บทที่ 22
มือชื้นเหงื่อกำสายสะพานกระเป๋าใบเล็กไว้แน่นขณะก้าวเดินตัดลานจอดรถของพนักงานที่เธอขับไปแอบไว้ด้านหลัง รถเก๋งคันเก่าที่เธอซื้อมาหลายปีแล้วหลังจากที่ขายรถคันอื่นไปจนหมดเพื่อใช้หนี้
เธอควานหากุญแจรถด้วยมือสั่นเทารีบร้อน เธอรักพี่แทนของเธอ แต่เธอจะไม่ขอพบพี่แทนคนใหม่ การเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้เธอค่อนข้างสับสนและปวดใจ เวลามันผ่านไปนานเกินไปจนเหลือเพียงเธอเท่านั้นที่ยังจมอยู่กับความรักแบบเด็ก ๆ
เสียงกรุ๊งกริ๊งในกระเป๋าทำให้เธอโล่งใจว่าไม่ได้ลืมไว้ที่แผนกครัว มือบางหยิบกุญแจออกมาไขแล้วเปิดประตู
ขณะที่เธอกำลังเข้าไปในรถ ชายร่างสูงใหญ่พลันปรากฎในสายตา เขายืนนิ่งอยู่ตรงทางเข้าประตูของพนักงาน มือล้วงเข้าไปในกางเกงสูทราคาแพงข้างหนึ่งเหมือนกำลังสบายใจ แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่
ปัง!!
บุษยาปิดประตูเสียงดังจ้องดวงตาสีฟ้าจัดของเขาอย่างไม่ละสายตา เขารู้แล้วว่าเธอเป็นใคร กายสาวบอบบางสั่นไหวเหมือนที่เคยเป็นตั้งแต่แตกวัยสาว อายุของเธอเลยวัยสะพรั่งมาสักพักแล้วแต่เธอกลับพบว่ามันกำลังสนองตอบ
บรื้น!!
มือสั่นเทาเสียบกุญแจรถ เสียงรถคันเก่าสตาร์ทเสียง เคลื่อนตัวออกจากซองแล้วหักเลี้ยวมุ่งหน้าไปยังทางออกของโรงแรมหรู สายตาคมรีมองกระจกหลัง พบว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองเธอจากไปเช่นกัน
“ไม่ตามไปที่บ้านเหรอ”
เสียงทัดทองเอ่ยถามขึ้นด้านหลัง
“ไม่ต้อง พรุ่งนี้เธอต้องมาทำงาน”
พสุธาหันหลังกลับเข้าไปในโรงแรมหลังจากที่ยืนมองเธอตรงประตูเหมือนคนบ้า นึกภาพตัวเองเมื่อสักพักที่เขาแทบวิ่งลงมาจากชั้นผู้บริหารหลังจากที่จัดการสัมภาษณ์พนักงานตัวจ้อยเสร็จเรียบร้อยจนพบว่า หญิงสาวคนเมื่อคืนคือบุษยาจริง ๆ
กายชายตื่นตัวไปทั่วร่างขณะที่ลงมาจากชั้นบน พยายามนึกคิดบทสนทนาเมื่อเขาต้องประจันหน้ากับหญิงสาวคนที่เขาฝันถึงยามอยู่บนเรือนรก
แล้วพอเขาเห็นเธอ แม้เพียงระยะไกลที่มีลานจอดรถขวางกั้น กระแสไฟบางอย่างในทรวงอกพุ่งสูงจนเขารู้สึกปวดหนึบกลางอก ช่องท้องเบาหวิว กระทั่งเธอหันมาสบตา ใบหน้าหวานคมดวงนั้นยังคงเหมือนเดิมเว้นเสียแต่ว่าแก้มที่เคยอวบอิ่มตอบลงกว่าเดิมจนเห็นได้ชัด รูปร่างของเธอก็เช่นกัน
“ส่งเธอกลับประเทศไปสะ”
พสุธาเอ่ยสั่งทัดทองเมื่อเดินเข้ามายังห้องทำงานในชั้นผู้บริหาร บอดี้การ์ดคนสนิทเลิกคิ้วสูงแต่พยักหน้ารับ
“แล้วเรื่องงานประมูลท่าเรือข้ามฟากเฟอร์รี่ เจ้าของคนเก่าเกิดปัญหาทางการเงินหนักและต้องการเปลี่ยนมือให้เร็วที่สุด ตอนนี้ประกาศรับซองมีมัดจำยื่นซองห้าสิบล้านบาท”
พสุธานั่งลงที่เก้าอี้ ยกมือขึ้นลูบจมูกตรงรอยหักเบา ๆ ดั่งใช้ความคิด ลักษณะประจำที่เขาทำจนติดเป็นนิสัยตั้งแต่จมูกหักเนื่องจากชกต่อยกลางทะเล บางครั้งการได้ปลดปล่อยด้วยแรงชายส่งผลให้อะดรีนาลีนหลั่ง เพียงเพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกได้ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
“ยื่นได้เลย อ้อ ใช้ชื่อบริษัทจริงยื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นนอมินี ครั้งนี้ฉันจะใช้บริษัทที่อเมริกายื่น”
“แล้วนายจะเอายังไงกับบ้านของนายหัวบัญชร”
“ยังไม่ทำอะไร รอเจอเธอพรุ่งนี้ก่อน”
พสุธานั่งนิ่งมองทัดทองลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ท่าเรือเฟอร์รี่ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของเมืองนี้และเขาต้องเอามันมาให้ได้
ตอนนี้ผืนดินทั้งหมดที่เคยเป็นชื่อของนายหัวบัญชร ทางเจ้าหนี้รายอื่นได้ถ่ายโอนมาเป็นของเขาแล้วทั้งหมด เขาไม่ได้แสดงตนเพียงแค่ใช้ชื่อนอมินีไปจัดการ และได้มาอย่างง่ายดาย
เหลือเพียงลูกไก่ที่กำลังจะถูกเขาบีบ พรุ่งนี้เขาจะเรียกเธอขึ้นมาหา นั่งมองหน้าหวานยามที่รู้ว่าทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขาหมดแล้ว
ตืดดดดดด!!
ระบบสั่นของโทรศัพท์สะเทือนขึ้นข้างบนโต๊ะทำงานตรงหน้า เบอร์โทรศัพท์ของคนที่เขากำลังรอคอย สำนักงานทนายความ
“ครับนายหัวพสุธา เธอมาแล้วครับ”
“ดี เธอว่ายังไงบ้าง”
“เธอพยายามต่อรองครับ แต่ผมยังยืนกรานว่าจะขอคุยกับเจ้าหนี้ก่อน ผมคิดว่าเธอค่อนข้างสับสน”
“สับสน?”
“ครับ ตั้งแต่เห็นว่าเป็นชื่อของคุณเป็นเจ้าหนี้ ใบหน้าของคุณบุษยาดูซีดไปและตั้งตัวไม่ติด”
“มีอย่างอื่นอีกไหม”
“ไม่มีครับ อ้อ มีอีกเรื่องครับผมเกือบจะลืมไป นายหัวบัญชรเสียชีวิตไปแล้วนะครับตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน”
แผ่นหลังกว้างเหยียดตรง หน้าคมเข้มขมวดยุ่งเล็กน้อย มืออีกข้างที่วางอยู่บนโต๊ะเคาะเป็นจังหวะ
“เสียชีวิตได้ยังไง”
“ถูกตามยิงมาจากงานในเมืองครับ เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ทั้งภรรยาด้วยครับยกเว้นลูกสาวคนเล็ก”
พสุธานิ่งไปสักพักจนคนในสายเริ่มอึดอัด
“ขอบใจมาก”
เขาได้ยินเสียงถอนหายใจของทนายศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่ทนายขอตัววางสายไป ถ้าเรื่องที่ทนายความแจ้งมาคือเรื่องจริง นั่นทำให้เกมที่เขาเล่นคงต้องเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กายแกร่งสะท้านเยือกเมื่อนึกภาพว่าเขากำลังบีบลูกไก่ในมืออย่างไรบ้างบนเตียง เขาจะบีบอย่างเชื่องช้าจนกว่าเธอจะร้องออกมาและค่อยแน่นขึ้นจนกายของเธอสะท้านไหว
ใช่แล้ว เขาจะทำให้ลูกไก่ในมือร้องจนสุดเสียงโดยที่มีเขาขยับกายชะโงกง้ำอยู่ด้านบนเพื่อมองดูเธอ อย่างที่เขายังไม่เคยได้ทำมาก่อน
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง