อณิกาไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอรู้สึกดีที่โดนสองยามแก่เล่นงานอย่างหนัก ร่างกายเธอเป็นอะไรก็ไม่รู้ ดูเหมือนมันกระหายอยากการเสพสังวาสเสียเหลือเกิน
“อื้อ...” เธอเสร็จสองยามแก่อย่างแน่นอน หากไม่ใช่เพราะเสียงเรียกจากผู้จัดการโรงงานดังโหวกเหวกอยู่ด้านนอก เสียงที่หยุดลิ้นของยามแก่ไว้...!
สองยามตกใจเสียงผู้จัดการ ผละจากร่างเธออย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหัวซุกหัวซุนออกไปเหมือนกลัวความผิด ขณะเธอหลั่งน้ำเสียวออกมาจนร่องรักฉ่ำแฉะ จากการโดนลิ้นสากเล่นงาน
“อูย...อืออืมมม อ่าห์ อ่าห์ อ่าห์ อืออ ซี๊ดส์” เธอรู้สึกซ่านสยิวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แม้ไม่อยากยอมรับว่าเสร็จเสียวเพราะยามแก่น่ารังเกียจคนนั้น “อ่า....”
อณิกาใช้โอกาสนั้น รีบหนีออกจากป้อมยาม ขณะฝนเริ่มซาเม็ด และสองยามหื่นหายไปพร้อมกับผู้จัดการโรงงาน พวกมันคงเสียดายไม่น้อย ที่ทำเหยื่อหลุดมือไปโดยที่ยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมาย...!
“ทำไมหายไปนานจังวะ ..เปียกมาเชียว เหมือนลูกหมาตกน้ำเลย แล้วไหนของอ่ะ?”
หากโฉมสิริรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่น้ำจากฟ้าเท่านั้นที่เปรอะเปื้อนบนร่างกายของเธอ แต่ยังมีน้ำลายของสองยามหื่น และเหงื่อเหงี่ยนจากความร้อนในร่างกายของเธอเองด้วย...สายตาคู่นั้นจะเปลี่ยนไปมั้ย ?
“นี่จ๊ะพี่โฉม” อณิกายื่นถุงใบเล็กของร้านสะดวกซื้อให้รุ่นพี่คนสนิท “ฉันหลบฝนอยู่น่ะพี่...พี่โฉม...”
เธอจะเอ่ยปากบอกเรื่องที่เธอโดนสองยามลวนลามในป้อมยาม แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน โฉมสิริหันไปมองประตูห้องด้วยแววตาลิงโลด ราวกับรอคอยเวลานี้ด้วยใจจดจ่อกระสัน
“แกออกไปหลบอยู่ที่ระเบียงก่อนนะ หอบหมอนผ้าห่มออกไปด้วยเลย นอนเล่นที่เก้าอี้ผ้าใบไปก่อน พี่ขอเวลาสนุกซักสองสามชั่วโมง”
พอเสียงเคาะประตูเกิดซ้ำ เธอก็เลยต้องรีบออกไปหลบอยู่หลังระเบียงตามคำสั่ง ในสภาพร่างกายที่ยังตื่นตระหนก อารมณ์เร่าร้อนแผดเผาไปทั้งตัว เธอไม่แน่ใจเลยว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์ร่านจากภายใน หรือเพราะโดนกระตุ้นจากสองยามกันแน่ ลิ้นสากของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัวกระทั่งวินาทีนี้
และมันเหมือนเธอโดนลงโทษ ที่แอบฟินกับการเกือบโดนข่มขืนในป้อมยาม เมื่อมีผู้ชายสองคนเข้ามาในห้องของโฉมสิริแล้วมีเซ็กส์กันแบบสองต่อหนึ่ง ชายแปลกหน้าสองคนที่โฉมสิริติดต่อผ่านเฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มปิดเดียวกัน นั่นก็คือกลุ่มที่มีรสนิยมแบบเซ็กส์หมู่และสวิงกิ้ง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงแอบมองพวกเขาผ่านหน้าต่างบานเกล็ด ผ้าม่านบางเบาสีเหลืองลายดอกชบาปลิวไหวตามแรงลมจากพัดลมตัวใหญ่ที่วางอยู่บนพื้นเยื้องจากปลายเตียงไปเล็กน้อย
“อือ...” หัวใจเธอสูบฉีดเต้นรัวไปหมด เมื่อพวกเขาทั้งสามเริ่มบรรเลงบทสวาทแบบสองรุมหนึ่งด้วยการเปลื้องเสื้อผ้าออกจนล่อนจ้อน เผยแก่นกายความเป็นชายทั้งสองดุ้นมหึมา ลำเนื้อที่ทำให้คนแอบมองขนลุกเกลียว ส่วนโฉมสิริถอดชุดออกอวดเรือนร่างงดงามอล่างฉ่าง ผิวพรรณขาวเหลืองผุดผ่องทั้งตัว มีเพียงจุดสงวนอวบอูมเท่านั้นที่ดำคล้ำรกเรื้อไปด้วยไรขนดำขลับรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วคว่ำลง
“หืม....อ่า...” กระซิบบอกให้ตัวเองถอยออกมาจากหน้าต่างบานเกล็ดเสีย แต่กายเธอก็ยังเกาะหน้าต่างแน่น ไม่ยอมไหวตัวเสียอย่างนั้น
พอเห็นพวกเขาเริ่มดำเนินการบทสวาทด้วยการใช้ปากลิ้นบำเรอกันและกันมันหยด มันทำให้เธออดคิดถึงตอนที่เธอโดนสองยามกระทำไม่ได้ ลิ้นสากแสนร้อนกลิ่นบุหรี่ยังติดตามเนื้อตัวเธอ น้ำลายแห่งราคะใคร่ยังเปรอะเปื้อนบนทรวงเต้าและเนินโหนกสวาทไม่จางหาย นั่นเพราะเธอแทบไม่มีเวลาจะล้างคราบใคร่ตัณหาด้วยซ้ำ ตอนที่ถูกโฉมสิริดันหลังออกมาอยู่นอกระเบียง
“อู๊วส์....” โฉมสิริอ้าปากดูดเลียลำเอ็นของชายคนแรกอย่างเมามันส์ ก่อนจะเปลี่ยนมาดูดอีกแท่งที่จ่อรออย่างกระสันซ่าน ปากสวยสีแดงสดดูดโมกสองลำร้อนผลัดเปลี่ยนไปมาอย่างสนุกสนาน เสียงครางอือออของโฉมสิริผสมผสานกับเสียงครางกระสันของสองหนุ่มลั่นไปทั้งห้องเลยทีเดียว “อูววว...”
“โอววว ดีมากครับ ดี ซี๊ดส์...”
“ลิ้นเร็วจัง อื้ม....” หลังจากโมกให้สองหนุ่มจนลำคัดแข็งเป่งพอง โฉมสิริก็โดนสองหนุ่มจับลงนอนหงาย แล้วช่วยกันเบิร์นทั้งช่วงบนและช่วงล่างอย่างชำนาญการ ลิ้นสากตวัดเลียถี่ยิบ บรรเลงเพลงกามเข้าใส่กายสวยบิดเร่าไม่หยุดหย่อน
“โอ๊วส์ซี๊ดส์...อูยยย...ผัวขา..เมียเสียว เสียวไปหมดทั้งตัวแล้ว ทำไมผัวเก่งอย่างนี้” โฉมสิริร้องครางกระสัน แอ่นทรวงอกขึ้นป้อนปากชาย เผยอร่องสวาทขึ้นถูไถต่อสู้กับลิ้นสว่านอย่างร่านร้อน “อ๊า...”
เสียงครวญครางของโฉมสิริลั่นไปทั้งห้อง ผสมกับเสียงคำรามอย่างสุขสมของสองชาย ยามช่วยกระกระแทกสองรูเสียวพร้อมกันแบบไม่มีใครยอมแพ้ใคร
“โอะ...” อณิกามองตาค้าง หัวใจเต้นรัวไปหมด เหงื่อแตกพลั่กไปทั้งตัว ท้องไส้ปั่นป่วนครืดคราดราวกับหิวโหยกระหาย ภาพที่โฉมสิริโดนกระแทกซอยจากสองดุ้นเนื้อดุดันทำให้ร่องรักของเธอถึงกับกระตุกขมิบ สั่นระริกราวกับโดนเสียเองไปด้วย
“อูย...อือ...” เธอเผลอร้องครางแผ่วเบาออกมายามร่องสวาทหลั่งน้ำจนฉ่ำแฉะเหนียวเหนอะจนเป้ากางเกงในชุ่มชื้น ไร่ขนเปียกลู่แนบกลีบเนื้อ
“โอ้...อ้า...อื้อ...ซี๊ดดดด” เขาสะบัดเอวเร็วรี่ ขยับสะโพกชนิดถี่ยิบ แรงกระแทกทำให้กายสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอร้องโหยลั่นห้อง ก่อนจะกดเกร็ง กระตุกซ้ำ ๆ แล้วปล่อยปล่อยความสดสาวพรั่งพรู“อูวววววว” เขาครวญครางประสานเสียงสุขสม เสียวเสียดหนั่นแน่น กำหนัดไหล เขาขยับร่างเบียดบดกดคลึง ถลึงถลำเข้าไปมิใคร่หยุด“อ้า...” เธอขยับช่วงล่างรับความเสียวซ่านรสหฤหรรษ์ แอ่นอกอิ่มเอิบไถถูแผงอกกว้างของชายหนุ่ม เขาก้มลงจูบเธออย่างเผ็ดร้อน ก่อนจะแลกลิ้นกันกินอย่างดูดดื่ม “อืม....”“โอวววว...โอ๊ะ! ที่รัก ผม...โอววว” เขาเร่งเร้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเกร็งร่างจนเอ็นผุด เธอรู้สึกร้อนวาบไปทั้งตัว ยามมังกรร้ายพ่นลาวาไฟใส่โพรงถ้ำจนฉ่ำเยิ้ม เธอสวมกอดกายแกร่งไว้แน่นมือ ราวกับกลัวเขาจะหายไป“ฉันมีความสุขเหลือเกิน”“ผมก็เหมือนกัน” เขายังเหนื่อย ลมหายใจเขาอุ่นจัดเลยทีเดียว แต่มันช่วยกระตุ้นอารมณ์เธอได้ไม่น้อย“ฉันจะทำให้คุณมีความสุขมากที่สุด จนคุณลืมฉันไม่ได้เลยล่ะ” หญิงสาวพลิกร่างขึ้นนั่งคร่อมบนกายแกร่ง จับมังกรแทรกใส่ในกลีบกุหลาบสวย เธอกดสะโพกลงจนแนบแน่น แล้วขยับโยกไม่หยุดหย่อน“อืม...ดีจัง...พิมจ๋า”“ห้ามลืมฉันนะ”
“อะ...” พิมาลาอ้าปากหวอ ลืมหายใจไปชั่วขณะ แต่ในหัววิ่งวุ่นไปหมด เธอคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอะไรต่อไปหลังจากวินาทีนี้ “คะ.....คือ...”“ทำไม? รู้จักกันหรือวะ”เพื่อนเขาถามด้วยความแปลกใจ“อือ...รู้จัก” เขาจ้องเธอด้วยสายตาดุเดือด เหมือนว่าจะฆ่าเธอได้อย่างนั้นแหละ หากเธอไม่หันหลังแล้วเปิดประตู วิ่งหนีออกมาซะก่อนปัง!พิมาลากลับเข้าห้องประจำของตัวเอง ด้วยสีหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วยหนัก และหัวใจที่เต้นรัวเหมือนจะระเบิดออกมา“ทำไงดี...เราจะทำยังไงดี...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...ทำไม!!!”ทำไมเธอต้องเจอเขาในที่แห่งนี้...ผู้ชายที่ไม่ควรรู้ว่าเธอคือโรสทำไม????หญิงสาวรีบออกจากเล้าหรู ขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตหลังจากนี้ของเธอจะเป็นอย่างไร ในเมื่อความลับของเธอจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป“ชีวิตฉันต้องพังแน่ ๆ”เธอตัดสินชีวิตของเธอโดยทันที เพราะเธอไม่คิดว่าพลวัตรจะปล่อยผู้หญิงที่ทำให้บิดาของเขาเจ็บป่วยขนาดนี้ไปแน่ ๆ แม้ไม่ใช่ฝีมือของเธอก็ตาม การที่เขาไปที่นั่น ก็เพื่อจะพบกับโรส“ไม่น่าเลย ถ้าเขารู้ว่าเราทำงานอะไรอยู่ เขาต้องไม่ให้อภัยเราแน่” เพราะถ้าเป็นเธอก็คงไม่ให้อภัยเขาเหมือนกัน
เขาเล้าโลมเธอไปทั้งตัว จนเธอทนไม่ไหว ลุกขึ้นทำให้เขาบ้างเป็นครั้งแรก ใช้ลิ้นกับของ ๆเขาอย่างช่ำชอง จนทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย“พิม...อ่า...” จากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมรักกันอีกสองรอบ ก่อนจะพากันเข้าสู่ห้องน้ำ จัดการชำระคราบใคร่ตัณหาจนสะอาดเอี่ยม ชายหนุ่มอยากจัดเธออีกรอบในห้องน้ำ แต่หญิงสาวห้ามไว้...“สายมากแล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะ”“จริงด้วย” เขาใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของตัวเอง ตั้งใจจะแวะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดก่อนไปกองถ่าย“พิมไปส่งคุณที่คอนโดนะคะ”เธอกอดคลอเคลียแฟนหนุ่มออกจากห้อง เขาเองก็กอดสะเอวเธออย่างสนิทสนม ขณะเธอจัดการล็อคห้องอยู่นั่นเอง ประตูห้องข้าง ๆก็เปิดออกมา พลวัตรตกใจมากที่เห็นพิมาลาและเพื่อนสนิทออกจากห้องมาด้วยกันในตอนเช้าแบบนี้วิศวะเองก็ตกใจและอึ้งไปหลายวินาทีทีเดียว นั่นเพราะเขาไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนรักซื้อห้องติดกับแฟนสาวของเขา เพราะเธอเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง“ไอ้วัตร!”พิมาลาหันไปมองพลวัตร “อ้าว กลับมาแล้วเหรอ?”พลวัตรหน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ออก จึงเลือกที่จะเดินนำทั้งคู่ไปยังหน้าลิฟต์ ทั้งสามไม่คุยกันอีกเลย กระทั่งเข้าไปในลิฟต์แล้ว“ไม่ยักรู้ว่า...”“เราคบกันอยู่” วิศวะปก
“คืนนี้ว่างมั้ย ไปซ้อมบทกันหน่อยดีมั้ย”“ไม่ว่างค่ะ”เขาทำหน้าผิดหวัง “หรืออว่าคุณไม่อยากได้บทนั้นแล้ว”“ไม่อยากค่ะ” เธอยิ้มอย่างรู้ทัน “พอเถอะค่ะคุณยุทธ พิมรู้แล้วนะว่ามีคนไปแคสบทนี่ตั้งหลายคน”“แต่ไม่มีใครสู้คุณได้สักคนเลยนะพิม”“พิมควรจะภูมิใจใช่มั้ย”“คุณเจ๋งที่สุดแล้ว” เขาล่ะอยากจะแตะเนื้อต้องตัวเจ้าหล่อนจริง ๆ หากไม่กลัวใครจะเห็นเข้า “คืนนี้เมียผมไปถ่ายละครต่างจังหวัด มะรืนถึงจะกลับ ผมว่า...”“ไม่ดีกว่าค่ะ พิมไม่อยากเล่นหนังเรื่องนั้นแล้ว” เจ้าหล่อนยิ้มอย่างยั่วยวนใส่เขาอย่างจงใจจะให้เขาอารมณ์กระเจิง “พิมคิดว่าบทโสเภณีมันยากไปสำหรับพิมน่ะค่ะ คุณหาคนใหม่ที่เหมาะกว่านี้ดีกว่า”แล้วเจ้าหล่อนก็เดินจากมา อย่างไม่รู้สึกเสียดายโอกาส เธอยังอยากเป็นดาราอยู่นะ แต่ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้งานใช่มั้ย?“พิมจัดการเรื่องซื้อที่กับดาวน์รถกระบะให้แล้วนะ”เธอโทรศัพท์หาบิดา ขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเหล็ก ในรถเก๋งคันงามของตัวเอง“ไม่ต้องห่วงเรื่องผ่อนหรอก ขอเวลาอีกสักเดือน พิมจะโปะให้หมดเลย”“เอ็งเล่นหนังเรื่องเดียว ทำไมถึงได้เงินเยอะแยะขนาดนั้น”“เอาอีกแล้ว ชอบสงสัยไม่เข้าเรื่อง หนูเล่นห
“ไอ้...นาย...” เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นนายพลวัตรที่นี่ ไอ้นักเลงบ้านนอกที่เกะกะระรานคนไปเรื่อยนั่นเหรอ เขามาทำอะไรที่นี่“แก ๆ เห็นปะ? คนที่เดินมากับโปรดิวเซอร์อ่ะ เขาเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ล่ะ เท่นะ ฉันชอบเขาอ่ะ” บุษบงกชเล่าพลางบิดเนื้อบิดตัวด้วยความขวยเขิน แต่ข้อมูลที่ออกมาจากปากของเธอ ทำให้พิมาลาอึ้งไปหลายวินาทีทีเดียว“เขียนบทเหรอ?”“ใช่ เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกับโปรดิวเซอร์ด้วยนะ อ่อ ตอนนี้ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วนะ ว่าคุณวิศวะเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัท เขาก็เลยสามารถเอาใครออกก็ได้ แล้วก็สามารถตัดสินใจได้ทุกเรื่อง เพราะเป็นนายทุนเองไงล่ะ”พิมาลาอึ้งไปอีกรอบ “อ๋อ...เหรอ นึกแล้วเชียว”วิศวะคุยกับพลวัตรอย่างสนุก ก่อนจะตวัดสายตามามองหญิงสาว สายตาอ่อนหวานส่งสัญญาณมาถึงเธอเต็ม ๆ เธอก็อยากจะส่งสายตาหวานคืนไปหรอกนะ หากไม่ติดว่ากำลังโกรธ เรื่องที่เขาปิดบังเธอไว้“เป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทเชียวเหรอ” ส่วนอีกคนก็ “เขียนบทหนัง เออสิ...ทุกคนสามารถเป็นอะไรได้ทั้งนั้น และไม่จำเป็นต้องบอกใครด้วย”เธอก็ไม่ต่างจากสองคนนั้น ที่มีความลับของตัวเอง ไม่อยากให้ใครรู้ เพราะฉะนั้น เธอไม่ควรจะโกรธคนรั
“สิบห้าล้าน”“ห๊า” เธออ้าปากเป็นรูปตัวโอ “คุณไปเอาเงินมาจากไหน”“ถึงผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนม แต่ผมก็ลูกคนมีเงินนะ คุณ เห็นหน้าตาเถื่อน ๆ บ้าน ๆ แบบนี้ ไฮโซนะจะบอกให้”“จริงอ่ะ”“ผมจะโกหกคุณทำไม” เขาเข้ายืนซ้อนหลังเธอแล้วสวมกอดเธอไว้แน่น จนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก “ถึงผมจะไม่ค่อยถูกกับป๊าผมเท่าไหร่ ไม่ใช่ลูกรัก อาจไม่ได้มรดก แต่ผมก็ทำงานเก่งนะ มีปัญญาเลี้ยงเมียเลี้ยงลูกละกัน”“หืม...นี่เราเพิ่งตกลงจะคบกันเอง เอาเงินมาล่อซะแล้ว”“ก็อยากให้แน่ใจไงว่าไม่ลำบากแน่นอน”เธอยิ้มอย่างมีความสุข “ปล่อยได้แล้ว”“ไม่เอา”“ฉันจะกลับแล้ว”“จะรีบไปไหนเล่า”“ถ้าไม่รีบกลับ มีหวัง ฉันเสร็จคุณแน่” เจ้าหล่อนแกะมือชายหนุ่มที่รัดหน้าท้องแบนราบของเธอออก แล้วหันมาเผชิญหน้า ด้วยสายตาอ่อนโยน “ฉันอยากคบกับคุณไปนาน ๆ ไม่อยากคบเล่น ๆ เข้าใจมั้ย?”“เข้าใจน่า” เขาลูบศีรษะเธออย่างทะนุถนอม “พรุ่งนี้คุณกลับไปทำงานนะ”“ห๊า...ว่าไงนะ”“กลับไปทำงานไง เราจะได้เจอกันที่กองถ่ายทุกวันเหมือนเดิม กลับไปคราวนี้ห้ามทำนมหกยั่วผู้ชายอีกนะ”หญิงสาวหัวเราะสดใส สวมกอดชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก ด้วยความรู้สึกอิ่มเอม