข้า ข้าไม่มีทางใส่ชุดนี้อย่างแน่นอน หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรข้าก็ไม่ใส่”“ทำไมหรือเจ้าคะ ชุดนี้ทั้งงดงามและน่ารัก เนื้อผ้าโปร่งแต่ไม่บางจนเกินไป ลายปักเย็บก็งดงามนะเจ้าคะ ทั้งหมดทั้งมวลดูประณีตสวมชุดนี้เข้างานใหญ่ ในงานมีแต่ตระกูลสูงศักดิ์ขึ้นไปถึงเหล่าราชวงศ์ ใส่ชุดนี้จะมิโดนผู้ใดดูหมิ่นนะเจ้าค่ะ”เป็นถงเอ๋อร์ที่ใจเย็นอธิบายให้ข้าฟังอย่างมีเหตุผล ส่วนอีกนางกำนัลหนึ่งน่ะห
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
ผู้วิเศษทุกคนยกเว้นข้า
บทที่ 6ท้ายที่สุดสตรีที่ถูดพูดถึงในแง่ไม่ดีนักเช่นเฟยเจินก็เดินออกมาตำหนักเสียที เวลางานเริ่มคือต้นยามซื่อทว่ากว่าข้าจะไปร่วมงานได้ก็ตอนปลายของยามซื่อเสียแล้วรถม้าเก่า ๆ คันหนึ่งถูกทิ้งเหลือไว้ให้ข้านั่งออกจากวังไปยังสถานที่จัดงานอุทยานป่าหลวงตั้งอยู่ท้ายเมือง เป็นป่าที่อยู่ในความดูแลของพระราชวัง มีเจ้าหน้าที่ มีการล้อมรั้วอย่างแน่นหนา สัตว์ในอุทยานจึงถูกเลี้ยงกึ่งตั้งใจกึ่งปล่อยตามธรรมชาติ มีทั้งสัตว์หายาก สัตว์ธรรมดาทั่วไป รวมถึงสัตว์ดุร้ายต่าง ๆ ด้วยไม่นานรถม้าของข้าก็เคลื่อนถึงอุทยานที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน บริเวณด้านนอกประกอบด้วยชาวบ้านที่อยากมาเห็นงานของชนชั้นสูง ส่วนด้านในกำลังทำพิธีเปิดงาน มีการมอบของขวัญระหว่างบิดากับบุตรเพื่อเป็นการแสดงให้ปวงชนเห็นถึงขนบธรรมเนียมการกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดเป็นการปลูกฝังขนบธรรมเนียมนี้ให้ประชาชนทางอ้อมนั่นเองข้าเป็นเพียงผู้วิเศษตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งผู้หนึ่งหายไปจากในงานย่อมไม่มีใครสนใจ เพราะช่วงเช้ามิใช่หน้าที่ของพวกข้า จะมีก็แต่บางคนที่เป็นบุตร บุตรีของตระกูลชั้นสูงอยู่แล้วที่ต้องเข้าไปนั่งร่วมกับครอบครัวของตนซึ่งก็คือผู้ว
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
เดินป่าอยู่เป็นนิจ
กรอบ แกรบ กรอบ แกรบสตรีในเครื่องแต่งกายสีเขียวอ่อน สวมกางเกงสีน้ำตาลคล้ายสีของต้นไม้ที่กำลังเดินผ่าน ใบหน้าขาวกระจ่างผิวเนียนละเอียดดั่งคนเมืองหนาว ใบหน้ายามมิได้พูดดูอ่อนโยนราวกับคุณหนูในห้องหอทั่วไป งดงามและน่าถนุถนอมยิ่งนัก ร่างบอบบางอ้อนแอ้นทว่าน้ำหนักเท้าที่ลงเดินมั่นคง เท้าบางย่ำผ่านต้นหญ้าสูงถึงเอวอย่างคล่องแคล่ว โดยนางจะหยุดใช้มีดพร้าที่พกมาบากทำเครื่องหมายยาวบนเปลือกไม้เป็นระยะ ๆ บางครั้งนางก็จะเงยหน้ามองตำแหน่งของดวงอาทิตย์โดยรวมแล้วนางดูเหมือนกับคนที่มักเดินป่าอยู่เป็นนิจ เป็นสตรีทว่าคุ้นชินกับผืนป่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเซียวเฟยเจิน...ข้าเองหากถามว่าบ้านหลังที่สองของข้าคือที่ใด ข้าบอกได้เลยว่าคือผืนป่า ถึงแม้ป่าที่นี่จะมิใช่ป่าบ้านเกิด ข้าก็มิได้เกรงกลัวแต่อย่างใด กลับรู้สึกมันเดินง่ายกว่าด้วยแหละเพราะมันคือป่าอุทยานที่ทุกปีมีการดูแลอย่างดีไม่นานข้าก็เดินมาถึงที่หมาย ดวงตาปราดเปรียวของข้ากวาดตามองหาที่หลบซ่อนตัวตามพงหญ้าสูงใหญ่แถวนั้นตำแหน่งที่ข้ากบดานตนเองเพื่อรอเหยื่อให้มาติดกับคือบริเวณป่าข้างเส้นทางไปสู่เส้นชัยห่าวมาราวสองลี้ หากนางจำไม่ผิดในหนังสือบอกว่า อ๋องสาม
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
เป็นตัวใดกัน?
บทที่ 7ข้าเดินตามรอยสัญลักษณ์ที่ตนเองทำไว้อย่างสบายอารมณ์ มองรอบตัวเต็มไปด้วยป่าไพรช่างให้อารมณ์ผ่อนคลายยิ่งกว่าการอยู่ในพระราชวังที่มีเครื่องอำนวยครบครันเสียอีก ทว่าข้าเดินมาได้สักระยะหนึ่ง จมูกน้อย ๆ ของข้าดันได้กลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นกลิ่นโลหิตคาวคละคลุ้งทั่วบริเวณแห่งนี้ราวกับมีเหตุการณ์ฆ่าแกงเกิดขึ้นแต่ในป่าเช่นนี้อาจเป็นการล่าเหยื่อของผู้ล่า นับเป็นเรื่องปกติ ข้าไม่ควรไปสนใจ ทางที่ดีควรหลีกหนีจากบริเวณนั้นออกมาด้วยซ้ำแต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่ข้าคิดเอาตัวออกให้ห่างกับปรากฎอยู่ตรงหน้า ข้าเห็นสิ่งใดยังไม่ค่อยชัด เห็นเพียงร่างดำ ๆ กำลังกระทำบางอย่างกับซากสัตว์ข้ารีบหลบหลังต้นไม้ใหญ่ด้วยจิตใจตื่นตระหนกด้วยความอยากรู้จึงแง้มหน้าออกไปดูอีกสักครั้งเพื่อความแน่ใจว่าข้ามิได้ตาฝาดเป็นจริง...เป็นร่างมนุษย์กำลังก้มลงไปดูดเลือดจากซากสัตว์ที่เพิ่งตายใหม่ ๆ นั่นหากเป็นสัตว์ป่าข้าอาจไม่ต้องหวาดกลัวขนาดนี้ ท่านพ่อข้าสอนวิธีหลีกหนีมาหมดแล้ว แต่นี่...เป็นตัวใดกัน?มองด้านหลังเหมือนมนุษย์คนกินเลือดรึ....ช่างเถอะข้าจะต้องรีบหนีเรื่องคนอื่น ยิ่งรู้เยอะยิ่งเป็นภัยแก่ตนข้าค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง ฝีเ
last updateÚltima atualização : 2025-11-30
Ler mais
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status