ตอนที่ 5
ทำไมไม่รู้สึกอะไร
ปัจจุบัน
ก๊อกๆๆๆ
“ยัยน้อง เสร็จหรือยัง” เสียงเคาะประตูห้องน้ำและเสียงเรียกของพี่มาโครทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ และร้องตอบพี่ชายออกไปเพราะกลัวเขาเป็นห่วง
“ซอนใกล้จะเสร็จแล้วค่ะพี่ชาย” เมื่อตอบเสร็จฉันก็รีบอาบน้ำทันที
สุดท้ายการอาบน้ำที่แสนทรมานของฉันก็จบลงอย่างรวบรัดตัดตอน เพราะฉันทนความเจ็บแสบตรงน้องสาวไม่ไหว แถมมันยังบวมเป่งอย่างมาก ยิ่งโดนน้ำยิ่งทรมาน นี่ขนาดว่าเป็นน้ำอุ่นนะ ส่วนร่างกายฉันก็มีรอยจ้ำๆ ไปทั้งตัว โดยเฉพาะเนินอกที่เหมือนโดนกัดจนขึ้นรอย ฉันเลยรีบอาบรีบเสร็จ หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนเดินออกจากห้องน้ำไป พอเปิดประตูออกมาก็เจอพี่มาโครยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ
“อุ้ย! พี่ไม่ต้องอุ้มซอนก็ได้ ซอนเดินไหว” ฉันท้วงขึ้นเมื่อพี่ชายฉันก้มลงอุ้มฉันขึ้นมาก่อนจะพาฉันไปวางบนเตียงนอน และมีชุดของฉันวางไว้พร้อมหมดแล้ว ยันชุดชั้นใน พี่ชายฉันก็เตรียมไว้ให้หมด
ไม่ต้องงงกันนะคะ พี่ชายฉันดูแลฉันแบบนี้มาโดยตลอด นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ บอกแล้วพี่ฉันเป็นพี่ชายที่แสนดีที่สุดในโลก
“ซอนจะนอนเลยหรือจะกินข้าวก่อน” พี่มาโครถามขึ้นเมื่อวางฉันลงเตียง
“ซอนอยากนอนเลยมากกว่า รู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ ปวดเมื่อยตามตัวเหมือนจะเป็นไข้เลย” ฉันตอบพี่ชายออกไปพร้อมทำหน้างอแง
“งั้นแต่งตัวไปก่อน อย่าเพิ่งนอน เดี๋ยวพี่จะไปเอาข้าวต้มมาให้กินก่อน จะได้กินยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ และยา....” พี่มาโครเอ่ยขึ้นและหยุดลงในตอนที่ฉันกำลังสวมใส่เสื้อผ้าเตรียมตัวนอน เพราะฉันรู้สึกไม่ไหวจริงๆ แต่ก็หันหน้าไปพยักหน้าให้พี่ชายตัวเองเพื่อทำตามอย่างว่าง่าย
ทำให้พี่มาโครเดินออกไปด้านนอก ส่วนฉันก็แต่งตัวไป สักพักพี่ฉันก็เดินกลับเข้ามาพร้อมถาดใส่ถ้วยข้าวต้มในมือ ในถาดยังมีถ้วยใส่ยาอีก 2 ถ้วย
“กินข้าวก่อน แล้วค่อยกินยาแก้อักเสบและยาลดไข้ พี่ให้คนไปซื้อยาให้อยู่ เดี๋ยวค่อยกินตาม” พี่มาโครปากพูดไป มือก็ยกถ้วยข้าวต้มมาเป่าให้ฉันไป พี่มาโครซื้อยาอะไรมาอีกจะให้ฉันกินกี่ยากันเนี่ยหรืออาการฉันมันร้ายแรงมาก
“พี่ค่ะเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับซอนกันแน่ค่ะ”
ตอนแรกว่าจะไม่ถามแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ ก็มันแปลกไปหมดทุกอย่าง ร่างกายของฉันก็แปลก พี่ออสตินก็พูดแปลก พี่มาโครพูดแปลก
“เมื่อคืนน้องจำอะไรได้บ้าง เล่าให้พี่ฟังทีซิ” เมื่อเห็นว่าน้องสาวพูดออกมาแบบนั้น มาโครจึงเลือกที่จะถามเธอกลับไป เขาอยากฟังจากปากน้องสาวตัวเองดูก่อน ก่อนที่จะฟังจากออสติน
“เมื่อคืนหลังจากที่พวกพี่ออกไปเที่ยวกัน เราก็นั่งดื่มกันอีกสักพักพอเริ่มเมาซอนจะตกน้ำแต่พี่ออสตินช่วยไว้ได้ แล้วซอนก็มีปากเสียงกับพี่เฟียสนิดหน่อย พี่ออสตินเห็นว่าเมากันมากแล้ว เลยให้แยกย้ายกันไปนอนทั้งหมด ซอนเดินไปส่งพี่เฟียสก่อนเพราะพี่เฟียสบอกว่าเมามากเดินไม่ไหว ซอนเลยอาสาเดินไปส่งที่ห้อง พอส่งพี่เฟียสเสร็จ ซอนเองก็เมามากเช่นกัน เลยเดินกลับมานอนที่ห้องตัวเอง และก็แปลกใจว่าตอนเช้าซอนไปนอนที่ห้องพี่ออสตินได้อย่างไร” ฉันเล่าไปพลางพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนไปด้วย แต่ฉันก็จำอะไรไม่ได้ จำได้แค่ว่าตัวเองเข้ามานอนในห้อง ที่เหลือก็จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
“หลังจากนั้นน้องจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” พี่มาโครถามขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะส่งถ้วยข้าวต้มที่เป่าจนเย็นแล้วมาให้ฉัน ฉันรับมันมาพร้อมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้พี่ชายตัวเอง ก็ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ
“น้องรู้ตัวไหมว่าเมื่อคืนน้องกับออสตินทำอะไรกัน” พี่มาโครถามขึ้น น้ำเสียงก็ปกตินะ แต่แววตาพี่เขาดูกังวลอย่างไงแปลกๆ ฉันจึงส่ายหน้าเป็นคำตอบให้พี่มาโครอีกครั้ง แต่ก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันจึงถามพี่ชายตัวเองออกไป
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ พี่เล่าให้ซอนฟังได้ไหม” พี่มาโครยกมือมาลูบหัวฉันเบามือเหมือนเคย แต่แววตาพี่เขาดูเจ็บปวด อย่างชัดเจน
“ถ้าพี่เล่าให้ฟัง น้องต้องสัญญาว่าน้องจะเข้มแข็ง น้องจะไม่ฟูมฟาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น น้องยังมีพี่คนนี้อยู่ทั้งคน ถ้าน้องสัญญาว่าจะเข้มแข็ง พี่ก็จะเล่าให้ฟัง” พี่มาโครพูดขึ้นและเรียกฉันว่า น้อง นั่นคือสรรพนามที่พี่มาโครจะเรียกฉันในเวลาที่อยากจะปลอบใจฉัน
“น้องสัญญาว่าน้องจะมีสติ จะไม่ฟูมฟาย พี่เล่ามาเถอะน้องรับได้ทุกอย่าง” ฉันบอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแน่วแน่ และใช้สรรพนามเหมือนที่พี่ชายฉันใช้ ส่วนเวลาปกติ ฉันจะใช้แทนตัวว่า ซอน หรือซอนญ่า
“เรื่องเมื่อคืนพี่ก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก รู้แต่ว่าน้องกับไอ้ออสตินน่ามีอะไรกันแล้ว และ...// ไม่จริง พี่รู้ได้อย่างไร” ไม่รอให้พี่มาโครพูดจบ ฉันก็แทรกขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร มันต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ฉันเสียครั้งแรกแบบไม่รู้สึกตัวเหรอ เป็นไปไม่ได้
“ซอนญ่า น้องต้องตั้งสติและฟังพี่ น้องไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่อยู่ตรงนี้แล้ว” มาโครพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะดึงตัวน้องสาวเข้ามากอดไว้แนบอกเมื่อซอนญ่ายังตกใจไม่หาย
“ไม่จริงอ่ะ ทำไมน้องไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แล้วพี่รู้เรื่องได้อย่างไรว่า...” ซอนญ่าถามเสียงอู้อี้หน้ายังแนบอยู่กับอกพี่ชาย
“พี่เองก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะเมื่อคืนพี่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่พอกลับมา น้ำหวานโทรมาบอกว่าน้องไม่อยู่ที่ห้อง และคิดว่าน้องอยู่ห้องพี่ แต่พอพี่เข้าไปในห้องก็ไม่เจอน้อง พี่เลยว่าจะไปถามไอ้ออสตินว่าเห็นน้องบ้างไหม...” พี่มาโครหยุดเล่าไปนิดหนึ่งด้วยแววตาเศร้าก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเต็มที
“ก็มาเจอน้องนอนอยู่บนเตียงกับมันแบบนั้น ถ้าน้องบอกว่าไม่รู้เรื่องเหมือนกัน พี่ก็เลยต้องรอถามเอาความจากไอ้ออสตินมันดูอีกที”
“ ส่วนที่พี่บอกว่าน้องกับไอ้ออสตินมีอะไรกัน เพราะพี่ดูจากอาการของน้อง บวกกับตอนที่พี่เข้าไปเจอน้องกับไอ้ออสตินในห้อง ทั้งคู่ต่างก็เปลือยกาย แบบนี้ก็คงเดาได้ไม่ยาก เพราะพี่ก็ผ่านเรื่องอย่างนี้มาพอสมควร” มาโครบอกน้องออกไปตามความจริง แค่เห็นสภาพของทั้งคู่เขาก็รู้ไปถึงไหน ๆแล้ว เรื่องแบบนี้เขากับเพื่อนทำกันอยู่บ่อยๆ ทำไมจะไม่รู้
“แต่ทำไมน้องไม่รู้สึกอะไรเลยละ” ฉันถามแทรกขึ้นมาอีกครั้ง คิ้วยังผูกโบไม่หายทั้งงงทั้งตกใจกับเรื่องที่พี่มาโครเล่ามา
“น้องจะไม่รู้สึกได้อย่างไรก็น้องเจ็บจนเดินไม่ไหวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วรอยตามเนื้อตัวอีก” มาโครตอบพร้อมกับมองเนื้อตัวของซอนญ่าที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา คนอย่างออสตินไม่เคยมีคำว่าเบา ออกจะซาดิสเสียด้วยซ้ำ ตามที่เขาพอรับรู้มาจากปากของเจ้าตัว เพราะเรื่องอย่างนี้พวกเขาก็มีเล่าสู่กันฟังบ้างเวลาได้ฟันสาวๆที่ถูกใจ ฉนั้นเขาจึงคิดว่าใต้ร่มผ้าของซอนญ่าจะต้องมีรอยจ้ำๆ จำนวนมากแน่นอน
ที่พี่มาโครตอบฉันมาก็มีเหตุผล มันก็อาจใช่ที่ฉันเดินแทบไม่ไหวและมีรอยจ้ำๆ เต็มไปหมด แต่ฉันไม่ได้หมายความถึงความรู้สึกในตอนนี้ ฉันหมายถึงความรู้สึกในตอนที่ถูกพี่ออสตินกระทำ พี่มาโครแน่ใจเหรอ ฉันไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆนะ
“คือน้องหมายความว่า ตอนที่ทำอะไรกัน ทำไมน้องไม่รู้สึกตัว มันทำกันเบาขนาดนั้นเลยหรือคะ” ฉันถามพี่ชายออกไปด้วยความสงสัยไม่หาย แต่มันกลับทำให้พี่ชายฉันอึดอัดขึ้นมา พี่มาโครค่อยๆเอานิ้วชี้ เขี่ยหางคิ้วตัวเอง ก่อนจะตอบฉันมา
“มันก็ไม่ได้เบาขนาดนั้นหรอก ยิ่งเป็นคนอย่างไอ้ออสตินยิ่งหนัก ไม่งั้นน้องจะมีสภาพแบบนี้เหรอ แต่ที่น้องไม่รู้สึกตัว น้องคงเมาแหละ เพราะน้องเองก็เป็นคนประเภท เมาแล้วหลับปางตายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งเมาหนักยิ่งไม่ต้องพูดถึง” พี่มาโครอธิบายฉันชะยืดยาว ก็คงจะจริงอย่างที่พี่ชายฉันว่า เพราะฉันเป็นคนเมาแล้วหลับลึกมาก ใครลากไปไหนก็ไม่รู้ตัว
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูด้านนอกดังขึ้น ทำให้ทั้งฉันและพี่มาโครหันไปมอง แม้จะไม่เห็น แต่ก็รู้ว่ามีคนเข้ามาในห้องรับแขก
“น้องนอนพักไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับไอ้ออสตินก่อน” พี่มาโครเอ่ยขึ้น ก่อนจะหยิบถาดข้าวต้มที่ฉันเพิ่งกินเสร็จออกไปด้วย
“ในเมื่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องกับซอนโดยตรง ซอนขออยู่ด้วยได้ไหมค่ะ” ฉันเอ่ยบอกพี่มาโครขึ้นในตอนที่พี่เขากำลังจะเดินถึงประตู ทำให้พี่มาโครหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมามองหน้าฉัน ฉันจึงส่งสายตาแน่วแน่ไปให้พี่เขา ก็มันถูกแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับฉัน ฉันก็ควรจะไปร่วมรับฟังหรือแก้ปัญหาด้วย
พี่มาโครคิดแว๊ปหนึ่งก็พยักหน้าให้ฉัน ก่อนจะเดินกลับมาช่วยประคองฉันลงจากเตียง
“แต่พี่ขออย่างหนึ่ง พี่จะเป็นคนคุยเองน้องนั่งฟังเฉยๆนะ” พี่ชายฉันพูดขึ้นเมื่อเรากำลังจะเดินออกไปนอกห้องกัน
ปัง!เสียงประตูที่ปิดลง พร้อมกับเสียงร้องไห้ที่กลั้นไว้ของฉันก็พรั่งพรูออกมา ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้รู้สึกยังไง เสียใจ? เจ็บปวด? หรือแม่กระทั้งน้อยใจ ที่คนที่เรารักมาตลอดหลายปีทำร้ายเราทั้งร่างกายและจิตใจแบบนี้“อื่อๆๆๆๆ” ฉันร้องไห้อย่างไม่อายเพราะตรงนี้มีเพียงพี่มาโครผู้ที่เป็นเซพโซนชั้นดีของฉัน“ร้องออกมาไม่ต้องกลั้น อยู่กับพี่ น้องปลดปล่อยได้เต็มที่เลย” มาโครพูดขึ้น พลางขยับตัวเข้าใกล้น้องสาวเขามากขึ้น ก่อนจะโน้มใบหน้าเธอมาซบอกเขา ทำให้ซอนญ่ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอร้องไห้อย่างหนัก เธอเองก็ไม่มั่นใจว่าเธอเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ เสียใจที่เขาไม่แคร์ หรือเสียใจที่ต่อจากนี้เธอจะไม่ได้อยู่ใกล้เขาอีกต่อไปแล้ว“พาน้องกลับบ้านเลยได้ไหม น้องอยากกลับแล้ว” พอร้องไห้มาสักพัก ซอนญ่าก็เอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่บวมไปหมดทำเอามาโครเห็นแล้วอดสงสารน้องสาวไม่ได้ แต่ก็โทษออสตินไม่ได้เช่นกัน เพราะอย่างที่ออสตินบอกไม่รักก็คือไม่รัก แล้วเขาก็ไม่คิดจะบังคับเพื่อนให้มารักน้องสาวตัวเองเหมือนกัน สู้เขาคอยปลอบใจเธอให้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปน่าจะดีกว่า ซอนญ่าอายุยังน้อย เธอยังมีเวลาค้นหาความรักอีกยาวไกล“ได้สิเดียวพี่พากลับ
ตอนที่ 8ทางใครทางมัน #1“เธอจะเอาอย่างไรก็ว่ามาเลย ถ้าอันไหนพี่ทำให้ได้ พี่ก็จะทำให้ ขอแต่อย่ามาทำเหมือนเด็กๆ ที่แค่นอนด้วยกันแล้วจะให้พี่ต้องแต่งงานด้วย อันนั้นพี่คงทำให้ไม่ได้ เพราะถ้าพี่จะต้องแต่งงาน พี่จะแต่งกับคนที่พี่รักเท่านั้น ไม่ใช่แค่คนที่นอนด้วย เพราะถ้าเป็นแบบนั้น พี่คงจะต้องแต่งงานหลายพันครั้งไปแล้ว” ออสตินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ปากยังพ่นควันบุหรี่ออกไม่หยุด เขาไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าน้องสาวเพื่อนสักนิดท่าทางเหมือนเขาพูดแบบไม่คิดจะใส่ใจอะไร ทำให้ซอนญ่าที่นั่งฟังอยู่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองให้หมดจากใบหน้าเนียนใส คำพูดของเขามันเหมือนหอกที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจน้อยๆ ของเธอ มันทำให้เธอทั้งจุกทั้งเจ็บ (...พี่จะแต่งกับคนที่พี่รักเท่านั้น ไม่ใช่แค่คนที่นอนด้วย)ซอนญ่าเช็ดน้ำตาออก เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนที่เธอจะพูดออกมาอย่างเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว“ซอนเองก็ไม่ได้อยากจะให้พี่มารับผิดชอบอะไรหรอกค่ะ ก็ในเมื่อพี่คิดว่ามันคือแผนของซอน แล้วจะมารับผิดชอบทำไม จริงไหมคะ และซอนเองก็ไม่ต่างจากพี่เหมือนกัน คนที่ซอนจะแต่งงานด้วย ก็ต้องเป็นคนที่ซอนรักและเขาก็ต้องรักซอนมากเหมือนกัน”
ตอนที่ 7ตื่นมาพบกับความเจ็บปวด#2ก่อนหน้านี้ พี่ออสตินจะมองฉันด้วยแววตาเอ็นดูเสมอ แต่ตอนนี้เหมือนพี่เขามองฉันด้วยแววตาโกรธไม่พอใจอาจจะถึงขั้นรังเกียจเลยด้วยซ้ำ รวมทั้งคำพูดนั่นอีก ทำให้ฉันรู้ว่าพี่เขาไม่โอเคกับฉันแน่ ๆ เพราะคงปักใจว่าฉันเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเพราะสิ่งที่พี่ออสตินพูดออกมาเหมือนเขาจะคิดว่าฉันตั้งใจเข้าไปหาเขาเองนะ บ้า!!! มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ในเมื่อฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร และฉันไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ ต่อให้ฉันจะรักพี่เขาแค่ไหน ฉันก็ไม่คิดถวายตัวให้ใครง่ายๆ ตราบใดที่ฉันไม่มั่นใจพอ ฉันไม่เคยคิดที่จะเอาเซ็กมาเพื่อยึดใครไว้แต่การแสดงออกของพี่ออสตินนี่ชัดเลย ที่ฉันคิดไว้ถูกเผงเลย แล้วอะไรทำให้พี่เขาคิดแบบนั้น เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันจึงถามออกไป“แล้วมีเหตุผลอะไรที่ซอนต้องทำอย่างนั้นค่ะ ซอนจะทำมันไปเพื่ออะไร”“เหตุผลมันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ ซอนชอบพี่ไม่ใช่เหรอ เหตุผลเท่านี้มันยังไม่พออีกเหรอ สำหรับเด็กเอาแต่ใจอย่างเรา” ชาไปเลยค่ะ ฉันไม่คิดเลยว่าจากที่เป็นผู้ถูกกระทำ อยู่ๆจะกลายเป็นผู้กระทำเฉยเลย ชาไปทั้งหน้า ชาไปทั้งตัวฉันยังไม่ไ
ตอนที่ 6ตื่นมาพบกับความเจ็บปวดพอฉันกับพี่มาโครเดินออกมา ก็เห็นพี่ออสตินนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้วที่โซฟา พี่เขาใส่เสื้อยืดด้านในและใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าทับด้านนอก กางเกงขาสามส่วนสีขาว พี่เขาเป็นลูกครึ่งที่ไม่ถึงกับฝรั่งจ๋า แต่จะคงความเป็นฝรั่งมาแค่สีผิวคือความขาว และความสูง พี่ออสตินสูง 190 ซม. จมูกพี่เขาโด่งมาก เบ้าหน้าที่แบบฟ้าประทาน คือบอกตามตรงหล่อแบบวัวตายควายล้มเลย ฉันอยากกรี๊ดมาก คือก็รู้แหละว่ามีเรื่องอยู่ แต่ไอ้โรคบ้าผู้ชายของฉันมันก็ห้ามไม่อยู่เสียด้วยสิ อ่อ ไม่สิไม่ใช่โรคบ้าผู้ชาย แต่เป็นโรคบ้าพี่ออสตินต่างหาก แต่ฉันก็ยังนั่งนิ่งๆ สำรวมอยู่นะ ส่วนภายในก็ให้มันระริกระรี้ไปเมื่อมาโครพาซอนญ่าเดินออกมาจากห้องนอน ก็เจอออสตินนั่งอัดบุหรี่อย่างหนักอยู่บนโซฟาอยู่ก่อนแล้ว ทั้งคู่มีสีหน้าเครียดไม่ต่างกัน มาโครพาซอนญ่าเดินมานั่งลงตรงข้ามเพื่อนของเขา ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมา“มึงจะเอาอย่างไร จะให้กูรับผิดชอบอย่างไรก็บอกมา อย่ามาทำแบบนี้กูอึดอัด” สุดท้ายเป็นออสตินที่ทนกับความอึดอัดแบบนี้ไม่ไหวเอ่ยขึ้นมาก่อน“มึงช่วยเล่าให้กูฟังที ว่ามันเกิดเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ได้อย่างไร” มาโ
ตอนที่ 5ทำไมไม่รู้สึกอะไรปัจจุบันก๊อกๆๆๆ“ยัยน้อง เสร็จหรือยัง” เสียงเคาะประตูห้องน้ำและเสียงเรียกของพี่มาโครทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ และร้องตอบพี่ชายออกไปเพราะกลัวเขาเป็นห่วง“ซอนใกล้จะเสร็จแล้วค่ะพี่ชาย” เมื่อตอบเสร็จฉันก็รีบอาบน้ำทันทีสุดท้ายการอาบน้ำที่แสนทรมานของฉันก็จบลงอย่างรวบรัดตัดตอน เพราะฉันทนความเจ็บแสบตรงน้องสาวไม่ไหว แถมมันยังบวมเป่งอย่างมาก ยิ่งโดนน้ำยิ่งทรมาน นี่ขนาดว่าเป็นน้ำอุ่นนะ ส่วนร่างกายฉันก็มีรอยจ้ำๆ ไปทั้งตัว โดยเฉพาะเนินอกที่เหมือนโดนกัดจนขึ้นรอย ฉันเลยรีบอาบรีบเสร็จ หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนเดินออกจากห้องน้ำไป พอเปิดประตูออกมาก็เจอพี่มาโครยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ“อุ้ย! พี่ไม่ต้องอุ้มซอนก็ได้ ซอนเดินไหว” ฉันท้วงขึ้นเมื่อพี่ชายฉันก้มลงอุ้มฉันขึ้นมาก่อนจะพาฉันไปวางบนเตียงนอน และมีชุดของฉันวางไว้พร้อมหมดแล้ว ยันชุดชั้นใน พี่ชายฉันก็เตรียมไว้ให้หมดไม่ต้องงงกันนะคะ พี่ชายฉันดูแลฉันแบบนี้มาโดยตลอด นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ บอกแล้วพี่ฉันเป็นพี่ชายที่แสนดีที่สุดในโลก“ซอนจะนอนเลยหรือจะกินข้าวก่อน” พี่มาโครถามขึ้นเมื่อวางฉันลงเตียง“ซอนอยากนอนเลยมากกว่า รู้สึกไม่
ตอนที่ 4งานปาร์ตี้วันนี้ฉันมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเหนือเข่า โชว์เรียวขาสวยๆ ให้พี่ออสตินมอง ส่วนความบางไม่ต้องพูดถึงถ้าเป็นกลางวันไม่ผ่านพี่มาโครชัวร์ แต่นี่กลางคืนมันคงมองไม่เห็นด้านในชัดมากนัก แม้คนใส่จะอยากให้เห็นชัดๆ ก็เถอะ ฉันดูตัวเองในกระจกแล้วหมุนตัวไปมาให้พี่น้ำหวานดู“ซอนโอเครึยังพี่น้ำหวาน เซ็กซี่มากไหม พี่ออสตินจะชอบไหมพี่ว่า” ฉันถามพี่น้ำหวานเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองมากขึ้น“อย่าว่าแต่ชอบเลย หลงเลยแหละพี่ว่า” พี่น้ำหวานก็ยังเป็นกำลังเสริมและพลังบวกกับฉันเหมือนเคย เราสองคนเข้าขากันได้ดี ความจริงฉันมีพี่เชียร์เป็นกำลังเสริมอีกคนด้วยนะ แต่ตอนนี้กำลังเสริมอีกคนของฉัน น่าจะลุกขึ้นมาเสริมกำลังให้ฉันไม่ไหวแล้ว อย่าว่าแต่จะมาเสริมกำลังให้ฉันเลย กำลังจะลุกก็ไม่รู้ว่าพี่เชียร์จะไหวรึเปล่า เห็นพี่น้ำหวานบ่นให้พี่สงครามอยู่เมื่อชมกันไปชมกันมาจนมั่นใจมากแล้ว ฉันและพี่น้ำหวานก็มาถึงงานปาร์ตี้ของพวกเราที่จัดขึ้นที่ริมสระว่ายน้ำ หน้าบ้านพักนี่แหละ เป็นไพรเวทที่สุด มีแต่ก๊วนพวกเราที่มากัน แต่แสง สี เสียง ก็ใช่หยอกอยู่นะพอมาถึงพี่ชานนท์ก็ชงเหล้ามาให้ฉันทันที ถามว่าฉันกินเหล้าเก่งไหม