"เฮียคะ....อย่านะอื้อ....เนียอายค่ะ" ดาเนียยกมือปิดหน้าเพราะขาของเธอกำลังถูกแยกกว้าง "เนียเองก็ทั้งสวยและเซ็กซี่" เสียงทุ้มนุ่มกล่าว ตวัดส่งนัยน์ตาพราวระยับมาให้ ร่างแกร่งนอนคว่ำหน้าลงให้แผงอกชิดวางแนบกับพื้นเตียงเพื่อทำให้คนตรงหน้าสุขสมจนถึงสวรรค์ให้มากที่สุด ใบหน้าคมบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะเจ็บแปลบที่บาดแผล แต่เพราะความต้องการหลอมรวมกับดาเนียนั้นมีมากกว่า ความเจ็บที่ทวีคูณเข้ามาก็เป็นเพียงฝุ่นละอองที่พัดผ่านไป
View Moreเกือบห้าปีแล้วที่สุริยะ อัครภูรินทร์ยืนไว้อาลัยอยู่หน้าหลุมศพของของพริมพลอยคนรักหนึ่งเดียวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วย
แม้การจากไปของเธอจะผ่านมาแล้วหลายปี แต่เขาก็ไม่เคยจดจำเสียทีว่าตนเองมาเยือนหลุมศพแห่งนี้กี่ครั้ง รู้เพียงแต่ว่าไม่มีครั้งไหนที่จะไม่คิดถึงคนรัก เขารักเธอสุดหัวใจ และคิดว่าคงไม่มีใครมาแทนที่พริมพลอยได้อีก หรือจนกว่าเขาจะล้างแค้นคนที่ทำให้แฟนสาวของเขาหมดลมหายใจได้สำเร็จ
พี่ชายของเธอ คือ ศัตรูคู่แค้นที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตเขา และเขาจะไม่มีวันนอนตายตาหลับหากไม่ได้ปลิดชีพ เขมทัต วัชรกาณจน์ พี่ชายไม่แท้ของแฟนสาว
"มึงจะไปบวชนานไหม" สุริยะถามเพื่อนสนิทหนึ่งในบก.มาเฟีย พนาธีร์ ลูกชายของอาจารย์เธียร ฉายานัยน์ตาเทพ ผู้หยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเป็นเจ้าของสำนักหมอดูอัตรยามีที่มีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก
"สองปีว่ะ พ่อกูบอกว่าถ้ากูไม่บวช ชีวิตกูจะบัดซบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลังจากที่กูบวชและไปอยู่พุทธคยา ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มึงก็รู้นี่ว่าเมียกูทิ้ง แต่งงานกันไม่กี่วันก็เชิดเงินหนีไปกับผัวเก่า กูรู้สึกโง่ฉิบหาย..."
"แล้วมึงเชื่อที่พ่อมึงบอกเหรอไอ้ป่า"
"กูจะไม่เชื่อเลยถ้าพ่อไม่ทักเรื่องมึง....." พนาธีร์เอนตัวลงพิงกับต้นไม้ใหญ่ใจกลางสุสาน
"เรื่องอะไรวะ" สุริยะยังคงพูดสีหน้าเรียบเฉยเอนแผ่นหลังอยู่ด้านข้างพนาธีร์ เพื่อนรักจึงยืดตัวขึ้นนั่งกวาดมองเพื่อนซี้ที่หน้าตึงอยู่ตลอดเวลา
"ก็เรื่องที่ว่าน้องสาวไอ้เรนจะมาสมัครงานกับมึง แล้วไงล่ะเมื่อสองวันก่อนดันมาจริง กูยังขนลุกไม่หายเลย"
"ทักแค่นั้นมึงก็เชื่อแล้วหรือไง" ชายหนุ่มยังคงไม่เชื่อตวัดดวงตาคมกริบไร้สีสันส่งให้พนาธีร์
"ไม่ใช่แค่นั้น มันยังมีอีก หลังจากที่ดาเนียมาสมัครงานกับมึง นับจากนี้ถ้ามึงทำร้ายความรู้สึกดาเนีย มึงจะเจ็บมากกว่าตอนที่มึงเสียพริมไป"
"กูจะเจ็บกว่าได้ยังไง เพราะคนที่กูรักมีแค่พริมเท่านั้น" สุริยะยังคงยืนยันว่าคนที่เขารักนั้นมีเพียงพริมพลอย
"ไอ้แซ็ค มึงไม่คิดจะเปิดใจกับดาเนียหน่อยเหรอวะ กูเห็นน้องมันชอบมึงจริง ๆ นะเว้ย และดาเนียก็สวยขนาดนั้นมึงไม่เสียดายหรือไง"
"พริมก็สวย" เขาเถียงพนาธีร์กลับอย่างไม่ยอมและยังคงดึงดัน
"เออ พูดดีไปเหอะ ถ้าหมาตัวไหนมันคาบดาเนียไปแดกกูจะขำให้ฟันร่วงเลย"
"มึงจะไม่มีวันได้ขำแน่นอน" พนาธีร์กลอกตามองบนเขาแม่งสุดจะทนกับไอ้ความยึดติดของเพื่อนตัวดี
หลังจากที่แยกย้ายกับพนาธีร์ไม่นาน ศิวดล พ่อบ้านส่วนตัวผู้เป็นทุกอย่างให้กับคนในตระกูลอัครภูรินทร์ เดินเข้ามาหาเจ้านายของตนที่โต๊ะหนังสือตัวเดิมที่สุริยะมักจะนั่งเซ็นเอกสารเงียบเชียบคนเดียว ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกหย่อนลงตรงหน้า เขาเหล่มองครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อบ้านมือฉมัง
"อะไร"
"ก็เอกสารลับที่คุณแซ็คให้ผมไปจัดการสืบมาไงครับ ผมได้มาทั้งหมดที่คุณแซ็คต้องการ"
"ดี งั้นฉันจะได้ไปหาไอ้เรน....ตอนนี้มันอยู่ที่งานของลุงโทนใช่ไหม" แซ็คยืดตัวตรงขึ้นกระชับสูทแล้วกลัดกระดุมเสื้อให้ครบทุกเม็ดเพื่อเตรียมตัวออกไปพบกับเพื่อนซี้ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาตลอดห้าปี
"ใช่ครับ"
ชายหนุ่มที่แต่งชุดสูทดำอยู่ตลอดแทบจะไม่เคยเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันเดินทางถึงห้องโถงจัดงานโรงแรมขนาดใหญ่ ยามที่ร่างสูงเดินผ่าเข้าไปพบเพื่อนสนิท ทุกคนรอบตัวก็กวาดตามองเขาด้วยความหวั่นเกรง
เขาใช้เวลาคุยกับพิรุณไม่นานนักเพราะอยากรีบรวบรัดให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีนัดกับเลขาสาวสองคนที่กำลังรอคอยเขาอยู่ที่โรงแรมอีกแห่ง ในเมื่อจ้างมาให้ปรนนิบัติแล้วเขาก็ต้องใช้ให้พวกหล่อนทำให้เขาผ่อนคลายถึงที่สุด
แต่หลังจากที่เขาออกมาจากโรงแรมได้ไม่นานก็เห็นสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินสับขาเข้าไปในโรงแรมด้วยท่าทางเร่งรีบ เป็นยัยเด็กนั่นเอง ดาเนีย ปรมะเมคินทร์ เด็กไร้เดียงสาที่กล้ามาสมัครงานเลขากับเขา โดยหารู้ไม่ว่า เลขาในความหมายของเขามันเป็นคนละแบบอย่างที่เธอเข้าใจ แต่ถ้าในเมื่อเด็กน้อยยังไม่เข้าใจ เขาก็จะทำให้เธอกระจ่างแจ้งเอง
เพราะเขาจะต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เขาจะไม่มีวันเก็บเกี่ยวความสัมพันธ์ใด ๆ กับดาเนียเด็ดขาด ถึงแม้ไอ้ป่าจะบอกว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเรื่องดาเนียมากกว่าเรื่องพริมพลอย แต่ยังไงซะในเมื่อเขาไม่เริ่มต้นความสัมพันธ์ ดาเนียก็ไม่มีวันเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดที่ไอ้ป่าว่ามาอย่างแน่นอน
"คุณแซ็คให้คุณดาเนียออกมาก่อนทำไมครับ"
"ก็ฉันจะพาเด็กนั่นไปดูกิจกรรมที่ผู้ใหญ่เขาทำกันน่ะสิ"
เขาหลับตาลงขบคิดเรื่องเดิม ๆ ภาพความทรงจำเก่าของเขากับพริมพลอย ทว่าเสียงของกลุ่มคนที่เดินออกมาด้านหน้าโรงแรมก็ดังขึ้นขัดจังหวะความนึกคิด เขาลดกระจกหลังรถลงลอบมองดู พิรุณ ปาลิน และดาเนียอยู่ในความมืด
ครั้นรถพิรุณแล่นออกไป ดาเนียที่เปล่งรอยยิ้มสดใสในตอนแรกกลับหุบยิ้มลง แถมยังเป็นใบหน้าที่หมดอาลัยตายอยากขั้นสุด ยัยเด็กนี่มีอะไรให้เศร้าเสียใจกับเขาด้วยงั้นเหรอ
ดาเนียเดินกลับเข้าไปในงานราวสิบนาทีก็กลับออกมาอีกครั้ง เธอเดินไปเดินมาเหมือนกับคนคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน แต่แล้วผู้หญิงหน้าตาคุ้น ๆ และเขาก็รู้จักเป็นอย่างดีว่าหล่อนขึ้นชื่อเรื่องอะไรมากที่สุด โชติกา ภพนคร เป็นแม่เล้าเบอร์ต้นของวงการที่จัดหาสาวสวยและบุคคลมีชื่อเสียงไม่ว่าจะดารา นางแบบ เพื่อมอบเป็นของบรรณาการให้กับเศรษฐีต่างชาติ แล้วทำไมเด็กนั่นถึงไปคบหากันคนพรรค์นี้ได้ คิดแล้วก็หงุดหงิดชะมัดที่ผู้หญิงกะโหลกกะลาอย่างน้องสาวไอ้เรน กำลังตกเป็นเป้าหมายใหม่ของโชติกา
ถึงเขาจะไม่อยากยื่นมือเข้าไปยุ่ง แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนนึงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แถมยังเป็นน้องสาวเพื่อนรักอีก ถ้าไม่เข้าไปยุ่งมีหวังไอ้เรนเอาตาย
และกว่าที่เขาจะรู้ตัว ตนเองนั้นก็พาผู้หญิงที่อ่อนกว่าถึงเก้าปีขึ้นมานั่งอยู่ข้าง ๆ เสียแล้ว แถมยังซักนั่นนี่ไม่หยุด แล้วยังจะมาถามว่าให้พาไปทำงานเอกสารในเวลานี้ได้เลย ช่างอ่อนต่อโลกซะเหลือเกิน ถึงว่าไอ้พวกชั่วมันถึงได้หูตาสับปะรดเพราะปราดเดียวคงมองออกว่าดาเนีย ปรมะเมคินทร์คนนี้คงไม่ทันเกมใคร และเอาตัวรอดจากสังคมอันเลวร้ายแห่งนี้ไม่ได้
"จะไปส่งบ้าน" ตอบห้วน ๆ แต่ก็เหลือบมองดูใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางที่กำลังทำหน้าเหมือนไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่นัก
"เนียไม่อยากกลับบ้านค่ะ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านได้ไหมคะ บ้านของ..เฮียแซ็คก็ได้" ช่างกล้าพูดออกมาได้ยังไง เป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายเสียจริง
"ภายนอกดูดี แต่กิริยาคำพูดน่ารังเกียจ" เขากร่นด่าออกไปให้สำนึกแต่ไม่รู้ยัยเด็กนี่จะเข้าใจบริบทไหม และเขาก็ไม่ใช่คนประเภทปากหวานก้นเปรี้ยว คิดแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งพูดแรงเท่านั้น
"ใช่....เนียมันน่ารังเกียจ ทุกคนรังเกียจเนียมานานแล้ว เนียไม่แปลกใจเลยที่เฮียแซ็คก็รังเกียจเนีย" ถึงจะแค่นพูดออกมาแต่เสียงเล็กนั่นก็สั่นเครืออยู่ดี
"เข้าใจถูกแล้วที่ฉันรังเกียจเธอ และต่อไปเธอเองก็จะรังเกียจฉันเหมือนกัน ดล!...ไปที่ห้อง 6901" ศิวดลย่นคิ้วชิดกัน ไม่คิดว่าเจ้านายจะกล้าพาผู้หญิงที่แสนดีแบบคุณดาเนียไปดูอะไรแบบนั้น แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งเจ้านายเขาก็ต้องทำ
รถติดฟิล์มสีดำทะยานมาจอดที่โรงแรมอีกที่ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานของพ่อเธอไม่มากนัก สุริยะก้าวขาลงไปก่อน พลางตวัดนัยน์ตาขุ่นเขียวมาให้ดาเนียอย่างไม่พอใจ จนทำให้เธอต้องรีบกระเถิบตัวลงมาจากรถโดยเร็ว
"ตามมา!" เขาว่าแล้วรีบสับขาเข้าไปภายในโรงแรมด้วยความใจร้อน ศิวดลยิ้มเจื่อนให้ดาเนียและก้มหัวให้เธอเล็กน้อย ดาเนียพยักหน้ารับแล้วรีบตามสุริยะไป ตอนนี้เธออยู่ภายในลิฟต์กับเขาสองต่อสองระหว่างที่รอลิฟต์ให้ขึ้นไปยังชั้นหก
หญิงสาวมองมือซ้ายของเขาที่สวมแหวนสลักชื่อของใครบางคนเอาไว้ หรือว่าจะเป็นชื่อคนรักของเขากัน คิดได้ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก เขาก็รีบเดินนำไปก่อนและเคาะประตูที่ห้องเลข 6901
ทันใดนั้นหญิงสาวสองคนก็เปิดประตูออกมา พวกเธออยู่ในชุดที่ทำให้หัวใจของดาเนียแทบจะสลายในเสี้ยววินาที ผู้หญิงสองคนนี้คือคนที่มาสมัครงานเลขาพร้อมกับเธอ และตอนนี้กำลังสวมใส่ชุดนอนซีทรูตัวบางจนเห็นสัดส่วนทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้เธอเข้าใจดีแล้วว่าเขาพาเธอมาดูอะไร ถ้าในเมื่อเขาพาเธอมาดูได้เธอก็จะทนดูให้จบ ๆ ไป อย่าคิดว่าคนอย่างดาเนียจะขี้ขลาด เพราะเธอเจออะไรมามากกว่าที่เขารู้ ทั้งการถูกบูลลี่ทางกายและทางใจ แต่เธอสั่งให้พี่เรนปิดเรื่องนี้จากทุกคน แม้กระทั่งปิดเรื่องนี้จากเฮียแซ็คด้วย แต่ถึงเขารู้ก็คงจะไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเธอเท่าไหร่อยู่ดี
การจากลูกจากเมียเกือบสองเดือนทำให้สุริยะปล่อยผมเผ้ายาวรุงรังไม่ต่างกับโจรป่าห้าร้อย ความโฉดและความโหดที่ลือกระฉ่อนอยู่ก่อนแล้วทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาน่ากลัวขึ้นไปอีก เวลาเดินผ่านลูกค้าที่คาเฟ่บนร้านหนังสือ ชายหญิงทั้งหลายต่างผงะมองค้างไม่คิดว่าจะเจอทาร์ซานหลงมาเดินอยู่ใจกลางเมืองแสงสีเช่นนี้ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาอิดโรยอ่อนล้าปรากฏขึ้นฉาบความหล่อเหลาจนเห็นชัด เพียงแค่ตวัดหางตาไปยังกลุ่มลูกค้าสาวที่นั่งอยู่มุมโต๊ะด้านในสุด พวกเธอก็สะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากสุริยะทมิฬที่ถูกหลุมดำดูดดึงเข้าไป ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจให้ดาเนียไปอยู่ไกลถึงนิวยอร์กกับพ่อตา เธอก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับเหตุผลแต่โดยดี แต่เขากลับสังเกตเห็นดาเนียนอนตะแคงร้องไห้พยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดทั้งที่ปากก็บอกว่าจะยอมไปคลอดลูกอยู่ที่โน่น แต่วันก่อนหน้าที่จะเดินทางไปกลับไม่คุยเล่น ไม่ให้เขาจับหรือหอมใด ๆ ทั้งสิ้น บอกเพียงแค่ว่า 'เนียกลัวตัวเองไม่กล้าปล่อยมือเฮีย' เธอพูดขึ้นมาแค่นั้น แล้วก็เดินไปกลับกลุ่มบอดี้การ์ดของพ่อตา ไม่ยอมหันหน้ามายิ้มหวานอย่างที่ชอบทำวินาทีก่อนลากันเมื่อแผ่นห
การแต่งงานผ่านพ้นไปอย่างสวยงามแม้ในคืนแต่งเจ้าบ่าวตัวดีจะไปเมามาย แต่คืนนั้นสุริยะก็โอบกอดภรรยาคนสวยของตนไม่ยอมปล่อย ยิ่งท้องของดาเนียใหญ่ขึ้นเขาก็ยิ่งหวนแหนและวิตกจริตกว่าใคร โดยเฉพาะทุกครั้งที่เขากำลังจะมีความสุข มันจะมีลางสังหรณ์ว่าความทุกข์กำลังจะมาเยือน*********************************** สำนักอัญฏรญามี สุริยะไปหาอาจารย์เธียร หมอดูญาณทิพย์คนดังพ่อของพณาธีร์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับดาเรศ พี่สาวต่างแม่ที่ลึกลับของภรรยา"พวกเธออาจจะมีเหตุต้องจากกันไปสักพัก แต่จากกันครั้งนี้มันจะไม่มีอะไรที่หนักหนาอีก ก็อาจเจอเรื่องน่าหงุดหงิดบ้างแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เกิดเรื่องเลือดตกยางออกนะแซ็ค" อาจารย์เธียรนั่งขัดสมาธิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"หมายถึงอะไรครับพ่อ""บอกหมดเลยไม่ได้หรอก มันเป็นกฏ บางครั้งเธอก็ต้องฟังหูไว้หู เธอเชื่อฉันได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่างไรก็จงฟังไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงวันนี้เธออกจากสำนักฉันไปก็ระวังผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อดาเรศไว้ วันนี้หล่อนจะมาคุยบางอย่างกับเธอ"อาจารย์เธียรทิ้งทวนประโยคอย่างเป็นปริศนา สุริยะที่นั่งอยู่เบาะหลังรถ
หาดพัทยา สุริยะกับดาเนียเลือกจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงห้าสิบคน รวมทั้งเพื่อน ๆ ในกลุ่มบรรณาธิการมาเฟียที่ควงภรรยาของตัวเองมาเปิดตัวในงานแต่งด้วย สาว ๆ ทั้งหกคนได้พบกันและคุยกันอย่างออกรสออกชาติที่โต๊ะเลี้ยงฉลองริมทะเล แต่กระนั้นสิ่งที่ทำให้ดาเนียอึ้งที่สุดคือ ยัยเหมียวเพื่อนสนิทกลับกระหนุงกระหนิงเคลียคลอมาพร้อมพนาธีร์เจ้าสาวรีบลากเหมียวมานั่งร่วมวงสนทนากับเหล่าภรรยาของเพื่อนพี่ชาย และเริ่มเปิดประเด็นถามไถ่ความจริงจากปากของเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันครึ่งค่อนปี แต่พอชวนให้มางานแต่งของเธอกับเฮียแซ็ค ยัยเหมียวดันควงแขนมากับพี่ป่าแบบงง ๆ"แกไปคบกับพี่ป่าตอนไหน เล่ามาเดี๋ยวนี้" ดาเนียจิกตาส่งให้เหมียวที่กำลังทำหน้าอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากจุดไหนก่อน"ก็คบกันหลังจากที่ฉันบินมางานเปิดตัวสตูดิโอแกนั่นแหละยัยเนีย พี่ป่าเขาไปตามตื๊อฉันถึงนอร์เวย์ แล้วฉันก็กลับมาดูแลกิจการที่เมืองไทยแทนแม่ก็เลยได้มีโอกาสศึกษาดูใจกัน" เหมียวพูดไปเขินไป"แล้วน้องเหมียวกลัวเจ้าดงดิบของพี่ป่าไหม พี่เรนพาไปบ้านพี่ป่าทีไรพี่ตกใจเจ้าตัวนั้นทุกที ฮื่อ...ขนลุก" ปาลินเล่ายกมือขึ้นกอดตัวเอง"ทำ
"ยุบหนอ! พองหนอ! สติสติ! ฮู่ว...."ท่องในใจหลับตาข่มอารมณ์ที่กำลังวาบหวามจนหัวหมุนติ้วจากฝ่ามือซุกซนที่กำลังเลื้อยไปทั่วเนื้อตัว"เฮียถึกขึ้นนะคะ แสดงว่าระงับความหื่นได้แล้ว ต่อไปมีผู้หญิงมาอ่อยเฮียจะได้ไม่ไปสอยเข้าร่วงเหมือนเมื่อก่อน" กระซิบแล้วงับลงมาที่ใบหูจนขนแขนพากันลุกตั้งโดยมิได้นัดหมาย "เนียวันนี้เฮียต้องทำงานดึกนะ" พูดไปกำผ้าขนหนูแช่เย็นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ ดาเนียกระตุกยิ้มสะใจที่ได้กลั่นแกล้ง"ปกติเฮียชอบกินรอบดึกไม่ใช่เหรอคะ วันนี้นึกยังไงไม่กินซะแล้ว แต่ทำงานแทน สงสัยของเฮียคงจะเหี่ยวแล้วแน่เลย""ของเฮียไม่ได้เหี่ยวนะ แข็ง แน่น และฟิตมากไม่เชื่อจับดูสิ"หมับ!!"อึ้มจริงด้วยค่ะ" มือข้างหนึ่งของภรรยาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง "เนีย....ขอร้องอย่า" หลับตาวิงวอนขอกล่องดวงใจที่กำลังแข็งขืนในกำมือคืนมากจากดาเนีย"อย่าหยุดเหรอคะ ว่าไงล่ะ พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ เนียไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ" มือที่ว่างอีกข้างนวดบั้นท้ายสามีแล้วขยำแรง ๆ จนคุณพ่อบ้านสะดุ้งโหยง"ตัวแสบปล่อยเฮียเถอะนะคะ" ปากหวานระดับสิบแสดงว่าคงมุ่งมั่นตั้งใจในการขอแต่งงานมากจริง ๆ "ปล่อยแล้วค่ะ" บอกแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้มิ
สำนักหมอดูอัญฏรญามีสุริยะถูกพนาธีร์รบเร้าให้มาดูฤกษ์กับพ่อของตนเองที่สำนัก ปกติไปที่ไหนก็จะต้องได้จิบกาแฟ แต่มาสำนักไอ้ป่าต้องจิบน้ำมนต์ทุกที ไม่นานนักพ่อของเพื่อนซี้เดินเข้ามาพร้อมกับแผ่นกระดาษที่จดฤกษ์มงคลในการขอดาเนียแต่งงานไว้เรียบร้อย ดวงตาคมตวัดมองไปที่กระดาษแล้วหันขวับไปหาบิดาของเพื่อนอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ"ขอแต่งตอนตีหนึ่งเหรอครับ ไม่มีฤกษ์อื่นแล้วเหรอครับคุณพ่อ""ดวงพวกเธอสองคนมันไม่ค่อยปกติแบบชาวบ้านเขา ยิ่งเจ้าป่าประหลาดเลยแหละ" อาจารย์เธียรเหลือบมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้สืบทอดสำนักคนต่อไป"ของกูนะไอ้แซ็ค ไปเดทที่ป่าช้า ขอแต่งที่กุฏิหลวงปู่ธร สงสัยถ้าน้องเหมียวท้อง สงสัยได้ไปคลอดในถ้ำหมีแน่"ป้าบ!!ฝ่ามืออรหันต์ของอาจารย์เธียรฟาดลงมาบนหัวของลูกชาย สุริยะสะดุ้งเฮือกมองพ่อลูกคู่พิลึกแล้วรีบขอตัวกลับก่อนจะได้ฤกษ์มงคลที่แปลก ๆ มาอีกชายหนุ่มนัดแนะกับพ่อบ้านศิวดล และอรุณฉายรวมทั้ง จิตตรีป้าพยาบาลพิเศษให้ช่วยกันล่อดาเนียไว้อย่าให้มายุ่งแถวสวนหลังบ้านเพราะเขากำลังตกแต่งประดับประดาหลอดไฟสวยงามพาดไปกับต้นหางนกยูง สถานที่ประทับจิตประทับใจที่เขาปลุกเร้าภรรยาจนเป็นลมและทำให้รู้ว่
"อ๊ะ....อื้อเฮียบ้า" ดาเนียพยายามถดตัวหนีจากนิ้วร้ายที่ทะลวงเข้ามาไม่ยั้ง แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี"เฮียขอร้องนะเนีย มีอะไรก็พูดกับเฮียตรง ๆ ได้ไหมคะเราถือเป็นคน ๆ เดียวกันแล้วนะเนีย""ยอมแล้วค่ะ....อ๊าหยุดก่อนนะคะ ได้โปรด" ดวงหน้าเว้าวอนน่าสงสารทำให้สุริยะตัดใจถอนนิ้วออกมา เคลื่อนตัวขึ้นจรดริมฝีปากบนหน้าผากเพื่อปลอบประโลม"ขอโทษนะคะ เฮียแค่น้อยใจเนียน่ะ" พูดเสียงนุ่มรั้งตัวของภรรยาให้ลุกขึ้นมา"เมื่อวานพี่แนท ก็คือคุณดาเรศ พี่สาวของนิ้งมาพบเนียและห้ามให้เนียไปเยี่ยมนิ้งอีก รวมทั้งขู่...ขู่ว่าจะแย่งเฮียไปจากเนีย จะขโมยเฮียไปเป็นของตัวเอง ตอนที่ได้ยินแบบนั้นเนียเจ็บไปหมด ทั้งโกรธทั้งหวงจนคิดอะไรไม่ออก รู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน"ใบหน้าคมคายรู้สึกปลื้มปีติที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงดาเนียรักและหวงแหนเขามากแค่ไหน เรื่องทั้งเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากหึงผัวตัวเองเท่านั้น ช่างน่ารักเหลือเกินภรรยาคนนี้"ไม่ต้องกลัวนะ จะไม่มีใครมาแย่งเฮียไปจากเนียได้ นอกจากความ...ตา...อุ๊บ!" คนฟังไม่ยอมให้เขาเอ่ยคำอัปมงคลออกมาจึงรีบประกบปากของตนดันบ่ากว้างให้นอนลงกับพื้นเตียง บดจูบหนักหน่วงและรุนแรง
ว่าที่คุณแม่ในชุดบิกินี่ทูพีชสีชมพูโอรสสองชิ้นกำลังแหวกว่ายไปมาอยู่ในสระว่ายน้ำชั้นบนสุดของบ้าน ทั้งที่เป็นคนที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำนัก แต่หลังจากวันนั้นที่เจอกับพี่แนท คำพูดที่บอกว่าจะแย่งเฮียแซ็คของเธอมันก็จุกอยู่ในอกตลอดเวลาบนโลกใบนี้อาจจะมีหลายสิ่งที่เธอหวาดกลัว มีหลายสิ่งที่ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อาจสูญเสียให้ใครก็คือ พระอาทิตย์ดวงใหญ่ดวงนี้ สุริยะที่เคยมืดมิด แต่กลับเปล่งแสงเจิดจ้าอันอบอุ่นให้เธออยู่เสมอและใครจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือเปิปแย่งของ ๆ เธอ ยังไงก็ไม่มีวันยอม ถ้าจะต้องแตกหักกับเพื่อนของพี่สาวเธอก็จะหักให้มันแหลกคามือ เธอเจ็บและทนให้เพื่อนสมัยเรียนรังแกมาเยอะแล้ว นับจากนี้หมดเวลาฟูมฟาย หมดเวลาด้อยค่าและดูถูกตัวเอง เธอจะลุกขึ้นมาฟาดและสู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้"เนีย...ว่ายน้ำหรือแช่น้ำ เฮียนั่งรอเนียนานแล้วนะ" ชายหนุ่มที่เดินขึ้นมาถึงสระว่ายน้ำหยุดยืนดูอยู่พักใหญ่แต่ภรรยาก็เอาแต่เกาะขอบสระตัวนิ่ง เหม่อลอยไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเดินเข้ามา"เอ่อ...กลับมาแล้วเหรอคะ ยินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ แหะแหะ" ยิ้มแห้งเพราะไม่คิดว่าสามีจะกลับมาเร็ว และเธอก็อายที่จะลุกออกจากสระเพราะ
เนื่องจากดาเนียร่างกายอ่อนแอมากและอาเจียนหลายครั้ง สุริยะจึงสั่งห้ามเธอออกไปไหนและจ้างพยาบาลรุ่นป้าของโรงพยาบาลแพทย์สินธนปกรณ์ของหมอเอลวินมาดูแลภรรยา ส่วนเขารีบเข้าไปที่ร้านหนังสือลึกลับของตนเองเพื่อหารือเรื่องผังความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ แนท ดาเรศ ซีอีโอสาวของบริษัทเครื่องจักรกลยักษ์ใหญ่ที่สืบสาวราวเรื่องไปมาหล่อนดันมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทของเขมทัต วัชรกาญจน์ ฆาตกรที่สั่งฆ่าพริมพลอย อดีตแฟนสาวเมื่อได้รับรู้ว่าทั้งสองคนเคยรู้จักกันเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่า นี่อาจจะเป็นข้อเสนอยืมมือของดาเรศมาใช้จัดการดาเนียกับตนเองแต่มีหรือที่เขาจะปล่อยให้พวกมันข่มเหงและหยามเหยียดโดยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่เขาจะปล่อยให้พวกมันคิดไปก่อนว่าคนแบบสุริยะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เมื่อมันชะล่าใจเมื่อใดเขาจะตะครุบรวบทั้งแก็งในคราเดียวใบหน้าคมนิ่งขรึมรีบออกจากร้านหนังสือและคอยดูกล้องวงจรปิดที่ให้อรุณฉายแอบติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัยของภรรยา เขาหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าสุรีย์ ลูกหมาที่เริ่มตัวใหญ่ขึ้นคอยคลอเคลียเลียเอาใจสุดที่รักของเขาไม่ห่างกาย"ทำดีมากสุลูกพ่อ พ่อกลับไปจะทำของอร่อยให้กินไม่อั้นเลย" อม
หลังจากงานศพของพ่อสามีผ่านพ้นไปได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ ทั้งดาเนียและสุริยะต่างก็เคลียร์งานของตนเองให้เสร็จเพื่อหวังว่าจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดและไปสวนสัตว์ด้วยกันอย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ระหว่างที่ดาเนียเลือกซื้อของอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ข้างทาง ลูกค้าอีกคนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านก็ทำให้เธอถึงกับตัวแข็งค้างเพราะบุคคลดังกล่าวคือพี่แนท พี่สาวของนิ้งที่เคยทั้งตบทั้งด่าทอเธอสารพัด และกล่าวหาว่าเธอเป็นต้นเหตุให้นิ้งน้องสาวคนเดียวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เกือบตายและเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งพี่แนทเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่พบหน้ากัน เพราะพี่สาวพื่อนเคยใจดีกับเธอมาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายพี่แนทก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเธอ"กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ" ไม่รู้ว่าพี่แนทรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แต่มือที่กำลังรับถุงขนมจากพนักงานที่คาน์เตอร์มันกำลังสั่นเทิ้มไปหมด"เอ่อ...ค่ะกลับมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ" ตอบเสียงสั่นเครือหลุบตามองพื้นไม่กล้าสบตา"ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าพี่แนทเข้ามาในร้านขนมนี้ไม่ใช่เพราะความบังเอิญแต่เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว
Comments