ขับมาไม่นานจิรายุก็พาทุกคนมาจอดถึงหน้าคอนโดของนพนนท์ ตลอดทางที่ผ่านมาสองคนข้างหน้าก็เอาแต่พูดกันเรื่องธุรกิจ ราวกับลืมไปว่ามีเธอนั้นนั่งมาด้วย แต่จากที่ฟังๆดูแล้วเขาทั้งสองดูท่าทางจริงจังในเรื่องงานมาก โดยทางฝั่งของนพนนท์เองก็ได้มีการเตรียมตัวเรียนรู้งานเพื่อต้องการสานต่อธุรกิจของที่บ้าน หากว่าเธอไม่ได้รับรู้ข้อมูลจากคุณกนกวรรณมาก่อนแต่แรกว่าสองคนนี้แอบกุ๊กกิ๊กกัน อิงรดาก็คงจะคิดว่าเขาทั้งสองนั้นเพียงแค่คบหากันทางด้านธุรกิจเฉยๆ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอแอบไปล่วงรู้ความจริงมาแล้ว ยังไงๆเธอก็คงจะไม่สามารถกลับไปคิดว่าสองคนนี้ไม่ได้มีอะไรเกินเลยหรือเป็นเพียงแค่เพื่อนปกติกันได้อยู่ดี
จนกระทั่งรถยนต์มาจอด นพนนท์ก็ยิ่งทำในสิ่งที่มันตอกย้ำให้อิงรดานั้นอ้าปากค้างจนหุบไม่ลงและไม่คิดว่าจะได้เห็นกับตา เมื่ออยู่ๆนพนนท์ก็ทำการหันหน้าและยื่นปากจู๋ๆไปจุ๊บแก้มจิรายุหนึ่งทีก่อนเปิดประตูลงรถไป โดยที่จิรายุเองทำเพียงแค่หันหน้าไปยิ้มแล้วส่ายศรีษะเพียงเท่านั้น นี่จิรายุไม่คิดว่าจะปกปิดเรื่องราวความรักของเขาเอาไว้ก่อนบ้างเลยหรือไง อย่างน้อยก็น่าจะกลัวว่าเธอจะเอาไปพูดต่อให้เข้าไปถึงหูคุณกนกวรรณเข้า หรือว่าจริงๆแล้วนั้นเขาไม่ได้แคร์
"ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะสามีที่มาส่ง ขับรถกลับบ้านดีๆแล้วก็อย่าลืมพาน้องอิงแวะซื้อของด้วยล่ะ แล้วเจอกันนะคะน้องอิง"
ไม่รู้ว่านพนนท์ปิดประตูลงรถไปตอนไหน รู้ตัวอิกทีก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอ้าปากตาค้างอยู่กับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆ นี่ตกลงว่าระหว่างจิรายุกับนพนนท์นั้นมันมีอะไรจริงๆใช่ไหม โอ๊ย ไม่น่าเลยคุณเจตน์
"ลงมานั่งหน้าด้วยกันสิอิง คงไม่ได้คิดว่าจะใช้ฉันเป็นคนขับรถให้นั่งหรอกใช่ไหม"
อิงรดารีบสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันทีแม้ว่าจิรายุจะพูดติดตลก แต่คนตัวเล็กที่มัวแต่อ้าปากค้างก็รีบรนรานลงจากรถ ก่อนจะเปิดประตูพาตัวเองขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ
ระหว่างที่รถยนต์กำลังเคลื่อนตัวออกและจิรายุยังไม่ทันได้พูดอะไร อิงรดาก็เริ่มรวบรวมความคิดในการแอบเก็บข้อมูลของคนข้างๆไปด้วย เพื่อที่เธอจะได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ประกอบในการทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
"อืม คุณเจตน์กับคุณนนท์นี่รู้จักกันนานแล้วเหรอคะ หนูจำได้ว่าก่อนที่หนูจะไปอเมริกา ตอนนั้นยังไม่เห็นว่าคุณเจตน์จะชอบลงใต้เลย"
อิงรดาทำเป็นแอบเรียบเรียงเคียงถาม โอกาสนี้เป็นจังหวะอันดีที่เธอจะได้แอบเก็บข้อมูลว่าตกลงสองคนนี้เป็นอะไรยังไงกัน เพื่ออย่างน้อยก็ทำให้งานของตัวเองนั้นง่ายขึ้น
"กับนนท์น่ะเหรอ อันที่จริงก็รู้จักกันมานานแล้วล่ะตั้งแต่สมัยเรียน แต่พึ่งจะมาสนิทกันจริงๆก็ช่วงสองปีหลังมานี้ อย่างที่เธอเห็นว่าฉันต้องทำธุรกิจร่วมกัน เจ้านั่นน่ะเมื่อก่อนจะชอบแอ๊บทำตัวแมนๆเพื่อบิดบังครอบครัวไว้ นี่มันพึ่งจะมาหลุดเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง"
จิรายุยังคงพูดไปตอบไปอย่างเนิบๆ ด้วยน้ำเสียงปกติ ใบหน้ามีรอยยิ้มปรากฎขึ้นมาน้อยๆ ราวกับว่าเขารู้สึกดีที่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ที่มีต่ออีกฝ่าย
อิงรดามองใบหน้าเหลาของเขาจากทางด้านข้าง จิรายุที่เธอเคยรู้จักในเมื่อก่อนกับตอนนี้นั้นก็ยังคงเป็นผู้ชายใจดีเสมอมา ในตอนนั้นถึงแม้ว่าเธอจะยังเป็นเด็ก แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคนนี้นั้นฮอตฮิตมากแค่ไหน ยิ่งคิดอิงรดาก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมทุกอย่างถึงได้เปลี่ยนเป็นแบบนี้ไปได้
แม้ว่าจะเข้าใจดีว่ารสนิยมทางเพศมันคือความชื่นชอบส่วนตัว ทุกคนมีอิสระในการหาความสุขใส่ชีวิตของตัวเอง แต่จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอก็ยังแทบจะไม่อยากเชื่อว่าในวันนี้ 'คุณเจตน์' ของเธอและผู้เป็นยายนั้นจะกลายเป็นผู้ชายที่ไม่แท้ไปเสียแล้ว
แน่นอนว่าถึงเธอพยายามที่จะปฏิเสธว่ามันไม่ใช่ จิรายุอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น แล้วภาพที่พึ่งเกิดขึ้นแบบสดๆร้อนๆต่อหน้าต่อตาเธอเมื่อกี้ล่ะมันคืออะไร ไหนจะคำพูดพวกนั้นอีกที่จิรายุเต็มอกเต็มใจยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานเมื่อถูกนพนนท์เรียกขานว่า 'สามี'
"งั้นแสดงว่า คุณเจตน์กับคุณนนท์ก็คงสนิทกันมาก"
"ก็ประมาณนั้นแหละ แก้ผ้านอนด้วยกันก็ทำมาแล้ว" จิรายุพูดไปก็ขำไป ในขณะที่อิงรดาเอาแต่อ้าปากค้างตาโตเมื่อคนเล่าไม่ได้คิดจะปิดบังข้อมูลใดๆเลย ดูท่าว่าเขาออกจะอยากเปิดเผยมันเสียด้วยซ้ำ
"ว่าแต่เธอเถอะ แน่ใจจริงๆเหรอว่าอยากตามไปทำงานกับฉัน ไม่ใช่ว่าที่ไปเป็นเพราะว่าเกรงใจป้าไก่หรอกนะ"
"เปล่านี่คะ หนูอยากไปช่วยงานคุณเจตน์จริงๆ"
"ถ้างั้นก็ดี ช่วงนี้งานฉันยิ่งล้นมืออยู่ ได้เธอมาช่วย เผื่อว่าฉันจะได้มีโอกาสแว๊บไปไหนมาไหนได้มากขึ้น"
"คุณเจตน์อยากแว๊บไปไหนเหรอคะ"
"เรื่องของผู้ใหญ่น่า เด็กไม่ต้องรู้หรอก"
"อ้าว แต่หนูก็ไม่เด็กแล้วนะคะคุณเจตน์ ลืมไปหรือเปล่าว่าหนูจะยี่สิบสี่แล้ว "
"นี่ปีนี้เธออายุเกือบจะเข้ายี่สิบสี่แล้วเหรอเนี่ย ไวจัง เผลอแป๊บๆก็เกือบจะแก่ทันฉันแล้ว"
"คุณเจตน์นี่ตกลงยังไงกันแน่คะ เมื่อกี้ว่าหนูเด็กตอนนี้มาว่าหนูแก่" อิงรดาเริ่มออกอาการหน้าบู้ เมื่อถูกกล่าวหา
"สรุปเลยก็คือว่า อันที่จริงเธอน่ะเริ่มจะแก่แล้ว อยู่ไปอีกไม่กี่ปีก็จะเข้าสามสิบ แต่ถ้าเอาเธอมาเทียบกับฉันก็ยังถือว่าเธอยังเด็กอยู่ไง เรื่องมันก็ง่ายๆแค่นี้เอง ไม่เห็นจำเป็นต้องน่าถามเลยนะเรา" สรุปอีกทีก็คือว่าเธอโดนเขาด่าว่าโง่หรือเปล่า รู้แบบนี้ไม่น่าถามเลย สู้แอบเก็บข้อมูลเอาแบบเงียบๆจะยังดีเสียกว่า
"ถึงแล้วเธอคงไปซื้อสิ ฉันขอจอดรออยู่ตรงนี้นะขี้เกียจเดินลงไป"
"ได้ค่ะ งั้นคุณเจตน์อยากได้อะไรด้วยไหมคะเดี๋ยวหนูซื้อมาให้"
"อืม ถ้าบอกว่าอยาก เธอจะกล้าซื้อให้เหรอ" จิรายุพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าเธอเลยสักนิด แต่มือกลับกำลังล้วงควานเข้าไปในคอนโซลหน้ารถราวกับต้องการค้นหาสิ่งของ
"ถ้ามันไม่ใช่ถุงยางหนูก็คงกล้าซื้อค่ะ"
"นั่นแหละ ฝากซื้อหน่อยสิ พอดีว่าควานหาในรถแล้วมันหมดน่ะ ปกติฉันมักจะติดเอาไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน"
"คุณเจตน์! นี่พูดจริง?" อิงรดาทำหน้าเหรอหราแล้วถามย้ำดูอีกรอบ สีหน้าของเธอตอนนี้นั้นดูตกใจมากจนจิรายุมองดูแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำ
"ฉันล้อเล่นน่า ใครจะบ้าฝากเด็กซื้อถุงยางให้"
"แน่ใจนะคะ? งั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย ตกลงคุณเจตน์ไม่เอาอะไร"
อิงรดาพ่นลมหายใจออกจากริมฝีปากแล้วหันไปถามจิรายุอีกรอบอย่างหวาดระแวง แต่แล้วเขาก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าพร้อมกับส่งยิ้มเท่ๆมาให้ จนหัวใจคนมองถึงกับกระตุก
นี่ไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไงนะคุณเจตน์ว่าตัวเองน่ะหล่อขนาดไหน เฮ้อ ไม่น่าเลยเสียดายของ..
"หนูท้องจริงๆด้วยค่ะคุณเจตน์""อะไรนะ นี่พูดจริงหรือเปล่าอิง""สองขีดชัดเจนขนาดนี้โกหกได้ด้วยเหรอคะ"อิงรดาชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่ปรากฎสัญลักษณ์สองขีดที่อยู่ในมือชููยื่นให้จิรายุดู ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอมีอาการแปลกๆ เอาแต่เวียนหัวหงุดหงิดวิงเวียนเป็นว่าเล่น ดึกๆดื่นๆก็ชอบตื่นลุกขึ้นมาหาอะไรกินทั้งที่นอนหลับไปแล้ว จนจิรายุเองยังเคยแอบแซวว่าสงสัยเธอคงจะท้องแล้วแน่ๆยิ่งพอได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน รายนั้นก็ชอบจับเธอกินทั้งเช้าและค่ำ บางทีดึกดื่นค่ำมืดกว่าจะได้หลับได้นอนก็ปาไปเกือบค่อนคืน ทั้งทีเธอเองก็บอกไปแล้วว่าให้เขาเพลาๆลงหน่อย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด กว่าจะถึงฤกษ์ก็ต้องรออีกตั้งสองเดือนถึงจะถึงวันที่คุณกนกวรรณหาเอาไว้ให้ เธอเลยกลัวว่าป่านนั้นตัวเองจะได้ท้องโย้ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน"เย้!ในที่สุดลูกพ่อก็มาสักที แบบนี้ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าจิรายุก็มีน้ำยา นึกว่าจะต้องอับอายขายขี้หน้าคนแถวนี้เสียแล้วว่าฉันทำลูกไม่เป็น"จิรายุกระโดดเย้วๆอยู่สามสี่ทีก็วิ่งกลับมาอุ้มเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ อิงรดาอดขำไม่ได้ที่จิรายุยังจำได้อยู่ว่าเธอแกล้งล้อเขาว่าอะไร เพราะตั้งแต่ที่ตั้งใจมีอะไรกันไปแบบไม่มีกา
"แกต้องรับผิดชอบยายอิง"นั่นคือคำประกาศิตที่คุณกนกวรรณพึ่งจะประกาศออกไป อิงรดายังคงนั่งก้มหน้าโดยมีจิรายุหลานชายของเธอนั่งจับมือไว้ คงจะเป็นเพราะว่าเด็กนั่นกลัวทำให้เธอและผู้เป็นยายผิดหวังเสียใจ จึงไม่กล้าเงยหน้าสบตา หากแต่ว่าความจริงเป็นอย่างไร คงจะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังคงส่งนักสืบเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของอดีตสามีที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือ นันที อดีตแม่บ้าน ด้วยความที่ยังคงรักและเป็นห่วง บวกกับที่เธอได้ข่าวมาว่าพักหลังมานี้อดีตสามีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนักและออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่ และไม่ได้ใส่ใจดูแลอดีตสามีของเธออย่างที่ควรจะเป็น จนอดีตสามีของเธอรู้เข้าก็เริ่มตรอมใจ เธอเองด้วยความที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บอกตามตรงก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เลยยังแอบดูแลให้ความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้ใครรู้แต่พอสืบไปสืบมา นอกเหนือจากเรื่องสามี ความจริงบางอย่างที่เธอได้รับรู้เพิ่มมาอีกอย่างด้วยก็คือ พ่อหลานชายตัวดี ยังคงติดต่อคบหากับเอมมิกาลูกสาวของนันที
ไม่ใช่แค่อิงรดาที่หน้าเหวอ แต่เอวารินที่โทรมาอยู่ในสายก็หน้าเหวอตกใจไปตามๆกัน แถมฝ่ายนั้นยังจะถามจิรายุซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกต่างหาก จนได้ฟังคำตอบรอบที่สองของจิรายุไป ทำเอาอิงรดาถึงกับต้องรีบแย่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกจิรายุแย่งไปคืนกลับมา'น้องแอลฟังไม่ผิดหรอกครับ พี่บอกว่าอิงเป็นแฟนพี่ หรือว่าจะเอาให้ชัดๆเลยก็คือ อิงเป็นเมียพี่ครับ'"คุณเจตน์พูดแบบนั้นกับคุณแอลไปได้ยังคะ""ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันพูดความจริง หรือเธอจะเถียงอีกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"จิรายุหน้ายุ่งคิ้วยุ่งสวนกลับคนตัวเล็กทันทีที่เธอแหวมา ก็จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ ยอมทนเห็นแฟนตัวเองถูกคนอื่นจีบเฉยๆอย่างนั้น ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตามอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาล่ะ คอยดูเถอะ นี่ขนาดยังไม่ได้คบกันออกหน้าออกตาเขายังหวงเธอขนาดนี้ วันไหนที่มีโอกาสได้ประกาศความเป็นเจ้าของขึ้นมา รับรองว่าอิงรดาจะไม่มีทางได้เหลียวมองใคร"แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่คะ"อิงรดาน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงราวกับว่าหมดอะไรตายยาก ในเมื่อตอนนี้เธอเองไม่สามารถแสดงสิทธิ์ในการครอบครองเขาได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสถานะความสัมพันธ์ระหว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นก้องอยู่ภายในห้องครัว ยิ่งอิงรดาส่งเสียงกระเส่าครวญครางออกมาเท่าไหร่ เเรงกระแทกที่ถูกส่งไปก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทันที่ผละออกจากริมฝีปากหวานได้ สายตาคมของเขาก็ก้มจ้องลงมายังจุดสอดประสาน อิงรดามองภาพจิรายุซี๊ดปากหน้านิ่วที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของเขาและเธอก็เกิดความเสียวซ่านบวกกับความอาย จิรายุเองก็เลือกที่จะมองสลับกันบนล่าง ใบหน้างดงามที่กำลังเสียวซ่านของอิงรดา สลับกับจุดเชื่อมประสานกลางกาย"อ่าส์ แน่นดีมากๆเลยอิง ได้มองหน้าเธอสลับกับมองนมไปด้วยแบบนี้ ขยับแค่ไม่กี่ทีฉันก็เกือบจะเสร็จแล้ว""แน่ใจเหรอคะว่าคุณเจตน์มองแค่หน้าหนูแล้วก็มองนม หนูเห็นว่าคุณเจตน์ชอบมองลงไป..ข้างล่าง""ก็อันนั้นฉันก็อยากเห็นไงว่าร่างกายของเราสองคนเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน ว่าแต่เธอยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า""ไม่เจ็บแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่..เสียว"อิงรดายิ้มหวานตาหยี พร้อมกับใบหน้ายู่ยี่แล้วจึงแลบลิ้นน้อยๆออกมา พอจิรายุเห็นเข้าก็รีบตามเข้าไปประกบดูดปากอย่างไว ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงซอยขยับเรียกเสียงครางหวานๆ อิงรดาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขที่จิรายุมอบให้ จนเผลอปล่อยเสียงครางออกมาเป็นที
"แล้วคุณเจตน์กับพี่เอม เอ่อ คบกันมานานแล้วเหรอคะ""อื้ม เป็นสิบปีแล้ว แต่ก็คบๆเลิกๆ บางทีเลิกกันไปปีสองปีแล้วก็กลับมาคบกันใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตัดเอมออกไปจากชีวิตจริงๆไม่ได้บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า เราเป็นคนแรกของกันและกัน""คุณเจตน์กับพี่เอม เป็นคนแรกของกันและกัน" อิงรดาเผลอพูดย้ำซ้ำคำนั้นออกมาเสียงเบา ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ลึกๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆน้อยๆสามสี่ทีเพื่อไล่เอามวลน้ำตาที่กำลังทำท่าว่าจะเอ่อทะลักขึ้นมา กระนั้นถ้าหากตอนนี้เขาได้จ้องมองเข้ามาในดวงตาก็คงจะเห็นได้ถึงร่องรอยความแดงของมัน"เธอหึงฉันเหรออิง น้อยใจฉันอยู่หรือเปล่า""ปละ เปล่านี่คะ""แต่ถ้าเธอจะบอกว่าหึงแทนคำว่าเปล่า คำนั้นมันอาจจะทำให้ฉันดีใจมากกว่าก็ได้นะ"จิรายุเองก็มองมาที่เธอตาละห้อยสร้อยเศร้า ทั้งในใจก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าความรู้สึกที่อิงรดามีต่อตนเองนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า หากแต่ก็ทำได้เพียงแค่เว้าวอนว่าขอให้เธอชอบเขาจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เขาชอบเธอ"คุณเจตน์ อยากให้หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ""อื้ม อยาก เพ
'ถ้าเธออยากจะยกเลิกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ห้ามกินยาคุมฉุกเฉินเด็ดขาด รอจนกว่าประจำเดือนจะมา ถ้าประจำเดือนมาเธอก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องมาตกลงกัน'อิงรดานั่งเหม่อกับข้อเสนอแกมคำสั่งล่าสุดของจิรายุอยู่ที่บริเวณใต้ร่มไม้หน้าบ้านอย่างหมดไร้ซึ่งหนทางและไม่เข้าใจเลยว่าจิรายุจะบังคับเธอไปทำไม ในเมื่อการมีลูกกับเธอนั้นก็ไม่ได้ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เพราะการที่เธอยอมตกลงทำเรื่องอะไรกับเขาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้นก็คือความต้องการของคุณกนกวรรณต่างหาก บวกกับความสงสารและแอบมีเขาเข้ามาอยู่ในใจ ด้วยความที่อยากจะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เธอยอมรับปากอะไรออกไปแบบนั้น การที่เธอยินยอมที่จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้เข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายของเธอได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอรักเขา แล้วเขาล่ะ รักเธอก็ไม่ได้รัก ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิดเพศผิดปกติอะไรเสียหน่อย ทำไมถึงต้องรั้งเธอไว้ด้วยเรื่องแบบนี้ ไม่รู้บ้างเลยหรือไงว่าแค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วภายใต้ความทึบของม่านกรองแสงผืนยาวบนชั้นสอง เรือนร่างสูงใหญ่ยืนเอียงตัวพิงบานกระจกหนามองทะลุผ่านเงาสะท้อนออกไปยังด้านนอก เพื