“ฉันเจ็บ อึก! ไม่ไหวแล้ว” “ไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนบอกจะตามใจฉัน ทำไมแค่นี้ยอมแพ้แล้วล่ะ” “อึก! ก็ฉันไม่คิดว่านายจะรุนแรงขนาดนี้” “เป็นผู้หญิงของฉันอย่าร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ อมเข้าไปซะ” ในขณะที่พูดแดเนียลก็ยัดความใหญ่โตเข้าปากคาริสา จับศีรษะเธอให้กดเข้ามาครอบครองท่อนเอ็นรักแต่ความใหญ่โตทำให้มันเข้าไปในปากของเธอได้เพียงครึ่งเดียว “อ๊อก!อ๊อก!” คาริสายอมสนองความต้องการของเขาแต่โดยดี “ดี ๆ นะ ฉันเคยสอนเธอแล้ว”
View Moreครืด! ครืด!
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในรอบสัปดาห์ ‘คาริสา’ ไม่รอช้ารีบกดรับสายทันทีเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา ‘เตชิน’
“ว่าไงคะหัวหน้า!” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน
(อยู่ไหน!)
“ฉันเหรอ?ฉันก็อยู่ที่ห้องสิ จะให้ไปอยู่ดาวอังคารหรือไงมิทราบ?”
(ปากดี! งานการไม่มีทำหรือไง!)
ปลายสายตะโกนพูดเสียงดัง จนคาริสาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูของเธอ
“อะไรของมันวะ” แม้จะรู้สึกงุนงงปนหัวเสียเล็กน้อย แต่คาริสาก็ต้องดึงมือถือกลับมาแนบหูอย่างเลี่ยงไม่ได้
(ฉันมีงานให้ทำ!)
“อะไรนะ หัวหน้ามีงานให้ทำ นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า” เหลือกตามองบนพร้อมเอ่ยประชดประชัน
(...)
“เหอะ ฉันเองก็ไม่อยากนั่งงอมืองอตีนอยู่กับที่หรอกนะคะหัวหน้า แต่หัวหน้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าหัวหน้าสั่งพักงานฉันอยู่” เธอโวยวายโดยเน้นคำว่า ‘หัวหน้า’ ทุกประโยค
(เสียงอาฆาตเชียวนะ! รีบมาก่อนที่จะโดนพักงานยาว)
ออกคำสั่งจบเตชินเพื่อนรักที่ชอบเอาตำแหน่งหัวหน้ามากดหัวเธอก็ตัดสายไปดื้อ ๆ
คาริสาส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ รู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคนที่เป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนสนิท อย่างไรเสียคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างเธอก็ต้องรีบไปแต่งตัวให้ไว ขืนช้าจะโดนคนเป็นหัวหน้าบ่นให้อีกชุดใหญ่
สองมือรวบผมขึ้นมัดเป็นทรงหางม้า ก่อนจะสวมใส่กางเกงยีนรัดรูป เสื้อยืดสีดำ สวมทับด้วยแจ็กเกตสีเดียวกับเสื้อ ก่อนออกจากห้องคาริสาหยิบมีดพกและผ้าเช็ดหน้าอาบยาสลบซึ่งเป็นอาวุธประจำกายติดตัวมาด้วย
ชั่วโมงต่อมา...
“สายตำรวจรายงานมาว่ามีพวกมาเฟียฮ่องกงนัดส่งของกันในผับ หน้าที่ของเธอคือล่อพวกมัน”
“ฉันต้องเป็นเหยื่อล่ออีกแล้วเหรอ แหม...หัวหน้าก็คงจะให้ฉันไปแต่งตัวโป๊ ๆ อีกแล้วสิ”
“อย่าบ่น! งานถนัดเธอไม่ใช่หรือไง” คำพูดคำจาของเตชินทำเอาคาริสาแทบจะยกกำปั้นทุบศีรษะเขาให้แบะเสียเดี๋ยวนั้น ติดตรงที่เขาเป็นหัวหน้าเธอหรอกนะ หัวหน้าที่สามารถสั่งพักงานเธอได้ทุกเมื่อ ไม่อย่างงั้นละก็อย่าหวังว่าจะได้ปากสุนัขใส่เธอเลย
ภายในห้องแต่งตัว คาริสามองสิ่งประดิษฐ์ในมือ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘หน้ากากเพชรร้อยหน้า’ มันถูกออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เธอสวมใส่มันอย่างชำนาญ ตามด้วยวิกผมสั้นหน้าม้า
คาริสาลงมือแต่งหน้าแต่งตา เริ่มจากการเขียนคิ้ว ขีดอายไลเนอร์ ปัดขนตาจนงอนหนา ทาปากสีแดงสด และปัดแก้มให้อมชมพูอ่อน ๆ เช็กความเรียบร้อยผ่านกระจกเงาบานใหญ่อีกที ก่อนจะเดินออกพร้อมอุปกรณ์สื่อสารและจีพีเอส
เท้าเรียวบนส้นสูงสีแดงเข้มเดินเข้าไปภายในสถานที่รื่นรมย์ท่ามกลางแสงสีเสียงและผู้คนมากมาย คาริสาก้าวขาขึ้นไปบนเวทีด้วยความมั่นใจ ความสวยเซ็กซี่ของเธอสะกดสายตาเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ดวงตาคู่งามมองหว่านเสน่ห์ผู้คนภายในผับ มุมปากกระจับเหยียดยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ สะโพกงอนงามโยกย้ายส่ายยั่วผู้คน โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญที่มีการนัดส่งของกันภายในนั้น
การได้ยืนอยู่เหนือผู้คนทำให้เธอมองเห็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน สองเท้าทิ้งน้ำหนักก้าวเดินบนส้นสูงด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ เธอมุ่งตรงไปยังเป้าหมายซึ่งกำลังมีการเจรจาส่งของบางอย่างกันอยู่ หากมองโดยไม่คิดอะไร ผู้คนเหล่านั้นดูเหมือนมาสังสรรค์และพูดคุยกันธรรมดา แต่สายตาของคนที่มีประสบการณ์ช่ำชองอย่างคาริสา ผู้คนเหล่านั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดปกติ
ทันทีที่เดินผ่านคนกลุ่มนั้นข้อเท้าของคาริสาก็พลิกฉับพลัน ส่งผลให้เธอนพลาดท่าล้มลงไปนั่งบนตักของชายคนหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
ใช่...เธอตั้งใจ
วิธีง่าย ๆ ตื้น ๆ แต่ทำให้เหยื่อตกหลุมพรางได้นับครั้งไม่ถ้วน
“ขอโทษค่ะ ฉันเดินไม่ระวังเอง” คาริสากล่าวขอโทษพลางส่งสายตายั่วยวนคนตรงหน้า จังหวะนั้นเองเธอจึงจัดการหย่อนอุปกรณ์จีพีเอสสำหรับจับพิกัดลงในกระเป๋าเสื้อสูทของชายหนุ่มอย่างแนบเนียน
“ไม่เป็นไรครับ” มือขวาของนักธุรกิจรายใหญ่ซึ่งเป็นตัวแทนส่งของในครั้งนี้เอ่ยพูดแล้วยิ้มให้เธอ
“ขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ” ว่าแล้วคาริสาก็ลุกขึ้นเดินจากไป
‘เอก’ มองตามหญิงสาวจนสุดทางเดิน สีหน้าที่เขามองเธอไร้ซึ่งความรู้สึกเสน่หา ก่อนจะหันไปกระซิบบอกกับลูกน้องที่มาด้วยกัน
“ตามผู้หญิงคนนั้นไป ถ้าเห็นว่ามีพิรุธก็จัดการได้เลย”
“ครับ” ลูกน้องสองคนตอบรับแล้วเดินตามคาริสาไปห่าง ๆ ดูเหมือนพวกเขาจะติดกับเธอเข้าแล้ว
“ขออะไรแรง ๆ หน่อยค่ะ” คาริสาสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม เธอหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ไม่นานนักบาร์เทนเดอร์ก็ผสมเครื่องดื่มเสร็จสรรพ เขาส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเธอ คาริสายกมันขึ้นมาดื่มคราวเดียวหมดแก้ว “หล่อจังเลยค่ะ นี้เบอร์ฉันนะคะ อย่าลืมโทรหานะ”
เธอพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตายั่วยวน จากนั้นจึงยื่นเศษธนบัตรและกระดาษโน้ตที่จดเบอร์ลงไปก่อนหน้าให้กับบาร์เทนเดอร์
“น้อง! ขอดูกระดาษนั่นหน่อย” ชายฉกรรจ์ที่สะกดรอยตามคาริสามาได้สักพักเดินตรงไปยังบาร์เทนเดอร์คนนั้นเพื่อขอดูกระดาษโน้ต
“แค่เบอร์โทรน่ะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดพร้อมยื่นกระดาษจดเบอร์ให้
“ก็แค่พวกดาวยั่วในผับ กลับเถอะ”
“แต่น้องเขาสวยนะเว้ย กูว่าตามไปอีกหน่อยดีกว่า”
“เฮ้ย! เรามาทำงานนะเว้ย งานนี้จะพลาดเพราะผู้หญิงไม่ได้”
“อย่าชะล่าใจไป บางทีอาจเป็นตำรวจปลอมตัวมาก็ได้”
ชายฉกรรจ์สองคนคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามหญิงสาวต่อ คาริสาเดินผ่านหัวหน้าของเธอ สองมือเรียวโอบรัดคอของเตชินทำท่าทางยั่วยวน ก่อนจะเสียบกระดาษโน้ตใบเล็กไว้ที่กระเป๋าเสื้อของเขาแล้วเดินจากไป
“แม่งมั่วไปทั่วเลยว่ะ กูว่ากลับกันเถอะ”
“มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
หลังจากที่เตชินได้อ่านข้อความของคาริสา เขาจึงส่งสัญญาณให้เซนกับซานเด็กฝึกที่อยู่ในการดูแลดำเนินแผนสองต่อ
คาริสาเดินตรงไปยังห้องน้ำ ชายฉกรรจ์ที่เดินตามเธอมาค่อย ๆ ย่องไปข้างหลังของเธอ คาริสารู้ตัวมาตลอดแต่ก็พยายามทำตัวปกติ เธอหันหลังกะทันหันทำให้ชนเข้ากับชายคนนั้น
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” คาริสาเอ่ยถาม ก่อนจะโดนมือหยาบกร้านผลักจนแผ่นหลังของเธอแนบชิดกับผนังห้องน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว
“มี...” เขาพูดเสียงหื่น คาริสายิ้มพลางส่งสายตามองเขาอย่างยั่วยวน เธอเดินวนรอบตัวของชายคนนั้นด้วยท่าทางสนอกกสนใจ เมื่อเขาไม่ระวังตัว กำปั้นหนัก ๆ ของหญิงสาวทุบลงไปที่ท้ายทอยของเขาอย่างแรง ส่งผลให้ชายคนนั้นหมดสติไปในทันที
คาริสาลากเขาเข้าไปไว้ในห้องน้ำริมสุด เธอริบอาวุธปืนของเขาเอาไว้ป้องกันตัวในยามฉุกเฉิน ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นชุดเดิมพร้อมกับถอดหน้ากาก จากนั้นจึงวิ่งไปดักรอที่ทางออกของผับ
คาริสากับเตชินตามสืบเรื่องนี้มาค่อนปี มันคือการส่งสินค้าผิดกฎหมายข้ามประเทศ เธอต้องการรู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง จึงทำเกินหน้าที่ที่เตชินมอบหมาย ด้วยการมาดักรอตรงบริเวณทางหลบหนี
“เรียบร้อย” หนุ่มใหญ่เอ่ยขึ้นหลังจากที่ลูกน้องคนสนิทเช็กของที่โกดังและส่งข้อความรายงานความเรียบร้อย จากนั้นจึงส่งกระเป๋าที่บรรจุด้วยเงินจำนวนมากมายให้กับเอกซึ่งเป็นตัวแทนมาเจรจาค้าขายแทนเจ้านาย เขาเปิดดูจำนวนเงินในกระเป๋าแล้วยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับเสี่ย”
“เสี่ยครับเกิดเรื่องใหญ่แล้ว อยู่ ๆ พวกตำรวจก็โผล่มา ตอนนี้โกดังกำลังโดนค้น”
เอกเห็นท่าไม่ดีเมื่อมีบุคคลแปลกหน้าต่างตรงมาที่เขา ก่อนจะสังเกตเห็นว่าหนึ่งในลูกน้องของเสี่ยอาจจะเป็นสายให้กับตำรวจ เขาไม่รอช้ารีบคว้าปืนยิงสายตำรวจคนนั้นแล้วรีบคว้ากระเป๋าเงินเพื่อหลบหนีทันที
ปัง!
คนที่อยู่ภายในผับแห่งนั้นต่างร้องตกอกตกใจพากันแตกตื่นกับเสียงปืนที่ดังสนั่น ทุกคนต่างก็หนีเอาตัวรอดจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด
คาริสาที่แอบดักรออยู่เห็นเอกวิ่งหนีออกมา จึงรีบวิ่งตามเขาไปห่าง ๆ เธอพยายามยิงสกัดโดยเล็งเป้าไปที่มือฝั่งที่เอกถือกระเป๋าบรรจุเงิน แต่ไม่สำเร็จเพราะเอกไหวตัวทัน กระสุนปืนเฉียดฉิวไปเพียงนิดเดียว
คาริสารีบหาที่หลบเอาตัวรอดเมื่อถูกเอกยิงสวนกลับมา ตำรวจชุดจับกุมของคดีนี้รีบวิ่งไปทางต้นเสียงของปืนที่ดังกังวานไปทั่วพื้นที่ใกล้เคียง จึงทำให้มีการต่อสู้กันระหว่างเอกกับตำรวจหลายนายอยู่พักใหญ่ ๆ
คาริสาที่หลบอยู่อีกฟากพยายามเล็งปืนไปยังมือของเอกข้างที่ถือกระเป๋าบรรจุเงิน ก่อนจะเหนี่ยวไกยิงด้วยความเด็ดเดี่ยว เอกได้รับบาดเจ็บที่มือทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งกระเป๋าบรรจุเงินแล้วรีบหนีเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว
เอกกระโดดขึ้นเรือเพื่อหลบหนี คาริสาที่วิ่งตามเขาไปติด ๆ กระโดดขึ้นเรือเพื่อสืบหาคนบงการรายใหญ่ เธออยากจะช่วยตำรวจปิดคดีนี้เต็มทน
สองเท้าค่อย ๆ เดินย่องไปบนเรือด้วยความเงียบงัน เธอเห็นว่าภายในเรือมีชายฉกรรจ์อยู่เต็มไปหมด รวมทั้งคนบงการรายใหญ่ด้วย โดยหารู้ไม่ว่าเรือที่เธอแอบขึ้นมาโดยไม่ได้รับอนุญาตกำลังจะแล่นออกไปจากจุดเทียบท่า
หลังจากที่มาเฟียหนุ่มได้เสพสมอารมณ์ดิบ ดื่มด่ำให้กับความป่าเถื่อนอย่างบ้าคลั่งบนเรือนร่างของคนทรยศ เพื่อสนองความต้องการของตัวเองคาริสาจะข่มตาให้หลับลงได้อย่างไรเมื่อแดเนียลทิ้งร่องรอยความรุนแรงไว้บนร่างกายของเธอจนฟกช้ำไปทั้งตัว ดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้คนที่รอคอยมาตลอดเวลาห้าปี คนที่เคยเป็นต้นเหตุให้เธอเกือบตาย คนคนนั้นกลับปฏิบัติกับเธอไม่ต่างกับสัตว์ ถึงแม้ความรุนแรงจะจบลงด้วยอ้อมกอดแต่มันกลับกลายเป็นอ้อมกอดที่ไม่อบอุ่นเอาเสียเลย และไม่ใช่อ้อมกอดที่คาริสาโหยหามาตลอดด้วย คนที่โอบกอดเธออยู่ตอนนี้เขาเป็นใครแดเนียลที่เธอรู้จักกลายเป็นปีศาจร้ายไปแล้ว!ครืด! ครืด!เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้แดเนียลที่หลับอยู่งัวเงียตื่น มือหนาเอื้อมไปจัดการกับเสียงรบกวนนั้น คาริสาเมื่อเห็นแดเนียลตื่นดวงตาที่หลงเหลือคราบน้ำใส ๆ ถูกข่มให้หลับลงอัตโนมัติ“ว่าไง เดี๋ยวกูออกไป” แดเนียลผละคาริสาออกจากอ้อมกอดก่อนจะลุกขึ้นมาจัดการกับตัวเองจนเรียบร้อย ดวงตาคมดุจ้องมองคนบนเตียงที่หลับตานอนนิ่งจนผิดสังเกต“ฉันรู้นะว่าเธอไม่ได้หลับ ลืมตาขึ้นมาฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” คาริสายังคงข่มตาหลับอย
เขาคงไม่ได้จะเอาสิ่งนี้มาลนใส่เธอใช่ไหมแม้จะเป็นความคิดที่ไว้ปลอบใจตัวเอง แต่คาริสาก็ต้องถอนหายใจออกเบา ๆ อย่างโล่งอกเมื่อแดเนียลยื่นมือวางเทียนไขที่ประกอบใส่กับเชิงเทียนสามช่อเรียบร้อยแล้วไว้บนหัวเตียงตั้งโชว์ราวกับเครื่องประดับ ก่อนหันมาจัดการกับคนที่อยู่ใต้ร่างต่อขยับท่อนกายแกร่งเข้าออกต่ออย่างเร็ว ๆ เร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ“อ๊ะส์ ๆ ๆ แดน... ฉันเสียว โอ๊ะ ๆ ๆ อ๊ะส์ ๆ ๆ ฉันเจ็บ เบา ๆ อ๊ะส์ ๆ ๆ”“ฉันอยากให้เธอเจ็บมากกว่าเสียว” แดเนียลเร่งกระแทกกายแกร่งเข้าไปแบบรัว ๆ แรง ๆ วางมือหนาบนเต้าอวบงามบีบขย้ำเต็มแรงมือบดบี้ยอดประทุมถันอย่างเอาใจ“อ๊าส์ อร้ายยยยย! อื้อ เจ็บ” เสียงกรีดร้องแล้วกรีดร้องเล่าดังลั่นไม่รู้กี่ครั้งเมื่อร่องสาวโดนกระแทกรุนแรงจนมีหยดเลือดไหลออกมา“อื้อ แสบ อึก! ไม่ไหวแล้ว ฮือ ๆ” เมื่อแดเนียลเห็นว่าเธอใกล้จะแตะเพดานสวรรค์แดเนียลก็เร่งชักกายแกร่งเข้าออกอย่างถี่ ๆ ก่อนค่อย ๆ ลดจังหวะ เข้าออกแบบช้า ๆ เนิบ ๆ“ฉันยังไม่อยากให้เธอเสร็จ”“ได้โปรด อย่าทรมานฉันด้วยวิธีนี้เลยขอร้อง ขยับต่อเถอะนะอีกนิดเดียว”“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง ถ้าอยากเสร็จนักก็ขยับเอง!”“ข้อร้องเถอะนะแดน อย่าทรม
“แดน ฉันขอโทษ ฮือ ๆ” สิ่งที่คาริสากลัวมาตลอดมันได้เกิดขึ้นแล้ว แดเนียลคงโกรธเกลียดเธอจนเข้าไส้“เธอไม่ต้องขอโทษ” ความรู้สึกเย็นที่ข้อมือทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนก้มหน้าไปมองก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจัดการล็อกข้อมือของเธอด้วยกุญแจที่แอบเตรียมไว้ดึงแขนล็อกกับมุมเตียง“แดน ไม่เอา ฮือ ๆ อย่าทำฉันเลย” คำขอร้องอ้อนวอนที่เขาไม่มีทางเห็นใจ เธอตะโกนออกมาจนเสียงแหบแห้ง ร้องไห้จนแทบจะไม่เหลือน้ำตาให้ไหลแดเนียลหายเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่เชื่อมติดกับห้องนอน เขาควานหาของบางอย่างที่เคยซื้อเก็บไว้ในนั้น จนในที่สุดเขาก็หามันเจอคาริสาตกใจกลัวเบิกดวงตากลมโตจ้องมองสิ่งที่แดเนียลถือมาด้วย เซตพันธนาการจำนวนเกือบสิบชิ้นได้ถูกวางไว้ข้างตัวของคาริสาที่นั่งชันเข่าหลบมุมอยู่“เลือกสักชิ้นสิเคส”“ไม่! นะ...นายมีของแบบนี้ด้วยเหรอ อึก!” คาริสาเอ่ยด้วยอาการหวาดกลัว“กลัวเหรอ? ฉันสัญญาว่าจะทำกับเธอให้เบามือที่สุด” มือหนาจับดึงผ้าห่มส่วนที่ปกปิดร่างเปลือยเพียงเล็กน้อยออกจากร่างกายของเธอ“อื้อ!” เสียงกรีดร้องส่งเสียงดังกังวานลั่นห้องทันทีเมื่อถูกแส้ฟาดลงบนเนื้อหนังอย่างเต็มแรง “ไม่ ฉันเจ็บ อึก! ไม่เอา อร้ายยยยย!”เธอ
“ทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วยล่ะ” คาริสาพึมพำเบา ๆ สีหน้าเหมือนหงุดหงิดที่เสียรู้แดเนียล“อันดับแรก พูดความจริงกับฉัน” แดเนียลพูดเสียงเรียบแต่ในตาของเขากลับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะระเบิดออกมาราวกับเขารู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับคาริสา เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาอยากจะรู้ความจริงจากปากเธอไม่ใช่คนอื่น และตอนนี้แดเนียลก็กำลังให้โอกาสคาริสาสารภาพอยู่ ซึ่งคาริสาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนพูดบางอย่างออกไป“ฉันเป็นคนขององค์กร” คาริสาเริ่มต้นประโยคที่แดเนียลเองก็รู้อยู่แล้วเขาเพียงแต่ต้องการให้คาริสาพูดมันออกมาแค่นั้น“ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกทุกเรื่องเกี่ยวกับองค์กรนี้รวมกับทุกเรื่องของเธอด้วย” มือหนาข้างหนึ่งจับกระชากแขนของหญิงสาวตรงหน้าแต่เพราะมีผ้าห่มผืนหนาห่อหุ้มไว้แรงเหวี่ยงเลยดูไม่แรงนัก ชายหนุ่มฟังกับคำถามที่อยากรู้“ตั้งแต่เด็ก แต่ว่าตอนที่เราเจอกันเมื่อห้าปีก่อนฉันออกจากองค์กรแล้ว พอหลังจากที่เราเลิกกันฉันก็กลับเขาองค์กรอีกครั้ง”แน่นอนว่าสิ่งที่คาริสาพูดอยู่เป็นข้อมูลแดเนียลไม่เคยรู้มาก่อน“องค์กรนี้มันต้องการอะไรจากฉัน”“สิ่งที่อยู่ในมือของนาย” คาริสาพูดพร้อมส่งสายตาไปที่มือของแดเนียลข้างที่
แดเนียลถอนความใหญ่โตออกจากช่องสวาทมือหนาจับดึงร่างเปลือยที่นอนฟุบอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งจัดการสาวสวยให้หันหน้ามาหาตน“หรือจะเอาจนถึงเช้าดี” เขาโน้มหน้าถามกึ่งจริงกึ่งหยอกอีกครั้ง พร้อมจับเสยผมหญิงสาวให้มองเห็นหน้าชัด ๆ“...” คาริสาไม่พูดอะไรนอกส่ายหัวปฏิเสธ เธอส่งสายตาวิงวอนชายหนุ่มที่ยังสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้นมีเพียงกางเกงที่ซิปถูกรูดออกเพื่อให้ความเป็นชายโผล่ผงาดออกมาคาริสากลืนน้ำลายอยากลำบากเพราะตอนนี้เจ้าสิ่งนั้นมันกำลังชี้โด่ตรงหน้าของเธออยู่“เจ็บมากเหรอ” แดเนียลพูดทั้งที่สายตาดูไม่เห็นอกเห็นใจเธอเลยสักนิด มือข้างหนึ่งจับท่อนเอ็นตัวเองสาวเล่น“...” คาริสาพยักหน้ารับพร้อมกับปล่อยน้ำตาของความเจ็บปวดออกมา“ฉันต้องการคำตอบที่เป็นคำพูด” มือข้างที่ไม่ได้สาวท่อนเอ็นจับดึงใบหน้าคาริสาที่เต็มด้วยคราบน้ำตาให้ปริปากออกมา“ฉันเจ็บ อึก! ไม่ไหวแล้ว”“ไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนบอกจะตามใจฉัน ทำไมแค่นี้ยอมแพ้แล้วล่ะ”“อึก! ก็ฉันไม่คิดว่านายจะรุนแรงขนาดนี้”“เป็นผู้หญิงของฉันอย่าร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ อมเข้าไปซะ”ในขณะที่พูดแดเนียลก็ยัดความใหญ่โตเข้าปากคาริสา จับศีรษะเธอให้กดเข้ามาครอบครองท่อนเอ็นรักแต่ความ
“ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลย ยังไงฉันก็ยอมนายอยู่แล้ว” คาริสาใช้มือข้างหนึ่งยื่นไปสัมผัสแก้มสากเบา ๆ “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปอย่างมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ”“ใครบอกว่าฉันจะทำให้เธอมีความสุข” ดวงตาปีศาจร้ายที่จ้องมองมา ทำเอาคาริสาสะดุ้งตกใจจนตัวโยน แต่เธอไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาพรึ่บ!คนตัวใหญ่ผลักร่างบางให้ล้มลงไปนอนบนเตียง จัดการจับพลิกร่างสาวสวยให้นอนคว่ำ แล้วดึงมือทั้งสองข้างของคาริสาไพล่หลังทันที“แดน นะ...นายทำอะไร” หญิงสาวดิ้นพล่านไปมาในขณะที่แดเนียลใช้เชือกที่เตรียมไว้บรรจงมัดข้อมือสาวสวยที่บิดตัวไปมาสุดฤทธิ์“ไม่เอาแบบนี้”“ไหนบอกจะตามใจฉันทุกอย่างไง” เมื่อมัดข้อมือเสร็จสรรพสวยงามแดเนียลจัดการดึงกางเกงของคาริสาออก ทิ้งให้เหลือเพียงแพนตี้สีดำที่ปกปิดพื้นที่สงวน มือหนายกสะโพกขึ้นจัดแจงท่าทาง“อึก!” สองมือที่ถูกมัดทำให้ใบหน้าสวย ๆ ของคาริสาฟุบคะมำอยู่บนฟูกมือหนาไล้สัมผัสต้นขาเรียวสวย ดวงตาคมปลาบมองสีหน้าเหยเกของเธออย่างเกิดอารมณ์“ฉันชอบแบบนี้” แดเนียลบอกถึงความปรารถนาของตน คาริสาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย เธอไม่สนุกกับการกระทำของเขาเลยสักนิด“ทำไมล่ะ มันน่าสนุกดีออกหรือเธอไม่อยากตามใจ
“เธอเป็นพวกมันใช่ไหม”“ก็แค่เข็มกลักเอาอะไรมาการันตีว่าฉันเป็นพวกนั้น”“ฉันคิดไว้แล้วว่าคนอย่างเธอไม่มีทางเปิดปาก ฉันไม่หวังที่จะได้ยินเธอพูดสารภาพ ถึงยังไงคำตอบของเธอมันแสดงออกมาทางสีหน้าหมดแล้ว”“อึก!” คาริสาเริ่มมีอาการกระอักกระอ่วน เธอพูดไม่ได้คายไม่ออก“ในสองคนนี้จะมีหนึ่งคนที่รอด” แดเนียลพูดพร้อมจ่อปืนไปที่ศีรษะของคาริสา“แดน... นายจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ”“ฉันจะกำจัดคนที่ไม่มีประโยชน์”“ฉันจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้” หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากทันทีที่แดเนียลพูดจบมาเฟียหนุ่มส่งสายตาให้ลูกน้องคนสนิทส่งปืนให้หญิงสาวตรงหน้า เธอค่อย ๆ เล็งมือมาทางคาริสา“ปืนกระบอกนั้นยังไม่มีกระสุน ถ้าเธอให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ฉันจะให้ลูกกระสุนเธอ” ขณะที่แดเนียลเจรจาอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า คาริสาก็ได้ข่มตาหลับปล่อยน้ำใสอุ่น ๆ ออกมา“ส่วนเธออยากตายใช่ไหมถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย”“พี่เคสเป็นรุ่นพี่ใน...”ปัง!เธอไม่ทันจะได้พูดจบประโยคคาริสาก็กระชากเอาปืนจากมือแดเนียลลั่นกระสุนใส่หญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับใช้ขาทั้งสองข้างที่ถูกมัดถีบตัวหล่อนให้หงายไปกับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว“ฉันไม่รู้จักมัน!” เธอพูดทั้งน้ำตา
อย่านะ อย่า...อย่าทำฉัน...ทำแบบนี้ทำไม...“เฮือก!” คาริสาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจดังเฮือก ความฝันเมื่อสักครู่ช่างเหมือนจริงเหลือเกินดวงตาคู่สวยกวาดมองทัศนียภาพรอบตัวด้วยความมึนงง แสงไฟสลัวทำให้เธอทุกอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่ข้อมือและข้อเท้า“อึก!” ใจดวงน้อยกระตุกวูบ เมื่อรับรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความฝันสองมือและสองเท้าถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวนขนาดมหึมา อีกทั้งแขนและขาข้างขวาก็มีอาการชาจนยากที่จะขยับ หลังจากถูกเอาเฝือกออกไปทำไมถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้?เกิดอะไรขึ้น!!!เธอทำอะไรพลาดงั้นเหรอ?“พี่เคส” คาริสามองเห็นหญิงสาวตรงหน้าซึ่งอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเธอ “พี่โอเคใช่ไหม เออ...”คาริสาแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้า ก่อนจะพูดขึ้นแทรก“เธอคนทำความสะอาดนี่ ทำไมฉันกับเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้”“พี่เคสคือเราโดน...”“ฉันไม่ตลกนะ เล่นบ้าอะไรกันอยู่” คาริสาตะโกนพูดแทรก ก่อนจะแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้าอีกครั้งสถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรรู้จักกัน!หญิงสาวตรงหน้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เนื่องจากรุ่นพี่อย่างคาริสาไม่ยอมฟังอะไรเลย อีกทั้งยังพูดตัดบทสนทนา
วันต่อมา...“รับบทเป็นคนพิการนี่มันลำบากจริง ๆ” คาริสายืดเส้นยืดสายพลางเหลือบตามองไปยังห้องทำงานที่เชื่อมติดกับห้องนอนเป็นระยะไดรฟ์นั่นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ยังไงวันนี้ก็ต้องเอามันมาให้ได้ครืด! ครืด!คาริสาเหลือบตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เห็นสายนี้โทรเข้ามาทีไรเธอปวดใจทุกที มือเรียวหยิบหูฟังไร้สายเสียบเข้าหู ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ(ทำไมติดต่อยากจัง ทางนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“มีอุปสรรคนิดหน่อย แต่ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว”(อืม ฉันเห็นแล้ว ไอ้แดเนียลมันเพิ่งนั่งรถออกไป)เตชินส่งสายลับสาวอีกคนแฝงตัวเป็นคนรับใช้ในบ้าน เธอติดกล้องขนาดเล็กไว้ที่เสื้อ จึงทำให้เขาเห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่างภายในบ้านของเป้าหมาย“ฉันขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยได้ไหม ส่งคนอื่นมาลงมือเอาไดรฟ์ในตู้เซฟแทน”(มีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“ที่นี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าฉันลงมือทำเองแล้วเกิดแผนที่วางไว้ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็มีฉันที่ได้อยู่ต่อ หัวหน้าก็จะไม่เสียแหล่งข้อมูลด้วย”(คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอไม่กล้าลงมือทำเองแน่ ๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันส่งคนไปช่วยเธอแล้ว)เพื่อนหนุ่มที่รู้ทันเอ่ยกระแนะกระแหน เล่นเอาคนฟังหน้าชาจนแทบควบคุมอารมณ์หงุดหง
Comments