ฉันวิ่งผ่านเส้นทางหินอ่อนที่กลายเป็นรอยแตกและเปราะด้วยน้ำแข็ง เสียงต่อสู้ดังขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุด... ฉันก็เห็นมัน
ร่องรอยเลือดสีเงินไหลเป็นทางบนหิมะขาว — เหมือนเส้นด้ายชะตาที่ชี้นำหัวใจฉันไปยังเขา เมื่อก้าวพ้นแนวหิน ภาพที่ปรากฎตรงลานกว้างตรงหน้า… ทำให้ฉันถึงกับเกือบหยุดหายใจ
เขาอยู่ที่นั่น
หลงอวิ๋น… ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่านักล่ามังกร
เลือดสีเงินไหลจากแขนซ้ายของเขา แต่รอบกายกลับเต็มไปด้วยศพ — ร่างในชุดผ้าคลุมสีดำที่ร่วงหล่นดั่งใบไม้ต้องพายุ
แต่ละก้าวของเขา... เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและความตาย
“มังกรเงาหิมะ! วันนี้เราจะเอาหัวใจน้ำแข็งของเจ้าไปมอบให้กับราชินีแห่งความมืด!”
เสียงของชายในผ้าคลุมแดงตะโกนก้อง ดวงตาของเขาแดงฉานเหมือนสัตว์คลั่ง
ทันใดนั้น หลงอวิ๋นก็เงยหน้าขึ้น ราวกับรับรู้ว่าฉันมาปรากฎตัวที่นี่… ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาเบิกกว้าง ความตกใจและโกรธเกรี้ยวผสมกันในพริบตาเดียว
“เจ้า! ทำไมถึงออกมาได้!”
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบ…
ห
เช้าตรู่…แสงแรกของวันค่อยๆ สาดผ่านผลึกน้ำแข็งบนหน้าต่าง กลายเป็นลำแสงสีเงินที่ระยิบระยับราวกับหยาดน้ำค้างต้องแสงจันทร์ฉันรู้สึกตัวในอ้อมกอดของเขา — องค์ชายหลงอวิ๋นความเย็นจากร่างกายของเขายังแผ่ซ่าน… แต่กลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาดมันเป็นไอเย็นที่โอบอ้อม ไม่ได้กัดกร่อน เหมือนอ้อมแขนของหิมะที่เรียนรู้จะอ่อนโยนฉันขยับตัวเบาๆ พลางรู้สึกถึงบางอย่างบนผิว —เป็นลวดลายบางๆ เรืองแสงสีเงินจาง ลากผ่านข้อมือ หน้าอก และไหล่ของฉัน... และของเขา มันดูเหมือนรอยสักโปร่งแสงที่มีชีวิต“นี่มัน…”ฉันยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงลมหายใจเบาๆ ดังขึ้นข้างใบหู ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าใสดุจน้ำแข็งจะเปิดขึ้นสายตาคู่นั้น... ต่างจากทุกครั้ง — มันไม่เย็นชา ไม่ห่างเหิน แต่กลับอ่อนโยนจนน่าใจหายเขายกนิ้วแตะลวดลายบนผิวฉันแผ่วเบา“พันธะวิญญาณ…” เขากระซิบ“…ดูเหมือนว่าเจ้า... จะผูกพันกับข้าแล้ว”คำพูดของเขาทำให้หัวใจฉันเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผลแต่
Part 1 — เสียงกระซิบของแม่... และสีเงินของดวงจันทร์ฉันชื่อ เอลาเรีย เวลเลนไฮม์ — เด็กหญิงที่เกิดในคืนพระจันทร์กลมโตส่องแสงสีเงินเยือกเย็นเหนือผืนป่าคืนที่ต้นไม้เงียบงัน ไฟในเตาผิงส่องประกายสีส้มอุ่นในบ้านไม้เก่า เสียงแมวตัวหนึ่งร้องเบา ๆ ใต้หน้าต่าง ขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยิ้มละไมอุ้มทารกแรกเกิดแนบอก — นั่นคือฉันแม่ของฉันชื่อ ซาราฟีน่า เวลเลนไฮม์เธอเป็นแม่มดยิปซีรุ่นสุดท้ายของสายเลือดโบราณที่เชื่อมโยงกับจันทราและโชคชะตาแม่เล่าว่า ฉันเกิดมาพร้อมเส้นผมสีเงินแวววาวดุจใยจันทร์ ดวงตาเป็นสีม่วงจางราวหมอกเช้าบนภูเขา พลังบางอย่างในตัวฉันทำให้แสงตะเกียงกะพริบวูบไหว ทั้งที่ไม่มีลมเลยสักนิด...ตั้งแต่ยังพูดไม่ได้ แม่ก็เริ่มสอนฉัน — ด้วยเสียงเพลงโบราณที่สอดแทรกคาถา ด้วยลมหายใจที่พร่ำกระซิบว่า...“จงจำไว้ เอลาเรีย... คาถาคือจังหวะของหัวใจ คำคือทางผ่านของวิญญาณ และดวงจันทร์...คือสายใยที่เชื่อมทุกอย่าง”แน่นอนว่า ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดในวัยเด็ก ฉันเป็นแค่เด็กหญิงคนหนึ่งที่ดู &
ฉันวิ่งผ่านเส้นทางหินอ่อนที่กลายเป็นรอยแตกและเปราะด้วยน้ำแข็ง เสียงต่อสู้ดังขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุด... ฉันก็เห็นมันร่องรอยเลือดสีเงินไหลเป็นทางบนหิมะขาว — เหมือนเส้นด้ายชะตาที่ชี้นำหัวใจฉันไปยังเขา เมื่อก้าวพ้นแนวหิน ภาพที่ปรากฎตรงลานกว้างตรงหน้า… ทำให้ฉันถึงกับเกือบหยุดหายใจเขาอยู่ที่นั่นหลงอวิ๋น… ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่านักล่ามังกรเลือดสีเงินไหลจากแขนซ้ายของเขา แต่รอบกายกลับเต็มไปด้วยศพ — ร่างในชุดผ้าคลุมสีดำที่ร่วงหล่นดั่งใบไม้ต้องพายุแต่ละก้าวของเขา... เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและความตาย“มังกรเงาหิมะ! วันนี้เราจะเอาหัวใจน้ำแข็งของเจ้าไปมอบให้กับราชินีแห่งความมืด!”เสียงของชายในผ้าคลุมแดงตะโกนก้อง ดวงตาของเขาแดงฉานเหมือนสัตว์คลั่งทันใดนั้น หลงอวิ๋นก็เงยหน้าขึ้น ราวกับรับรู้ว่าฉันมาปรากฎตัวที่นี่… ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาเบิกกว้าง ความตกใจและโกรธเกรี้ยวผสมกันในพริบตาเดียว“เจ้า! ทำไมถึงออกมาได้!”แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบ…ห
เสียงประตูห้องเอลาเรียปิดลงพร้อมเสียงกลไกล็อคที่ซับซ้อน ตามมาด้วยเสียงกระซิบของเวทมนตร์บางอย่าง หลังจากนั้นก็มีเสียงแกร่งของผลึกน้ำแข็งที่ก่อตัวซ้อนกันแน่นหนา — ราวกับกำแพงจากปราการชั้นในสุดในอีกมุมของวัง —โถงวังหิมะใต้แสงจันทร์แสงจากผลึกคริสตัลแขวนสูงสะท้อนกับน้ำแข็งโปร่งใสตามเสาค้ำจำนวนมาก กลิ่นอายของสงครามแผ่ซ่านกลางโถงที่เคยเงียบสงบหลงอวิ๋นก้าวเข้ามาในโถงด้วยจังหวะมั่นคง ชุดคลุมสีขาวเงินสะบัดตามแรงเดินอย่างเยือกเย็น“เจ้ามาช้า” หลงเทียนเจินกล่าวเสียงหนักแน่น ขณะยืนอยู่หน้ากระดานเวทวินิจแผนที่มิติเขา — มังกรทองแห่งทิศตะวันออก พี่ชายต่างสายเลือดของหลงอวิ๋น — มองน้องชายด้วยสายตาผู้นำที่ไร้ความลังเลเวทแผนที่กลางห้องแสดงจุดสีแดงสี่จุดกระพริบวาบตรงประตูทิศตะวันออกของเมืองเทียนหลง“กลุ่มนักล่ามังกรปรากฏตัว... ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่สี่กลุ่มพร้อมกัน”หลงเทียนเจินกล่าวขณะโบกมือให้ภาพแผ่ขยายออก“พวกมันมาด้วยพลังเวทอาคมป้องกันสูง และ...ดูเหมือนจะรู้ทางลับในการหลบเวรย
ภายในห้องพักของหลงอวิ๋น — แสงสีฟ้าอ่อนนวลจากตะเกียงน้ำแข็งส่องสะท้อนบนผนังหินอย่างเงียบสงบไออุ่นจากเตาหินร้อนแผ่กระจายทั่วห้อง ผสมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรจันทรา สร้างบรรยากาศอบอุ่น ปลอดภัย ราวกับโลกภายนอกที่วุ่นวายไม่มีอยู่จริงหลงอวิ๋นพาฉันมานั่งที่โซฟาหนานุ่มใกล้เตาไฟ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าโดยไม่เอ่ยคำใด — เพียงแค่มือใหญ่ของเขาจับมือฉันไว้เบาๆ อย่างแผ่วถนอมดวงตาสีฟ้าคู่นั้นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แต่แฝงด้วยแววห่วงใยที่ชัดเจน“เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” น้ำเสียงของเขานุ่มลึก ราวกับจะกลืนฉันไว้ในความอบอุ่นนั้น“ไม่ค่ะ… อาจจะมีปวดเมื่อยนิดหน่อย” ฉันยิ้มบางๆ พลางหมุนไหล่เล็กน้อยให้เขาดู“แต่โดยรวมแล้ว ฉันยังโอเคอยู่ค่ะ”หลงอวิ๋นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ“วันนี้… ช่างเกินกว่าที่ข้าคาดคิดไว้”“ข้าควรเป็นคนปกป้องเจ้าให้ดี… แต่กลับกลายเป็นว่า เจ้าต่างหากที่ก้าวออกมาปกป้องข้า”“ท่านก็ช่วยฉันเยอะอยู่นะคะ&rdq
ฉันหายใจถี่และเร็วขึ้น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอกแต่ขาของฉันก็ก้าวถอยฉับไว ก่อนจะพลิกตัวต่ำหลบอย่างคล่องแคล่ว — ดาบของนักฆ่ากวาดผ่านเฉียดศีรษะไปเพียงปลายผมเคร้ง!ปลายแขนเสื้อของฉันพันเข้ากับข้อมือของเขาโดยสัญชาตญาณฉันฉวยแรงหมุนตัวอย่างแม่นยำ ก่อนจะฟาดศอกใส่ชายโครงเต็มแรง — ท่าผสมระหว่างมวยไทยกับยูโดที่เคยเรียนในมหาวิทยาลัยยังฝังอยู่ในร่างกายนักฆ่าผงะถอย แต่ไม่ทันล้ม ฉันใช้จังหวะนั้นกระโดดถีบกลางอกซ้ำ แล้วกลิ้งตัวออกห่างอย่างรวดเร็วเสียงฝีเท้าทะลุหิมะดังเข้ามาจากข้างหลัง — อีกคนกำลังพุ่งเข้ามา!ฉันหันไม่ทัน ดาบสีเลือดกำลังจะฟาดลงมาที่กลางหลัง!พรึ่บ!สายลมเย็นจัดพัดวูบเข้ามาพร้อมเสียงเปรี้ยง!น้ำแข็งปะทะกับโลหะจนระเบิดเป็นสะเก็ดกระจายฉัวะ!แขนของนักฆ่าหยุดค้างกลางอากาศ — ถูกห่อหุ้มด้วยผลึกน้ำแข็งใสสะท้อนแสงจันทร์ ก่อนที่มันจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นน้ำแข็งในชั่วพริบตาเงาร่างสีขาวพุ่งลงมาจากฟ้าอย่างพายุหิมะ—หลงอวิ๋นยืนอยู่เบื้องหน้า ดาบ