ผู้จัดการดารินหรือดาด้ายืนมองหญิงสาวร่างเล็กแต่ปราดเปรียวทำงานอย่างคล่องแคล่วด้วยสายตาที่ชื่นชมในความสามารถ เด็กคนนี้ไม่ควรทำเป็นพนักงานเสิร์ฟ น่าจะหางานที่ดีกว่านี้ได้ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะพนักงานเสิร์ฟเก่งๆ ก็หายาก บางคนอาจคิดว่าแค่เสิร์ฟเครื่องดื่มหรืออาหารก็จบ แต่จริงๆ เป็นการดูแลลูกค้า แนะนำเมนูเด่น เทคแคร์แต่ไม่วุ่นวาย ทำงานมาครึ่งเดือน ยัยเด็กแพรดาวน่าจะได้ทิปเกินครึ่งหมื่นไปแล้ว ถ้าแบบนี้ก็ไปด้วยสวย ทิปอาจได้เยอะกว่าเงินเดือนเสียอีก
ตั้งแต่ได้ทำงานที่นี่ แพรดาวก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น เธอเจอเกรซแค่สองหรือสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไรกันเป็นพิเศษ เพราะงานของเธอค่อนข้างยุ่ง นอกจากค่าแรงรายวันแล้วเธอยังได้รับทิปจากลูกค้าที่ให้แบงค์ม่วง แบงค์เทาเป็นว่าเล่น เงื่อนไขหลักคือไม่วุ่นวายแต่ไม่ละเลย ชุดพนักงานของเธอเป็นสีดำทั้งชุด มีเข็มกลัดโลโก้ร้านติดที่อกเสื้อ แต่ที่สำคัญ เธอต้องใส่หน้ากากปิดครึ่งซีกของใบหน้า แรกๆ เธอก็รู้สึกเหมือนเป็นโจรมุมตึกในหนังสือการ์ตูนที่เคยอ่าน แต่เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ทำเหมือนกัน กวาดตามองผ่านๆ ทุกคนหน้าตาเหมือนกัน แยกได้แค่ผู้ชายผู้หญิง ส่วนที่อกเสื้อก็มีแค่เข็มกลัดที่บอกว่าเป็นพนักงานของร้าน คงจะเข้าคอนเซปของร้าน ซีเคร็ท คลับ
ที่จริงเลิกงานตีสี่ แต่แพรดาวขอเลิกงานตี1และขยับเวลามาทำงานเร็วกว่าคนอื่น ซึ่งผู้จัดการดารินไม่ว่าอะไร งานช่วงหัวค่ำคนไม่เยอะ แต่มาช่วยดูแลร้านในส่วนอื่นๆ มีอาหารเย็นหนึ่งมื้อ ส่วนที่เธอไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้าไปคือโซนB ดูลึกลับยิ่งกว่าชื่อคลับเสียอีก
“วันนี้บอสมาด้วยนะ” เสียงพนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้นเรียกให้แพรดาวตื่นจากภวังค์
“บอส?” อีกคนพูดขึ้น “พี่ดาด้าไม่ใช่บอสเหรอ”
“ไม่ใช่ๆ พี่ดาด้าเป็นผู้จัดการ บอสใหญ่เจ้าของกิจการคือมิสเตอร์ดาร์ก”
‘คนอะไรชื่อดาร์ก’
แพรดาวที่ไม่ได้อยากสู่รู้แต่ก็อดฟังไม่ได้ แน่นอนว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าพี่ดาด้าเป็นผู้จัดการไม่ใช่เจ้าของกิจการนี้ และรู้แค่ว่าเจ้าของเป็นคนไทยไม่ใช่นอมินี (NOMINEE) เป็นร่างทรงของต่างชาติ เคยได้ยินพี่ดาด้าพูดถึงอยู่หลายครั้งด้วยน้ำเสียงชื่นชม แต่เธอเป็นพนักงานปลายแถว คงไม่มีโอกาสได้เจอเจ้ากิจการเลิศหรูแบบนี้หรอก
จริงๆ ก็ไม่รู้จะเจอไปทำไมเหมือนกัน
หญิงสาวเดินเลี่ยงออกมาช่วยแม่บ้านที่กำลังมัดถุงขยะ
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวหนูแพรจะเลอะเทอะไปหมด”
“เลิกงานแล้วค่ะ”
หญิงสาวยิ้มทะเล้นแล้วลงมือช่วยด้วยความเต็มใจ เวลาทำงานห้ามพกโทรศัพท์มือถือ ผู้จัดการเป็นคนเก็บสมาร์ทโฟนของทุกคน และหากมีใครติดต่อมาระหว่างทำงาน พี่แม่บ้านจะเป็นคนมาตามพวกเธอเอง แพรดาวเห็นพี่แม่บ้านก็นึกถึงแม่ตัวเองที่เคยทำงานเป็นแม่บ้านเช่นกัน เธอจึงอยากช่วยงานบ้างแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
“หนูแพรกลับยังไง รอไรเดอร์มารับเหรอจ๊ะ”
“ค่ะ”
แพรดาวไม่มีรถ ทั้งสองล้อและสี่ล้อ ที่ผ่านมาถ้าไม่นั่งรถเมล์ก็รถไฟฟ้า มาที่นี่ค่อนข้างสะดวกใช้รถไฟฟ้าและเดินเข้ามาก็ได้ ไม่ต้องเสียค่ามอเตอร์ไซค์20บาท แต่ขากลับค่อนข้างลำบาก โชคดีที่เธอรู้จักก็ไรเดอร์เชื่อใจได้ ค่อยมารับมาส่งแม้จะตีหนึ่งตีสองก็ตาม
“ไรเดอร์หรือแฟนจ๊ะหนูแพร” เพราะความสนิทสนมจึงหยอกล้อกันได้ขนาดนี้
แพรดาวหัวเราะเสียงใส แม้ทำหนักมาทั้งวันก็ยังร่าเริง “เพื่อนค่ะ เพื่อนสนิททำงานพิเศษเป็นไรเดอร์”
ใจจริงเธอก็เกรงใจธาตรี เขาเป็นเพื่อนที่แสนดี รู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยมเมื่อเรียนมหาวิทยาลัยก็แยกย้ายกันไปแต่ยังติดต่อกันอยู่ ธาตรีเรียนวิศวะซึ่งเทอมหน้าจะต้องไปฝึกงานแล้ว
‘เราไม่อยู่ แพรจะทำไง’
‘ตรีก็หาไรเดอร์ที่ไว้ใจได้มารับมาส่งเราหน่อยสิ’
‘จะทำงานกลางคืนแบบนี้นะเหรอ’
‘ก็ตอนนี้ยังหางานประจำทำไม่ได้นี่น่า เราอยากเก็บเงินหาที่อยู่ใหม่ด้วย ตรีก็รู้ว่าลูกหลานเจ้าของบ้านอยากให้เรากับแม่ย้ายออกจะตายไป’
ธาตรีอยากจะบอกว่า ‘จะช่วยหางาน’ แต่เขาก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไร เขายังโชคดีที่มีพี่สาวสองคนคอยส่งเสียให้เขาได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่แพรดาวต้องเรียนด้วยทำงานด้วย แต่กระนั้นก็ยังจบเร็วกว่าเขาตั้งหนึ่งเทอม
‘เรียนจบก็รีบทำงาน ทำไมไม่พักแบบคนอื่นบ้าง’
‘ดอกเงินกู้มันเคยพักด้วยเหรอ’ หญิงสาวหัวเราะเสียงใสราวกับไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่พูดออกไป ‘แพรอยากมีเงินเก็บมากๆ หน่อย จะได้ให้แม่อยู่สบาย’
‘ได้ ถ้าคืนไหนเรามารับไม่ได้ จะให้เพื่อนที่ไว้ใจได้มารับนะ’
‘ขอบใจนะ ตรีดีกับเราจริงๆ ตั้งแต่มัธยมจนมหา’ลัยเลย’
‘ยอเกินไปแล้ว อยากได้อะไรละสิ’
‘เปล่านะ แพรพูดจริง’ เธอพูดปนหัวเราะแล้วทำตาวิ๊งๆ ใส่ ‘แพรอยากกินหอยทอดร้านนั้นจังเลย’
‘หอยทอดโต้รุ่งนะเหรอ’
‘อื้ม! ซื้อไปฝากแม่กับคุณตาด้วย’
‘วันนี้ร้านหยุด ไว้วันอื่นแล้วกัน’
เพราะเป็นร้านหอยทอดเจ้าดังที่มีลูกค้าจ้างให้มาซื้อบ่อยๆ จนธาตรีจำวันเปิด-ปิดร้านได้เป็นอย่างดี ด้วยความอยากรู้ว่าอร่อยจริงไหม? เขาเลยซื้อมาเผื่อตัวเองและแบ่งให้แพรดาวกินด้วย และก็อร่อยสมกับที่ลูกค้าติดใจจริงๆ
‘ได้ๆ วันหน้าก็ได้’
แม้จะเลื่อนมาหลายครั้ง แต่ธาตรีสัญญาว่าจะพาเธอไปซื้อที่ร้านด้วยตัวเอง จะได้กินบรรยากาศไปด้วย สำหรับแพรดาวแค่ได้กินของอร่อยก็มีความสุขแล้ว
แล้วก็คิดถึงเค้กอร่อยๆ ที่ผู้ชายคนนั้นเอามาวางไว้ให้ เจ้าของห้องชุดสุดหรูที่ทำงานในร้านเบเกอรี่ เขาบอกว่าเจอกันครั้งหน้า จะเอาขนมมาให้เธออีก อย่าหาว่าเธอเห็นแก่กินเลยนะ แต่ขนมอร่อยจริงๆ และเธอก็แอบหวังให้เขาโทรนัดเธอไปทำความสะอาดห้องของเขาอีก
“หนูแพร เอาขยะไปทิ้งแล้วอย่าเถลไถลนะจ๊ะ”
“แพรจะไปไหนได้ล่ะคะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ ประเดี๋ยวเอาขยะไปทิ้งแล้วก็กลับไปเอาโทรศัพท์กับผู้จัดการและรอให้ธาตรีมารับ
“ห้ามเดินเลยไปข้างหลังล่ะ”
“ทราบแล้วค่ะ”
เพราะลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่ทำงาน แพรดาวจำเป็นและจำใจต้องขอยืมโทรศัพท์จากชายแปลกประหลาดคนนี้ เขาทำหน้านิ่งแต่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอใช้ แพรดาวรีบโทรหาผู้จัดการดารินแล้วก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้ากังวลอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม เขาหรี่ตามองก่อนพูดออกมา “มีอะไร” “เปล่าคะ” “ใช้เสร็จแล้วก็คืนมา” “ขอโทษค่ะ” แพรดาวรู้ว่าต้องคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของ แต่เธอยังลังเลอยู่จึงยังกุมโทรศัพท์ของเขาไว้อย่างไม่รู้ตัว “มีคนที่ต้องโทรหาเหรอ ให้โทรให้ไหม?” “ไม่ๆ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่รบกวน” มือเรียวยื่นโทรศัพท์คืนให้ “โทรหาแฟนเหรอ” “ไม่ใช่ค่ะ! ฉันไม่มีแฟน” “ฉันไม่ได้สนใจเธอหรอกนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วมองด้วยหางตา ตัวก็เล็ก ทั้งผอมทั้งบางอย่างกับเด็กขาดสารอาหาร มีอะไรน่ามองกันเล่า ริมฝีปากอิ่มสวยอ้าปากจะโต้เถียงแต่คุณหมอออกมาจากห้องตรวจพอดีทำให้แพรดาวหุบปากในทันที “น้องแมวมีขาดน้ำและมีภาวะขาดสารอาหาร ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดแต่แผลที่เท้าหน้าไม่น่าเป็นห่วงมากนักค่ะ ยังไงฝากน้องไว้ที่นี่ส
แพรดาวเคยผ่านโรงพยาบาลรักษาสัตว์แห่งนี้ แต่มองจากด้านนอกเท่านั้น แต่เมื่อรถสปอร์ตหรูจอดนิ่งสนิทแล้ว เธอก็ทำตาโตจนกระทั่งประตูรถฝั่งเธอเปิดออก ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ แสงสว่างจากหน้าโรงพยาบาลทำให้เธอเห็นใบหน้าเขาชัดเจนกว่าลานจอดรถ “เธอเป็นคนแรกที่ฉันเปิดประตูให้แบบนี้เลยนะ” “คะ? อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวได้สติรีบก้าวลงจากรถทั้งที่ประคองเจ้าแมวน้อยตัวสั่นในอ้อมอก แต่สายตาที่จ้องมองอย่างเปิดเผยทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิด “เป็นอะไรไปอีก” “พี่...พี่ดิน...พี่ดินเองเหรอคะ” ใบหน้านี้คือ ‘พี่ดิน’ หรือ ‘หัสดิน’ เมื่อครู่อยู่ในลานจอดรถแสงไม่ค่อยสว่างนัก เธอจึงมองเห็นเขาไม่ชัด มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนยื่นหน้าไปใกล้จนหญิงสาวถอยหลังไปครึ่งก้าว “มุกนี้เจอมาเยอะแล้ว เปลี่ยนมุกเล่นบ้างเถอะ” “เอ่อ...คุณ...มะ...ไม่ใช่...” หน้าตาเหมือนกันมาก เหมือนจนแทบจะพิมพ์เดียวกัน แต่นิสัยต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ‘พี่ดิน’ ใจดีและอ่อนโยน ส่วนผู้ชายคนนี้...ดุชะมัด! “จะพาแมวไปหาหมออยู่ไหม?”
หญิงสาวหิ้วถุงขยะไปไว้ที่ถังขยะด้านหลังร้าน จู่ๆ ก็มีแมวตัวน้อยโผล่หน้ามาจากหลังถังขยะ แพรดาวจ้องมองดวงตากลมโตที่มีความหวาดกลัว เธอคอยๆ วางถุงขยะใส่ในถังเพื่อไม่ให้เจ้าแมวน้อยตกใจแล้วยื่นมือไปหา “สวัสดีตัวเล็ก มาจากไหนเหรอ” แพรวดาวพยายามผูกมิตรกับแมวน้อย บริเวณนี้แสงไม่สว่างมากนัก เธอเพ่งมองว่าเจ้าแมวตัวจิ๋วสีอะไร ขณะที่ยื่นมือไปหา เจ้าจิ๋วมอมแมวก็วิ่งหนีไปทิศทางอื่น “เดี๋ยวก่อนสิ! อย่าไปทางนั้น แถวนั้นมีพี่หมาจรนะ!” เธอร้องบอก แต่เจ้าแมวน้อยก็วิ่งปรู๊ดไปบริเวณที่จอดรถ ด้วยความเป็นห่วงทำให้สองเท้าวิ่งตามลูกแมวน้อยจนเห็นมันผลุบหายไปใต้ท้องรถยนต์ที่จอดอยู่ “นี่ๆ ออกมานะเจ้าตัวเล็ก” แพรดาวเดินรอบรถหรู เธอกลัวว่าเจ้าแมวจะเข้าไปในห้องเครื่องยนต์เหมือนที่เห็นออกข่าวอยู่บ่อยๆ เจ้าของร่างเล็ก ก้มๆ เงยๆ มองหาเจ้าแมวน้อยพลางส่งเสียงร้องเหมียวๆ แล้วเธอก็เห็นความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณใต้ท้องรถ หญิงสาวจึงนั่งลงแล้วก้มตัวมองไปใต้รถ “เหมี๊ยวๆ ออกมาเร็ว หิวไหม ออกมาแล้วจะหาของอร่อยให้กิน” เพราะมัวแต่สนใจลูกแมวน้อยจึงไม่รู้ว่าม
ผู้จัดการดารินหรือดาด้ายืนมองหญิงสาวร่างเล็กแต่ปราดเปรียวทำงานอย่างคล่องแคล่วด้วยสายตาที่ชื่นชมในความสามารถ เด็กคนนี้ไม่ควรทำเป็นพนักงานเสิร์ฟ น่าจะหางานที่ดีกว่านี้ได้ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะพนักงานเสิร์ฟเก่งๆ ก็หายาก บางคนอาจคิดว่าแค่เสิร์ฟเครื่องดื่มหรืออาหารก็จบ แต่จริงๆ เป็นการดูแลลูกค้า แนะนำเมนูเด่น เทคแคร์แต่ไม่วุ่นวาย ทำงานมาครึ่งเดือน ยัยเด็กแพรดาวน่าจะได้ทิปเกินครึ่งหมื่นไปแล้ว ถ้าแบบนี้ก็ไปด้วยสวย ทิปอาจได้เยอะกว่าเงินเดือนเสียอีก ตั้งแต่ได้ทำงานที่นี่ แพรดาวก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น เธอเจอเกรซแค่สองหรือสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไรกันเป็นพิเศษ เพราะงานของเธอค่อนข้างยุ่ง นอกจากค่าแรงรายวันแล้วเธอยังได้รับทิปจากลูกค้าที่ให้แบงค์ม่วง แบงค์เทาเป็นว่าเล่น เงื่อนไขหลักคือไม่วุ่นวายแต่ไม่ละเลย ชุดพนักงานของเธอเป็นสีดำทั้งชุด มีเข็มกลัดโลโก้ร้านติดที่อกเสื้อ แต่ที่สำคัญ เธอต้องใส่หน้ากากปิดครึ่งซีกของใบหน้า แรกๆ เธอก็รู้สึกเหมือนเป็นโจรมุมตึกในหนังสือการ์ตูนที่เคยอ่าน แต่เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ทำเหมือนกัน กวาดตามองผ่านๆ ทุกคนหน้าตาเหมือนกัน แยกได
หัสดินรู้ว่าคำพูดของตัวเองดูประหลาด แต่เขาก็รู้อีกนั้นแหละว่า เธอคงเจอกับตัวตนอีกด้านหนึ่งของเขาไปแล้ว ในห้องมีกล้องวงจรปิดซ่อนไว้ทำให้รู้ว่าวันนั้นเธอเจออะไรไปบ้าง และเจ้าดาร์กก็ไม่ยอมบอกเขาเสียด้วย “ขนมอร่อยมาก แพรไม่เคยกินเค้กอร่อยๆแบบนี้มาก่อนค่ะ” หญิงสาวพูดไปตามที่รู้สึก “พูดเกินไป ฝีมือพี่ไม่เท่าไหร่หรอก” เขาพูดยิ้มๆ พยายามเพิ่มความสนิทสนมยิ่งขึ้น “อร่อยจริงๆค่ะ” จะเรียกว่าถูกหลอกด้วยของอร่อยก็ไม่ผิดนัก แพรดาวรู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้จริงๆ “แพรขอเอากลับไปฝากแม่ได้ไหมคะ แพรอยากให้แม่ได้กินของอร่อยๆ แบบนี้” “ไม่ได้” เขาตอบแสร้งทำหน้าจริงจัง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าเสียก็รีบพูดขึ้นทันที “พี่หมายถึง ชุดนี้พี่เตรียมมาให้แพร แต่ครั้งหน้าพี่จะเตรียมไว้ให้คุณแม่ของแพรก็แล้วกัน” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว แต่ละอย่างดูแพงๆทั้งนั้น” หญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อยก็พูดออกไป “คุณ...” “พี่” “เอ่อ...” “เรียกพี่ดินก็ได้ ชื่อเต็มพี่ก็คงรู้แล้ว” “เอ่อ...พี่ดิน” ช่างเถอะ เธ
เพราะเคยมีประสบการณ์ทำงานตามงานเลี้ยงมาบ้าง สำหรับแพรดาวจึงไม่ยากนัก การจำชื่อเมนูเครื่องดื่มเด่นๆ มาวันแรกไม่ได้ทำงานจริงแต่เรียนรู้งาน คนที่มีประสบการณ์ได้ทำงานที่โซนB ซึ่งเป็นชั้นบนที่แบ่งเป็นห้องพิเศษอีกหลายห้อง ส่วนแพรดาวทำงานที่โซนA ซึ่งดูแล้วก็ไม่ต่างจากร้านเหล้าทั่วไปที่มีเวทีเล็กๆ สำหรับการเล่นดนตรีสด เสื้อพนักงานเป็นเสื้อโปโลสีดำคลิบแดง บนอกเสื้อปักโลโก้ร้าน กางเกงผ้าขายาวกับรองเท้าคัชชูทำให้เดินสบายคล่องตัว เธอไม่คิดว่าที่นี่จะเตรียมให้พนักงานขนาดนี้ แต่ก็นับว่าดีมากแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แพรดาวเรียนรู้งานจากผู้จัดการหรือพี่ดาด้ารวมทั้งคนอื่นๆ 3 วัน ทุกอย่างไปอย่างราบรื่นด้วยดี กลางวันแพรดาวไปทำงานตามที่บริษัทนัดหมาย เดี๋ยวนี้มีคนมาทำงานเป็นแม่บ้านกันมากขึ้น เธอไม่ได้มีงานทำทุกวัน การมีรายได้กลางคืนจึงเป็นความหวังกับเธอมากทีเดียว แต่ที่สุดแล้วเธอก็หวังจะได้ทำงานประจำที่มั่นคง ระหว่างนี้แพรดาวก็ยังอ่านหนังสือทบทวนความรู้ของตัวเองตลอดเพื่อจะได้สอบเข้าทำงานราชการ หญิงสาวหยุดหน้าประตูห้องที่คุ้นเคย
อินฟลูสาวมองด้วยรอยยิ้มดีใจ เธอทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนคลับสำเร็จแล้ว เชฟหนุ่มเลื่อนรูปและคืนปากกาให้ บนกระดาษแผ่นนั้นมีลายเซ็นชื่อ ‘หัสดิน’ และคำอวยพรให้การรักษาราบรื่นด้วยดี “ขอบคุณมากนะคะ และขอโทษที่รบกวน” พลอยไพลินเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋า และเตรียมตัวกลับ เธอมีข้อมูลของเชฟดินอยู่บ้าง ผู้ชายคนนี้ไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้มากเกินไป “คุณจะไปพบน้องอันดาเมื่อไหร่ครับ” “ออกจากนี้ก็ไปโรงพยาบาลค่ะ คงไม่ทันเวลาเยี่ยมแต่จะฝากคุณแม่ของน้องไว้” “รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหลังร้าน และไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เดินออกมาพร้อมถุงขนมสองถุง “ถุงนี้ฝากให้น้องอันดา ถ้ากินไม่ได้ก็ให้คุณแม่หรือคนในครอบครัวก็ได้ครับ ส่วนถุงนี้ของคุณกับเพื่อน” “เกรงใจจัง” “คราวหน้ามาเวลาร้านเปิดนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ” เป็นเกรซที่พูดขึ้นแล้วรับถุงขนมทั้งสองถุงไว้ พลอยไพลินได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งแล้วขอตัวกลับ ระหว่างที่เดินมาที่รถยนต์ของตนก็อดหันไปมองที่ร้านขนมไม่ได้ “เชฟดินตัวจริงหล่อกว่าในช่องยูทูปเสียอีก” เกรซเปรยแล้วกระแซะไหล่เพื่อนเบาๆ “ชอบล่ะสิ” หญิงสาวได้แต่ยิ้มหน้าแดง แล้วตั้งใจว่าจะต้องกลับม
สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่12 ชายหนุ่มบรรจงแต่งหน้าเค้กด้วยแววตามุ่งมั่น ผู้ช่วยยืนมองอย่างชื่นชมในความสามารถ จนเมื่อหัสดินเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟหนุ่มคนนี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เป็นเชฟทำขนมหวาน ก็หวานตั้งแต่รอยยิ้มของเชฟแล้ว “เรียบร้อย หยิบมือถือให้หน่อย” หัสดินพูดแล้วยื่นมือไปรับรับสมาร์ทโฟนจากผู้ช่วยเชฟอีกคนที่ถือโทรศัพท์ให้เขา ชายหนุ่มรับมาแล้วถ่ายรูปหลายๆมุมก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วยื่นมือไปทางผู้ช่วยอีกคน “ขอมีดหน่อย” “นี่ค่ะ” ผู้ช่วยส่งมีดตัดเค้กให้ เชฟหนุ่มรับมือแล้วบรรจงตัดสี่ชิ้นแล้วหยิบมาวางบนจานเล็กเรียบหรูสีเข้มขับเน้นให้เนื้อเค้กสีครีมดูสวยน่ากินมากยิ่งขึ้น “ชิ้นนี้ของผม ที่เหลือพวกคุณช่วยกันชิม ชิมแล้วบอกด้วยว่าเป็นไง” “อร่อยสุดยอดค่ะ” พนักงานคนหนึ่งรีบพูดขึ้นสร้างเสียงหัวเราะในห้องครัว แต่หัสดินกลับส่ายหน้าระอาใจ อาจเพราะใบหน้าเขาอมยิ้มตลอดจึงเหมือนเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่า “ลิ้นยังไม่ได้สัมผัสเลย บอกอร่อยแล้วได้ไง”
สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่11 “แม่ไม่เห็นด้วย” “แต่...แพรรับปากผู้จัดการแล้วว่าจะไปทำงานนี่คะ” “ไม่ได้ แม่ไม่อนุญาต ทำงานกลางคืนอันตรายเกินไป แม่เป็นห่วง” แม่จ๋าหรือจริยาพูดน้ำจริงจัง “ที่นั้นเขารับรองลูกค้าชั้นสูง ต้องการคนพูดได้หลายภาษา ถ้าทำงานดีผ่านช่วงทดลองงานก็จะได้ทำแบบประจำมีเงินเดือนด้วยนะคะแม่จ๋า” “ลูกแพรก็อดใจรออีกหน่อยสิลูก หนูสมัครไปตั้งหลายที มันต้องสักทีสิ” คุณจริยาพูดด้วยความหงุดหงิด มือที่กำลังซ่อมเสื้อให้ลูกค้าถึงกับสั่นจนลูกสาวสังเกตเห็น แพรดาวปราดเข้าไปหาแล้วยื่นมือไปจับมือที่หยาบกร้านของแม่ไว้ “แม่จ๋า แพรโตแล้วเรียนจบแล้ว แพรไม่อยากเป็นภาระให้แม่ งานสมัยนี้หายากเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ให้แพรไปทำงานเถอะนะ” “ใช่สิ แพรโตแล้ว แม่ห้ามอะไรก็ไม่ฟังแล้ว” “ไม่ใช่แบบนั้น แพรไม่อยากให้แม่จ๋าลำบาก ตั้งแต่จำความได้แม่จ๋าไม่เคยสุขสบายเลย ต้องทำงานหนักเลี้ยงแพรคนเดียว ขนาดแม่ประสบอุบัติจนเป็นแบบนี้ก็ยังไม่ได้หยุดเลย แม่จ๋าจะให้แพรใช้ชีวิตทีความสุขได้ยังไง” “โธ่ลูก” แม่พูด