‘ป้าพร’ คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านเดินนำเหล่าสาวใช้ออกมาต้อนรับเจ้านายหนุ่ม แดเนียลจูงมือคาริสาเดินเข้าไปภายในบ้าน เขาวานให้ป้าพรช่วยจัดหาห้องนอนให้เธอ ก่อนจะเดินออกไปกับลูกน้องคนสนิท
คาริสาอยากจะรั้งเขาไว้ แต่เหล่าสาวใช้ในบ้านต่างมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก คนที่ไม่เคยยอมใครอย่างเธอหรือจะยอม สองแขนกอดอกพลางมองสวนทุกคนกลับไป
“ตามมาค่ะ” ป้าพรเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินนำหน้าคาริสาไปยังห้องนอนซึ่งอยู่บนชั้นสองของบ้าน
หลังจากที่ป้าพรก้าวขาออกไปจากห้องนอน คาริสาก็รีบเดินตามไปปิดประตูล็อกกลอนด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอคิดหนักกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใจหนึ่งก็รู้สึกดีที่ได้เจอกับแดเนียล อีกใจหนึ่งก็หล่นหายวาบเมื่อรู้ว่าเธอกับแดเนียลจะต้องเป็นศัตรูกัน
“โอ๊ย! แล้วฉันจะทำยังไงต่อเนี่ย” คาริสาตะโกนออกมาอย่างคิดไม่ตก
แต่เดี๋ยวนะ! เรื่องงานก็คือเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวมันก็คือเรื่องส่วนตัว จะคิดมากทำไม ท่องจำไว้สิว่าเธอคือผู้หญิงที่หนีเจ้าหนี้มากบด่าน ตกงาน ไม่มีอันจะกิน ท่องจำไว้ ๆ
ยัยเจ้าเล่ห์คิดแล้วก็พ่นลมหายใจเข้าออกมาแรง ๆ
“อร้ายยยยย!” อยู่ ๆ เธอก็ส่งเสียงร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“เดี๋ยวเราค่อยไปต่อบนห้องนะ”
เสียงกระซิบอันคุ้นหูดังสวนขึ้นมา
“เวลานี้เราควรมีความสุขไม่ใช่คิดมาก” นึกได้อย่างนั้นเธอจึงเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง บิดตัวซ้ายทีขวาทีมองสำรวจตนเองผ่านกระจกเงา “สวยเหมือนกันนะเนี่ยเรา”
แกร๊ก!
เสียงบิดประตูห้องดังขึ้น คาริสารีบวิ่งไปนอนบนเตียงอย่างดี๊ด๊า ในที่สุดเขาก็มาหาเธอ
ทว่าหญิงสาวกลับต้องผิดหวัง เมื่อเห็นนป้าพรเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน
“เข้ามาในห้องของฉันมีอะไรหรือเปล่า”
“ที่นี่เป็นบ้านของนายน้อย ห้องทุกห้องในบ้านหลังนี้ก็เป็นของนายน้อยไม่ใช่ของหล่อน” ป้าพรเอ่ยพูดด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมา ทำเอาคาริสาหน้าเหวอพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“โอเคฉันพูดผิดเอง แล้วมีอะไรกับฉันไม่ทราบคะ คุณแม่บ้าน!”
“เอาเสื้อผ้ามาให้” ป้าพรพูดในขณะที่คนใช้อีกคนยื่นเสื้อผ้าให้กับคาริสา “หวังว่าหล่อนจะไม่เรื่องมาก”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วกรุณาเชิญออกไปจากห้องนี้ด้วยค่ะ ฉันจะได้พักผ่อน” คาริสาพูดพลางมองหน้าป้าพรและสาวใช้ ก่อนจะส่งสายตาไปทางประตู “เชิญค่ะ ประตูอยู่ทางนั้น”
ป้าพรและคนรับใช้ทั้งสองชักสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกระแทกเท้าเดินออกไปจากห้องตามความต้องการของคาริสา
“เฮ้อ คิดว่าแดนซะอีก ไม่เป็นไรรออีกหน่อยเดี๋ยวก็คงมาแหละ” ว่าแล้วหญิงสาวก็กระโดดโลดเต้นรอชายหนุ่มอยู่ในห้อง
สามนาทีผ่านไป...
ห้านาทีผ่านไป...
สิบนาทีผ่านไป...
“เมื่อไหร่จะมา...” เธอรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปนานแสนนาน ทั้งที่เพิ่งผ่านไปเพียงสิบนาที คาริสาเดินไปยังประตูห้อง ก่อนจะเอนหลังพิง “ฉันรอนายอยู่นะแดน ฉัน-รอ-นาย-อยู่”
คาริสาเดินกลับมานั่งบนเตียงเพื่อรอแดเนียลอย่างมีหวัง เขาอาจจะเตรียมอะไรอยู่ก็ได้ อย่างเช่น ถุงยาง คิดแล้วก็เขิน คาริสาคว้าหมอนมากอด ปลายนิ้วเรียวสัมผัสบริเวณซอกคอและริมฝีปากที่ถูกเขาจูบบนเรืออย่างดูดดื่ม ยิ่งคิดก็ยิ่งฟิน
สามสิบนาทีผ่านไป...
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
“อร้ายยยยย!” ครั้งนี้เธอจะไม่ทน คาริสาปรี๊ดหนักยิ่งกว่าเดิม “แดน! นายจะไม่มาจริง ๆ ใช่ไหม รอจนแห้งหมดแล้วนะ ทำให้อารมณ์ค้างแล้วก็ไม่ยอมมาต่อ อร้ายยยยย! คนนิสัยไม่ดี!”
เจ็บกว่าโดนเอาแล้วทิ้ง ก็คือทิ้งแล้วไม่โดนเอานี่แหละ
คาริสากรี๊ดออกมาอีกรอบแล้วโยนหมอนทิ้งไป ถ้าแดเนียลมาเห็นคงหัวเราะจนท้องแข็งไปแล้ว ตอนนี้เธอคงโมโหหิว อยากจะกินเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร แทนที่จะได้อาบน้ำนอนพักผ่อน ต้องมานั่งรอคนบางคนเป็นชั่วโมง ๆ เมื่อคาริสาเริ่มไม่มีแรงกรี๊ดเธอจึงผล็อยหลับเพราะความเหนื่อยล้า
ย้อนกลับเมื่อสามสิบนาทีก่อน... แดเนียลนั่งหัวเราะกับการกระทำของหญิงสาวที่กระโดดโลดเต้นดี๊ด๊าอยู่บนเตียง รอยยิ้มปรากฎเด่นชัดบนใบหน้าหล่อเหลา เขาไม่เคยยิ้มอย่างมีความสุขมานานแค่ไหนแล้ว
“ป้าพรมาแล้วครับนายน้อย” เสียงลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจ้านายหนุ่ม
แดเนียลพยักหน้ารับทั้งที่มองคาริสาไม่วางตา
“ที่นายน้อยสั่งป้าจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“เคสไม่รู้ไม่เห็นใช่ไหม”
“เธอมัวแต่คุยอยู่กับป้าคงไม่ทันสังเกตหรอกค่ะว่าคนของเราแอบติดกล้องในห้อง”
ตอนที่ป้าพรเข้าไปในห้องของคาริสาแล้วอ้างว่าเอาเสื้อผ้ามาให้ ขณะที่ป้าคุยอยู่กับเธอ คนรับใช้ที่ตามมาด้วยแสร้งทำเป็นจัดโต๊ะเครื่องแป้งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วแอบติดตั้งกล้องตรงโคมไฟที่ตั้งประดับอยู่ใกล้โต๊ะเครื่องแป้ง
“แล้วเคสว่าไงบ้าง”
“ก็ไม่มีอะไรนะคะ ป้าคุยกับเธอตามประสาคนตรงไปตรงมา”
“แล้วคำพูดที่ตรงไปตรงมา คือ...?” แดเนียลอยากรู้บทสนทนาที่ป้าพรคุยกับคาริสา
“ก็แค่ หมดธุระแล้วกรุณาเชิญออกจากห้องนี้ซะ ประตูอยู่ตรงนั้น อะไรทำนองนี้ค่ะ”
“แค่นี้เองเหรอ”
“แล้วจะเอาแค่ไหนล่ะคะ” แดเนียลดูผิดหวังกับคำตอบของป้าพรไม่น้อยทีเดียว คิดว่าเธอจะถามหาเขาสักคำก็ไม่มี
ป้าพรมองออกว่าเจ้านายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ คนเคยเลี้ยงดูแดเนียลมาตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย หลับตาดูยังรู้เลยว่าแดเนียลรู้สึกยังไง และที่สำคัญผู้หญิงที่ชื่อ ‘คาริสา’ มีอิทธิพลต่อจิตใจของแดเนียลแน่นอน
“เธอคือผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้นายน้อยเจ็บเจียนตายเมื่อห้าปีก่อนใช่ไหมคะ”
“ป้าจะพูดถึงเรื่องนั้นอีกทำไม!” แดเนียลพลั้งปากตะคอกใส่ป้าพร เมื่ออีกฝ่ายพูดจี้ปมเมื่อห้าปีก่อน ช่วงนั้นสภาพจิตใจของแดเนียลแย่ถึงขั้นเกือบจะฆ่าตัวตาย
“นายน้อยคงไม่ได้เอาเธอมาแก้แค้นใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้วป้า” เขาเดินเข้าห้องนอนส่วนตัวไปอย่างเสียอารมณ์ ทำเอาป้าพรต้องหยุดคำพูดที่จะเอ่ยออกมา
แดเนียลหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางหงุดหงิด แต่ทว่าเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคาริสาในจอทีวี ซึ่งตอนนี้หลับไปเป็นที่เรียบร้อย คนที่เพิ่งหงุดหงิดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนสีหน้ากลับมาอารมณ์ดีและเต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
หนึ่งปีต่อมา...“อะ อั๊วะ อ้วก!”“พี่โอเคขึ้นไหม” คาริสาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับลูบหลังคนเป็นสามีเบา ๆ เนื่องจากเขาคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มาตลอดทั้งวัน “ไปหาหมอดีกว่านะ”“ไม่ไปนะเคส พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” แดเนียลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะดึงคาริสาให้นั่งบนตักของเขา“ไม่เป็นอะไรที่ไหนกัน อ้วกซะหมดไส้หมดพุงขนาดนี้”“พี่ไม่เป็นอะไรจริง ๆ” เขาโอบกอดเธอแล้วดึงมือเรียวมาสัมผัสเข้าที่หน้าผาก “แค่ปวดหัวนิดหน่อย”คาริสาอมยิ้มละไมเมื่อถูกสามีออดอ้อน เธอพรมจูบไปทั่วหน้าผากของเขาให้คลายอาการปวด“หนูมีอะไรจะให้พี่ดูด้วยนะ” มือเรียวเอื้อมไปหยิบเอกสารฝากครรภ์ก่อนจะยื่นมันให้กับเขา“มะ...หมายความความว่าไง หนูท้องเหรอ?”คาริสาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เอง ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันตอนที่รู้ว่ากำลังจะเป็นแม่คน“สองเดือนแล้วค่ะ”“คนดี พี่รักหนูที่สุดเลย” แดเนียลตะโกนพูดด้วยความดีใจ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาของเมียรักไปหลายฟอดเป็นการขอบคุณ มือหนาลูบที่ท้องน้อยเบา ๆ “พี่จะมีลูกแล้ว พ
วันต่อมา…(ความลับของคาริสา คือยัยขี้แยที่ชอบน้อยใจผัว) คำพูดไม่น่าฟังกรอกเข้ามาในสายทันทีที่คาริสากดรับ“พูดอะไรของแก!”(ก็พูดเรื่องจริงไง ฉันรู้นะ ว่าทำไมแกถึงไม่ยอมมีลูกให้แดเนียลสักที)“แล้ว...”(เคส แกแต่งงานกับแดเนียลมาครึ่งปีแล้วนะ ไม่คิดมีตัวเล็กให้แดเนียลหน่อยเหรอ)“ฉันยังไม่พร้อมจะแบ่งความรักให้ใคร”(แม้แต่ลูกของแกเองนะเหรอ)“เฮ้อ! ฉันมันเห็นแก่ตัวใช่ไหมเรย์”(เชื่อฉันเถอะ! แดเนียลรักแกจะตาย เขาไม่มีวันรักแกน้อยลงหรอก มีแต่จะคลั่งรักแกมากกว่าเดิม ถ้าแกยอมมอบของขวัญที่ล่ำค่าที่สุดให้กับเขา)“ของขวัญที่ล่ำค่าเหรอ?”(ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี แกต้องสัมผัสมันด้วยตัวเองเคส แล้วแกจะรู้ว่าการที่มีลูกนั่นแหละ คือความรักและความสุขที่แท้จริง)หลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนรักนานนับชั่วโมง คาริสาก็กดวางสาย ก่อนจะเห็นแดเนียลเดินผ่านหน้าของเธอไปนั่งบนโซฟาคาริสาวางถ้วยชาที่ถือติดมือมาด้วยลงบนโต๊ะกระจก แล้วหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักของแดเนียล สองแขนเรียวโอบรัดลำคอหนาพลางซบใบหน้าลงบนบ่าแกร่ง“ยังโกรธหนูอย
“แต่งตัวสวยเชียว” แดเนียลเอ่ยชมพร้อมไล้สายตามองเรือนร่างขาวผ่อง เดรสสายเดี่ยวสีดำที่เธอสวมสะกดสายตาคนมอง“ทำไมถึงรู้ว่าเป็นหนู” คาริสาเอ่ยถามอย่างข้องใจ เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่ภายใต้หน้ากากของใคร สามีที่รักก็จับได้เสมอ“เมียคนเดียวทำไมจะจำไม่ได้ พี่จำหนูได้ทุกตารางนิ้วของร่างกายเลยนะ เริ่มจากตรงไหนก่อนดี” คาริสาขมวดคิ้วสงสัย เธอแหงนหน้ามองเขา ก่อนจะถูกจูบหน้าผากกลับมา “กลิ่นตัวกลิ่นหัวพี่ก็จำได้ แค่กอดก็จำได้แล้ว”แดเนียลหอมแก้มเมียรักอย่างเอาใจ ทำเอาแก้มนวลที่เคยขาวผ่องแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยอาการเขินอาย“ไม่เชื่อหรอก พี่ขี้โม้”เมื่อถูกสปอยมากเกินไป คาริสาจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งแดเนียลก็ไม่ขัดพร้อมเอาอกเอาใจเมียรักเสมอ“หนูมีใฝ่เม็ดเล็กตรงหัวแม่มือข้างขวาด้วยนะ รู้หรือเปล่า”ไม่เพียงแค่พูดแต่มือหนายังจับพลิกมือเรียวมาชี้จุดให้เธอดู ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นจูบคาริสาทำหน้าประหลาดใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามร่างกายขนาดนี้เลย“หนูอยากรู้ตรงไหนอีก” มือหนาปัดผมที่ยาวสลวยออก
ณ ห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุป‘แดเนียล’ ผันตัวจากมาเฟียฮ่องกงมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มพันล้าน โปรเจกต์ใหญ่ที่ทุ้มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินมหาศาล กำลังเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจคู่แข่งหลายรายทว่าเรื่องนั้นกลับไม่ได้ทำให้ประธานหนุ่มเป็นกังวลแต่อย่างใด เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเป็นทุกข์ในตอนนี้ คือ...“เมื่อไหร่เคสจะท้องสักทีวะ”เกือบครึ่งปีแล้วที่แดเนียลแต่งงานอยู่กินกับคาริสาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำไมเมียสุดที่รักถึงไม่มีวี่แววจะมีเบบี้ตัวน้อยให้เขาสักทีไม่ใช่ว่าเขาไม่ขยันทำการบ้านสักหน่อย ทำก็ออกจะบ่อย ทำทุกวันเลยก็ว่าได้คาริสาแทบจะต้องคลานลงจากเตียงไปทำงานทุกเช้า บางทีต้องลางานเป็นอาทิตย์ เพราะลุกออกจากเตียงไม่ไหวก็หลายครั้งหลังจากที่นั่งครุ่นคิดอยู่นานสองนาน แดเนียลก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเขาไม่มีน้ำยาหรือเปล่า เมียรักถึงไม่ท้องสักที นึกแล้วก็ขำ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาจะทำยังไงดีชีวิตหลังแต่งงาน บ่อยครั้งที่เขาและเธอต้องทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แดเนียลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คาริสาลาออกจากงานขององค์กรที่
หลังจากกลับมาจากบ้านพักตากอากาศได้สองสัปดาห์ งานแต่งของเขาและเธอถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต งานแต่งงานของหลานชายสุดที่รักเพียงคนเดียวมีหรือที่คุณย่าจะจัดให้น้อยหน้าต้นตระกูลของคุณย่าท่านเรียกได้ว่ามีคนนับหน้าถือตา และเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมไฮโซ แขกเหรื่อมากมายต่างมาร่วมเป็นสักขีพยานรัก คนในองค์กรลับก็มาร่วมแสดงความยินดีในรูปแบบที่แต่งต่างกันออกไปภาคิน วิวัฒน์ และเคคิว มาเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว เตชินและเรติกามาในฐานะเพื่อนรักของเธอ เซน ซาน และนาวิน แฝงตัวมาในชุดเด็กเสิร์ฟ แม้แต่หัวหน้าศูนย์ศูนย์หนึ่งก็แฝงตัวเป็นใครสักคนในงานดอกไม้ช่อเล็กถูกถืออยู่ในมือของคนที่สวยที่สุดในงาน เธอสวมชุดเดรสไหล่ปาดแขนยาวลายลูกไม้ สีขาวนวลแบบออฟไวท์ กระโปรงผ้าซาตินแบบตาข่ายยาวซ้อนกันเจ็ดชั้น มีเชือกร้อยด้านหลังที่ปรับให้กระชับหุ่นเพรียวระหง สายตาทุกคู่ภายในงานต่างก็จับจ้องไปที่เธอเคคิวเดินควงแขนน้องสาวมาหาแดเนียลที่สวมชุดสูทสีเดียวกันกับเธอ เขายินดีที่จะยกน้องสาวที่เขารักสุดดวงใจให้กับผู้ชายคนนี้ แม้หลายครั้งที่เคยเห็นแดเนียลทำให้คาริสาน้องรักของตนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ก็คือคนเ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?” แดเนียลพูดในขณะที่มือหนาค่อย ๆ นวดศีรษะให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ“คะ?” เธออุทานอย่างสงสัย ตื่นขึ้นมาเขาก็อุ้มเธอให้มาอาบน้ำด้วยกัน แถมยังเป็นคนสระผมให้เธอด้วยตัวเอง“นอนบนอกอุ่น ๆ ของพี่ หลับสบายไหมครับ” คาริสาพยักหน้าเป็นคำตอบพร้อมเอี้ยวหน้าไปคลี่ยิ้มหวานให้คนข้างหลังก่อนหันกลับไปอยู่ท่าเดิม“ทำไมวันนี้ดูแลเอาใจใส่หนูเป็นพิเศษ”“พี่อยากดูแลหนูแบบนี้ทุกวัน ขอโทษที่เอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้หนูนะ” ผ่านมาเกือบเดือนหลังจากที่คาริสาตกลงจะแต่งงานด้วย แดเนียลก็เอาสนใจงานของบริษัทที่เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งประธาน แทบไม่ได้แบ่งเวลามาดูแลเรื่องงานแต่งปล่อยให้คุณย่ากับคาริสาจัดการทุกอย่างกันเอง “หนูเหนื่อยไหมที่ต้องวุ่นวายเรื่องงานแต่งคนเดียว”เธอส่ายหัวไปมาเบาพร้อมโกยฟองน้ำในอ่างมาเป่าเล่นอย่างนึกสนุก“คุณย่าจัดการให้ทุกอย่าง หนูแค่ทำตามที่คุณย่าบอก” คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ เขาอมยิ้มให้กับคำตอบของเธอ ในขณะที่มือลูบไล้ปลายผมที่ยาวสลวย“หนูอยากไปเที่ยวไหม”“เที่ยวเหรอ?” น้ำเสียงตื่นเต้นดังออกมาจากปากของคนที่ก