💫ลูกมังกรตัวจิ๋วคนแรก!? 🐣💕
สถานที่ : วังเทียนหลง — หอจันทรา
เสียงลมหนาวอ่อน ๆ พัดผ่านม่านบางสีเงินที่พลิ้วไหวอย่างเงียบงัน แสงจันทร์ยามค่ำคืนนี้นุ่มนวลเป็นพิเศษ ราวกับโลกทั้งใบกำลังหยุดหายใจ…เพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์บางอย่าง
ฉันนั่งอยู่กลางเตียงผ้าไหม กลางอ้อมแขนของหลงอวิ๋น — ที่เวลานี้ดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่าฉันเสียอีก
เพราะในอ้อมแขนของเรา…คือ ‘ลูกมังกร’ ตัวจิ๋วที่เพิ่งถือกำเนิด
ใช่ค่ะ... ลูกของเรา
เจ้าตัวน้อยมีผมสีเงินจางราวแสงจันทร์ เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากเล็กจิ๋วขยับเบา ๆ ขณะที่ลมหายใจอุ่นนุ่มพ่นออกมาเป็นหมอกจิ๋ว ๆ ทุกครั้งที่หายใจ
นิ้วมือจิ๋วนั่น…กำมือเล็ก ๆ ไว้แน่น และมีเกล็ดบาง ๆ สีเงินอมฟ้าปรากฏจาง ๆ บนหลังมือ
“เขามีเกล็ด…” ฉันกระซิบ ขณะวางมือลงบนผ้าห่มผืนน้อย
หลงอวิ๋นที่นั่งอยู่ข้างฉันเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะโน้มตัวลงจูบหน้าผากลูกเบา ๆ ดวงตาสีฟ้าของเขาสั่นระริกด้วยความตื้นตันที่เขาไม่เคยแสดงออกแบบนี้มาก่อน
“
💫ลูกมังกรตัวจิ๋วคนแรก!? 🐣💕สถานที่ : วังเทียนหลง — หอจันทราเสียงลมหนาวอ่อน ๆ พัดผ่านม่านบางสีเงินที่พลิ้วไหวอย่างเงียบงัน แสงจันทร์ยามค่ำคืนนี้นุ่มนวลเป็นพิเศษ ราวกับโลกทั้งใบกำลังหยุดหายใจ…เพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์บางอย่างฉันนั่งอยู่กลางเตียงผ้าไหม กลางอ้อมแขนของหลงอวิ๋น — ที่เวลานี้ดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่าฉันเสียอีกเพราะในอ้อมแขนของเรา…คือ ‘ลูกมังกร’ ตัวจิ๋วที่เพิ่งถือกำเนิดใช่ค่ะ... ลูกของเราเจ้าตัวน้อยมีผมสีเงินจางราวแสงจันทร์ เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากเล็กจิ๋วขยับเบา ๆ ขณะที่ลมหายใจอุ่นนุ่มพ่นออกมาเป็นหมอกจิ๋ว ๆ ทุกครั้งที่หายใจนิ้วมือจิ๋วนั่น…กำมือเล็ก ๆ ไว้แน่น และมีเกล็ดบาง ๆ สีเงินอมฟ้าปรากฏจาง ๆ บนหลังมือ“เขามีเกล็ด…” ฉันกระซิบ ขณะวางมือลงบนผ้าห่มผืนน้อยหลงอวิ๋นที่นั่งอยู่ข้างฉันเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะโน้มตัวลงจูบหน้าผากลูกเบา ๆ ดวงตาสีฟ้าของเขาสั่นระริกด้วยความตื้นตันที่เขาไม่เคยแสดงออกแบบนี้มาก่อน“
💎 ราชินีแห่งเทียนหลง...ผู้ไม่กินเผ็ดฉันคือคือเอลาเรีย...ราชินีผู้กุมพลังมังกรจันทรา ผู้ผนึกมังกรทองด้วยเวทโบราณ...และผู้ที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับ...เพลิงเกล็ดมังกรหนึ่งเม็ด พริกในตำนานที่แค่ได้กลิ่น ลิ้นก็เหมือนโดนเปลวเพลิงว่ากันว่า ‘เพลิงเกล็ดมังกร’ เกิดขึ้นเมื่อเปลวไฟจากมังกรบรรพกาลตกกระทบเมล็ดพืชธรรมดาในสงครามเมื่อพันปีก่อน เมล็ดนั้นดูดซับพลังและกลายพันธุ์ จนกลายเป็นพริกต้องห้ามที่ แม้แต่มังกรไฟบางตนยังหลีกเลี่ยง“ฉันแค่ถามว่า ‘เผ็ดมากมั้ย’ ไม่ได้หมายความว่า ‘ขอเผ็ดที่สุดในโลก’ นะค้า!!”ฉันตะโกนลั่นกลางโต๊ะทรงกลมที่ตั้งอยู่ในห้องทานอาหารส่วนตัวของราชวังราอูลกับไคเซอร์แทบจะกลิ้งลงจากเก้าอี้ด้วยความขำเอลิอานยื่นน้ำเย็นให้พร้อมสีหน้าที่ดูเหมือนพยายามกลั้นหัวเราะอย่างยิ่งยวดแต่คนที่แย่ที่สุด—คือ หลงอวิ๋นท่านชายสุดหล่อที่นั่งกินพริกเผ็ดระดับมังกรไฟด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วหันมาถามฉันเสียงเรียบม
ร่างของฉันยังหอบสะท้านไม่หายหลงอวิ๋นค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นมา ร่างเปลือยเปล่าทาบทับฉันอย่างมั่นคง ปลายลิ้นเขายังไล้เล็มริมฝีปากฉันแผ่วเบา ก่อนกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู“เจ้าพร้อมหรือยัง...”ยังไม่ทันให้ฉันตอบ ร่างกายฉันก็รับรู้ถึงแก่นกายของเขา ที่ร้อนจัดและแข็งแกร่งกำลังแนบอยู่ตรงกลางกลีบเนื้อที่ชื้นฉ่ำ ปลายหัวดันเบา ๆ อย่างมีจังหวะ ขณะที่มือของเขาจับสะโพกฉันไว้มั่น“อ๊ะ...หลงอวิ๋น...!”ฉันครางเผลอเมื่อเขาค่อย ๆ ดันเข้ามาทีละน้อย ผนังด้านในตอดรัดแท่งร้อนของเขาอย่างแน่นหนึบ จนเขาต้องขมวดคิ้วและกัดฟันนิด ๆ“แน่นเหลือเกิน...”เสียงของเขาต่ำและกระเส่า ก่อนจะกระซิบข้างหูฉัน“แต่ข้าจะเข้าไปให้หมด...”พูดจบ เขาก็กระแทกเข้ามาจนสุดในจังหวะเดียว“อ๊าาาาา!!”ฉันร้องเสียงหลง เมื่อแก่นกายของเขาถูกดันเข้ามาลึกสุดทาง มิดชิดแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นจากร่างเขา...ในตัวฉันเขาผงกตัวขึ้น มือสองข้างยันกับเตียง ปล่อยให้ท่อนล่างขยับได้อย่างเต็มแรงจากนั้น...ตึง ตึง ตึง!เขาเริ่มกร
พระราชพิธีแต่งงาน ณ พระราชวังเทียนหลงเสียงขลุ่ยหยกโบราณดังแผ่วไปทั่วหุบเขา และเสียงระฆังเงินก็ดังขึ้นเจ็ดครั้งตามจังหวะลมหายใจของมังกรทั้งเจ็ดแห่งสภาฟ้าดอกหิมะโปรยปรายจากฟากฟ้าอย่างสงบ แต่มือของฉันเย็นเฉียบไม่ใช่เพราะอากาศ...แต่เพราะใจเต้นแรงยิ่งกว่าครั้งไหนในชีวิตฉันไม่เคยคิดว่า ‘งานแต่งงาน’ ของตัวเองจะจัดขึ้นในวังของมังกร…และยิ่งไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ยืนรออยู่ปลายทางเดินคือมังกรน้ำแข็งผู้เยือกเย็นที่สุดในตำนานวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานธรรมดาแต่มันคือ “พิธีเสกสมรสระหว่างราชามังกรในอนาคต” กับมนุษย์ต่างโลก—หญิงสาวที่ไม่มีสายเลือดสูงศักดิ์ ไม่มีอำนาจทางการเมืองใด ๆ ...มีเพียงหัวใจที่กล้ารัก และยืนหยัดเคียงข้างณ ท้องพระโรงใหญ่ของวังเทียนหลงหอแก้วทั้งหลังถูกประดับด้วยแผ่นผลึกน้ำแข็งสลักมือ เรียงรายเป็นเสาโค้งล้อมแท่นพิธีตรงกลาง — พื้นหินใสราวกระจก สะท้อนเงาแสงจันทราเต็มดวง พร้อมภาพของฉันที่กำลังเดินก้าวเข้าไปทีละก้าวชุดเจ้าสาวของฉันในวันนี้...คือชุดที่รังสรรค์ขึ้นด้วย
สวนหิมะนิรันดร์ — ยามค่ำของฤดูจันทราวสันต์แสงจันทร์ทอประกายอ่อนนุ่มลงบนหิมะขาวทั่วทั้งสวน เสียงน้ำแข็งแตกรินเบา ๆ จากลำธารเล็กที่เพิ่งละลายจากมนตราแห่งฤดูใหม่ กลีบเกล็ดหิมะโปรยลงมาช้า ๆ จากท้องฟ้า สะท้อนแสงจันทร์ราวเกล็ดเงินลอยละล่องในห้วงความฝันพุ่มไม้หิมะรอบสวนยังคงเงียบงัน ราวกับเฝ้ารอสิ่งใดอยู่...เช่นเดียวกับฉัน ที่ยืนอยู่หน้ากุหลาบน้ำแข็งซึ่งยังคงหลับใหล ไม่ยอมแย้มกลีบในค่ำคืนนี้เสียงฝีเท้าทุ้มหนักนุ่มนวลดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนจะมีเสียงที่ฉันจำได้แม่นดังขึ้น“ข้าคิดว่าเจ้าหลับไปแล้ว”ฉันไม่ตอบในทันที แต่หันไปมองร่างสูงในชุดคลุมเรียบง่าย ไม่ใช่เครื่องราชพิธี ไม่ใช่ฐานะผู้ครองแผ่นดิน“ข้าคิดว่าเจ้าหลับไปแล้ว”“ฉันนอนไม่หลับค่ะ”เราสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ฉันจะหันไปมองเขา...ใบหน้าของหลงอวิ๋นอยู่ใต้เงาจันทร์ครึ่งดวง แสงสีเงินอ่อนสะท้อนบนเสี้ยวหน้าด้านขวา—เผยผิวขาวนวลประหนึ่งหินหยกสลัก ลมหายใจเย็น ๆ ของเขาละลายเป็นไอควันเบา ๆ ยามกระทบอากาศเย็น
“เพราะเมื่อหัวใจของผู้คนเปลี่ยน...ดินแดนก็เปลี่ยนตาม”แสงแรกของราตรีวันใหม่...ไม่ใช่แสงอาทิตย์แต่เป็นแสงจันทร์อ่อนละมุน ที่ทอประกายลงมาจากฟากฟ้า—อ่อนโยน...เจิดจ้ายิ่งกว่าเคยดินแดนแห่งหิมะที่เคยเงียบงัน...กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งแรกในรอบพันปีเสียง ‘หยดน้ำ’ หยดแรก—ดังกระทบผืนน้ำแข็ง เบาเสียจนราวกับโลกทั้งใบต้องหยุดฟังหยดล็ก ๆ นั้น ไม่ได้เกิดจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง แต่มาจากเวทของ ‘ใครบางคน’ ที่เปลี่ยนความเยือกเย็นให้กลายเป็นพลังแห่งการเยียวยาทั่วทั้งแนวทุ่งหิมะ ดอกไม้สีฟ้าขาวเริ่มโผล่ขึ้นจากผิวดิน กลีบใสราวกับหยดจันทร์ ละลานตาราวกับดวงดาวที่หยั่งรากบนพื้นโลก—คือ ‘กุหลาบจันทรานิรันดร์’ดอกไม้ในตำนานที่เคยต้องใช้เวลาหนึ่งศตวรรษในการเบ่งบานแต่วันนี้…มันกำลังผลิบานพร้อมกันทั้งทุ่ง ด้วยเวทจันทราที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความรักและการให้อภัยหิมะ...ไม่ได้ละลายหายไปแต่หลอมรวมเป็นสายน้ำใสไหลเอื่อย เหนือยอดต้นเข็มสน ใบ