/ โรแมนติก / หนี้หัวใจใต้กลลวง / บทที่ 1 กับดักแห่งความหวัง

공유

หนี้หัวใจใต้กลลวง
หนี้หัวใจใต้กลลวง
작가: แพรวรุณ

บทที่ 1 กับดักแห่งความหวัง

last update 최신 업데이트: 2025-05-02 18:37:12

กลิ่นน้ำมันเครื่อง และเบาะหนังที่ชื้นด้วยเหงื่อซึมทะลุขึ้นจมูกทันทีที่ลาริสารู้สึกตัว

มือของเธอถูกมัดไว้แน่น ร่างถูกโยนไว้กับพื้นรถตู้ด้านหลังที่ปิดทึบ แสงเพียงเสี้ยวจากไฟท้ายสะท้อนผ่านรอยแตกของฝาปิดเก็บของ

เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม แต่เสียงที่ทำให้เธอเย็นเยียบยิ่งกว่า คือเสียงบทสนทนาของชายสองคนด้านหน้า

“แน่ใจนะว่าเป็นลูกของท่านรัฐมนตรีจริง ๆ?”

“เออสิวะ กูเห็นกับตา ไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่ๆ คนอย่างเธอ ส่งให้ฝั่งโน้นเขาจะจ่ายหนักกว่าเดิมแน่นอน”

“ชายแดนเพื่อนบ้านใช่ไหม…ซ่องนั่นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจน่ะ?”

“ก็ที่นั่นแหละ จะได้จบ ๆ ไป ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวรัฐมนตรีมานั่งรับแขกอยู่ตรงนั้น”

เสียงหัวเราะหยันดังตามมา ราวกับคำพูดนั้นเป็นแค่เรื่องตลกไร้ค่าของโลกใต้ดิน

เลือดในกายลาริสาเย็นเฉียบ

เธอแทบไม่รู้ว่าลมหายใจหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

คำว่า “ขายตัว” “รับแขก” “ชายแดน”

แต่ละคำเหมือนมีดที่สลักลงกลางใจ

เธอหวาดกลัว ร่างกายสั่นราวกับไข้ขึ้น

น้ำตาที่หลั่งลงมานั้น…ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เป็นความกลัวแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

กลัวว่าจะไม่มีใครตามหาเธอเจอ

กลัวว่าจะไม่มีวันกลับไปได้อีก

...

ภายในห้องแต่งตัว คลับลับแห่งหนึ่ง

กระจกบานใหญ่สะท้อนภาพหญิงสาวในชุดกระโปรงเข้ารูปสีดำเข้ม เสื้อกั๊กติดกระดุมแน่นคอ

ริมฝีปากถูกแต้มด้วยลิปสติกสีแดงเข้ม ผมถูกรวบเรียบร้อยจนแทบจำไม่ได้ว่าเธอเคยเป็นใครมาก่อน

หน้ากากลูกไม้ครึ่งหน้าวางอยู่ตรงหน้าเธอ เหมือนรอให้เธอสวม…แล้วลบชื่อของลาริสาทิ้งไป

เปลี่ยนเธอให้กลายเป็น 'ใครก็ไม่รู้'

ผู้หญิงที่ไม่มีอดีต ไม่มีตัวตน มีแค่ร่างกายที่พร้อมจะยื่นเหล้าให้แขก…และรอยยิ้มที่สั่งให้ยิ้ม

เธอมองเงาตัวเอง

เสียงบทสนทนาในรถตู้คืนนั้นยังคงก้องในหัว

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงไม่ถูกส่งไปในที่ที่น่ากลัวอย่างที่ได้ยิน

แต่ตอนนี้…เธอยังอยู่ที่นี่ ยังหายใจ ยังมีเสื้อผ้า ยังยืนอยู่

แม้จะไม่เข้าใจเหตุผล

แต่เธอรู้แค่ว่า…โชคดี หรืออาจจะแค่โชคดีชั่วคราว

เธอกลืนลมหายใจเงียบ ๆ

ขณะที่สายตายังจับจ้องตัวเองในกระจก

ภาพสะท้อนนั้นไม่ใช่ลูกสาวรัฐมนตรี ที่เคยอยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูง

ไม่ใช่หญิงสาวเรียบร้อยที่ใครต่อใครชื่นชม

แต่เป็นผู้หญิงที่ใส่หน้ากาก…ไม่ใช่เพื่อแฟชั่น แต่เพื่อปิดซ่อนตัวตนที่กำลังถูกลบหายไปทุกวินาที

...

เสียงเคาะประตูสามครั้งดังขึ้น พร้อมเสียงเรียกจากการ์ดด้านนอก

“ถึงเวลาแล้ว ห้อง VIP6 วันนี้มีแขกระดับพิเศษ”

เธอไม่ตอบ…แค่สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง

ดึงหน้ากากขึ้นปิดครึ่งใบหน้า แล้วเดินออกจากห้อง

...

คลับชายแดนแห่งนี้เป็นที่ลับแต่หรูหรา

เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวระดับเจ้าสัว ทายาทผู้ดี ตระกูลใหญ่ทั้งฝั่งไทยและต่างชาติ

มันเป็นโลกที่กฎหมายอ่อนแรง เส้นแบ่งระหว่างถูกกับผิดพร่ามัวเกินใครจะแยกได้

ด้านหน้าเป็นโซนบาร์ปกติ

แต่ด้านในสุด…เป็นโซน VIP ที่ไม่มีใครนอกจากคนวงในเข้าได้

และลึกลงไปอีกชั้นใต้ดิน คือ 'บ่อนพนัน' ที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศเพื่อนบ้าน

ลาริสาเดินตามการ์ดไปตามโถงทางเดินหินสีเข้ม

ไฟสลัวประดับตลอดทาง สวยงามจนน่าขนลุก

เธอรู้ดี…เธอไม่ได้มาอยู่ที่นี่ในฐานะ พนักงาน

ไม่ได้สมัครใจมา...แต่ถูกจับตัวมาอย่างเลือกไม่ได้

แม้ไม่มีโซ่ตรวนล่ามไว้

แต่สายตาหนักอึ้งของเหล่าการ์ดที่จับจ้องทุกฝีก้าว

กับการถูกควบคุมราวนักโทษในกรงทอง

ก็เพียงพอจะตอกย้ำว่า...

ต่อให้พยายามแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีพ้น

...

ห้อง VIP-6

ภายในห้องโทนมืดที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

แสงจากไฟเพดานทาบเงาชายคนหนึ่งไว้บนโซฟาหนังอย่างเงียบงัน

ลาริสารู้สึกได้ถึงแรงอึดอัดที่กดทับหน้าอกตั้งแต่ก้าวแรกที่เปิดประตูเข้ามา

ทุกก้าวที่เธอเดินเข้าไปในห้อง เหมือนกำลังก้าวข้ามเส้นของความปลอดภัยที่ไม่มีอยู่อีกแล้ว

เสื้อกั๊กเข้ารูป กระโปรงสั้น หน้ากากลูกไม้ครึ่งหน้า ไม่มีอะไรปกป้องเธอจากสายตาเปลือยเปล่าของคนตรงหน้าได้เลย

เธอก้มหน้าวางแก้วเหล้าลงอย่างเงียบเชียบ

เสียงน้ำแข็งในแก้วกระทบกันเบา ๆ ในห้องเงียบงัน ฟังดูเหมือนเสียงโซ่ตรวนในหูของเธอ

แต่แล้ว...เธอชะงัก

ในมุมห้อง

เงาของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเอนตัวพิงพนักโซฟา

เธอจำได้ทันทีว่าเขาเป็นคนไทย

เธอเคยเห็นเขา...ในแวดวงระดับสูง

งานกาล่า งานเลี้ยงตระกูลผู้มีอำนาจ

เขาคือคนที่เธอไม่เคยพูดด้วย แต่เคยอยู่ในระยะที่ใกล้พอจะรู้ว่า 'เขาอาจช่วยได้'

หัวใจเธอเต้นแรง ความหวังแล่นขึ้นมาเหมือนแสงไฟเพียงดวงเดียวในความมืด

เธอสูดลมหายใจ ก้าวเท้าอย่างมั่นใจเข้าใกล้ชายคนนั้น

สบตาผ่านหน้ากาก พยายามส่งสัญญาณ บอกด้วยแววตาทุกอย่างที่เธอพูดไม่ได้

'ช่วยฉัน…ได้โปรด ช่วยฉัน…'

แต่ก่อนที่เขาจะขยับ...

มือหนา ของชายที่อยู่ใกล้กว่า ก็ฟาดเข้าที่แขนเธอ

“จะไปไหน?” เสียงเย้ยหยันดังขึ้น

ก่อนที่เขาจะคว้าเอวเธอแล้วดึงกลับอย่างแรง

“นึกว่าฉันไม่เห็นเหรอ? เธอจะไปส่งสายตาให้มัน?”

“ไม่ใช่นะ! ฉันแค่—” เธอหอบ เสียงเธอสั่น น้ำตาเริ่มคลอ

“หึ…ร้อนวิชาใช่ไหม”

เขากระซิบชิดหู พร้อมกับดันร่างเธอลงบนโซฟา

กระดุมเสื้อด้านบนถูกกระชากออก

ไหล่ข้างหนึ่งเปลือยเปล่า

ลมหายใจของเธอขาดห้วง เหมือนร่างจะเย็นลงทันทีที่ไอมือสกปรกนั่นแตะผิวเธอ

“ปล่อย! ได้โปรด อย่าแตะต้องฉัน!”

เสียงของเธอเกือบกลายเป็นกรีดร้อง

แต่มันเหมือนแค่เสียงลมหายใจในห้องที่ไม่มีใครอยากฟัง

สายตาเธอหันไปมองมุมห้องอีกครั้ง

ผู้ชายที่เธอต้องการขอความช่วยเหลือ...ยังคงนั่งอยู่ในมุมสลัว สายตานิ่งสงบจนเธอไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินหรือไม่

หรือแค่เลือกที่จะมองผ่านเหมือนเธอไม่มีตัวตน

เธอรู้แล้ว…ว่าแม้แต่แสงสุดท้ายในความมืด

ก็อาจเป็นเพียง กับดักที่พรางตัวมาในรูปของความหวัง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 107 เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสง

    “วันนี้…ครูริสาจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งที่ไม่มีอยู่ในหนังสือไหนเลย” เสียงหวานของเธอดังขึ้นเบา ๆ แต่เรียกความสนใจได้ทันที “เรื่องนี้...เกี่ยวกับเจ้าชายผู้หนึ่งที่กลายเป็นปีศาจ และเจ้าหญิงคนหนึ่งที่มีหัวใจเปล่งแสง เหมือนดวงดาวในคืนมืดที่สุด” “ชื่อเรื่องว่าอะไรครับ!” เด็กชายตัวจ้อยคนหนึ่งถามเสียงดัง “ชื่อว่า... เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสงสว่าง จ้ะ” เสียงฮือฮาเล็ก ๆ ดังขึ้นรอบวง ก่อนที่ทุกคนจะนิ่งฟังอีกครั้ง “นานมาแล้ว... มีอาณาจักรหนึ่งที่เงียบงัน ไม่มีแสงแดด ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีดอกไม้บาน ที่นั่น…คือโลกของเจ้าชายผู้ถูกสาป เขาเคยมีหัวใจที่ดี แต่เมื่อหัวใจนั้นแตกสลายจากเรื่องร้าย ๆ เขาก็ปิดมันไว้แน่น และไม่ยอมให้แสงใดเข้าไปอีกเลย” “แล้วเขากลายเป็นปีศาจเหรอคะ?” เด็กหญิงผูกโบว์ถามขึ้นเสียงแผ่ว “ใช่จ้ะ...เขากลายเป็นปีศาจที่มีดวงตาเศร้า และไม่เคยยิ้มอีกเลย แต่ลึก ๆ แล้ว...เขาก็แค่อยู่คนเดียวจนลืมวิธีจะรักใครเท่านั้นเอง” ครูริสาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วทำเสียงกระซิบ “วันหนึ่ง…เจ้าชายคิดแผนการขึ้นมา เขาจะพาใครสักคนมาอยู่กับเขา…สักคนที่มีหัวใจอบอุ่น เขาจึงวางกับดัก วางแผนการ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 106 วันแห่งการเริ่มต้น

    ลาริสาตาโตทันที​ “อะไรนะคะ?” “ผมมีบริษัทที่ต้องดูแล ผมไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา แต่ผมเชื่อว่าคุณ…จะดูแลเด็ก ๆ ที่นี่ได้ดีที่สุด” เธอสั่นศีรษะเบา ๆ ริมฝีปากยังอ้าค้าง “แต่…ริสาไม่เคยคิดเลยว่าจะ—” “ผมคิดไว้แล้ว” เขายิ้มบางเบา “ผมไม่ต้องการแค่ภรรยา…แต่ต้องการ ‘หุ้นส่วนชีวิต’ คนที่ผมไว้ใจ คนที่ผมรู้ว่า…ถ้าเธออยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจะไม่พัง” ลาริสาน้ำตาซึมอีกครั้ง​ ไม่ใช่เพราะอ่อนไหว​ แต่เพราะหัวใจของเธอได้รับการยอมรับ ทั้งจากเขา…และจากโลกที่เธอเคยรู้สึกเหมือนไม่มีที่ยืน เขาดึงมือเธอขึ้นมากดจูบเบา ๆ ที่หลังมือ “นี่คือบ้านของเรา…และทุกอย่างที่ผมสร้างไว้ทั้งหมดนี้ ผมอยากให้มันเป็นของคุณ ไม่ใช่เพราะคุณต้องการ แต่เพราะคุณ ‘คู่ควร’ กับมัน…” ........................ เช้าวันพิเศษ แสงอรุณอ่อนโยนปกคลุมทั่วบ้านหลังใหม่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน เสียงพระสวดเบา ๆ ดังกังวานอยู่ในห้องโถงกลางบ้าน กลิ่นธูปและดอกไม้สดหอมฟุ้งทั่วห้อง ลาริสาสวมชุดไทยสีงาช้างอ่อน ผ้าสไบปักดิ้นทองพาดบ่าดูงดงามราวเจ้าหญิงในนิทาน ดวงตาคู่นั้นมีแววเขินอายปนความปลื้มปิติในทุกการเคลื่อนไหว ข้างเธอ​ นาราและพราว

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 105 ไม่มีใครต้องถูกทอดทิ้งไว้กับอดีต

    เมื่อรถจอดลงหน้าบ้าน เธอก็ทำท่าจะเปิดประตูลงเองตามปกติ แต่เสียงเขาห้ามไว้ก่อน “เดี๋ยว ผมไปด้วย” เขาเปิดประตูฝั่งตัวเองแล้วเดินอ้อมมาที่เธอ ขณะเธอหันมามองด้วยความแปลกใจ “คุณจะ…เข้าไปเหรอคะ?” เธอถามเบา ๆ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความสั่น เขาพยักหน้า ช้า ๆ หนักแน่น “ผมอยากไหว้แม่ของคุณ…” “ก็ในเมื่อคุณเป็นผู้หญิงที่ผมรัก​ แม่ของคุณ…ก็คือคนที่ผมเคารพด้วยหัวใจ” เขาพูดเรียบ ๆ แต่ทุกคำกลับแน่นลึกเหมือนสัญญาที่ออกมาจากหัวใจ และนั่นเพียงพอที่จะทำให้เธอพยักหน้า ยิ้มจาง ๆ แล้วพาเขาเดินตามเข้าบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เสียงเปิดประตูบ้านไม้ดังเบา ๆ ในยามเย็น ลาริสาก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ข้างกายมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเข้ามาช้า ๆ เขาไม่ได้ใส่สูท ไม่ได้มีภาพลักษณ์ของนักธุรกิจใหญ่โต…มีเพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา กับสีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยแรงใจที่แน่วแน่ ป้านวลที่จัดโต๊ะอาหารอยู่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นผู้มาใหม่ “แม่คะ…” ลาริสาเรียกเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วข้าง ๆ รถเข็น “นี่คือคุณภานุวัฒน์ค่ะ…” แววตาคุณภาวินีขยับวูบ​ ไม่มีคำถาม ไม่มีความประหลาดใจ มีเพียงสายตาที่ไล่มองเขาช้า ๆ เหมือน

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 104 ก็ว่าแล้ว...มันไม่ธรรมดาแน่

    ขาของเธอสั่นน้อย ๆ จนต้องยึดแขนเขาไว้แน่น เขาจึงแกล้งเอ่ยเสียงเบาแฝงแววขบขัน “ดูเหมือนร่างกายคุณจะอ่อนแอไปหน่อยนะครับ…สงสัยต้องพามาออกกำลังกายแบบนี้บ่อย ๆ” “หยุดเลย!” เธอตีเขาอีกครั้ง ใบหน้ายังแดงเรื่อ ดวงตาวาววับทั้งขวยเขินทั้งหมั่นไส้ “เย็นนี้รอผมนะ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาพูดขณะจัดปกเสื้อให้เธอเรียบร้อย เธอพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มจาง ๆ พลางสูดหายใจลึก เตรียมจะกลับเข้าไปในชั้นเรียนอีกครั้ง และในจังหวะที่เธอก้าวออกจากประตู เธอก็ยังได้ยินเสียงเขาไล่หลังมาเบา ๆ ว่า “แต่ถ้าคุณคิดถึงผมก่อนถึงเวลาเลิกงาน ก็แวะมาหาผมที่ห้องนี้ได้ตลอดนะครับ” ... เสียงเปิดประตูดังแผ่วขณะลาริสาก้าวกลับเข้ามาในห้องเรียน แสงจากหน้าต่างทอดผ่านโต๊ะไม้ยาวในบรรยากาศเงียบสงบ นักเรียนยังคงก้มหน้าตั้งใจเขียนแบบฝึกหัดตามคำสั่งจากครูพี่เลี้ยงที่คุมชั้นไว้ชั่วคราว เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อปรับอารมณ์ แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง ขาที่ยังสั่นเล็กน้อยในทุกก้าวทำให้เธอต้องเกาะขอบโต๊ะด้านหน้าไว้ ริมฝีปากร้อนผ่าว ดวงตาแอบเหลือบมองบานประตูหลังห้องที่เธอเพิ่งเดินผ่านราวกับภาพเมื่อครู่นั้นยังซ้อนทับอยู่ตรงนั้น ‘คุ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 103 รู้แล้วใช่ไหมว่าผมรักคุณขนาดไหน

    ริมฝีปากร้อนจัดแตะแผ่วที่ลาดไหล่เธออย่างอ้อยอิ่ง ราวกับซึมซับทุกคำตอบที่ยังไม่หลุดจากริมฝีปาก “ฉัน…รู้ใจตัวเองแล้ว…” เสียงเธอสั่นพร่าราวกับจะขาดหายทุกครั้งที่เขาแตะต้อง “ฉันรักคุณ…ฉันยอมรับ…แม้ว่าฉันจะไม่รู้เลยว่า…คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่…คุณรัก…หรือคุณแค้น…หรือคุณเกลียดกันแน่…” คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ปลายนิ้วที่กำลังไล้ต่ำอยู่แถวเอวหยุดค้างอยู่กลางอากาศชั่วขณะ แววตาเขานิ่งงันเหมือนจมหายไปกับบางสิ่งที่อัดแน่นในอก ก่อนที่ชั่ววินาทีนั้น เขาจะก้มหน้าลงอีกครั้ง​ พร้อมกระซิบเสียงแผ่วชิดริมผิวเนื้อ “คุณยังไม่รู้อีกหรอ…ว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับคุณ…” มือเขาเลื่อนไปที่กระดุมเสื้อเธอ แล้วค่อย ๆ ปลดมันทีละเม็ด ทุกจังหวะช้า…แต่ชัดเจนและแน่วแน่ เธอสั่นสะท้าน พยายามยกมือขึ้นห้าม…แต่เรี่ยวแรงที่มีดูไร้น้ำหนักเมื่อเขารั้งเธอไว้แน่นขึ้น “ผมไม่ได้อยากครอบครองคุณเพราะความแค้น…” เขากระซิบ “ผมไม่ได้แตะต้องคุณเพราะต้องการทำร้าย…” “แต่เพราะทุกครั้งที่มองคุณ ผมหยุดตัวเองไม่ได้…” และยิ่งเขาพูด…ปลายนิ้วก็ยิ่งลึกซึ้ง ทุกคำสารภาพหลุดออกจากปากเขา พร้อมกับสัมผัสที่รุกล้ำเข้าไปทีละนิด ทีละลมหายใจ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 102 จะไม่หนีหัวใจของตัวเองอีกแล้ว

    เธอพูดต่อทั้งที่เสียงยังเรียบ​ แต่เนื้อเสียงกลับกัดลึกยิ่งกว่าคำใด “ฉันเห็นนะคะ ฉันเห็นคุณเปิดประตูรถให้เธอ ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ แล้วยังเดินเข้าไปในร้านด้วยกัน…มันเป็นภาพที่ชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ” เธอยิ้มบาง แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความตัดพ้อที่พยายามกลบไว้ในรอยยิ้มประชด “พวกคุณดูเหมาะกันดีนะคะ สวย หล่อ สมกันดี ฉันขอโทษที่เผลอเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น” เขาไม่ตอบทันที แต่เสียงที่หลุดจากปากในวินาทีนั้น กลับทุ้มต่ำ…และตรงประเด็นอย่างน่าตกใจ “คุณหึงเหรอ?” คำถามที่ทิ่มแทงลงไปตรงใจ ลาริสาสะบัดหน้า เธอกำลังจะลุกหนี แต่เขากลับไม่ปล่อยให้เธอไปง่าย ๆ “ฉันจะหึงทำไมคะ?” เธอพูดเร็ว “คุณไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน คุณจะควงใครไปถ่ายรูปก็เรื่องของคุณ” เพียงแค่นั้น…เขาก็รู้แล้ว รู้โดยไม่ต้องถามต่อ เขายกมือขึ้นช้า ๆ ปลายนิ้วหยาบกร้านลูบไล้แก้มเธอแผ่วเบา สายตาของเขามองตรงเข้าไปในดวงตาเธอที่กำลังสั่น และในขณะที่เธอกำลังจะขยับตัวหลบ เขาก็รั้งเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย เสียงของเขาแผ่ว…แต่ชัดเจนจนไม่มีพื้นที่ให้เข้าใจผิดอีกต่อไป “ฟังผมนะ…” เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นกระทบผิวแก้มเธอ “ผู้ห

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status