“แฮก ๆ อา อึก”
ในที่สุดก็ทำสำเร็จแต่เล่นเอาหนุ่มน้อยแทบแย่ เมื่อกี้เขาเกือบขาดอากาศหายใจ
ตอนนี้ทั้งร่างของเด็กหนุ่มร้อนเหมือนมีเปลวไฟจากข้างใน ราวกับไม่ว่าของเหลวรสรุนแรงไหลไปถึงไหนก็แผดเผาส่วนนั้นจนร้อนผ่าว
ขวดเปล่ากลิ้งไปตามพื้น เด็กหนุ่มลงไปคลานสี่เท้าเพราะมึนหัววาบ น้ำลายผสมเหล้าบางส่วนไหลออกจากปากเด็กหนุ่มหยดลงพรม แม้แต่สมองเองก็เหมือนถูกต้มจนเดือด หัวใจเต้นแรงแทบหลุดจากอก
“โอ๊ะ ดูสิ เสื้อเปียกเหล้าด้วย งั้นถอดออกดีกว่า” ไม่รู้ใครในนั้นรูดเสื้อยืดสีดำที่เปียกเหล้าจริง ๆ ออกทางศีรษะของเด็กหนุ่ม เขาไร้สติและเรี่ยวแรง จึงยกแขนขึ้นอย่างยอมจำนน
ทันทีที่เหล่าอัลฟ่าเห็นร่างเปลือยขาวโพลน ลูกกระเดือกแต่ละคนก็ขยับรัว ๆ ทีเดียว
‘แม่งหุ่นโคตรซี้ดเลย รับในอุดมคตินิ ผอมลีน ขาวเนียนมีไรขนบาง ๆ กำลังดี หัวนมก็น่าเลียฉิบหาย’ พวกรุกต่างคนต่างคิดคล้าย ๆ กัน
คนตัวเล็กหัวมึนตึ้บเหมือนมีค้อนเคาะเบา ๆ จากข้างใน เนื่องจากดื่มเหล้ามากไปในรวดเดียว และอีกไม่กี่วินาทีต่อมาแอลกอฮอล์ส่งผลต่ออาการฮีทโดยตรง เด็กหนุ่มเปลี่ยนท่ามาอยู่ในท่านั่งพับเพียบ เอามือกุมเป้ากางเกง ลำตัวเอนไปมา ส่งเสียงโอดครวญ
“โอย อื้อ อ๊าก”
“คงเจ็บตรงนั้นมากสินะเด็กน้อย” เฟย์พูดอย่างผู้รู้ถึงธรรมชาติของโอเมก้าตอนติดฮีทดี แค่ได้กลิ่นอัลฟ่าคนเดียวยังแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ นับประสาอะไรกับสามคน เด็กคนนี้ต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ และทางเดียวที่พอจะช่วยได้นั่นก็คือการปลดเปลื้อง
“พร้อมแล้วสินะ” สามหนุ่มรำพึงคล้าย ๆ กัน ขณะย่างสามขุมล้อมเข้ามาโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างคนต่างแปลกใจที่จากตอนแรกตั้งใจจะจับเด็กตัวร้ายมาข่มขู่ให้เผยความจริง แต่ลงเอยกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
คิงใช้สิทธิ์คนแรก เนื่องจากเขายังไม่ได้เก็บดุ้นเนื้อเข้าที่ตั้งแต่ก่อนหน้า จึงส่งแก่นกายที่แข็งขึง ส่วนหัวเป็นมันแผล็บมีน้ำหล่อลื่นของอัลฟ่าไหลเป็นทาง เข้ามาที่ใบหน้าของเหยื่อตัวเล็กที่มีสภาพยุ่งเหยิง แดงก่ำร้อนผ่าวไปทั้งตัว
ส่วนเฟย์กับดอมจับหลังคอกับศีรษะเล็ก ๆ ของโอเมก้าที่คอตกให้ยืดลำคอขึ้น
แล้วเด็กหนุ่มก็ยอมกลืนกินดุ้นเนื้อให้คิงอย่างหิวโหย
“อ๊า ฉิบหาย แม่งอมโคตรเก่ง โอย อ๊า” คิงถึงกับครางไม่เป็นภาษา
+++++
“ไหน ๆ ขอกูบ้างสิ” เฟย์เอ่ยเพราะอยากลองเป็นคนต่อไป ดอมเลยจับหลังศีรษะ แล้วก็โยกของเด็กหนุ่มไปยังดุ้นเนื้อเขื่องของเฟย์ที่ยื่นรอ ทายาทโรงงานยาหม่องรูดกางเกงลงไปที่หัวเข่ารอท่า
ดอมแสยะยิ้มแล้วจิกผมเด็กหนุ่ม ก่อนออกคำสั่ง “มึงอมให้เพื่อนกูลึก ๆ สิ!”
เด็กหนุ่มยอมจำนน เปลี่ยนทิศมายังอีกคนที่ต่อคิวรอ เล็บมือของเด็กหนุ่มจิกเข้าไปในเนื้อก้นของหนุ่มใหญ่มาดเนี้ยบตอนดุ้นเสือกพรวดเข้าโพรงปาก
ผล็อบ
ส่วนคนถูกทำตาเหลือก เป่าลมออกปากไม่หยุดเหมือนกินของเผ็ด
“กูบอกมึงแล้ว” คิงพูดไปเอานิ้วลูบปากตัวเองไปด้วยเพราะความรู้สึกดียังติดพัน
“โอ๊ะ แม่งกูเข้าใจแล้ว โคตรดีเลย โอย ซี้ด”
เฟย์เคยถูกทำรักด้วยปากทั้งจากผู้ชายและผู้หญิง แต่ไม่เคยมีโพรงปากไหนให้ความรู้สึกดีอย่างเด็กคนนี้ นั่นเป็นเพราะอะไร
อีกครู่เดียวเฟย์ก็กรีดร้องซี้ดเสียวดังลั่น เมื่อดอมกดหลังศีรษะเด็กคนนั้นไว้ให้ส่วนหัวดุ้นของเฟย์แทรกเข้าไปถูกหลังลำคออันอ่อนนุ่มลื่นเป็นเมือก
“อุก ๆ คร่อก” เด็กหนุ่มตาเหลือก
ส่วนคนถูกทำกัดปาก เปลือกตาบีบแน่นเห็นรอยย่น “โอ๊ย! เสียวโคตร”
ดอมค้างมือไว้จนพอใจ แต่ก็ยอมปล่อยเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มดูเหมือนทนต่อไม่ไหว พอได้พักหายใจเขาก็ขยับข้อมือให้ศีรษะกระแทกเข้าออกกับดุ้นของเพื่อนต่อ
หนุ่มรอยสักแม้จะดูเป็นหนุ่มโหดร้ายแต่ที่จริงเป็นคนชอบอำนวยความสะดวกให้เพื่อนฝูง
“อุก ๆ ขลุก ๆ” เหยื่อที่ต้องทำรักด้วยปากให้ผู้ชายหลายคนน้ำตาไหลเป็นทาง เขาทำท่าเหมือนจะสำลัก ดอมยอมดึงใบหน้าเล็ก ๆ ออก น้ำลายยืดเป็นสายกระเซ็นออกมา
เด็กหนุ่มไอแคก ๆ “ได้โปรด...ขอผมหยุดพัก” แล้วน้ำลายก็ไหลเป็นสายลงไปเปื้อนหน้าอกขาวนวลเนียนอย่างน่าสังเวช
แต่ดอมผู้โหดร้ายใช้มือหนึ่งจิกผมเหยื่อ อีกมือยึดที่คางไว้ เขาก้มหน้าลงมาเกือบถึงยอดใบหู
“ทำไมมึงไม่กลืนน้ำลายที่อมดุ้นให้พวกกูลงไป เห็นไหมว่ามันหกเลอะพื้นหมดแล้ว!”
“อึก...ผม…ขอโทษ” เด็กหนุ่มพูดช้าเพราะสติเหลือไม่ถึงครึ่ง
“รังเกียจกูขนาดนั้นเลย!” ดอมยังราวีไม่เลิก
เด็กหนุ่มส่ายหน้า แล้วเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง ทำหน้าย่นยู่น่าสงสาร ริมฝีปากสีแดงสดชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย พื้นที่เหนือคิ้วกับจมูกเป็นสีแดง เหมือนคนกำลังจะร้องไห้
เฟย์กับคิงมองภาพที่เห็นอย่างตื่นตะลึง สมองคิดสิ่งที่ไม่ต่างกันเท่าใดนัก พอถึงตรงนี้พวกเขาเกิดเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้ขึ้นมาซะแล้ว
‘ก็โอเมก้าคนนี้แม่งโคตรน่ารักน่าใคร่จริง ๆ ดูแก้มชมพู ปากแดง ๆ นั่นสิ แค่อมให้ไม่น่าพอ เราอยากทำมากกว่านี้…’
สองหนุ่มยืนแยกขาออกโดยอัตโนมัติ เชิดหน้าสูง นิ้วมือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกับแก่นกายของตัวเอง แทบได้ยินเป็นเสียง ‘ชัก ๆ’
จินตนาการในสมองของทั้งเฟย์และคิงบรรเจิด แน่นอนว่าเป็นในเรื่องที่ใกล้เคียงกัน
ดอมเห็นภาพของเด็กนั่นเช่นกัน กับการได้สูดกลิ่นเย้ายวนจากโอเมก้าที่อยู่ใกล้ชิดเหลือเกิน เขาเลยยั้งตัวเองไม่ไหว ก้มหน้างับยอดหู ขบเบา ๆ ตรงนั้นหลายครั้ง
“อ๊า” เด็กหนุ่มคราง
แล้วจมูกโด่ง ๆ ของหนุ่มรอยสักก็ไล่สูดกลิ่นจากผิวจากใบหู ไปตามลำคอ กลิ่นฟีโรโมนกระแทกเข้าฆานประสาทเต็มรัก
ดอมอ้าปาก คำรามเบา ๆ แล้วแยกเขี้ยว เส้นเอ็นตรงผิวลำคอที่มีรอยสักสวยเกร็งขมึง
“อา อ๊า ได้โปรดเหอะพวกพี่…” เด็กหนุ่มเรียกร้องความสงสาร แต่ในฉับพลันเขาก็เบิ่งตากว้างอย่างคาดไม่ถึง เพราะแสบจี๊ดขึ้นมาที่ผิว
เขี้ยวของอัลฟ่าหนุ่มมีรอยสักครูดเนื้อจนเลือดซิบ
“โอ๊ะ พี่อย่าทำผม อย่า…” เด็กหนุ่มไม่ได้เจ็บแต่การถูกอัลฟ่าทำแบบนี้กับโอเมก้าอย่างเขาย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ในตอนนั้นหนุ่มร้ายรอยสักถึงรู้สึกตัว เขาเริ่มกะพริบตาถี่ ๆ
‘อะไรวะเนี่ยกู ฟีโรโมนเด็กคนนี้ทำกูคลั่งไม่ได้สติขนาดนี้เลยเหรอ’
หนุ่มร้ายหุ้นส่วนของผับแห่งนี้อ้าปากค้าง แล้วก็ทำในสิ่งที่เหลือเชื่อ เขาก้มหน้าลงไปอีกครั้ง มือข้างหนึ่งดึงผมเด็กหนุ่ม มืออีกข้างกดที่ข้างลำคอ
แล้วแลบลิ้นออกมาเลียเลือดของเด็กคนนั้นตวัดเข้าปาก ท่ามกลางสายตาไม่อยากเชื่อของเพื่อนอีกสองคน
“ท่านหงให้พวกเราทุกคนฝังไมโครชิปที่หลังมือ” ดอมเฉลยพร้อมกับยกหลังมือให้เห็น ผิวตรงนั้นมีจุดแดงจาง ๆ เหมือนตุ่มมดกัด“หา? นั่นหมายถึง...” เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างพิศวง“ท่านหงบอกว่าถ้าพวกเราอยากมาเจอหลิน ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายินดีเสียสละเพื่อหลิน ลูกชายคนสุดท้ายของเขาจริง ๆ” ดอมเริ่ม“การฝังชิปเปรียบเหมือนการยอมให้เขาติดตามตัวเราได้ตลอดชีวิต ท่านหงบอกว่า วันใดที่พวกเราทำให้หลินเสียใจ ถ้ามีชิปนี้อยู่ที่ตัว ไม่ว่าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน เขาก็จะให้คนออกตามล่าพวกเราจนได้” เฟย์เสริม“และชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝังลงไปได้อย่างเดียว เอาออกมาไม่ได้ ถ้าพยายามเอาออก มันจะระเบิด” คิงอธิบายแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเด็กหนุ่มเอามือปิดปาก แววตาเบิกโพลง “นั่นไง ผมกะแล้วว่าคนอย่างพ่อผมไม่มีทางให้อะไรใครฟรี ๆ แน่ แล้วพวกพี่ยอมได้ยังไง มันคือทั้งชีวิตของพวกพี่เลยนะ!”ดอมผู้มั่นใจยักไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ ยังไงเราก็ไม่คิดจะทิ้งหลินไปไหนอยู่แล้ว”
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่