LOGIN"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา
"พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม
"ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย
"แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง
"เรื่องโครงการนั่น มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่พ่อต้องการให้ลูกรับปากตกลงแต่งงานกับบุษบาเท่านั้น พ่อไม่ได้คิดที่จะทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" ฮันน่ายอมพูดความจริงกับลูกชาย เมื่อเธอทนไม่ไหวที่เห็นตุลาเป็นทุกข์ใจแบบนี้
"จริงเหรอครับแม่" ตุลาฉีกยิ้มกว้างจนเห็นไรฟัน เมื่อเขารู้สึกดีใจแทนทุกคน โดยเฉพาะองุ่น
"ลูกตื่นเต้นดีใจ ที่จะได้แต่งงานกับบุษบาขนาดนี้เลยเหรอตุลา" ฮันน่าแกล้งพูดแหย่ลูกชายออกไป เมื่อเห็นตุลาดีใจจนออกนอกหน้าแบบนั้น
"ใครบอก ผมดีใจแทนทุกคนต่างหาก ผมไม่มีทางแต่งงานกับบุษบา ทำไมพ่อต้องบังคับผมด้วยครับแม่"
"ก็เพราะว่าพ่อคิดว่าเรากับซันนี่กำลังคบกันอยู่ไง"
"ฮ่ะ... แบบไหนครับแม่" ตุลาถึงกับอุทานออกมาเลยทีเดียว เมื่อได้ยินประโยคที่มารดาเล่าออกมา
"พ่อคิดว่าตุลากับซันนี่เป็นแฟนกันน่ะสิ"
"แม่คร้าบ... จะบ้าหรือเปล่าพ่อไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน" น้ำเสียงของตุลาฟังดูอ้อนขึ้นมาทันที เพราะเขาไม่ได้มีสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน
"จะใครละก็บุษบากับนายชยานะสิ ถูกสองพ่อปั่นหัวยังไม่รู้ตัวอีก" ฮันน่าพูดออกมาอย่างเอือม ๆ เมื่อเห็นสามีเชื่อสองพ่อลูกนั่นได้อย่างสนิทใจ
"ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วครับ เธอก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย อย่างที่พ่อเข้าใจ" ตุลาตัดสินใจพูดความจริง ให้กับมารดารับฟัง เพราะเขาไม่อยากปิดบัง เมื่อชายหนุ่มมีความจริงใจอยากจะคบองุ่นอย่างเปิดเผย แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ตัวก็ตามที แต่เขาก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้เธอยอมรับในตัวเขาให้ได้
"เธอเป็นใคร แม่รู้จักหรือเปล่า ใช่ผู้หญิงที่ถ่ายภาพคู่กับกันยาไหม..."
"ธันวาบอกแม่เหรอครับ"
"เปล่า ตอนที่ลูกไปเรียนต่อโท แม่เข้าไปทำความสะอาดห้องให้เป็นประจำ ก็เลยเจอกับภาพถ่ายนั้น เธอดูน่ารักดีเหมือนกันนะ" ฮันน่าเองก็ชอบผู้หญิงหวานดูเรียบร้อย ไม่ใช่แต่งตัวเปรี้ยวจนเข็ดฟันเหมือนกับบุษบา
"แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ที่ใครหลายคนอาจจะมองว่าไม่คู่ควรกับผม แต่ผมเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกใบนี้ ที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงและพองโตได้เท่าเธออีกแล้วครับแม่" ทุกถ้อยคำที่ตุลาพูดออกมานั้นดูจริงจังมากแววตาของเขาเป็นประกายเวลาที่พูดถึงองุ่น พลอยทำให้มารดารู้สึกมีความสุขไปด้วย ที่เห็นลูกชายตกหลุมรักใครสักคน ที่ไม่ใช่บุษบาแค่นี้ฮันน่าก็รู้สึกโล่งใจ
"แม่ก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา ถ้าพ่อคิดจะกีดกันความรักของลูก เราจะหนีไปอยู่เชียงใหม่กับกันยา ดูซิว่าจะกล้าแผลงฤทธิ์อีกหรือเปล่า" คำพูดของมารดาทำให้ตุลาฉีกยิ้มกว้าง อย่างน้อยเขาก็มีคนเคียงข้าง และไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับคู่ให้แต่งงานกับบุษบา เพราะดูเหมือนว่ามารดาของเขาเองก็จะไม่ยอม
"ผมรักแม่จัง รักแม่ที่สุดในโลกเลยครับ จุ๊บ!" ตุลาโผเข้าไปซบหน้ากับอกนุ่มของมารดา พร้อมกับกอดฮันน่าเอาไว้ แล้วจุ๊บลงไปที่แก้มของมารดาหนึ่งที ชายหนุ่มรู้สึกว่าโลกใบนี้ได้กลายเป็นสีชมพูขึ้นมาในทันที พรุ่งนี้เขาพร้อมแล้วพร้อมที่จะรุก โดยที่องุ่นไม่ทันได้ตั้งรับ เขาจะเซอร์ไพรส์ให้เธอได้รู้ว่าการที่ไปไม่ลา โทษที่ได้รับคืออะไร ส่วนเงินที่เขาให้เธอไป ดอกเบี้ยที่เขาต้องการนั่นคือกำไรชีวิต ซึ่งกำไรที่เขาเคยบอกไว้กับบิดา มันคือการได้แต่งงานกับคนที่เขารักหมดหัวใจ
เช้าของวันใหม่รถสปอร์ตคันหรูแล่นออกมาจากบ้าน ตั้งแต่เช้าตรู่จุดมุ่งหมายปลายทางของเขาคือโรงงานเฟอร์นิเจอร์ และที่สำคัญเขาตั้งใจที่จะไปจอดแอบดูองุ่นด้วย
เมื่อรถของตุลาแล่นมาจอดเทียบอยู่ข้างฟุตบาท ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารตามสั่งขององุ่น ชายหนุ่มแอบซุ่มดูเธออยู่เงียบ ๆ ทุกอิริยาบถของหญิงสาวอยู่ภายใต้สายตาคมเขาตลอดเวลา จนทำให้เธอรู้สึกผิดสังเกต
"รถใคร เมื่อวานก็เห็นมาจอดตรงนี้วันนี้ก็มาจอดอีกแล้ว หรือว่าเขาจะมีบ้านอยู่แถวนี้" นางมะปรางพูดขึ้นเบา ๆ
"แต่องุ่นว่าเขาน่าจะมาติดต่อเจรจาซื้อขายกับโรงงานนี้มากกว่า เพราะคนแถวนี้ไม่น่าจะซื้อรถคันละตั้งหลายสิบล้านได้นะจ๊ะแม่ แต่ก็ไม่แน่เพราะคนเรามองแค่เปลือกนอกไม่ได้ เขาอาจจะมีเงินซื้อก็ได้" องุ่นพูดวกไปวนมาจนผู้เป็นมารดา รู้สึกงงงวยในคำพูดของลูกสาว
"องุ่นพูดวนไปวนมาอยู่นั่นแหละ รถใครก็ช่างเถอะรีบทำเดี๋ยวก็ได้เวลาเปิดร้านแล้ว ทำไมวันนี้ผักกาดกับผักบุ้งมาช้าจัง"
"แม่นี่มันเพิ่งจะหกโมงกว่าเองนะจ๊ะ เราเปิดร้านแปดโมง แม่จะรีบไปไหน" สองแม่ลูกเตรียมของพร้อมกับคุยกันไปด้วย พลอยทำให้ตุลาเผลอยิ้มออกมาให้กับความน่ารักขององุ่น ที่เธอดูจริงจังเวลาที่หญิงสาวกำลังตั้งใจทำในสิ่งที่เธอรัก เพราะองุ่นเคยเล่าให้เขาฟังในคืนนั้นเธออยากเรียนทำอาหารมากกว่าเกษตร
ตุลาจะรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขา กำลังทำให้ใบหน้าขององุ่นร้อนผ่าว จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอนั้นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลให้หัวใจของเธอละลาย โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร "ฉันไม่สนใจหรอกนะเรื่องสถานะของคุณ คุณจะโสดจะมีเมียมีลูกกี่คนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณตุลา" "คุณตกลงเป็นแฟนผมก่อนสิ ไม่อย่างนั้นเราก็ผมจะนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งคืนเลย" "เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่มันคือการมัดมือชกชัด ๆ คุณจะใช้วิธีเผด็จการแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะตรงนี้มันคือหัวใจไม่ใช่ธุรกิจของคุณ" องุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน พร้อมกับชี้ลงไปที่อกข้างซ้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเมื่อดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน ความนัยที่มีก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาทันที ต่างคนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะพบกัน "แค่การตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผม ทำให้คุณต้องฝืนใจขนาดนั้นเลยเหร
พอหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำให้องุ่นรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องของชายหนุ่มที่ดูวินเทจ แต่ก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ดูอบอุ่นผ่อนคลายมีกลิ่นอายของความคลาสสิค จึงทำให้ห้องของเขาน่าอยู่มากขึ้น "มีใครอยู่ไหมคะ ฉันเอาข้าวมาส่งค่ะ วางไว้ตรงนี้นะ ฉันกลับแล้วนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใคร "ไม่อยู่ยังจะนัดให้เอาข้าวมาส่งอีก แกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" องุ่นพูดพึมพำออกมาพร้อมกับทำหน้างอน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดน้อยใจด้วยซ้ำไป เขาจะอยู่ห้องหรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือการมาส่งข้าวให้เขาแล้วก็กลับทำไมต้องคิดหนักอยากเจอเขาด้วย หมับ!! "ว้าย!" องุ่นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าหา ในขณะที่ใบหน้าของ
องุ่นอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อประโยคสุดท้ายที่เขาระบุเอาไว้นั้น กำลังทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวไม่รู้ว่าตุลากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเธออยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ข้อความเหล่านั้นกำลังทำให้หัวใจของเธอพองโต แม้จะยังไม่แน่ใจในความหมายของมัน แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงกับดอกเบี้ยที่ตุลาควรได้รับ"พี่องุ่น พี่ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ ป้าปรางให้มาเรียกมีออเดอร์เพียบเลยจ้ะ" เสียงของผักบุ้งดังขึ้นทำให้องุ่นรีบเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที "พี่แค่มาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า" วันนี้ทั้งวันจิตใจขององุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ทำออเดอร์ผิด ลูกค้าสั่งผัดกะเพราแต่ได้ผัดผักแทนก็มี ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกค้าสั่งแกงจืดแต่ได้ต้มยำมาแทน "องุ่นตั้งแต่กลับมาจากส่งข้าวที่โรงงาน หนูเป็นอะไรทำไมใจลอยจัง" มารดาเดินเข้ามาหาลูกสาว หลังจากเวลาผ่านไป ซึ่งตอนนี้ร้านปิดร
"ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับคุณหรอกนะ มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกัน" "เดี๋ยว!" เมื่อองุ่นไม่ฟังคำสั่งของตุลา จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบังคับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเผลอตะคอกมาเสียงดัง จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง "อะไรอีก... เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองนะคุณ ไม่อยากได้เงินคืนหรือไง จะรีบไปหาเงินมาใช้หนี้ มีอะไรก็รีบพูดมา" ในที่สุดองุ่นก็ยอมหันกลับมาพูดกับเขา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่เธอใช้คำว่าลูกหนี้ เนื่องจากเธออยากออกไปให้พ้นจากห้องนี้ เพราะว่าหญิงสาวยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต "ก็แล้วทำไม คุณหายใจเข้าหายใจออกต้องมีแต่เงินด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ถามหนี้คุณเลยนะ" "คุณไม่ถามแต่ฉันร้อนตัว ในเมื่อฉันเป็นหนี้คุณจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก๊กไว้นี่ จริงไหม" "แล้วถ้าดอกเบี้ย ผมขอคิดเป็นอย่างอื่นคุณจะว่ายังไง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉาย
ตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้ พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน "ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ" "อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา "พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม "ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย "แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง "เรื่อง







