เข้าสู่ระบบนันท์นลินจำเป็นจะต้องโกหกคนรัก เธอไม่มีทางเลือกอื่นใด ถ้านันท์นลินบอกความจริงกับคนรัก เธอเชื่อว่ากวินกานต์จะต้องไม่ยอมให้เธอทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าคนรักของเธอจะเต็มใจที่จะช่วยเหลือเธอก็ตาม แต่นันท์นลินไม่อยากผลักภาระนี้ให้กับเขา อีกทั้งครอบครัว บริษัทของกวินกานต์จะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ที่กวินกานต์จะมาช่วยเหลือเธอแบบนี้
“แล้วพระพายไปไหนมาหรือครับ”
กวินกานต์ห่วงใยหญิงสาวเป็นอย่างมาก ความผูกพันที่ถักทอจนเป็นสายใยแห่งความรักนั้น ไม่อาจทำให้กวินกานต์ตัดใจจากหญิงคนรักของเขาได้เลย ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม กวินกานต์ยังคงดึงดันที่จะคบกับนันท์นลินต่อ ความรักของเขาไม่มีข้อแม้อื่นใด นอกจากหัวใจที่เปี่ยมรักของเขา
“พระพายไปเจรจาเรื่องหนี้สินให้คุณพ่อค่ะพี่วีร์”
“ทำไมพระพายไม่บอกพี่ครับ พี่จะได้ไปกับพระพาย เรื่องนี้พี่เคยบอกพระพายแล้วนี่ครับ ว่าพี่จะช่วยพระพายเองครับ”
“พี่วีร์คะ...เรื่องนี้พระพายขอแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองได้มั้ยคะ คือพระพายรู้ว่าพี่วีร์รักและหวังดีกับพระพาย...แต่พระพายแก้ไขเรื่องนี้ได้ค่ะ...พี่วีร์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“งั้น...พี่จะเร่งการแต่งงานของเราให้เร็วที่สุดนะครับ”
“ยังค่ะพี่วีร์ ตอนนี้พระพายขอเคลียร์เรื่องครอบครัวก่อนได้ไหมคะ พระพายรู้สึกไม่สบายใจค่ะ หากพระพายแต่งงานไปโดยทิ้งปัญหาทุกอย่างให้กับพ่อค่ะ”
นันท์นลินจะยังไม่บอกความจริงคนรักของเธอตอนนี้ เธอเชื่อว่า ถ้านันท์นลินเผยความจริงออกไป กวินกานต์จะต้องไม่ยอมให้เธอทำสิ่งที่น่าละอายเช่นนี้แน่นอน
“อืม...งั้นพี่จะรอพระพายนะครับ...และเมื่อพร้อมพี่จะแต่งงานกับพระพายครับ ส่วนเรื่องที่พี่จะช่วยพระพาย พี่ก็ยังทำเหมือนเดิมนะครับ”
“ขอบคุณค่ะพี่วีร์ ไว้พระพายบอกพี่นะคะ เรื่องนี้ขอพระพายสะสางทุกอย่างให้เข้าที่เสียก่อนค่ะ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักค่ะพี่วีร์”
“เอาอย่างนั้นหรือครับ...งั้นพี่ก็แล้วแต่พระพายนะครับ พี่รักพระพายนะครับ พี่อยากแต่งงานกับพระพายจริงๆ นะครับ”
คำบอกรักของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดเข้ามากระแทกกลางใจของเธออย่างแรง นันท์นลินทำผิดต่อความรักของแฟนหนุ่ม ความเย็นเยือกซึมลึกเข้ามาในหัวใจจนเธอหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่าง ‘นันท์นลินจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ความรู้สึกกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกหดหู่กับตัวเองเหลือเกิน’
.....................
“พระพายจะบอกพี่วีร์ยังไงดีคะป้าน้อย...”
หญิงสาวหันไปถามป้าน้อยของเธออย่างไม่รู้จะหันไปพึ่งใครได้อีกแล้ว
“คุณหนู...โธ่...”
“พี่วีร์รักพระพาย ถ้าพี่วีร์รู้ความจริงว่าพระพายพยายามเอาตัวเข้าแลกเพื่อผลัดผ่อนหนี้สิน พี่วีร์จะต้องโกรธและเกลียดพระพายแน่ๆ เลยค่ะป้าน้อย...”
ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคออย่างห้ามไว้ไม่อยู่ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลทะลักออกมา
“โธ่...คุณหนูของป้า...คุณหนูยังพอมีเวลาที่จะเปลี่ยนใจนะคะ เรื่องนี้ป้าคิดว่าเราต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อเถอะค่ะ อะไรมันจะเกิดก็ต้องให้เกิดนะคะ คุณหนูอย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นเลยค่ะ ป้าคิดว่าฝั่งโน้นเขาแค้นคุณผู้ชายมาก ยังไงเขาก็คงจะต้องเอาความแค้นของเขามาลงที่คุณหนูของป้าอย่างแน่นอน”
“ถ้าพระพายไม่ช่วยคุณพ่อ...ก็ไม่มีใครที่จะช่วยคุณพ่อได้แล้วนะคะป้าน้อย เรื่องความแค้นของคุณพริษฐ์ที่จะลงกับพระพายนั้น...พระพายไม่ได้สนใจหรอกค่ะ...พระพายห่วงพี่วีร์ กลัวพี่วีร์จะโกรธเกลียดพระพาย...ป้าน้อยคิดว่าพระพายควรจะทำยังไงดีคะ”
“ป้าน้อยคิดว่าคุณวีร์จะเข้าใจคุณหนูของป้าแน่นอน คุณวีร์มีเหตุผล แต่ก็อาจจะเสียใจ มากกว่าที่จะโกรธคุณหนูนะคะ”
“แล้ว...พระพายจะหาวิธีบอกพี่วีร์ยังไงคะป้าน้อย พระพายเครียดมากๆ เลยค่ะ พี่วีร์เป็นคนดี และดีกับพระพายมาตลอด”
“ป้าน้อยว่า รอจังหวะที่เหมาะสมอีกสักหน่อย ตอนนี้เรื่องราวคุณผู้ชายยังไม่จบ และคุณหนูหาโอกาสดีๆ บอกคุณวีร์ก็ได้ค่ะ...อย่าคิดมากเลยนะคะคุณหนูของป้า...ป้าน้อยรักคุณหนูนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ป้าน้อยจะอยู่กับคุณหนูตลอดไปค่ะ”
“ขอบคุณป้าน้อยมากๆ เลยนะคะ พระพายก็รักป้าน้อยค่ะ ป้าน้อยเป็นเหมือนแม่คนหนึ่งของพระพายค่ะ ขอบคุณป้าน้อยที่ดูแลพระพายมาตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งที่ควรจะเป็น...”
“ไม่เอาค่ะคุณหนู...อย่าคิดถึงเรื่องนั้นเลยนะคะ ป้าเชื่อว่าวันหนึ่งทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ สู้ๆ นะคะคุณหนูของป้า”
“ค่ะ...ป้าน้อย”
ความรู้สึกของหญิงสาวราวกับได้เติมพลัง นันท์นลินยังโชคดี ที่มีคนที่รักเธอคอยอยู่เคียงข้างตลอด เติมเต็มในส่วนที่เธอขาดหายไป ความรักและการเอาใจใส่ดูแล ทั้งป้าน้อยและพ่อของเธอ เลี้ยงเธอมาอย่างดี นันท์นลินจะต้องสู้ต่อไปเพื่อคนที่รักเธอ...
วันต่อมา...ณ คฤหาสน์หลังใหญ่...
“หนูทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะคุณป้า”
นันท์นลินตอบกลับหญิงวัยกลางคนที่ออกมาต้อนรับและเอ่ยถาม วันนี้นันท์นลินได้มาตามนัดหมายของผู้เป็นเจ้าหนี้ของเธอ พริษฐ์บอกให้เธอมาหาเขาที่นี่ แต่ว่านันท์นลินมาก่อนเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เธอนั่งรอเขาอยู่ห้องรับแขกใหญ่ โดยมีป้าแม่บ้านคอยสอบถามเธออยู่ไม่ห่าง
“คุณธัญญ์บอกป้าว่า ถ้าหนูมาเมื่อไหร่...เอ่อ...ให้หนูขึ้นไปรอคุณธัญญ์ที่...ห้องนอนค่ะ”
แววดาวไม่กล้าที่จะเอ่ยถามคุณธัญญ์ของเธอตรงๆ แต่เธอก็พอจะเดาออก เพราะเมื่อวานเด็กสาวคนนี้มาของพบคุณธัญญ์ และวันนี้เธอคนนี้ก็มาปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง
“เอ่อ...แล้วคุณพริษฐ์จะกลับมาเมื่อไหร่คะ ถ้า...ยังอีกนานหนูเกรงว่าจะกลับบ้านดึกค่ะคุณป้า”
นันท์นลินรู้สึกกระดากอายอย่างที่สุด เธอเก้อเขินกับการกระทำของตัวเองเหลือเกิน ‘ขายตัวเพื่อใช้หนี้’ มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักนิดที่จะต้องคอยอธิบายเรื่องน่าละอายเช่นนี้กับคนอื่น
“คุณธัญญ์เธอติดงานอยู่ค่ะ หนูไม่ต้องกังวลนะคะ ขึ้นไปรอคุณธัญญ์ข้างบนเถอะค่ะ...มา...เดี๋ยวป้าจะพาไปนะคะ”
แววดาวเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาวคนนี้ดี เธอไม่อยากให้เด็กสาวรู้สึกอึดอัดใจ ในทางกลับกันเธอกลับชื่นชมเด็กคนนี้มาก ที่รู้จักกตัญญูตอบแทนบุญคุณผู้เป็นพ่อ
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







