ใบหน้าของฟู่เจิงเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาพูดขึ้นพร้อมทั้งยิ้มเยาะว่า “ฉันไม่มีสิทธิ์สนใจเธอ? ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของฉัน เป็นน้องสาวของฉัน เธอคิดดูสิ ทำไมเขาถึงให้เธอไปเมืองนอก? หลังจากไปเมืองนอกเธอก็จะไร้ญาติขาดมิตร ถึงเวลานั้นจะเกิดอะไรขึ้น?”จะเกิดอะไรขึ้นเวินเหลียงไม่รู้เลยเวินเหลียงรู้แค่ว่าตอนนี้ตัวเองโมโหจะตายอยู่แล้ว!เธอเตะผ้าห่มออกอย่างหงุดหงิด“ซี๊ด...”ไม่รู้ว่าข้อเท้าที่ได้รับบาดเจ็บไปเตะชนถูกตรงไหนเข้า ทันใดนั้นความเจ็บแปลบก็แผ่ซ่านขึ้นมาเจ็บจนเวินเหลียงทำเสียงซี๊ด พร้อมทั้งน้ำตาไหลออกมาฟู่เจิงเลิกผ้าห่มออก จากนั้นก็จับข้อเท้าที่ได้รับบาดเจ็บของเธอเอาไว้ “เป็นอะไรไป? บาดเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า?”เวินเหลียงน้ำตาคลอพลางพยักหน้าอย่างเจ็บปวดฟู่เจิงช่วยหยิบยามาให้เธอ เปิดผ้าก๊อซบนเท้าออกใหม่อีกครั้ง หลังทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อย ๆ นวดเบา ๆ จากนั้นค่อยทายาที่เย็นเฉียบไปด้านบนอีกทีหนึ่ง ในตอนนี้เองความเจ็บปวดถึงได้ทุเลาลงไม่น้อยฟู่เจิงวางยาทากลับลงไป สีหน้าเคร่งขรึม “เวินเหลียง ฉันไม่มีมีวันยอมให้เธอลาออก ต่อไปอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก”เวินเหลียงถอนหายใจ กลัดกลุ้ม
จากมุมกล้องและระดับความละเอียดของภาพถ่ายแล้วนั้น เวินเหลียงมองเพียงแค่แวบเดียวก็มั่นใจได้ทันทีว่าพนักงานภายในเป็นคนทำในสายตาของแอคปั่นข่าวนี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญในสายตาของพวกเขาก็คือ ในภาพแอบถ่ายของฉู่ซืออี๋การแต่งตัวและการแต่งหน้าดูแปลกพิลึกเป็นพิเศษการแต่งหน้าเพื่อเน้นบุคลิกของฉู่ซืออี๋ โหนกแก้มเด่นเกินไป จากน้อยแต่มากเรียบแต่โก้เปลี่ยนเป็นดูดุร้ายโหดเหี้ยม จงใจวาดขอบริมฝีปากที่แดงก่ำและอวบอิ่มให้ดูโฉบเฉียว เผยบุคลิกของพี่สาวออกมา ทว่าในความไม่เจตนาได้ตัดระยะห่างระหว่างริมฝีปากบนและกระจับปากให้สั้นลงไป เผยความเยาว์วัยออกมาสองสามส่วน เห็นได้ชัดว่าไม่เข้ากันเลยสักอย่าง ยังมีคิ้วที่เขียนจนตรงและแข็งทื่อเกินไป ถูกเหล่าแฟนคลับวิจารณ์กันเป็นอย่างมากเช่นกันหลังภาพภ่ายเหล่านั้นถูกปล่อยออกมา แอคปั่นข่าวก็ต้องลงความเห็นชมแอมบาสเดอร์ของเอ็มคิวในครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัยคอมเมนต์แย่ ๆ พลั่งพลูเข้ามาพวกที่โห่ร้องก่อนใครก็คือแฟนคลับของหลินเยียนหรัน พวกเขาดีใจที่ได้เห็นความล้มเหลวของฉู่ซืออี๋ จากนั้นก็มาคอมเมนต์ใต้แอ็กเคานต์ทางการของเอ็มคิวว่า “ใครใช้ให้พวกคุณไม่เลือกเยียนหรันล่
ของที่อยู่ในกล่องถูกเทออกมาไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นเป็นอะไร ทว่ามีสีแดงและสีขาวสลับกัน เลือดเนื้อเปรอะเปื้อน ดูแล้วน่าคลื้นไส้เป็นอย่างมากของเหลวสีแดงสด กระจายไปทั่วพื้น มีกลิ้นเหม็นเน่าคละคลุ้งออกมาป้าหวังเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน เธอตั้งสติกลับมาได้ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “คุณผู้หญิงคุณไม่ต้องกลัวไปนะคะ ฉันจะทำความสะอาดของพวกนี้เดี๋ยวนี้เองค่ะ”“ไม่ต้องทำความสะอาดค่ะ รีบแจ้งตำรวจเถอะค่ะ” เวินเหลียงเอามือปิดจมูก แล้วโซซัดโซเซลงมาจากเตียง “ได้ค่ะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้ คุณผู้หญิงอยากให้โทรบอกคุณผู้ชายด้วยไหมคะ?”เวินเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง “เขากำลังไปทำงานนอกสถานที่ ไม่ต้องบอกคุณผู้ชาย”“ค่ะ”ป้าหวังรีบแจ้งตำรวจให้ทำการตรวจสอบ ทางตำรวจมาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด จัดการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และทำการบันทึกสอบปากคำกับเวินเหลียงและป้าหวัง แสดงทีท่าว่าจะสืบทราบสาเหตุได้ในไม่ช้าหลังตำรวจจากไป ป้าหวังถึงได้รีบจัดการห้องรับแขก พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำหอมปรับอากาศอย่างต่อเนื่องกลอุบายนี้มันง่ายเกินไปแล้วไม่นานตำรวจก็ตรวจสอบหาข้อมูลของพนักงานส่งพัสดุได้ผ่านกล้องวงจรปิดและบันทึกการเข้าออกข
มิหนำซ้ำ ความคิดเห็นข้างล่างก็ยังอยู่ และค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจากความคิดเห็นของพวกเขา เวินเหลียงจับจุดได้คร่าว ๆ ว่า ต้องมีคนใส่ร้ายเธอแน่ ๆ บอกว่าเธอเป็นคนเปลี่ยนการแต่งหน้าและการแต่งตัวตามอำเภอใจถึงทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้เวินเหลียงเลื่อนขึ้นเลื่อนลงไปในเฟซบุ๊ก ไม่นานก็หาต้นตอของข่าวเจอในเทรนด์การถูกพูดถึงของฉู่ซืออี๋มีคนแคปภาพหน้าจอคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ดูแลกลุ่มแฟนคลับมาลงแน่นอนว่าผู้ดูแลกลุ่มย่อมเป็นคนของทีมฉู่ซืออี๋อยู่แล้วผู้ดูแลกลุ่มส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มว่า หวังว่าแฟนคลับทุกท่านจะใจเย็นลงก่อน อย่าไปคอมเมนต์อย่างสุดโต่งอะไรใต้แอ็กเคานต์ทางการของเอ็มคิว ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อพี่ฉู่เอาได้ อันที่จริงเรื่องนี้พวกเราเองก็โมโหมากเหมือนกัน ทีแรกการแต่งหน้าของพี่ฉู่ก็ดีอยู่แล้วเชียว สุดท้ายผู้อำนวยการเวินอะไรนั่นจะให้เปลี่ยนการแต่งหน้าให้ได้ จะให้เปลี่ยนการแต่งหน้าให้ได้ท่าเดียว! เพียงแต่เธอเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ พี่ฉู่เองก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แต่เชื่อฟังฝ่ายเขามีคนถามขึ้นมาในกลุ่มว่า พี่ฉู่มีความสัมพันธ์กับประธานฟู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเรื่องแค่นี้ก็จัดการอะไรไม่ได้
เวินเหลียงเงียบไป เธอเผยอริมฝีปาก แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดีเธอสูดลมหายใจเข้าลึกเบา ๆ ในใจขมขื่นและเจ็บปวดเธอไม่กล้าเธอไม่กล้าวางเดิมพันนี้เธอรู้ดีตั้งนานแล้วว่า ในใจของฟู่เจิง เมื่อเทียบกันระหว่างเธอกับฉู่ซืออี๋ มันเทียบอะไรกันไม่ติดเลยสำหรับฟู่เจิงแล้ว เขาถึงขั้นผลักให้เธอออกไปรับชั้นวางของที่หล่นลงมาแทนฉู่ซืออี๋ได้ ทำไมจะผลักเธอให้ออกไปรับคำด่าทอสาดเสียเทเสียแทนฉู่ซืออี๋ไม่ได้ล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดพวกนั้นก็เป็นเพียงแค่คำพูดจาให้ร้ายบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ทำร้ายเธอไม่ได้อยู่แล้วอู๋หลิงเห็นเวินเหลียงเงียบ ก็ยิ่งกำแหงเข้าไปใหญ่ “ผู้อำนวยการเวิน คุณกล้าพนันไหม?”เวินเหลียงไม่ตอบ ทว่าตัดสายทิ้งไปเลยเธอรู้ดีว่า นี่คือเดิมพันที่มีแต่แพ้กับแพ้ ไม่มีความจำเป็นต้องไปพนันเลยต่อให้ฟู่เจิงไม่รู้เรื่องนี้ ถึงเขารู้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะสนับสนุนด้วยซ้ำไปเพียงแต่เธอจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องมีคนหาคำอธิบายมาให้เธอผู้รับผิดชอบสตูดิโอส่งคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดภายในห้องแต่งตัวของวันนั้นมาให้เธอแล้วมันดันไม่มีเสียง ทว่า ด้วยเหตุการณ์ ณ ตรงนั้นและการกระ
เวินเหลียงขำพรวดออกมาเขาทำไม่ได้อย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ เพียงแต่เขาโลภอยากจะได้ทุกสิ่งเขาอยากจะหย่ากับเธอ แล้วไปคบกับคนรักเก่าของเขา มิหนำซ้ำยังอยากให้เธอเป็นแพะรับบาปแทนคนรักเก่าของเขา รับคำสาดเสียเทเสียของทุกคน“ฉันคิดว่าคุณก็คงเข้าใจ ในเมื่อคนข้างนอกไม่พอใจที่ฉันนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการนี่ งั้นฉันก็จะลาออก ได้ไหม?”“ไม่ได้ ฉันไม่ตกลงเงื่อนไขนี้” ฟู่เจิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเวินเหลียงเหน็ดเหนื่อยอยู่เล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเธอขอร้องอะไรจากฟู่เจิงไม่ได้ สิ่งที่ฟู่เจิงให้เธอได้มีเพียงแค่เงินเท่านั้น เพียงแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ในสามปีมานี้เธอได้เงินเดือนและโบนัสจากฟู่ซื่อมาเป็นจำนวนมากแล้ว“เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฟู่เจิง มากกว่านี้ฉันก็ไม่พูดแล้ว แค่นี้นะ”เวินเหลียงตัดสายทิ้งไปเลย เธอล้มตัวลงบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไรริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเวินเหลียงรับสาย “ฉันบอกแล้วไงว่าแค่นี้นะ ไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว”“อาเหลียงฉันเอง” เสียงของโจวอวี่แว่วมาจากปลายสายเวินเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองที่หน้าจอโทรศัพท์ “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันจำผิดคนน่ะ”
เวินเหลียงไถฟีดเฟซบุ๊กพลางพูดกับโจวอวี่ว่า “นี่คือบทละครที่หลายวันก่อนนายบอกกับฉันว่ากำลังดู ๆ อยู่งั้นเหรอ?” “ใช่ เรื่องนี้แหละ”เวินเหลียงหัวเราะ “ดีใจกับนายด้วยนะ ได้บทบาทที่ชอบมาได้ สู้ ๆ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาให้ได้”คำวิพากษ์วิจารณ์ของโจวอวี่ไม่เลวเลย กล้าลองรับเล่นบทบาทตัวตนหลากหลายรูปแบบ เป็นคนมีชื่อเสียงในกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อยช่วงก่อนหน้านี้รับบทนักแสดงนำชายในละครแนวระทึกขวัญเรื่องหนึ่ง เขาก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ดีอย่างล้นหลาม“เธอชอบนักนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเหรอ?”“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ใครไม่ชอบนักแสดงมากฝีมือบ้างล่ะ?”“ที่เธอพูดก็ถูก ฉันจะพยายามเอารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมกลับมาให้เธอดูนะ”หลังจากวางสายจากโจวอวี่ เวินเหลียงก็ฉวยโอกาสไถฟีดเลื่อนลงข้างล่าง มีข้อความหนึ่งดึงดูดสายตาของเธอไปฟู่เจิงฉู่ซืออี๋ เวินเหลียงพอจะเดาออกว่าเนื้อหาข้างในเป็นอะไร ทว่าก็ยังยั้งมือไม่อยู่กดเข้าไปเป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด นี่เป็นข้อความที่เกี่ยวกับคู่จิ้นการโต้เถียงของแฟนคลับคู่จิ้นหาจุดฟินเจออีกแล้ว เมืองอวิ๋นสุ่ยเป็นละครเรื่องแรกที่ได้รับบทบาทนักแสดงน
ฮอตแอนด์คูล “ใช่ ส่งมาให้ฉันภาพหนึ่งก็พอ เอาของที่ถ่ายวันแรกนะ”ไม่นานจูฝานก็ส่งภาพมาให้เวินเหลียงภาพหนึ่ง ภาพจากมุมของช่างภาพแตกต่างจากภาพแอบถ่ายเป็นพิเศษ ผ่านการแก้ไขในโฟโต้ชอปอีกครั้ง ก็จะให้อารมณ์อีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไปเวินเหลียงส่งต่อภาพไปให้ผู้ช่วย “แคปรูปหน้าจอไปบางส่วน ใช้แอ็กเคานต์ทางการของเอ็มคิวลงรูปแอบถ่ายนี้ อย่าลงภาพต้นฉบับ”ไม่นานผู้ช่วยก็ใช้บัญชีทางการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ตามคำสั่งของเวินเหลียง มาดูภาพหลุดกันเร็วเข้า กดไลก์กดแชร์ พี่ซืออี๋สวยจริง ๆด้านล่างคือรูปภาพที่แนบมาบรรยากาศใต้แอ็กเคานต์ทางการกลมกลืนกันเป็นอย่างมาก เหล่าแฟนคลับแห่บันทึกภาพกันไปเรื่องนี้ก็ผ่านพ้นไปทั้งอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยขาของเวินเหลียงเองก็ดีขึ้นมากแล้ว วันพุธนี้จะเริ่มเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วเวินเหลียงออกมาจากห้องน้ำ เดินผ่านข้างลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี ด้านหลังฟู่เจิงมีเลขาสองสามคนออกมาจากภายในตัวลิฟต์ด้วยกันเมื่อพวกเลขาหยางเห็นเวินเหลียงก็รีบทักทาย “ผู้อำนวยการเวิน”เวินเหลียงพยักหน้าเบา ๆ พร้อมทั้งทักทายฟู่เจิง “ประธานฟู่ เพิ่งกลับมาเหรอคะ?”ฟู่เจิงมองไปที่เวินเหล