“อื้อ...” เสียงอู้อี้ลั่นเต็มลำคอ เสียงของการต่อต้านรสจูบรุนแรงที่กระแทกบดขยี้อย่างเมามันส์เหมือนจะเอาให้ปากเธอฉีก
อย่านะ...อย่า...อูย...เธอได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ น้ำตาไหลออกมาเพราะความกลัว...กลัว...กลัวไปหมด กลัวจนสติแทบหลุด...จินตนาการไปถึงขั้นโดนฆ่าตาย หลังจากพวกมันเสร็จสมอารมณ์หมาย...โอยจะทำไงดี เธอยังไม่อยากตาย แต่เธอก็ไม่อยากโดนย่ำยีแบบนี้
“อื้อ...” ยามเฉลิมบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง พยายามจะส่งลิ้นหนาเข้ามาในกลีบปากของเธอ แต่เธอเม้มปากแน่นป้องกันไว้
“อะ...อ๊า...” หากไม่ใช่เพราะโดนฝ่ามือหนากร้านล้วงเข้าไปในจุดสงวนแล้วบีบเนื้อนุ่ม เธอคงไม่เผลออ้าปากรับลิ้นอุ่นของยามเฉลิมเข้ามา.. “อื้อ...อือ...”
มันเป็นครั้งแรกที่เธอโดนผู้ชายล่วงล้ำร่างกาย และมันเป็นครั้งแรกที่เธอจูบ...จูบแลกลิ้นพร้อมกับส่งเสียงครางอู้อี้ต่อต้านในลำคอ
“หวานจริงวุ๊ย” เมื่อจูบจนพอใจ ยามเฉลิมผละปากมันแผล่บออกแล้วก้มเข้าหาทรวงอก จูบหอมไซ้ซุกอย่างกระหายเหมือนคนคลั่ง
“อะ...อ๊า...อย่านะ...ช่วยด้วย” เธอพยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนเสียงฟ้าร้องกับฝนตกจะดังแรงจนกลบมิดเสียงของเธอ
“อืมมมม อืออออ...” เสียงครางคำรามของยามสมคิดและยามเฉลิมดังกว่าเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอเสียอีก เสียงหื่นกระหายของชายแก่สองคนที่กำลังจ่มจมดื่มด่ำกับเรือนร่างของเธออย่างล้นสุข
“ฮือ...อูยยย...พอเถอะ” ความเร่าร้อนในกายเริ่มแผดเผาในทุกซอกมุมของอณูเนื้อ กำหนัดใคร่ที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตวิญญาณกำลังเรียกร้องการถูกปลดปล่อยจากทุกกฏเกณฑ์ในโลกใบนี้...ใช่แล้ว เธอเสียวซ่านไปทั้งตัว ยามโดนเล้าโลมลูบไล้จากสองยามแก่ ใจหนึ่งอยากผลักไสต่อต้าน แต่อีกใจกลับโหยหาเว้าวอน เธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่รู้สึกดีเมื่อถูกสองยามหื่นรุมทึ้งแบบนี้
“อ่า...” เสื้อยืดถูกถลกขึ้นไปกองอยู่เหนือเนินอกอวบ บราเซียลูกไม้สีเนื้อลากตามขึ้นไป ปลดปล่อยสองเต้าโตหัวนมสีสวยออกมาอย่างอล่างฉ่าง
“โอ้โหววว ทั้งใหญ่ทั้งสวยเลยสาวน้อย” ยามเฉลิมน้ำลายแทบไหล ก้มลงดูดเลียดังจ๊วบ
“อื้อ อย่า อย่านะ...อือ...” ไม่เพียงแค่นั้น กางเกงยีนขาสั้นก็โดนลากลงไปคาพักอยู่ที่ข้อเท้า กางเกงในสีขาวถูกดึงลงคาหัวเข่า เผยโหนกอูมอิ่มขนาดใหญ่ซึ่งรกเรื้อด้วยไรขนดำขลับที่ทำให้สองยามถึงกับตื่นตะลึง
“แม่เจ้าประคู๊ณ ดูตัวเล็กแบบนี้ แต่ซ่อนของดีเอาไว้เต็มๆ น่ากินเหลือเกินสาวน้อย”
ลิ้นร้อนของยามสมคิดหิวกระหายจนทนไม่ไหว หย่อนลงชำแรกร่องสาวสดแดงเรื่อแล้วลากขึ้นลากลงสองสามครั้ง ก่อนจะรวบดูดเม็ดกระสันเสียวแล้วสูบดุนอย่างเมามันส์ ลิ้นปากกลิ่นบุหรี่ที่ทำให้กายสวยอ่อนระทวยไปทั้งตัว
“โอ้...อ้า...อื้อ...ซี๊ดดดด” เขาสะบัดเอวเร็วรี่ ขยับสะโพกชนิดถี่ยิบ แรงกระแทกทำให้กายสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอร้องโหยลั่นห้อง ก่อนจะกดเกร็ง กระตุกซ้ำ ๆ แล้วปล่อยปล่อยความสดสาวพรั่งพรู“อูวววววว” เขาครวญครางประสานเสียงสุขสม เสียวเสียดหนั่นแน่น กำหนัดไหล เขาขยับร่างเบียดบดกดคลึง ถลึงถลำเข้าไปมิใคร่หยุด“อ้า...” เธอขยับช่วงล่างรับความเสียวซ่านรสหฤหรรษ์ แอ่นอกอิ่มเอิบไถถูแผงอกกว้างของชายหนุ่ม เขาก้มลงจูบเธออย่างเผ็ดร้อน ก่อนจะแลกลิ้นกันกินอย่างดูดดื่ม “อืม....”“โอวววว...โอ๊ะ! ที่รัก ผม...โอววว” เขาเร่งเร้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเกร็งร่างจนเอ็นผุด เธอรู้สึกร้อนวาบไปทั้งตัว ยามมังกรร้ายพ่นลาวาไฟใส่โพรงถ้ำจนฉ่ำเยิ้ม เธอสวมกอดกายแกร่งไว้แน่นมือ ราวกับกลัวเขาจะหายไป“ฉันมีความสุขเหลือเกิน”“ผมก็เหมือนกัน” เขายังเหนื่อย ลมหายใจเขาอุ่นจัดเลยทีเดียว แต่มันช่วยกระตุ้นอารมณ์เธอได้ไม่น้อย“ฉันจะทำให้คุณมีความสุขมากที่สุด จนคุณลืมฉันไม่ได้เลยล่ะ” หญิงสาวพลิกร่างขึ้นนั่งคร่อมบนกายแกร่ง จับมังกรแทรกใส่ในกลีบกุหลาบสวย เธอกดสะโพกลงจนแนบแน่น แล้วขยับโยกไม่หยุดหย่อน“อืม...ดีจัง...พิมจ๋า”“ห้ามลืมฉันนะ”
“อะ...” พิมาลาอ้าปากหวอ ลืมหายใจไปชั่วขณะ แต่ในหัววิ่งวุ่นไปหมด เธอคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอะไรต่อไปหลังจากวินาทีนี้ “คะ.....คือ...”“ทำไม? รู้จักกันหรือวะ”เพื่อนเขาถามด้วยความแปลกใจ“อือ...รู้จัก” เขาจ้องเธอด้วยสายตาดุเดือด เหมือนว่าจะฆ่าเธอได้อย่างนั้นแหละ หากเธอไม่หันหลังแล้วเปิดประตู วิ่งหนีออกมาซะก่อนปัง!พิมาลากลับเข้าห้องประจำของตัวเอง ด้วยสีหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วยหนัก และหัวใจที่เต้นรัวเหมือนจะระเบิดออกมา“ทำไงดี...เราจะทำยังไงดี...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...ทำไม!!!”ทำไมเธอต้องเจอเขาในที่แห่งนี้...ผู้ชายที่ไม่ควรรู้ว่าเธอคือโรสทำไม????หญิงสาวรีบออกจากเล้าหรู ขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตหลังจากนี้ของเธอจะเป็นอย่างไร ในเมื่อความลับของเธอจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป“ชีวิตฉันต้องพังแน่ ๆ”เธอตัดสินชีวิตของเธอโดยทันที เพราะเธอไม่คิดว่าพลวัตรจะปล่อยผู้หญิงที่ทำให้บิดาของเขาเจ็บป่วยขนาดนี้ไปแน่ ๆ แม้ไม่ใช่ฝีมือของเธอก็ตาม การที่เขาไปที่นั่น ก็เพื่อจะพบกับโรส“ไม่น่าเลย ถ้าเขารู้ว่าเราทำงานอะไรอยู่ เขาต้องไม่ให้อภัยเราแน่” เพราะถ้าเป็นเธอก็คงไม่ให้อภัยเขาเหมือนกัน
เขาเล้าโลมเธอไปทั้งตัว จนเธอทนไม่ไหว ลุกขึ้นทำให้เขาบ้างเป็นครั้งแรก ใช้ลิ้นกับของ ๆเขาอย่างช่ำชอง จนทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย“พิม...อ่า...” จากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมรักกันอีกสองรอบ ก่อนจะพากันเข้าสู่ห้องน้ำ จัดการชำระคราบใคร่ตัณหาจนสะอาดเอี่ยม ชายหนุ่มอยากจัดเธออีกรอบในห้องน้ำ แต่หญิงสาวห้ามไว้...“สายมากแล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะ”“จริงด้วย” เขาใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของตัวเอง ตั้งใจจะแวะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดก่อนไปกองถ่าย“พิมไปส่งคุณที่คอนโดนะคะ”เธอกอดคลอเคลียแฟนหนุ่มออกจากห้อง เขาเองก็กอดสะเอวเธออย่างสนิทสนม ขณะเธอจัดการล็อคห้องอยู่นั่นเอง ประตูห้องข้าง ๆก็เปิดออกมา พลวัตรตกใจมากที่เห็นพิมาลาและเพื่อนสนิทออกจากห้องมาด้วยกันในตอนเช้าแบบนี้วิศวะเองก็ตกใจและอึ้งไปหลายวินาทีทีเดียว นั่นเพราะเขาไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนรักซื้อห้องติดกับแฟนสาวของเขา เพราะเธอเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง“ไอ้วัตร!”พิมาลาหันไปมองพลวัตร “อ้าว กลับมาแล้วเหรอ?”พลวัตรหน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ออก จึงเลือกที่จะเดินนำทั้งคู่ไปยังหน้าลิฟต์ ทั้งสามไม่คุยกันอีกเลย กระทั่งเข้าไปในลิฟต์แล้ว“ไม่ยักรู้ว่า...”“เราคบกันอยู่” วิศวะปก
“คืนนี้ว่างมั้ย ไปซ้อมบทกันหน่อยดีมั้ย”“ไม่ว่างค่ะ”เขาทำหน้าผิดหวัง “หรืออว่าคุณไม่อยากได้บทนั้นแล้ว”“ไม่อยากค่ะ” เธอยิ้มอย่างรู้ทัน “พอเถอะค่ะคุณยุทธ พิมรู้แล้วนะว่ามีคนไปแคสบทนี่ตั้งหลายคน”“แต่ไม่มีใครสู้คุณได้สักคนเลยนะพิม”“พิมควรจะภูมิใจใช่มั้ย”“คุณเจ๋งที่สุดแล้ว” เขาล่ะอยากจะแตะเนื้อต้องตัวเจ้าหล่อนจริง ๆ หากไม่กลัวใครจะเห็นเข้า “คืนนี้เมียผมไปถ่ายละครต่างจังหวัด มะรืนถึงจะกลับ ผมว่า...”“ไม่ดีกว่าค่ะ พิมไม่อยากเล่นหนังเรื่องนั้นแล้ว” เจ้าหล่อนยิ้มอย่างยั่วยวนใส่เขาอย่างจงใจจะให้เขาอารมณ์กระเจิง “พิมคิดว่าบทโสเภณีมันยากไปสำหรับพิมน่ะค่ะ คุณหาคนใหม่ที่เหมาะกว่านี้ดีกว่า”แล้วเจ้าหล่อนก็เดินจากมา อย่างไม่รู้สึกเสียดายโอกาส เธอยังอยากเป็นดาราอยู่นะ แต่ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้งานใช่มั้ย?“พิมจัดการเรื่องซื้อที่กับดาวน์รถกระบะให้แล้วนะ”เธอโทรศัพท์หาบิดา ขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเหล็ก ในรถเก๋งคันงามของตัวเอง“ไม่ต้องห่วงเรื่องผ่อนหรอก ขอเวลาอีกสักเดือน พิมจะโปะให้หมดเลย”“เอ็งเล่นหนังเรื่องเดียว ทำไมถึงได้เงินเยอะแยะขนาดนั้น”“เอาอีกแล้ว ชอบสงสัยไม่เข้าเรื่อง หนูเล่นห
“ไอ้...นาย...” เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นนายพลวัตรที่นี่ ไอ้นักเลงบ้านนอกที่เกะกะระรานคนไปเรื่อยนั่นเหรอ เขามาทำอะไรที่นี่“แก ๆ เห็นปะ? คนที่เดินมากับโปรดิวเซอร์อ่ะ เขาเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ล่ะ เท่นะ ฉันชอบเขาอ่ะ” บุษบงกชเล่าพลางบิดเนื้อบิดตัวด้วยความขวยเขิน แต่ข้อมูลที่ออกมาจากปากของเธอ ทำให้พิมาลาอึ้งไปหลายวินาทีทีเดียว“เขียนบทเหรอ?”“ใช่ เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกับโปรดิวเซอร์ด้วยนะ อ่อ ตอนนี้ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วนะ ว่าคุณวิศวะเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัท เขาก็เลยสามารถเอาใครออกก็ได้ แล้วก็สามารถตัดสินใจได้ทุกเรื่อง เพราะเป็นนายทุนเองไงล่ะ”พิมาลาอึ้งไปอีกรอบ “อ๋อ...เหรอ นึกแล้วเชียว”วิศวะคุยกับพลวัตรอย่างสนุก ก่อนจะตวัดสายตามามองหญิงสาว สายตาอ่อนหวานส่งสัญญาณมาถึงเธอเต็ม ๆ เธอก็อยากจะส่งสายตาหวานคืนไปหรอกนะ หากไม่ติดว่ากำลังโกรธ เรื่องที่เขาปิดบังเธอไว้“เป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทเชียวเหรอ” ส่วนอีกคนก็ “เขียนบทหนัง เออสิ...ทุกคนสามารถเป็นอะไรได้ทั้งนั้น และไม่จำเป็นต้องบอกใครด้วย”เธอก็ไม่ต่างจากสองคนนั้น ที่มีความลับของตัวเอง ไม่อยากให้ใครรู้ เพราะฉะนั้น เธอไม่ควรจะโกรธคนรั
“สิบห้าล้าน”“ห๊า” เธออ้าปากเป็นรูปตัวโอ “คุณไปเอาเงินมาจากไหน”“ถึงผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนม แต่ผมก็ลูกคนมีเงินนะ คุณ เห็นหน้าตาเถื่อน ๆ บ้าน ๆ แบบนี้ ไฮโซนะจะบอกให้”“จริงอ่ะ”“ผมจะโกหกคุณทำไม” เขาเข้ายืนซ้อนหลังเธอแล้วสวมกอดเธอไว้แน่น จนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก “ถึงผมจะไม่ค่อยถูกกับป๊าผมเท่าไหร่ ไม่ใช่ลูกรัก อาจไม่ได้มรดก แต่ผมก็ทำงานเก่งนะ มีปัญญาเลี้ยงเมียเลี้ยงลูกละกัน”“หืม...นี่เราเพิ่งตกลงจะคบกันเอง เอาเงินมาล่อซะแล้ว”“ก็อยากให้แน่ใจไงว่าไม่ลำบากแน่นอน”เธอยิ้มอย่างมีความสุข “ปล่อยได้แล้ว”“ไม่เอา”“ฉันจะกลับแล้ว”“จะรีบไปไหนเล่า”“ถ้าไม่รีบกลับ มีหวัง ฉันเสร็จคุณแน่” เจ้าหล่อนแกะมือชายหนุ่มที่รัดหน้าท้องแบนราบของเธอออก แล้วหันมาเผชิญหน้า ด้วยสายตาอ่อนโยน “ฉันอยากคบกับคุณไปนาน ๆ ไม่อยากคบเล่น ๆ เข้าใจมั้ย?”“เข้าใจน่า” เขาลูบศีรษะเธออย่างทะนุถนอม “พรุ่งนี้คุณกลับไปทำงานนะ”“ห๊า...ว่าไงนะ”“กลับไปทำงานไง เราจะได้เจอกันที่กองถ่ายทุกวันเหมือนเดิม กลับไปคราวนี้ห้ามทำนมหกยั่วผู้ชายอีกนะ”หญิงสาวหัวเราะสดใส สวมกอดชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก ด้วยความรู้สึกอิ่มเอม