Share

7

last update Last Updated: 2025-09-04 01:25:29

บทที่ 7

“เล็ก”

อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม

“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”

ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง

“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า

“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”

“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก

“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป

“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”

“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด ๆ แอด ๆ มานานแล้ว”

“จ้ะ”

“เพราะแบบนี้ฉันจึงตัดสินใจจะขายที่ดินแปลงนี้ เพื่อจะเอาเงินไปเป็นค่ารักษา ก็เลยจะมาคุยให้แม่เล็กเข้าใจ จะได้มีเวลาเตรียมตัวย้าย”

“อะไรกันพี่อุดม!” หญิงวัยกลางคนที่ตอนแรกนั่งฟังอย่างสงบเสงี่ยม เริ่มส่งเสียงเอะอะไม่พอใจ “อยู่ ๆ พี่ก็มาพูดแบบนี้ ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ ไอ้ต่อกับผัวของมันก็เพิ่งเอามะนาวมาลงเพิ่มได้ไม่นาน ลงทุนไปก็มากโข แล้วพวกมันจะทำยังไงกันล่ะ”

“แน่ใจเหรอที่พูดน่ะ” อุดมถามกลับพร้อมกับจ้องสายตานั้นอย่างเอาเรื่องเช่นกัน “ที่พี่รู้มามันไม่ใช่แบบที่เอ็งพูดเลยนะเล็ก”

“ใครพูด พี่รู้มาจากใคร บ้านหลังไหนมันปากหมาอีก อีนวลหรือว่าอีไพล่ะ” นางเล็กโกรธจัดจนควันออกหู “ชอบใส่ร้ายกันนักนะอีพวกนี้ เห็นคนเขาลืมตาอ้าปากได้หน่อยไม่ได้เลย คอยแต่อิจฉากันอยู่นั่นแหละ”

“เอ็งไม่ต้องไปด่าเขาหรอก พวกเขาไม่ได้บอกอะไรข้าทั้งนั้น สรุปว่าเอ็งช่วยจัดการเรื่องของข้าให้เรียบร้อยภายในเดือนหน้าก็แล้วกัน แต่ตอนนี้เอ็งเอาโฉนดมาให้ข้าก่อน” เห็นอีกฝ่ายเสียงแข็งใส่ อุดมก็เสียงแข็งกลับไปบ้าง

โดนถามถึงโฉนดขึ้นมา นางเล็กก็ยิ่งลนลาน “พี่จะไล่หลานจริง ๆ เหรอพี่ดม พี่ใจดำเกินไปแล้วนะ”

“ข้าบอกแล้วนี่ว่าข้าจำเป็น เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ถ้าขายที่ได้ข้าจะแบ่งเงินให้เจ้าต่อมันสักส่วนหนึ่งก็แล้วกัน เอาโฉนดมาให้ข้าสิ ข้าจะได้เอาไปเสนอขาย”

“โฉนงโฉนดอะไร ฉันไม่มีหรอก มันที่ของเมียพี่ไม่ใช่ที่ของฉัน พี่จะมาเอาโฉนดกับฉันได้ยังไงล่ะ” เมื่อจนต่อหนทางนางจึงบอกปัดอย่างหน้าด้าน ๆ

“เอ็งพูดอย่างนี้ได้ยังไงวะ ก่อนที่เมียข้าจะตายเอ็งเป็นคนบอกกับเขาเองว่าให้เอาโฉนดฝากไว้ที่เอ็งจะปลอดภัยกว่า แล้วข้าก็เห็นกับตาว่าเมียข้าเอาโฉนดให้เอ็ง”

“พี่มีพยานมายืนยันไหมล่ะว่าฉันเป็นคนเอามา ถ้าไม่มีก็อย่ามาปรักปรำกันแบบนี้”

“เอ็งคิดจะโกงพี่เอ็งเหรอนางเล็ก”

“ฉันไม่ได้โกง แต่ฉันไม่ได้เอามาจริง ๆ นี่”

ใจที่บอบบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเจ็บจี๊ดขึ้นมา เพราะคำพูดเห็นแก่ตัวของน้องเมีย อุดมกดที่หน้าอกเพื่อระงับอาการ ส่วนมืออีกข้างก็บีบมือหลานสาวเอาไว้

“ไม่เป็นไร ตอนนั้นข้าอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ ข้าจะไปแจ้งความว่าโฉนดหายก็แล้วกัน” เขาเริ่มอ้างถึงกฎหมาย

“พี่ขู่ฉันเหรอ” เล็กปรี่เข้าไปหาพี่เขยด้วยท่าทางเอาเรื่อง

“อย่าทำอะไรปู่หนูนะ” ปันหยีเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอาตัวเข้าไปขวาง กางแขนปกป้องปู่ผู้อ่อนแอของตนสุดความสามารถ “โอ๊ย!”

“หยิน!” อุดมส่งเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหลานสาวสุดที่รักถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น รีบเดินไปดูเธอด้วยท่าทางเงอะงะ “หนูเป็นอะไรไหมลูก เจ็บตรงไหนบ้าง”

“หนูไม่เป็นไรจ้ะปู่” เด็กสาวขบฟันทนเจ็บแล้วขยับตัวลุกขึ้นยืน ข้อเท้าของเธอแพลง แต่เธอก็ต้องทนฝืนเอาไว้ “เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่”

“ออกไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก ฉันไม่อยากต้อนรับคนเห็นแก่ตัวอย่างพี่แล้ว” เล็กชี้นิ้วไล่พี่เขยและหลานสาวอย่างไม่ไยดี

“เสียงดังอะไรกันแม่!” เวลานั้นเองเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในบ้าน ก่อนที่ร่างอวบอัดเหมือนนักยกน้ำหนักจะปรากฏตัว “มีอะไรเหรอแม่” หญิงสาววัยประมาณสามสิบ มองคนต่างวัยสองคนที่ประคองกันเอาไว้ด้วยสายตาเหยียด ๆ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นใครก็ไม่คิดจะทักทาย

“ไม่มีอะไรหรอก ไปพักผ่อนเถอะไป เดี๋ยวแม่จัดการเอง” เล็กกล่าวกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจ

“เอ็งจะไม่ทักทายลุงเอ็งหน่อยเหรอเจ้าต่อ” แต่อุดมไม่ปล่อยให้หญิงสาวจากไปง่าย ๆ “ลุงตั้งใจมาหาเอ็งเลยนะ”

ต่อมองหน้าชายชรา ขมวดคิ้วเข้าหากัน “มาหาฉันทำไมล่ะลุง ฉันไม่มีเวลาจะคุยด้วยหรอก วัน ๆ หนึ่งฉันยุ่งจะตาย คุยกับแม่ฉันแทนเถอะ”

“คุยกับแม่เอ็งแล้วแต่ไม่รู้เรื่อง เอ็งมาพอดีก็เลยจะคุยกับเอ็งอีกคน เผื่อเอ็งจะเข้าใจดีกว่าแม่เอ็ง”

“พูดมากนะไอ้แก่นี่! กูบอกให้มึงออกไปจากบ้านกูนี่ไม่เข้าใจเลยใช่ไหม!” นางเล็กตะคอกใส่พี่เขยอย่างเหลืออด

“ก็เอาโฉนดมาให้ข้าก่อนสิแล้วข้าจะไป”

“กูไม่ให้ มึงจะทำไมกับกูไอ้แก่”

“ในที่สุดก็ยอมรับแล้วสินะ”

“ยอมรับอะไรวะ”

“ก็ยอมรับว่าจะโกงพี่เอ็งไงล่ะอีเล็ก”

“ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้เลยนะ มึงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน ถึงมากร่างในบ้านกูแบบนี้” ต่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่ตนจะมาถึง จึงรีบเข้าพวกกับแม่เพื่อขับไล่อีกฝ่ายออกไป

“เอาโฉนดมาให้ข้าก่อนสิ แล้วข้าจะไป”

“กูบอกให้ออกไป ถ้าไม่ออกกูจะโทรแจ้งตำรวจว่าบุกรุกนะ”

“ข้าไม่ไป อยากจะแจ้งก็แจ้งมาเลย ข้าจะได้แจ้งกลับว่าเอ็งโกงข้า และที่ตรงนี้ก็คือที่ดินของข้า”

“มึงอยากตายมากกว่าอยากจะออกจากบ้านหลังนี้ใช่ไหมไอ้แก่ ถ้าอยากตายกูจะโทรเรียกผัวกูกับพรรคพวกเข้ามาจัดการมึงกับหลานมึงซะ กูจะให้พวกมันข่มขืนมันต่อหน้ามึงให้ดู”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สวาทหวาน   10

    จิตใจของเขาร้อนรุ่มดั่งไฟสุม เมื่อเห็นเด็กสาวอายุราว ๆ ยี่สิบปีเริ่มทยอยออกมายืนที่หน้าร้าน แต่ละนางล้วนแต่งตัวล่อแหลม เชิญชวนให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเข้าร้านด้วยท่าทางมีจริต เขาเพ่งมองใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหลานสาวของตนอยู่ในนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลานสาววัยใส หัวใจที่บีบคั้นด้วยความเคร่งเครียดในตอนแรกจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น เธอคงไม่ได้โกหกเขาหรอก ชื่อคนมันก็ซ้ำกันได้ทั้งนั้น เขากลับไปรอเธอที่บ้านดีกว่า คิดได้ดังนั้นจึงเดินออกจากมุมที่ใช้พรางตัวแล้วเดินกลับบ้าน“จะกลับแล้วเหรอหยิน”“จ้ะ หยินกลับก่อนนะคะพี่ ๆ”เท้าที่กำลังเดินไปข้างหน้าของอุดมชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงบอกลาคุ้นหูดังขึ้น เขารีบหันหลังกลับไปมองให้แน่ใจ“หนูหยิน จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ”“ค่ะเฮีย”“เฮียบอกว่าจะกลับให้บอกเฮียก่อนทุกครั้งไงล่ะ”“หนูเห็นเฮียคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ ก็เลยไม่กล้ารบกวน”“รบกงรบกวนที่ไหนกัน สำหรับหนูหยินต้องสำคัญกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เอานี่กลับไปด้วย เฮียเอาของลูกค้ามาให้หนูก่อนเลยนะ เพราะแม่ครัวบอกว่าหนูไม่ยอมสั่งอาหารกับเขา”“หนูไม่เอาได้ไหมคะเฮีย แค่เฮียจ่า

  • สวาทหวาน   9

    ผู้ชายหน้าตาดี มีฐานะ จะหวังอะไรจากคนแก่ไร้น้ำยาอย่างเขากันล่ะ ถ้าไม่ได้หวังจากตัวหลานสาวที่กำลังเติบโตเป็นสาว และความสวยเริ่มเบ่งบานออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน“ถ้ามันเกี่ยวกับหลานสาวของผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็ไม่รับทั้งนั้น”“ผมยอมรับครับว่าเกี่ยวกับหนูหยิน แต่ผมก็อยากให้ปู่รับฟังข้อเสนอของผมก่อน แล้วค่อยเอาไปคิดตรึกตรองดูอีกทีก็ได้ มันไม่มีอะไรเสียหายสำหรับปู่และหนูหยินเลยนะครับ ถ้าปู่ตกลงก็แค่ไปอยู่กับผม แต่ถ้าปู่ไม่ตกลงผมก็ไม่ว่าอะไร” ชายหนุ่มหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้อีกฝ่าย รอให้ชายชราเปิดซอง หยิบโฉนดออกมาดู “ที่ดินของภรรยาปู่ไงครับ.. ถ้าปู่ยอมรับข้อเสนอของคุณฟิลลิป ที่ดินแปลงนี้จะถูกโอนเป็นของปู่ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”อุดมตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน บุรุษคนนั้นนอกจากออกค่ารักษาให้เขาตั้งหลายแสนแล้ว ตอนนี้เขายังเอาที่ดินโดยชอบธรรมของภรรยามาคืนให้แก่เขาอีก ทั้งหมดที่เขาทำไปนั้น ถ้าเขาไม่หวังผลแล้วเขาจะทำไปทำไม“คุณเอาคืนไปเถอะ” ถึงแม้จะเสียดายเพียงใด แต่เขาก็ต้องตัดใจส่งคืน“คุณปู่ครับ”“ผมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เจ้านายคุณให้เร็วที่สุด ฝากบอกเขาด้วยนะ”ไซม่อนเข้าใจค

  • สวาทหวาน   8

    ปันหยีตกใจกลัวจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวต่ำทรามของญาติสาว ถ้าอีกฝ่ายทำอย่างที่พูดจริง ๆ เธอก็คงไม่มีปัญญาหนีเอาตัวรอดได้แน่ เพราะตอนนี้เท้าเธอเจ็บอยู่“เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่” เธอเขย่าแขนของท่าน ส่งเสียงอ้อนวอนพร้อมกับแววตาหวาดกลัว“มึงอยู่ไหนวะไอ้โย พาพรรคพวกมึงเข้ามาที่บ้านหน่อยสิ”เด็กสาวหวาดกลัวจนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินคำพูดของญาติสาวที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือ กัดฟันทนเจ็บ พยุงปู่ที่งก ๆ เงิ่น ๆ ออกจากบ้านญาติอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เท้าจะอำนวยไซม่อนรีบขยับตัวที่ยืนพิงกับรถไปหาปู่กับหลานสาว ที่พากันเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมท่าทางหวาดกลัว.. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดการโต้เถียงอะไรกันบ้างก่อนหน้าที่จะมาถึง แต่สิ่งที่เขาได้ยินก็เริ่มตั้งแต่ที่หญิงสาวร่างยักษ์ผิวคล้ำ ที่เขาขับรถตามเข้ามาห่าง ๆ ไล่สองคนนี้ออกจากบ้าน พร้อมกับขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และจบลงด้วยการโทรตามสามีของหล่อนให้พาพรรคพวกมาเล่นงาน“คุณอาไซม่อน” เมื่อได้เห็นชายหนุ่ม ร่างกายของเธอก็อ่อนแรงลงไปทันที เธอทรุดลงไปนั่งบนพื้น ไร้เรี่ยวแรงที่จะฝืนให้เข้มแข็งอีกต่อไป น้ำตาไหลรินหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกถึงความปลอดภัยในระดับหนึ

  • สวาทหวาน   7

    บทที่ 7“เล็ก”อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด

  • สวาทหวาน   6

    บทที่ 6“ใช่ครับ ถ้ามีรถเครื่องสักคันก็คงไม่ลำบากแล้วครับ” แต่ถ้าต้องใช้การเดินด้วยเท้ามันก็จัดได้ว่าลำบากมาก เพราะต้องเดินออกจากซอยเล็ก ๆ แห่งนี้ แล้วยังต้องเดินออกไปตามซอยหลักอีกเป็นกิโลกว่าจะถึงถนนหมู่บ้าน“ครับ ผมว่าปู่คิดถูกแล้วครับที่ขาย ที่นี่ไม่เหมาะให้หนูหยินมาอยู่หรอก มันดูเปลี่ยวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง” เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่ถ้าบริษัทที่เจ้านายเป็นหุ้นส่วน สามารถกว้านซื้อได้หมดมันก็คงจะเจริญในอีกไม่ช้า“ผมไม่อยากขายหรอกครับถ้าไม่จำเป็น เพราะอยากเก็บไว้ให้หลานมากกว่า จอดตรงบ้านหลังนี้เลยครับคุณ” อุดมกล่าวอย่างท้อแท้ แล้วบอกให้เขาจอดที่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่ง“เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะครับ” ไซม่อนมองผ่านกระจกรถ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีหมาจึงเปิดประตูลงไปสำรวจด้านนอก “บ้านล็อกนะครับ” เขาบอกกับชายชราที่ลงมาจากรถพร้อมกับหลานสาว“คงอยู่ในสวนกันแหละครับ” อุดมคาดเดาและมองไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ห่างไปประมาณยี่สิบเมตร และเห็นคนในบ้านนั้นออกมาพอดีจึงโบกมือทักทาย“มาหาใครรึ” ฝ่ายนั้นส่งเสียงถามพร้อมกับเดินมาหา “อุดมใช่หรือเปล่านั่น”“ฉันเองพี่นวล” อุดมยกมือไหว้สตรีที่สูงวัยกว่าเล็กน้อย “

  • สวาทหวาน   5

    บทที่ 5“วันมะรืนนี้คุณช่วยพาสองคนนั้นไปหุบกะพงหน่อยนะ แล้วก็ดูมาด้วยว่าที่ดินของพวกเขาอยู่ติดกับย่านที่เรากำลังกว้านซื้อหรือเปล่า ถ้าใกล้ก็จัดการตามเห็นสมควรได้เลย” เมื่อนั่งอยู่ในรถกับคนสนิทเขาก็เริ่มถ่ายทอดคำสั่งออกไป “ผมบอกพวกเขาไปว่าคุณต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี วางฟอร์มให้ดีล่ะ ดูแลพวกเขาให้ดีด้วยเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้เลย” เขาย้ำเพราะสังหรณ์ใจพิกล และลางสังหรณ์ที่เกิดจากความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยพลาด“ครับ” ไซม่อนรับคำ ถึงแม้แปลกใจกับการกระทำของเจ้านาย แต่ก็ปิดปากเงียบสนิทอย่างคนรู้นิสัยใจคอสองวันต่อมาเลกซัสแอลเอ็มสีขาวคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่หน้าห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง คนในรถที่สวมแว่นกันแดดฉาบปรอทสีทองเปิดประตูลงมา แล้วถอดแว่นส่งยิ้มทักทายให้ปู่กับหลานที่มองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมปันหยีเห็นหนุ่มใหญ่วัยน่าจะประมาณรุ่นพ่อถอดแว่นแล้วส่งยิ้มมาให้ก็จำได้ จึงรีบลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ หนูนึกว่ารถของคนอื่นซะอีก ก็เลยไม่ได้เดินออกมา”“ไม่เป็นไรจ้ะ ขึ้นรถเถอะ” ไซม่อนบอกกับเด็กสาว“ค่ะ” เด็กสาวรับคำแล้วเดินกลับไปจูงปู่ขึ้นรถ“คุณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status