เข้าสู่ระบบ"บรื้นนน!! บรื้นนนนน"ซุสใกล้อายุสองขวบกำลังนั่งเล่นรถดับเพลิงอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านโดยสุรีย์ที่เป็นหมา ดงดิบที่เป็นตัวเงินตัวทองสวมปลอกคอผ้าพันคอเหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไปนั่งอยู่ด้วยกันซึ่งวันนี้เป็นโอกาสพิเศษสุริยะ ดาเนีย พนาธีร์ และเหมียวกำลังนั่งคุยและรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อเล่าถึงความสำเร็จของการปั๊มลูกที่สนามหญ้าบ้านของเพื่อนซี้จนตั้งท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว"ฉลองงงงง" พนาธีร์ชนแก้วน้ำมนต์กับทุกคนด้วยสีหน้าเบิกบาน เหมียวเหล่มองสามีแล้วหัวเราะร่วนเพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอท้องเขาก็แห่ไปฉลองตั้งแต่บ้านพี่เรน บ้านหมอเอลวิน ที่ร้านปลาเผาพุงพุ้ง และบ้านของผอ.ฟ้ากับครูนับเก้า และมาจบที่บ้านของเฮียแซ็คกับดาเนียเป็นที่สุดท้าย"เออกูดีใจกับมึงด้วยนะไอ้ป่า ดีใจด้วยนะครับน้องเหมียว" สุริยะฉีกยิ้มให้คู่รักข้าวใหม่ปลามัน"ขอบใจเพื่อน แล้วนี่มึงกับเนียจะมีไอ้เจ้าตัวเล็กอีกคนเมื่อไหร่วะ" พนาธีร์เอ่ยปากถามแผนการปั๊มลูกคนที่สองของเพื่อนพลางคีบกุ้งชุปแป้งทอดให้เหมียวกิน เรียกได้ว่าตั้งแต่เมียท้องหนุ่มหัวเกรียนก็ดูแลและประเคนทุกอย่าง ดูเป็นผู้เป็นคนปกติแบบชาวบ้านขึ้นมาในทันที"รอซุสสองขวบก่อนก็เหลือ
คุณแม่ผมลอนยาวมัดโบว์ใหญ่สีน้ำเงินครึ่งหัวยืนเคี่ยวซุปกระดูกหมู และทำอาหารคาวสองสามอย่างอยู่หน้าเตาแก็สบรรจงจัดจานอาหารเช้า ยังไม่ลืมอบขนมปังปิ้งหน้าชีสและเห็ดที่สามีชอบกินส่งกลิ่นหอมขึ้นไปยังห้องนอนที่สองพ่อลูกกำลังนอนกลิ้งเกลือกอยู่ด้วยกันบนเตียง เพราะเห็นว่าพวกเขายังไม่ตื่นเธอจึงเขียนโน้ตทิ้งไว้ที่หัวเตียง หญิงสาวฉีกยิ้มมองดูสุริยะที่โดนซุสนอนทับขวางอยู่บนตัว คุณแม่ผู้อ่อนหวานประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของสามีและลูกชายจากนั้นให้อรุณฉายเป็นคนขับรถพาไปยังโรงพยาบาลแพทย์สินธนปกรณ์เพื่อคุยและวางแผนกับหมอเรื่องการมีบุตรอีกสามคนสุริยะที่เพิ่งตื่นนอนอุ้มซุสลงมาจากบนบ้านแล้ววางไว้ในคอกกั้นมองหาดาเนีย แต่พบเพียงพ่อบ้านศิวดลที่กำลังนั่งปลอกแอปเปิ้ล แครอท และหัวไชเท้าอยู่ในครัวคนเดียว โดยมีสุรีย์นั่งขบข้าวโพดต้มอยู่ข้างขา"เนียล่ะครับคุณดล""้คุณเนียบอกว่าจะไปโรงพยาบาลน่ะครับ แต่ผมไม่ได้ถามว่าไปทำอะไร" ชายวัยกลางคนบอกแล้วก้มลงปลอกผักผลไม้ต่อ"เนียป่วยเหรอ" ครุ่นคิดแล้วนึกถึงโน้ตสีชมพูที่แปะอยู่หัวเตียง เขาเดินขึ้นไปหยิบกระดาษแผ่นจิ๋วขึ้นมาอ่าน "To เฮียแซ็ค&ซุส เนียไปทำธุระที่รพ.กับอรุณฉายค่ะ
ในงานเลี้ยงหรูเต็มด้วยนักธุรกิจชายหญิงสุริยะในชุดทักซิโด้เรียบหรูหล่อจนสาวในงานพากันชะม้อยชะม้ายชายตา ไม่ต่างกับคู่ควงคนงามอย่างดาเนีย ภรรยาคนสวยที่แต่งชุดราตรีแบบจัดเต็มยศซะเขาหายใจหายคอไม่ออกเพราะหน้าอกขาวผ่องที่เบียดกระชับอยู่กลางเดรสคล้องคอเรียบสีดำแหวกหน้าตู้มต้ามเว้าหลังไปถึงช่วงเอวคอด ทำให้ใจของผู้ปฏิบัติงานชิงหุ้นคืนให้กับผู้ว่าจ้างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไปหมด แบบนี้เขาจะทำงานอย่างสบายใจได้อย่างไร ในเมื่อเมียแต่งชุดยั่วน้ำลายขนาดนี้"เนียไอ้เชือกที่ผูกเป็นปมที่คอถ้ากระตุกทีเดียวมันก็หลุดหมดเลยใช่ไหมคะ" เขาถามขณะจิบค็อกเทลอยู่ข้าง ๆ ดาเนียที่กำลังตักพุดดิ้งไวท์ช็อกโกแล็ตภายในงานเลี้ยงใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย"ใช่ค่ะเฮียจะกระตุกดูไหมล่ะคะ เนียจะได้โป๊เลย ฮ่าฮ่า" ท้าทายอย่างสนุก แต่คนโดนท้าไม่ขบขันเท่าไหร่นัก"ถ้าตอนเฮียไม่อยู่ หรือเนียถูกไอ้เขมมันล่อลวงไปเนียจะเอาตัวรอดยังไง" จิกตาขุ่นเขียวมาให้แล้วฉกขนมในมือของเธอวางลงเพื่อให้ตอบคำถาม"นี่ค่ะ" ดาเนียแหวกที่ช็อตไฟฟ้าที่เสียบไว้ข้างขา "พี่ลินซักซ้อมให้เนียเรียบร้อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะและก็ไม่ต้องหึงด้วยยังไงเนียก็เป็นของเฮียคนเดียว ถ้
เนื่องในโอกาสที่ซุสเจ้าลูกเทพเจ้าตัวแสบมีอายุครบหนึ่งขวบหกเดือนบริบูรณ์ แถมยังเจื้อยแจ้วไม่หยุด วันนี้ดาเนียจึงทำมื้อเย็นสุดอร่อยให้ลูกชายกับสามี และออกปากให้สุริยะโทรตามผู้ว่าจ้างคนใหม่ของเขาอย่างพี่สาวต่างแม่ของเธอมาด้วยเพื่อให้มาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจให้จบ"นึกไงชวนดาเรศมา" สุริยะถามระหว่างขึงผ้าปูโต๊ะที่สนามหลังบ้านให้ตึง"เนียอยากคุยให้จบ ๆ ไปค่ะ ยังไงเขาก็มีสายเลือดปรมะเมคินทร์เหมือนเนีย" ดาเนียอธิบายแล้วเดินขนของกินมากมายมาวางบนโต๊ะกินข้าว"แกเห็นฉันเป็นพี่สาวแล้วจริง ๆ น่ะเหรอยัยเนีย" ดาเรศโผล่มาแล้วผายมือให้บอดี้การ์ดของเธอไปยืนอยู่ไกล ๆ ก่อนที่หล่อนจะทรุดตัวลงส่งตุ๊กตาหมาให้กับหลานชาย"มู๋" ซุสชูตุ๊กตาให้แม่ดู"หมาครับลูกไม่ใช่หมู" ดาเนียแก้คำพูดให้ลูกชาย"น่ารักดีนะ" ดาเรศบอกแล้วลูบหัวหลานคนแรกของตน"นั่งก่อนสิคะ กินไปคุยไปจะได้ไม่ตึงเครียดนัก" แม่บ้านดาเนียวางจานสเต็กไก่และรินไวน์ของไร่วิโอล่าให้พี่สาวต่างแม่"ขอบคุณนะ เธอก็นั่งก่อนสิ" สาวผมสั้นสีดำฉุดมือน้องสาวให้นั่งลงข้าง ๆ เธอ"อ้อค่ะ" สุดท้ายดาเนียจึงต้องมานั่งข้างพี่สาวส่วนซุสนั้นไปวิ่งเล่นอยู่กับสุรีย์อย่างสนุกสนา
สามีผู้รู้งานตอบรับการเล่นบทบาทสมมุติของภรรยาโดยการปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปปล้นถอดเสื้อผ้าดาเนียจนเหลือเพียงแค่ถุงน่องดำเท่านั้น"เริ่มเทสกันเลยดีไหม จากตรงไหนดี...." เขาถามแล้วกรีดปลายนิ้วลงมาที่ร่องอกแล้วเริ่มขยำทั้งสองข้างให้มันพองขยายพร้อมรับริมฝีปากของเขาอย่างเต็มที่ จากนั้นจับยกขาสองข้างของดาเนียขึ้นคร่อมวางที่มุมเก้าอี้ผ้าให้ความอล่างฉ่างตรงหน้าเบ่งบานชัดสู้สายตาที่กำลังสำรวจมอง"หยุดจ้องสักทีสิคะ" เขาเอาแต่จ้องจนแสกนทุกตารางนิ้วมือเล็กรีบเอื้อมไปปิดตาด้วยความอาย ถึงจะผ่านศึกกับเขามาเยอะแต่มาจ้องเขม็งกันแบบนี้เป็นใครก็ทำตัวไม่ถูก"มาสมัครงานไหนล่ะพอร์ตฟอลิโอ หรือว่าอันนี้" กระตุกยิ้มแล่บลิ้นวาดไปรอบริมฝีปากก้มใบหน้าต่ำลงมาที่ซอกขาออกแรงดูดเนินผิวอมชมพูที่ขาด้านในจนเป็นรอยแดง"อื้อ...เฮียอ่ะ" มือเล็กส่งออกไปหวังห้ามปรามแต่เขากลับรับไว้ทันแล้วถูกระดมจูบที่หลังมือไปทั่ว"ไม่เรียกเฮียสิ ตอนนี้รับบทเลขาอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ต้องเรียกท่านประธานขาสิที่รัก เรียกเร็วเข้า"กลางรอยแยกสีชมพูพีชถูกฉีกออกกว้างด้วยนิ้วมืออันชำนาญของประธานหนุ่ม ปลายเท้าถูกยกขึ้นสูงให้องศาการวา
ดาเนียอดหลับอดนอนดูแลสามีทั้งคืน สำหรับเธอแล้วเขาเหมือนเด็กผู้ชายที่หลงมาอยู่ในร่างชายอายุ 30 ปี อยู่ต่อหน้าคนอื่นดูน่าเกรงขาม ดุดัน และเกรี้ยวกราด แต่อยู่กับเธอและลูกปากหวาน ขี้อ้อน และนุ่มนวล ซึ่งมันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่านิสัยแข็งนอกอ่อนในของเขามีสาเหตุมาจากการสูญเสียงซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือเปล่าเริ่มตั้งแต่ที่พ่อแม่เอาเฮียแซ็คไปทิ้งให้ตายายเลี้ยงที่เมืองนอก อดีตคนรักเสียชีวิต แล้วพ่อก็มาหัวใจวาย คราวนี้ถึงตาแม่เขาอีกคน นึกไม่ออกเลยว่าเขารับมือกับมันได้อย่างไร แต่สิ่งเดียวที่เธอจะช่วยให้เขาผ่านเคราะห์ทั้งหลายไปได้ก็คือ การอยู่เคียงข้างเขา และทำให้ปรารถนาที่เขาอยากมีลูกสี่คนเป็นจริงให้ได้ เพราะเธอเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าที่เฮียแซ็คอยากมีลูกเยอะๆ ก็เพื่อทดแทนบุคคลที่เขาสูญเสียไปนั่นเอง"ไข้เฮียลดแล้ว งั้นเนียเปิดปากคุยเรื่องสำคัญเลยนะคะ" ดาเนียทำหน้านิ่งบนตักของเธอมีซุสนั่งอ่านหนังสือนิทานอยู่อย่างตั้งใจ"เรื่องอะไรเหรอเนีย" คนป่วยหน้าซีดตักข้าวต้มทะเลใส่ปาก"เมื่อวานแม่เฮียโทรมา เนียเลยรับสาย""แล้วยังไง""แม่เฮียบอกว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายค่ะ""........" มือที่กำลังจะตักข้าวต้มใส
![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






