LOGINชาติก่อนบอดี้การ์ดตายเพราะโรคระบาด แต่เขากลับทะลุมาอยู่ร่างลูกชายตัวละครลับในนิยาย ‘นักล่าสาปบาป’ ไปๆ มาๆ ก็เจอกับพระเอก หรือฮันเตอร์หนุ่มผู้ได้ฉายาว่า ‘นักล่าเสพติดภูต’ ความรักเป็นไงไม่ทราบ แต่ความปากแข็งกวนส้นพระเอกน่ะรับประกันว่าไม่สมควรอายุยืนเลยสักนิด! ไม่ต้องห่วง ผมจะโชว์เหนือให้ไอ้หมอนี้หน้าหงายเอง!
View Moreเดิมทีโลกใบนี้มีสัตว์อยู่สองประเภท อันได้แก่ สัตว์นักล่าและเหยื่ออย่างสัตว์กินพืช หลายครั้งมนุษย์อาจคิดทะนงว่าตนคือ ‘นักล่า’ ที่เป็นที่สุดเหนือกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกทั้งใบ เพราะมีอารยธรรมกับความฉลาดที่ส่งต่อกันมา มันก็ใช่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่
เพราะในบางครั้งมนุษย์กลับเป็นแค่ ‘เหยื่อ’ ที่รู้จักวิธีปกป้องตัวเองเท่านั้น ไม่ได้วิเศษวิโสและไม่ได้ต่ำต้อย
แต่กับมนุษย์บางคนที่ผ่านการต่อสู้มานาน
วันหนึ่งก็ก้าวข้ามเป็น ‘นักล่าฉกาจ’ ได้เช่นกัน
“เดิมพัน 50 กิลครับ”
ชายหนุ่มในเครื่องแบบฮันเตอร์นามว่า ‘บิทเทอ โลฮาส’ นั่งตรงข้ามหญิงวัยกลางคน ภายในห้องกว้างที่มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟข้างโต๊ะกับเชิงเทียน ตั้งตามมุมต่างๆ ความสว่างเหล่านั้นสร้างบรรยากาศอบอุ่น แต่ขณะเดียวกันเงามืดก็ทำให้บางจุดแลดูน่ากลัว
ท่ามกลางพื้นที่อบอวลกลิ่นอายสงบยามดึกนี้ ปรากฏเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าใสทอดมองรอรับคำตอบจากคู่สนทนา
“เดิมพันสูงเหมือนเดิมเลย ไม่กลัวตายเหรอ?”
เสียงโทนต่ำตอบกลับพลางหัวเราะในลำคอ หญิงคนนี้คือ ‘ยานรัม ฮิลล์’ ทำหน้าที่บันทึกภารกิจฮันเตอร์ที่เข้ามารับงานต่างๆ ทางด้านบิทเทอได้ยินเช่นนั้น พลันเสสายตามองหน้าต่างบานกว้างด้วยท่าทีเฉยเมย จากนั้นตอบเสียงเฉื่อยหน่าย
“ไม่กลัว”
“ปล่อยวางเรื่องล่าฆ่าฟันไม่ได้เลยล่ะสิ”
“คงอย่างงั้นครับ”
ในสายตาที่มองออกนอกหน้าต่างนั้น มีสิ่งหนึ่งกำลังปรากฏ นั่นคือความต้องการชายคนนี้ที่มักโหยหามันเสมอ โหยหาเสียจนบางครั้งก็แอบพิกลใจตนเอง
“ยังหนุ่มยังแน่นอย่างนายเนี่ย ถึงไม่ตายง่ายๆ ก็ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี”
เธอยิ้มกว้างพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจเบา ในฐานะผู้รับรู้กิจวัตร ฮันเตอร์คนนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ยากที่จะเดาออกว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป บิทเทอยกมุมปากส่งให้ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจเป็นเพราะอำนาจแสงที่ไม่มากพอ ทำให้ยานรัมไม่เห็นชัดว่าเขาเผยรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกแบบไหน
“งั้นขอตัวก่อน”
ร่างโปร่งในชุดดำไม่คอยท่า กล่าวลาคนตรงหน้าหวังดำเนิน ‘กิจวัตร’ ต่อ
“โชคดีล่ะ คุณฮันเตอร์”
เธออวยพรพร้อมเท้าคางส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง จนเมื่อเขาก้าวออกจากสำนักงานก็ตรงไปยังอีกสถานที่หนึ่งทันที โดยตั้งเป้าหมายยึดมั่นเอาไว้ในอก เท้าย่างเดินบนพื้นอิฐผ่านบ้านเมืองที่มีแสงเพลิงส่องจากเสาไฟข้างทาง หรือไม่ก็จำพวกตะเกียงห้อยตามหน้าบ้านเป็นหย่อมๆ
มีสิ่งหนึ่งที่เขาตามหามาตลอด แต่เขาก็อธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร เขาไม่เคยคิดจะล้มเลิกแม้ไม่เข้าใจการกระทำตน กลับรู้สึกกระชุ่มกระชวยทุกครั้งที่เห็นความตายอยู่ตรงหน้า ราวกับว่าบางสิ่งทำให้หัวใจอบอุ่นอีกครั้ง เหมือนมันกำลังกลับมา
แต่สุดท้ายมันก็อยู่ได้ไม่นาน
อยากมาก อยากได้อีก
ขอมันได้ไหม? ขอเข่นฆ่าเดรัจฉานพวกนั้น
ใบหน้าคมคายผิวขาวกระจ่าง ดวงตาสีฟ้ามองตรงไปตามทางเดินแคบ เส้นผมบลอนด์ขาวสั่นไหวตามแรงลมพัดผ่าน จากสีหน้าเรียบนิ่งยากจะคาดเดาก็ผันเปลี่ยนไป มุมปากปรากฏรอยยิ้มอ่อนหลังจากที่ครุ่นคิดในหัวตัวเองมานานพักใหญ่
“ขอให้ครั้งนี้ไม่น่าผิดหวังแล้วกัน”
‘ทำไมฉันต้องมาตามคนหัวแข็งนั่นเวล่ำเวลาแบบนี้ด้วยเนี่ย~’
ชายร่างสูงผมยาวดำผู้เป็นเจ้าของความคิดเดินไปตามซอยเปลี่ยว เพราะด้วยเวลาที่เข้าสู่ยามวิกาลจึงมีชาวเมืองไม่กี่คนสัญจรผ่าน เขาชะงักฝีเท้าก่อนเปลี่ยนทางกะทันหัน แต่ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดเข้าโสตประสาท ด้วยความสงสัยจึงเลี้ยวเดินเข้าไปในตรอกเล็กระหว่างซอยทันที
‘เสียงร้อง?’
ในใจของเขามีเพียงคำถามหนึ่งเดียว สายตายังคงมองตามทางด้านหน้าอย่างสงสัย มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋าเพราะอากาศที่หนาวเย็น ดวงตาหรี่เพ่งมองผนวกกับคิ้วเรียวเริ่มขมวดเป็นปม
ฉึก ...แผละ
เพียงแค่เสียงก็ทำใจร่วงไปถึงตาตุ่มได้ เหมือนบางอย่างกำลังต่อสู้ตรงหัวมุมตรอกอย่างหิวกระหาย สองเท้าหยุดลงที่ทางแยก สายตามองไปยังกำแพงเบื้องหน้ามีเงาไหววูบไปมา ไม่นานร่างสูงก็เลือกจะเบียดตัวเองขนาบกลืนไปกับกำแพงเพื่อชำเลืองมองสถานการณ์อยู่ห่างๆ แทน
สิ่งแรกที่แสดงตรงหน้าคือชายสวมชุดดำคลุมยาวถึงเข่าพุ่งโจมตีบางอย่างไม่ปรานี มือขวาถือครองดาบยาวตวัดหวดฟาดฟันต่อเนื่อง เสียงโลหะคมปะทะกันพักหนึ่ง ก่อนฮันเตอร์หนุ่มจะปัดป้องอาวุธศัตรูตัวสูงผิดธรรมชาติ พอได้จังหวะก็กะซวกกลางท้องงัดขึ้นจนโลหิตทะลักมหาศาล
‘เห็นกี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่าหมอนี่มันบ้าเลือดชะมัด’
‘แต่…ช่างเถอะ นั่นก็เป็นนิสัยที่ฉันสนใจด้วยสิ~’
ครั้นศัตรูสิ้นฤทธิ์จึงดึงดาบออก ร่างสัตว์ประหลาดแทบไม่ต่างจากมนุษย์ล้มลงไปกองกับพื้นอิฐ ไม่นานโลหิตก็ไหลนองเป็นแอ่งกว้างส่งกลิ่นเน่า โดยคนสังหารคือ บิทเทอ โลฮาส
“ไม่เมื่อยรึไง”
เสียงเข้มของฮันเตอร์หนุ่มกล่าวถาม ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าเรียวชำเลืองชมเชยผลงานตน
“มองตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่เมื่อยรึไง แกน่ะ...”
ชายผมยาวดำที่แอบลอบมองอยู่สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายซึ่งเพิ่งต่อสู้เสร็จกลับรับรู้ตัวตนเขาได้เร็วจนน่าประหลาด “แสดงตัออกมา” โทนเสียงเยือกเย็นนั้นทำเอาคนถูกจับได้แอบใจหวิว เพราะดูจากสภาพแล้วก็อดกังวลไม่ได้ว่าคนที่เพิ่งจัดการสัตว์ประหลาดจะหันมาเชือดเขาทิ้งด้วยไหมหนอ
“...”
เขาก้าวออกมาจากมุมกำแพงช้าๆ มือทั้งสองดึงออกจากกระเป๋าเสื้อ ยกขึ้นไพล่ไว้หลังศีรษะ ท่าทางปราศจากความยำเกรง รวมถึงใบหน้ายังคงเรียบนิ่งเช่นเดิม
‘ตื่นเต้นชะมัด โดนจับได้แล้ววุ้ย~’
“มีเหตุอะไรที่มายุ่มย่ามย่านนี้”
ฮันเตอร์กล่าวพลางเลื่อนสายตามองชายนิ่งเงียบ “คุณใช่ไหม?” ก่อนอีกฝ่ายจะเริ่มปริปากพูดพร้อมทั้งรอยยิ้มแฝงเล่ห์เหลี่ยม
“?”
บิทเทอขานในลำคออย่างสงสัย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพึงพอใจต่อปฏิกิริยาเขาแล้ว ฮันเตอร์กลับยิ่งสงสัยกว่าเก่าในการมีตัวตนของชายแปลกหน้าคนนี้ “นักล่าเสพติดภูต” ฉายาเจ้าของผมบลอนด์ขาวถูกเอ่ยออกมา เขายังคงท่าทีเรียบนิ่งก่อนจะหรี่ตามองพร้อมคาดคั้นคนตรงหน้า
“แกเป็นใคร”
ในทีแรกนักล่าแสนดุดันอาบกลิ่นคาวเลือดแลดูไม่สนใจเขาเท่าไรนัก แต่ตอนนี้สายตาสีฟ้าคู่นั้นไม่อาจละจากหนุ่มผมยาวดำคนนี้ได้เลย ไหนจะรอยยิ้มที่แม้มีเสน่ห์สำหรับใครทั้งหลาย แต่ในสายตานักล่าอย่างเขาแล้ว มันคือคนปลิ้นปล้อนไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย
‘ชักตื่นเต้นแล้วสิ~’
ชายผมยาวคิดแล้วเอ่ยต่อ “นักล่าชื่อดังอย่างคุณ ทำไมผมจะไม่รู้จักล่ะ”
“ต้องการอะไร”
“คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร จำไม่ได้เหรอ? เราเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเองนะ” ฮันเตอร์ชายเอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ เขาถอนหายใจพร้อมหันหลังเดินออกไปอย่างไม่แยแส คนยกมือไพล่ไว้หลังหัวมองเก้อแล้วเรียกไว้ทันที
“เดี๋ยวสิ!”
“อะไรอีก ถ้าไม่มีธุระก็อย่ามาเซ้าซี้”
“จำฉันไม่ได้จริงเหรอ?”
“จำอะไร? ฉันไม่เคยรู้จักคนแบบนาย”
‘ไอ้เวรนี้ ยังจะมาเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน้าตาเฉยอีก’
“อา...ช่างเถอะ” ชายหนุ่มผมยาวดำลดมือลงจัดการตัดบทซะเอง นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องมองคนเป็นฮันเตอร์อย่างมีเลศนัย แต่เมื่อบิทเทอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่กล่าวอะไรต่อก็หันหลังเดินออกห่างไปเช่นเดิม
‘ก็พอรู้หรอกว่าไอ้เวรนี่กะเมินฉันลูกเดียว แต่แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ? ถึงขั้นทำเป็นไม่เคยเห็นหน้ากันเลยเนี่ยนะ แม่ง...กวนใจชะมัด’
“เฮ้!”
บิทเทอเดินออกไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกเรียกไว้อีกครั้ง ฮันเตอร์หนุ่มพรูลมหายใจก่อนเหลียวกลับไปมอง ก็เห็นอีกคนยืนส่งยิ้มค้างพร้อมกับชูนิ้วกลางให้อย่างโจ่งแจ้ง
‘พระเอกก็พระเอกเถอะ! ช่วยกวนตีนให้มันน้อยๆ หน่อยดิ๊!’
‘รู้อะไรไหม? ทั้งสองชีวิตนี้คนที่ผมเคยง้อมีแค่สามคน พี่ชายและแฟนเก่า ส่วนคนที่สามน่ะเหรอ?’‘ใช่ มันคือไอ้พระเอกเวรนี่ไงล่ะ!’“คุณโลฮาส ผมเอาแซนด์วิชมาให้”คาเลนว่าแล้วโยนแซนด์วิชห่อด้วยซองน้ำตาลให้ บิทเทอยกมือขึ้นรับของอัตโนมัติ มองอาหารพกง่ายกินเร็วในมือสลับกับหนุ่มผมยาวดำซึ่งยังคงส่งยิ้มมาเหมือนเดิม ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ในตรอกเดิมที่เจอกันครั้งแรก ช่วงนี้คาเลนมักจะแวะเวียนมาหาฮันเตอร์หนุ่มบ่อยๆ จึงไม่ยากที่จะจำเส้นทางและเขตที่อยู่ในความดูแลของคุณพระเอกได้“...”‘ว่าแต่ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอวะ?’เมื่อเห็นบิทเทอเงียบไป คาเลนก็อดไม่ได้ที่ตั้งคำถาม ทั้งสองจ้องหน้ากันพักหนึ่งโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร แต่บรรยากาศมันก็ไม่ได้น่าอึดอัดเพราะรอยยิ้มพิมพ์ใจสุดกวนของคาเลน“ไม่ใช่ว่าฉันปฏิเสธไปชัดแล้วเหรอ?”ฮันเตอร์หนุ่มแกะซองแซนด์วิชออกแล้วกินเข้าไปทันที ปกติเขาคงไม่รับของกินจากคนแปลกหน้า แต่เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คาเลนเอาของต่างๆ มาให้เลยหยวนได้ เพราะหากย้อนไปวันก่อนหน้า สิ่งที่ฮันเตอร์หนุ่มได้รับนั้นมีตั้งแต่ตุ๊กตา เครื่องประดับ ลูกกวาด ดอกไม้ หรืออะไรต่อมิอะไรที่ประหลาดๆประหลาดท
‘แรกเริ่มเดิมที ผมไม่ใช่สตอล์กเกอร์ตามติดชีวิตพระเอกในนิยายหรอก ไม่ใช่และไม่มีทางเป็นพวกน่าขนลุกแบบนั้นด้วย แต่จุดเริ่มต้นมาจากตรงนี้ต่างหาก...’“สวัสดีครับ~ สวัสดีทุกคน~”เด็กหนุ่มคนหนึ่งสวมโค้ทน้ำตาลยาวกล่าวทักทายอย่างแจ่มใส เขาส่งยิ้มให้กับกล้องจำนวนมากไม่ต่างจากพวกดารานักแสดง มือข้างหนึ่งยกขึ้นโบกให้เหล่าแฟนคลับที่มายืนรอตามทางกั้น โดยรอบๆ ตัวเขาต่างมีชายสวมชุดสูทดำเดินคุ้มกันให้แน่นอนว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญอย่างลูกทนายความ และเป็นคนดังในโลกโซเชียลอีกต่างหาก บางทีอาจเป็นเพราะด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา หรือไม่ก็เพราะความอัธยาศัยดีเลยได้ชื่อเสียงกับแรงอวยมหาศาล“เฮ้ย! ไอ้หมอนั่นลอดเข้าไป!”สตาฟตะโกนขึ้นเมื่อมีคนหลุดไปตรงทางเดิน ชายสวมฮู้ดซึ่งลอดเข้ามาถือมีดตรงไปหวังแทงปลิดชีวิตเป้าหมาย แต่ชั่วขณะชายสูทดำที่คุ้มกันหลังก็หันกลับไปจับข้อมือไว้ได้ทัน แล้วยกเท้ายันเข่าจนคนปองร้ายล้มลงกองกับพื้น“เกือบไปแล้วเชียว”เขาถอนหายใจพูดด้วยท่าทางเอือมระอา‘ก่อนหน้าจะมาถึงจุดนี้ ผมไม่ใช่คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้มาแต่แรก แต่เป็นโลกยุคปัจจุบัน 20XX ผมก็แค่ชายโสดอายุ 32 ปี ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ไอ้ลูกคุณหนูบ้า
เดิมทีโลกใบนี้มีสัตว์อยู่สองประเภท อันได้แก่ สัตว์นักล่าและเหยื่ออย่างสัตว์กินพืช หลายครั้งมนุษย์อาจคิดทะนงว่าตนคือ ‘นักล่า’ ที่เป็นที่สุดเหนือกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกทั้งใบ เพราะมีอารยธรรมกับความฉลาดที่ส่งต่อกันมา มันก็ใช่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เพราะในบางครั้งมนุษย์กลับเป็นแค่ ‘เหยื่อ’ ที่รู้จักวิธีปกป้องตัวเองเท่านั้น ไม่ได้วิเศษวิโสและไม่ได้ต่ำต้อยแต่กับมนุษย์บางคนที่ผ่านการต่อสู้มานานวันหนึ่งก็ก้าวข้ามเป็น ‘นักล่าฉกาจ’ ได้เช่นกัน“เดิมพัน 50 กิลครับ”ชายหนุ่มในเครื่องแบบฮันเตอร์นามว่า ‘บิทเทอ โลฮาส’ นั่งตรงข้ามหญิงวัยกลางคน ภายในห้องกว้างที่มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟข้างโต๊ะกับเชิงเทียน ตั้งตามมุมต่างๆ ความสว่างเหล่านั้นสร้างบรรยากาศอบอุ่น แต่ขณะเดียวกันเงามืดก็ทำให้บางจุดแลดูน่ากลัวท่ามกลางพื้นที่อบอวลกลิ่นอายสงบยามดึกนี้ ปรากฏเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าใสทอดมองรอรับคำตอบจากคู่สนทนา“เดิมพันสูงเหมือนเดิมเลย ไม่กลัวตายเหรอ?”เสียงโทนต่ำตอบกลับพลางหัวเราะในลำคอ หญิงคนนี้คือ ‘ยานรัม ฮิลล์’ ทำหน้าที่บันทึกภารกิจฮันเตอร์ที่เข้ามารับงานต่างๆ ทางด้านบิทเทอได้ยินเช่นนั้น พลันเสสายตามองหน้าต่างบ
Comments