LOGINตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้
พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน
"ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ"
"อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป
ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
ทางด้านองุ่น เมื่อหญิงสาวรับออเดอร์เสร็จ เธอรู้สึกแปลกใจ ที่คุณเลขาสาวแสนสวยกำชับให้เธอเป็นคนเอาอาหารไปส่งท่านรองประธานหนุ่มเอง แถมยังบอกรายละเอียดห้องและชั้นที่เขาทำงานด้วย
"อ้าว! องุ่นได้กล่องอะไรเหรอ" เมื่อองุ่นเดินเข้ามาภายในโรงงาน ลูกค้าประจำของเธอได้ทักขึ้น
"อ๋อ...ได้ผัดกะเพราและก็ผัดผักรวมกำลัง กำลังจะไปส่งลูกค้าจ๊ะ" องุ่นตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ที่สำคัญดูเหมือนว่าเวลานี้ พนักงานในโรงงาน คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ
"บริการดีจัง อาหารก็อร่อย แถมราคาก็ถูกกว่าเจ้าของร้านคนเดิมซะอีก ไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวมื้อเที่ยงจะแวะไปกินที่ร้าน"
"ขอบใจมากจ้า ที่แวะไปอุดหนุนองุ่นประจำ ขอให้ทุกคนสนุกกับการทำงานนะจ๊ะ" หลังจากที่กล่าวทักทายพูดคุยกับพนักงานในโรงงานเสร็จ เธอก็รีบเข้าไปในลิฟต์ แล้วกดไปยังชั้นที่เลขาสาวบอกเอาไว้
"คุณเลขาได้แล้วค่ะ นึกว่าจะมาไม่ถูกซะแล้ว โรงงานนี้กว้างใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับแอบมองไปรอบ ๆ แต่ทว่าสายตาของทุกคนกลับจับจ้องมาที่เธอด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าทุกคนชื่นชมที่เธอเป็นแม่ค้าแสนสวยหรือเพราะว่าเธอใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วดูแปลกตา ที่เดินเข้ามาในออฟฟิศ ซึ่งมีแต่คนแต่งตัวสวย ๆ ทั้งนั้น
"เชิญเลยค่ะ เข้าไปเลยจะได้เข้าไปเก็บตังค์ด้วยยังไงล่ะ ฉันเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว แค่จัดข้าว และอาหารใส่จานก็พอ เข้าไปเถอะเจ้านายฉันไม่ดุหรอก" เลขาสาวพูดพร้อมกับเคาะประตูแล้วค่อย ๆ เปิดให้องุ่นเดินเข้าไป ก่อนที่เธอจะรีบปิดไว้ ตามคำสั่งของเจ้านายด้วยความแปลกใจไม่หาย เมื่อเสียงคนเคาะประตูดังขึ้นชายหนุ่มจึงรีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับรีบหมุนตัวหันไปมองวิวทิวทัศน์แทน แต่ภายในใจของเขานั้นกลับเต้นแรง จนแทบกระเด็นออกมานอกอกข้างซ้ายเลยทีเดียว
"จัดอาหารใส่จานเลยนะคะ อ้าว! ทำไมไม่บอกว่ามีสองที่ ฉันเอาข้าวสวยมาแค่ห่อเดียวเอง จะพอไหมเนี่ย" องุ่นนำอาหารใส่จานพร้อมกับบ่นไป พลอยทำให้ตุลาแอบยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
"ทั้งหมดเท่าไหร่" เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นมา ทำให้องุ่นรู้สึกคุ้นหู แต่เธอก็ยังคงไม่รู้ว่านั่นเป็นเสียงของใคร
"ถ้าเป็นข้าวราดแกงธรรมดายี่สิบห้าพิเศษสามสิบ แต่นี้คุณสั่งแยก กับข้าวสองอย่างแปดสิบบาท ส่วนข้าวสวยนั่นฉันคิดกับคุณแค่สิบบาทก็พอ ทั้งหมดเก้าสิบบาทค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อเธอจัดอาหารวางไว้ที่โต๊ะให้กับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
"นั่งลงทานข้าวด้วยกันก่อนสิ" เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปสบตากับชายหนุ่ม องุ่นถึงกับตกอยู่ในภวังค์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหมือนโลกใบนี้กำลังหยุดหมุน เมื่อหญิงสาวไม่คาดคิดมาก่อน เธอไม่เคยคิดเลยต่างหากว่าจะเจอกับตุลาที่นี่ วันนี้ เดี๋ยวนี้ด้วย
"ค่ะ คุณตุลา" หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนจากตกใจกลายเป็นความกังวลเข้ามาแทนที่ เมื่อเขาคือเจ้าหนี้ที่เธอยังไม่มีปัญญาจะชดใช้ให้
"ขอบคุณนะครับ ที่ยังจำชื่อของผมได้ คุณจะไม่ให้เกียรติ รับคำเชิญทานข้าวมื้อเช้ากับผมหน่อยเหรอ...องุ่น" น้ำเสียงของชายหนุ่ม ช่างมีผลต่อจิตใจขององุ่น เนื่องจากเธอกำลังสัมผัสได้ถึงความเย็นชาจากเขา แต่ความเป็นจริงแล้วหญิงสาวจะรู้หรือไม่ นั่นมันแค่การแสดงที่ตุลากำลังใช้ความพยายามเพื่อข่มใจ ที่จะทำให้ตัวเองนั้นคลายความตื่นเต้นลงไป ด้วยการพูดเสียงเข้มแล้วใบหน้ายังเคร่งขรึม เสียจนทำให้องุ่นเข้าใจว่า ในเวลานี้เขากำลังโกรธเธออยู่หรือเปล่า
"ฉันต้องรีบไปขายของ ไม่ได้เป็นนักธุรกิจร้อยล้านพันล้านเหมือนใครบางคน ส่วนเรื่องหนี้สิน ฉันยังไม่เคยลืมหรอกนะเพียงแค่ตอนนี้ยังไม่มีขอเวลาอีกสักหน่อย ฉันจะหามาใช้คุณคืนทุกบาททุกสตางค์แน่นอน พร้อมทั้งดอกเบี้ยนั่นด้วย" องุ่นรีบชี้แจง เรื่องเงินเป็นอันดับแรก เพราะเธอรู้ดีว่าเงินสองแสนมันไม่ใช่น้อย ๆ เขาอุตส่าห์ไว้วางใจให้เธอยืม ยังไงซะเธอก็ต้องหามาคืนเขาให้ได้
"นั่งลง ทานข้าวเป็นเพื่อนผมก่อนสิ" ตุลาพูดพร้อมกับนั่งลงที่โซฟา แล้วตักข้าวใส่ปากเขายอมรับว่า ฝีมือขององุ่นไม่ด้อยไปกว่าใครเลย ดีไม่ดีอาจจะไม่มีใคร ทำอะไรได้เหมือนเธอก็เป็นได้
"ดอกเบี้ยทั้งหมดถ้าคิดตามกฎหมายกำหนด ก็ประมาณหกหมื่นกว่าบาท หรือว่าคุณอยากได้มากกว่านั้น" องุ่นยังคงพยายามเจรจากับเขาเรื่องหนี้สิน ที่เธอได้รับเช็คจากเขามา แต่ดูเหมือนว่าตุลาจะไม่สนใจ เพราะเขาเอาแต่นั่งรับประทานอาหารจนจะหมดจานแล้วในเวลานี้
"นี่คุณ! ฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า" องุ่นเผลอพูดเสียงดังขึ้นมาอย่างลืมตัว
"เห็นหน้านิ่ง ๆ ติ๋ม ๆ แบบนี้ เจ้าอารมณ์เหมือนกันนะคุณ ให้ผมกินข้าวก่อนไม่ได้หรือไงหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้วเนี่ย นั่งลงก่อนสิ" ตุลาพูดพร้อมกับทำเสียงดุออกไป เหมือนที่เขาเคยเอ็ดน้องชาย
ตุลาจะรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขา กำลังทำให้ใบหน้าขององุ่นร้อนผ่าว จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอนั้นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลให้หัวใจของเธอละลาย โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร "ฉันไม่สนใจหรอกนะเรื่องสถานะของคุณ คุณจะโสดจะมีเมียมีลูกกี่คนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณตุลา" "คุณตกลงเป็นแฟนผมก่อนสิ ไม่อย่างนั้นเราก็ผมจะนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งคืนเลย" "เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่มันคือการมัดมือชกชัด ๆ คุณจะใช้วิธีเผด็จการแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะตรงนี้มันคือหัวใจไม่ใช่ธุรกิจของคุณ" องุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน พร้อมกับชี้ลงไปที่อกข้างซ้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเมื่อดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน ความนัยที่มีก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาทันที ต่างคนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะพบกัน "แค่การตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผม ทำให้คุณต้องฝืนใจขนาดนั้นเลยเหร
พอหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำให้องุ่นรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องของชายหนุ่มที่ดูวินเทจ แต่ก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ดูอบอุ่นผ่อนคลายมีกลิ่นอายของความคลาสสิค จึงทำให้ห้องของเขาน่าอยู่มากขึ้น "มีใครอยู่ไหมคะ ฉันเอาข้าวมาส่งค่ะ วางไว้ตรงนี้นะ ฉันกลับแล้วนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใคร "ไม่อยู่ยังจะนัดให้เอาข้าวมาส่งอีก แกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" องุ่นพูดพึมพำออกมาพร้อมกับทำหน้างอน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดน้อยใจด้วยซ้ำไป เขาจะอยู่ห้องหรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือการมาส่งข้าวให้เขาแล้วก็กลับทำไมต้องคิดหนักอยากเจอเขาด้วย หมับ!! "ว้าย!" องุ่นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าหา ในขณะที่ใบหน้าของ
องุ่นอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อประโยคสุดท้ายที่เขาระบุเอาไว้นั้น กำลังทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวไม่รู้ว่าตุลากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเธออยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ข้อความเหล่านั้นกำลังทำให้หัวใจของเธอพองโต แม้จะยังไม่แน่ใจในความหมายของมัน แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงกับดอกเบี้ยที่ตุลาควรได้รับ"พี่องุ่น พี่ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ ป้าปรางให้มาเรียกมีออเดอร์เพียบเลยจ้ะ" เสียงของผักบุ้งดังขึ้นทำให้องุ่นรีบเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที "พี่แค่มาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า" วันนี้ทั้งวันจิตใจขององุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ทำออเดอร์ผิด ลูกค้าสั่งผัดกะเพราแต่ได้ผัดผักแทนก็มี ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกค้าสั่งแกงจืดแต่ได้ต้มยำมาแทน "องุ่นตั้งแต่กลับมาจากส่งข้าวที่โรงงาน หนูเป็นอะไรทำไมใจลอยจัง" มารดาเดินเข้ามาหาลูกสาว หลังจากเวลาผ่านไป ซึ่งตอนนี้ร้านปิดร
"ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับคุณหรอกนะ มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกัน" "เดี๋ยว!" เมื่อองุ่นไม่ฟังคำสั่งของตุลา จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบังคับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเผลอตะคอกมาเสียงดัง จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง "อะไรอีก... เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองนะคุณ ไม่อยากได้เงินคืนหรือไง จะรีบไปหาเงินมาใช้หนี้ มีอะไรก็รีบพูดมา" ในที่สุดองุ่นก็ยอมหันกลับมาพูดกับเขา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่เธอใช้คำว่าลูกหนี้ เนื่องจากเธออยากออกไปให้พ้นจากห้องนี้ เพราะว่าหญิงสาวยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต "ก็แล้วทำไม คุณหายใจเข้าหายใจออกต้องมีแต่เงินด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ถามหนี้คุณเลยนะ" "คุณไม่ถามแต่ฉันร้อนตัว ในเมื่อฉันเป็นหนี้คุณจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก๊กไว้นี่ จริงไหม" "แล้วถ้าดอกเบี้ย ผมขอคิดเป็นอย่างอื่นคุณจะว่ายังไง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉาย
ตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้ พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน "ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ" "อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา "พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม "ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย "แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง "เรื่อง







