เจียงหูเจี่ยหกเดือน ไม่ได้ปลดปล่อย เห็นภรรยาสวยขนาดนี้ มีหรือจะอดใจไหว เขาควานปลายลิ้นไปทั่วโพรงปากหวานฉ่ำ ส่วนสองมือก็ดึงทึ้งชุดของเธออย่างไม่คิดออมแรง จนกระทั่งหว่านชุ่ยอิงเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า เขาถึงได้ยอมถอนริมฝีปากออก
สายตาหื่นกระหายของหูเจี่ยกวาดมองตั้งแต่บนลงล่าง และไปสุดที่เนินเนื้ออวบอูมกลางหว่างขา ชุ่ยอิงเพิ่งจะโกนขนออก มันจึงดูทั้งเกลี้ยงเกลาและขาวใส กลีบอวบอูมสีชมพูระเรื่อทำให้เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขารีบเอื้อมมือไปลูบไล้สัมผัส ก่อนจะเลื่อนสายตากลับมามองปทุมถันอวบอิ่มขนาดไม่ธรรมดา “ฉันว่า เธอควรกลับขึ้นมาอยู่กับฉันที่นี่นะ” หูเจี่ยเอ่ยเสียงกระเส่า ก่อนจะตวัดลิ้นเลียยอดอกสีชมพูอ่อนสลับกันไปมาทั้งสองข้าง ชุ่ยอิงทำทีเป็นเขินอาย พยายามเบี่ยงกายหนี แต่ยิ่งเธอทำแบบนี้ ยิ่งไปเร้าอารมณ์ของเขา หูเจี่ยอมยอดอกชูชันเข้าไปเต็มปาก แล้วดูดเสียงดังจ๊วบ ๆ ราวกับดูดนมมารดา พลางหันไปถอดชุดของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เนิ่นนานแค่ไหนแล้วนะ ที่เขาไม่ได้ปลดปล่อย น่าจะร่วมปีได้กระมัง เพราะภรรยาแสนจืดชืดคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำให้เขาเกิดอารมณ์ได้ ผิวพรรณของชุ่ยอิงขาวเนียนมาก มากเสียจนหูเจี่ยอยากจะสัมผัสให้ทั่ว คิดได้ดังนั้นแล้วก็ผละริมฝีปากออกจากยอดอก แล้วลากลิ้นเลียต่ำลงเรื่อย ๆ จนไปถึงรอยบุ๋มตรงหน้าท้อง แม้กระทั่งรูสะดือยังสวยงาม เขาคว้านลิ้นลงไปแล้วเต๊าะเล่นเบา ๆ ส่วนนิ้วมือก็งอเกี่ยวติ่งเล็ก ๆ กลางกลีบอวบอูมตรงหว่างขา เสียงครางแผ่วเบาเริ่มดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอของชุ่ยอิง เธอกดศีรษะของเขาให้ต่ำลง พลางขยับถ่างขา ให้เขาได้เห็นเนินเนื้ออันสวยสดงดงาม จากนั้นก็แอ่นมันเข้าไปหาปากกับจมูกของเขา หูเจี่ยเห็นอย่างนั้นก็ตวัดลิ้นเลียเสียงดังแผล็บ ๆ อ่า ชุ่ยอิงชอบที่สุดก็ตรงผู้ชายลงลิ้นให้นี่แหละ เธอถึงกับโยกสะโพกเบา ๆ เข้าหา มือหนึ่งบีบเต้าอวบอิ่มของตัวเอง ส่วนอีกมือหนึ่งขยุ้มเส้นผมของเขาเพื่อบรรเทาความเสียว หูเจี่ยไม่เคยชิมรสเครื่องเพศอิสตรีมาก่อน หัวบานแดงที่กำลังบวมเป่งถึงกับมีน้ำไหลซึม ตอนนี้เขาอยากจะกระหน่ำแทงใส่ช่องทางอ่อนนุ่มของเธอใจจะขาด คิดได้ดังนั้นแล้ว เจ้าตัวก็ไม่รอช้า รีบลุกขึ้นมาช้อนขาข้างหนึ่งของเธอขึ้น แล้วจับหัวบานใหญ่จ่อเข้าที่ปากทาง ก่อนจะแทงเข้าไปคราเดียวจนมิดดุ้น “อ๊า” ชุ่ยอิงถึงกับแหงนหน้าร้องคราง “สะ..เสียวจังค่ะ” เธอบอกกับเขาเสียงออดอ้อน ทำให้หูเจี่ยต้องรีบสาวท่อนเอ็นอุ่นเข้าออก ภายในของเธอทั้งดูดทั้งตอดเล่นเอาเขาเกือบจะน้ำแตก “โอ้ว ซี๊ด ผมจะแตก” พูดยังไม่ทันจบคำ เขาก็กระหน่ำรัวเสียงดังตับ ๆ ไปจนถึงข้างนอก ชุ่ยอิงหวีดร้องเสียงหลง “อ๊ายยยยยย” เพราะเธอเองก็เสียว แค่ไม่ถึงสามนาที ช่วงล่างของเขาก็กระตุกถี่ ๆ อัดสะโพกของเธอจนไปติดกำแพงแล้วฝังท่อนเอ็นอุ่นที่กำลังมีน้ำฉีดพุ่งเข้าไปจนสุดโคน หูเจี่ยเสร็จแล้ว เสร็จง่าย ๆ แค่นี้ เขายืนพิงร่างของเธอ ทิ้งให้ชุ่ยอิงอารมณ์ค้างคา เธอได้แต่แค่นเสียงดูถูกในใจ ผู้ชายอะไรอ่อนแอชะมัด หึ! ถึงจะคิดแบบนั้น แต่เธอกลับแสดงออกว่าตนเองสุขสมจนตาลอย “ผมเพิ่งจะรู้ว่าคุณชอบอะไรแบบนี้ เมื่อก่อนไม่เห็นคุณจะชอบ” พอหายเหนื่อยเขาก็หันมาพูดกับเธอ โดยไม่คิดจะถอดถอนอวัยวะที่เชื่อมกันออกเพียงปล่อยขาข้างนั้นของเธอลง พลางใช้มือขยับปทุมถันข้างหนึ่งของเธอไปมา “อาจเป็นเพราะครั้งนี้ คุณเอ่อ ใช้ลิ้นมั้งคะ” เธอบอกกับเขาด้วยท่าทางเอียงอาย รู้อย่างนั้นแล้วหูเจี่ยก็ถอนส่วนนั้นออกแล้วนั่งลงไปกลางหว่างขา แล้วแหวกกลีบบวมแดงสองข้างออก “เลียตรงนี้ใช่ไหม” พูดแล้วเขาก็ตวัดลิ้นเลียติ่งเล็กกลางกลีบให้เธอดู ชุ่ยอิงไม่ได้ตอบแต่กดศีรษะของเขาเอาไว้ เรื่องอะไรเธอจะยอมค้างเติ่ง หูเจี่ยราวกับรู้ว่าเธอต้องการอะไร จึงรีบรัวลิ้นใส่ติ่งเสียวของเธอไม่ยั้ง สะโพกกลมกลึงบิดเร่า ๆ แอ่นเข้าหาเขาตามจังหวะ หูเจี่ยยังไม่สะใจ ยังแหย่นิ้วเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มแล้วชักเข้าชักออก เขาทำอยู่นานพอดูจนกระทั่งอวัยวะเบื้องล่างตื่นตัวขึ้นมาใหม่ พอร่างกายของเธอแข็งเกร็ง เขาก็รีบลุกขึ้นแล้วยัดท่อนเอ็นอุ่นเข้าไปกระเด้าแทน “อ๊า” ในที่สุดชุ่ยอิงก็เสร็จสมจนได้ ยิ่งตอนเธอเสร็จผนังอ่อนนุ่มยิ่งบีบรัดตัว หูเจี่ยเสียวมาจนต้องกระเด้าเสียงดังไปถึงข้างนอกโดยไม่รู้เลยว่า หน้าประตูมีใครบางคนยืนอยู่ บุรุษวัยสี่สิบในชุดถังจวงทำได้เพียงยืนลูบส่วนพองนูนของตัวเองเพื่อบรรเทา สุดท้ายต้องรีบเดินหายเข้าไปในห้อง แล้วจัดการความกระสันด้วยมือ เพราะภรรยาผู้ชอบวางตัวสูงส่งอย่างคุณนายเจียง ไม่มีทางยอมหลับนอนกับสามีในเวลากลางวันแบบนี้แน่ ตอนยังสาวว่าเลวร้ายแล้ว พอแก่ตัวยิ่งเลวร้ายกว่า หลายปีมานี้คุณนายเจียงรังเกียจเรื่องอย่างว่าจนไม่ยอมให้สามีแตะต้อง บางครั้งนายท่านเจียงถึงต้องระเห็จตัวเองเข้าไปนอนในห้องหนังสือตอนที่หูเจี่ยตื่นมาเห็น จึงเป็นภาพคนรักของตัวเองกำลังนั่งขย่มท่อนลำของคนเป็นพ่อ อีกทั้งสองมือยังขยุ้มผมกดใบหน้าให้อีกฝ่ายดูดนม ภาพนี้ดูอย่างไรก็รู้ว่าเธอกำลังเมามัน หูเจี่ยถึงกับตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ฮั่นเจี่ยรู้ว่าเขาตื่น ก็หันไปทักทาย แกดูสิของฉันใหญ่ขนาดนี้แต่เธอยังขย่มได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้บริสุทธิ์เสียหน่อย คนแบบนี้เหรอที่แกอยากเอามาทำเมีย พอได้ยินพ่อพูดแบบนั้น เขาก็มองไปที่ท่อนเอ็นใหญ่ยาวที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกกลางหว่างขาของคนรัก มันใหญ่มากจริงตามที่พ่อพูด แต่คนรักของเขากลับดูดมันหายเข้าไปได้ทั้งท่อน เสียงครางของเธอฟังอย่างไรก็ไม่มีความเจ็บเจือปน ต้องบอกว่ามันฟังเหมือนคนที่กำลังเสียวมาก “เดี๋ยวฉันเสร็จรอบนี้แล้ว แกก็มาเอาต่อ ฉันจะได้ไปพักผ่อน” หูเจี่ยจากที่โกรธในตอนแรก พอได้นั่งชมอยู่พักหนึ่งก็ทนไม่ไหว รีบถอดเสื้อผ้า รอให้เธอขย่มพ่อจนน้ำแตก เขาก็รีบเข้าไปจับเธอถ่างขาแล้วเอาเธอตามที่พ่อบอก เล่อเหยาสลบไปตอนเช้า โดยมีน้ำขาวขุ่นขังอยู่เต็มรู เธอตื่นมาอีกทีในตอนบ่าย พร้อมกับอาการเมื่อยขบ เมื่อคืนเธอไม่ใช่ว่าจะไม่มีสติ เธอรู้ว่าเอากับใครบ้าง แต่มัน มันเสียจนเธอ
วันถัดมา คุณนายเจียงพาลูกสะใภ้ออกไปตั้งแต่ตอนสาย โดยไม่รู้เลยว่า คนขับรถของเธอถูกเปลี่ยนเป็นลูกน้องคนสนิทของสามีไปแล้วเธอส่งกระบอกชามาให้ลูกสะใภ้ในรถ ก่อนจะยกของตัวเองดื่ม ที่คุณนายเจียงคิดแผนโง่ ๆ แบบนี้ ออกมาได้ ก็เพราะเมื่อก่อน หว่านชุ่ยอิงเป็นคนโง่ อีกฝ่ายย่อมคิดว่าจะหลอกเธอได้ง่าย แต่ชุ่ยอิงคนนี้ไม่เหมือนกันแม้แต่กระบอกชา เธอยังสับเปลี่ยนมันตั้งแต่ก่อนคนรับใช้จะถือมาส่งให้แล้ว เมื่อมาถึงโกดังร้าง ร่างไร้สติที่ถูกอุ้มไปวางบนพื้น ไหนเลยจะใช่หว่านชุ่ยอิงรถของฮั่นเจี่ยขับเข้ามาจอดเทียบ คนขับรถถูกสั่งให้ขับรถกลับไปก่อน ชุ่ยอิงขึ้นรถมาได้ ก็บอกกับเขาเสียงเศร้าว่า “หนูอยากรู้ว่าคุณแม่ต้องการทำอะไรกับหนู พวกเราไปแอบดูกันไหมคะ”ฮั่นเจี่ยเองก็อยากรู้ เขาจึงขับรถเข้าไปซ่อนในโรงเรือนร้าง แล้วพาเธอเดินเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ในนั้นตอนคุณนายเจียงไปปรึกษากับเล่อเหยา เธอแค่นัดแนะแผน แต่ไม่ได้เป็นคนจัดหาคน คนที่เล่อเหยาหามา ย่อมรับมาแต่คำสั่ง โดยไม่รู้ว่าต้องลงมือกับใครผู้ชายท่าทางนักเลงห้าคนเดินเข้ามาเห็นผู้หญิงนอนอยู่บนพื้น ก็คิดว่าเป็นเป้าหมายคุณนายเจียงยังไม่ทันได้สติก็ถูกพวกมันจับเปลื้องผ้
เย็นนี้ คุณนายเจียงกลับเข้าบ้านมาท่าทางอารมณ์ดี บนโต๊ะอาหาร เธอยังมาพูดดีกับลูกสะใภ้“พรุ่งนี้ คุณนายประธานหยงเรียกประชุมเรื่องการจัดงานการกุศล ฉันว่าจะพาเธอไปด้วย”ชุ่ยอิงเลิกคิ้วขึ้น มองแม่สามีด้วยความประหลาดใจ แค่อีกฝ่ายอ้าปากพูด เธอก็เห็นไปถึงลิ้นไก่แล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอยังตอบตกลงอยู่ดี “ค่ะ”“แต่งตัวให้ดูดีหน่อยล่ะ งานนี้มีแต่คนมีชาติตระกูล”คุณนายเจียงเปลี่ยนไปเป็นหน้ามือหลังมือแบบนี้ มีหรือว่าบุรุษสองคนในบ้านจะไม่ประหลาดใจนายท่านเจียงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ จนกระทั่งตกกลางคืน ชุ่ยอิงไม่ยอมเปิดประตูให้สามี แต่กลางดึกกลับย่องลงไปที่ห้องหนังสือฮั่นเจี่ยรอเธออยู่นาน ครั้นเห็นเธอเข้ามา ก็รีบดึงเข้าไปกอดจูบชุ่ยอิงรีบดันแผงอกเขาเอาไว้ “พวกเราต้องคุยกันค่ะ”เธอผ่านผู้ชายมามากจนรู้ถึงแก่น กว่าผู้ชายคนไหนกำลังลุ่มหลงเธอ แน่นอนว่าสองพ่อลูกตระกูลเจียงกำลังเป็นแบบนั้น“เดี๋ยวค่อยคุยไม่ได้เหรอ หนูดูของพ่อสิ” เขาดึงมือเธอให้มาจับเอ็นอุ่นที่เพิ่งจะแข็งโด่ภายใต้กางเกงเธอแก้เอวกางเกงที่ผูกกันไว้หลวม ๆ ของเขาออก ปล่อยให้กางเกงผ้าแพรล่วงไปที่ข้อเท้า แล้วค่อยจับท่อนลำของเขาสาวเล่นเบา
วันนี้นายท่านเจียงอยู่บ้านเป็นครั้งแรกในรอบปี ทำให้คุณนายเจียงไม่กล้าขึ้นไปอาละวาดใส่ลูกสะใภ้ที่ขี้เกียจสันหลังยาวนอนไม่ยอมตื่น ยิ่งเป็นแบบนี้ คนมีจิตใจชั่วช้าอย่างคุณนายเจียงยิ่งคิดเรื่องชั่ว ๆด้วยความอึดอัดคับข้อง แทนที่จะอยู่บ้านปรนนิบัติสามี เธอกลับนัดพบกับเซี่ยเล่อเหยาข้างนอกเพื่อวางแผนร้าย ส่วนหูเจี่ยต้องออกไปดูแลโรงทอผ้า ในบ้านจึงเหลือแค่นายท่านเจียงกับลูกสะใภ้บ่ายกว่า ชุ่ยอิงเพิ่งจะลงมาทานข้าว มาถึงตอนนี้ บ่าวไพร่ไม่มีใครกล้ารังแกเธออีก เพราะนายท่านเจียงประกาศชัด ว่าหากใครไม่ให้ความเคารพเธอจะถูกไล่ออกทันทีพวกบ่าวไพร่เห็นว่าขนาดบ่าวชายที่ตายเจ้านายยังปล่อยผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงไม่มีใครกล้าทำอะไรส่งเดชอีกหลังจากทานเสร็จ ทั้งสองก็แอบหายเข้าไปในห้องหนังสือหลังประตูปิดลง นายท่านเจียงรีบดึงลูกสะใภ้เข้ามากอด พลางเอ่ยถามเสียงแหบพร่า “เมื่อคืนหนูมีความสุขไหม”ชุ่ยอิงแสร้งพยักหน้าท่าทางเขินอาย ได้ยินอย่างนั้นอวัยวะเบื้องล่างของฮั่นเจี่ยก็ขึงขังขึ้นทันที รีบเชยคางของเธอขึ้นมาจูบเวลาของพวกเขามีไม่มาก เขาไม่ได้จับเธอเปลื้องผ้า เพียงล้วงเข้าไปใต้ชุดกี่เพ้าสีแดงดำ แล้วถอดชุด
“ทนหน่อย ของพ่อมันใหญ่มาก แต่รับรองเลย เดี๋ยวหนูจะติดใจ” ฮั่นเจี่ยบอกกับเธอเสียงกระเส่า แต่เขาไม่ได้หยุดดุนดันแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้าไปช่องทางคับแน่นของลูกสะใภ้ความจริงชุ่ยอิงไม่ได้เจ็บเลยสักนิด เพราะความใหญ่โตของมันเสียดสีไปทุกจุดกระสันของเธอ นอกจากจะไม่เจ็บแล้ว เธอยังเสียวมากเลยต่างหากพอยัดส่วนหัวเข้าไปได้แล้ว ฮั่นเจี่ยถึงค่อย ๆ กดท่อนลำตามลงไป พอสุดโคนแล้วก็ค่อย ๆ ชักมันออกมาความคับแน่นทำให้ทั้งคู่เสียวจนต้องห่อปาก เขากระดกบั้นท้ายขึ้นสูงให้หัวบานเกือบจะหลุด แล้วแทงลงไปใหม่ช้า ๆ ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งเพิ่มความเสียวให้ทั้งคู่มากขึ้นไปอีก“ชอบไหม”เธอพยักหน้าหายใจปากราวกับกินของเผ็ด“พ่อก็ชอบ ข้างในของหนูคับแน่นดีเหลือเกิน ซี๊ด “เขาค่อย ๆ ระบายลมออกจากปาก ก่อนจะบดจูบเธออย่างหื่นกระหาย ปลายลิ้นทั้งสองพัวพันกันราวกับงูติดสัตว์ ท่อนลำแข็งชันเริ่มขยับเร็วขึ้น“อ้าขาออกอีก” เขาเริ่มขยับชักท่อนลำเข้าออก ไม่นานมันก็เริ่มลื่นไหล “ชุ่ยอิง ขอพ่อดูดลิ้นหน่อย”เธอแลบลิ้นออกมาให้เขาดูดอย่างว่าง่าย ตอนนี้เธอรู้สึกทั้งเสียวทั้งมันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงจะผ่านผู้ชายมามาก แต่ใหญ่ยาวขนาดนี้ เธอเพิ่งเคยเจอ
นั่นหนูจะไปไหน” จนถึงตอนนี้เจียงฮั่นเจี่ยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกสะใภ้ถูกไล่ให้ไปอยู่เรือนหลังสองแม่ลูกลอบมองสบตากัน เจียงหูเจี่ยกำลังจะอ้าปาก แต่ชุ่ยอิงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เปล่งเสียงก็ชิงพูดขึ้น “กลับเรือนค่ะ คุณแม่กับพี่หูเจี่ยให้หนูไปอยู่เรือนหลังค่ะ”“ตั้งแต่เมื่อไหร่!” ประโยคนี้ นายท่านเจียงไม่ได้ถามลูกสะใภ้ แต่หันไปถามภรรยาคุณนายเจียงถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ยืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ถึงเธอจะมีอำนาจเหนือสามี แต่ที่เธอควบคุมเขาได้ เพราะเขาเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ควรค่าให้เคารพนับถือ แต่ถ้ารู้ว่าลับหลังเขาเธอทำอะไร ไม่แน่ว่าต่อไป ผู้ชายกลัวเมียอย่างนายท่านเจียง อาจไม่เกรงกลัวอีกต่อไป ยิ่งตอนนี้ เจ้าตัวเริ่มจะมีใจชอบพอลูกสะใภ้ด้วยแล้ว“ผมเพิ่งทราบ ว่าคุณจัดการเรื่องในบ้านแบบนี้” พูดกับภรรยาแล้ว เขาก็หันไปบอกกับลูกสะใภ้ “ชุ่ยอิง หนูไปขนของแล้วย้ายกลับขึ้นมาอยู่บนตึกเดี๋ยวนี้เลย นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“แต่คุณพ่อครับ ผมกำลังจะหย่ากับเธอ” หูเจี่ยรีบแย้งพอถูกคนเป็นพ่อมองมาด้วยสายตาดุดันเขาก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีกเจียงฮั่นเจี่ยแค่นเสียงออกมาเสียงหนึ่ง “อยากหย่าเพื่อจะไปแต่งกับลูกสาวประธานเซี่ย? แกช่างเพ