Home / โรแมนติก / หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ / ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

Share

ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

last update Last Updated: 2025-02-26 00:10:46

 

เมื่อวางสายจากมารดาของเด็กชายออมสินแล้วปิ่นปินัทธ์ก็รีบขึ้นไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้พยาบาลกำลังช่วยกันทำความสะอาดแผลของออมสินที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

“แผลลึกไหมคะคุณพยาบาล”

“ไม่ลึกค่ะแต่อาจจะต้องเย็บเดี๋ยวเราจะตามหมอให้นะคะ”

“ไม่ทราบว่าน้องโดนอะไรมาคะ”

“น้องหกล้มหัวกระแทกก้อนหินค่ะ”

ขณะที่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลบนศีรษะหมอประจำห้องฉุกเฉินก็เข้ามาพอดี

“หัวเด็กไปโดนอะไรมาครับ”

“หกล้มกระแทกก้อนหินค่ะ”

“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเดินไปตรวจแผลแล้วบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลไว้รอ

“แผลเปิดแต่ไม่ลึกมากคงต้องเย็บนะครับ ผู้ปกครองเซ็นชื่อแล้วใช่ไหมครับ”

“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองค่ะ ฉันเป็นครู”

เสียงที่ตอบฟังอ่อนหวานจนคุณหมอหนุ่มที่กำลังดูแผลอยู่รีบหันหน้ามามอง ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเสียงหวานแล้วใบหน้าเธอก็ยังสวยหวานมากๆ อีกด้วย เธอคือผู้หญิงในสเปกของเขาชัดๆ

“คุณครูเหรอครับ” เขาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ค่ะ”

“แล้วผู้ปกครองของเด็กจะมาถึงเมื่อไหร่”

“คงอีกสักพักค่ะ ให้ฉันเซ็นชื่อแทนได้ไหม”

“ได้ครับ ถ้าเซ็นชื่อแล้วก็รอด้านนอกก่อนก็ได้”

“ไม่เอาผมไม่อยากอยู่คนเดียว ครูปิ่นอย่าไปไหนนะ ห้ามทิ้งผมไปไหนนะ” เมื่อได้ยินว่าคุณหมอจะให้คุณครูออกไปนอกห้องออมสินก็ร้องไห้ขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งเงียบไปเมื่อครู่

คุณหมอหนุ่มกำลังลังเลเพราะปกติแล้วเขาไม่ชอบให้ใครจ้องเวลาตัวเองกำลังทำงานอยู่แต่ถ้าจะมีเสียงเด็กร้องโวยวายอยู่แบบนี้ก็คงไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่

“หนุ่มน้อยไหนบอกหมอสิชื่ออะไร”

“ผมชื่อเด็กชายออมสินครับ” เด็กชายตอบพร้อมเสียงสะอื้น

“หมอจะให้คุณครูอยู่กับออมสินนะ แต่ออมสินจะต้องสัญญากับหมอก่อนว่าจะไม่ร้องจะไม่ดิ้นหมอจะได้เย็บแผลให้สวยๆ”

“เย็บแผลคืออะไร เหมือนเย็บเสื้อขาดหรือเปล่า หรือเปล่าใช้เข็มเย็บผ้าใช่ไหมผมกลัว”

“มันก็คล้ายๆ เย็บผ้าที่ขาดนั่นแหละ แต่เราใช้เข็มอีกแบบ แต่เดี๋ยวหมอจะฉีดยาชาก่อนตอนเย็บออมสินจะได้ไม่เจ็บไงครับ”

“ฉีดยาเหรอ ไม่เอาออมสินไม่ฉีดครูปิ่นครับ ผมไม่อยากฉีดยาผมกลัวเจ็บ”

“ออมสินครับหนูฟังครูนะ ฉีดยาชาแค่นิดเดียวเองจากนั้นออมสินก็จะไม่เจ็บอีกเลย” ปิ่นปินัทธ์ปลอบลูกศิษย์

“แต่ฉีดยามันเจ็บ”

“เจ็บนิดเดียวเองนะ เชื่อหมอสิ”

“แต่ผมกลัว”

“ออมสินเป็นคนเก่งเดี๋ยวคุณครูจะไปเล่าให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังว่ายอมให้คุณหมอฉีดยาชาและให้คุณหมอเย็บตั้งหลายเข็มโดยไม่ร้องไห้เลย เพื่อนๆ จะต้องชมแน่เลยว่าออมสินเป็นเด็กที่เก่ง”

“ครูจะบอกชมพู่ด้วยไหมครับ”

“บอกสิครูจะบอกชมพู่ว่าออมสินอดทนมากๆ เลยดีไหม”

“แต่คุณครูอยู่กับผมได้ไหมครับ”

“หมอคะขอฉันอยู่กับออมสินได้ไหม”

“ก็ได้ครับ” เพราะเห็นว่าเขาคงคุยกับเด็กไม่รู้เรื่องแน่ๆ การให้คุณครูของเด็กชายอยู่ด้วยน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“เจ็บนิดหนึ่งนะออมสิน” คุณหมอหนุ่มบอกเด็กชายขณะที่ฉีดยาชาลงไป

“ผมเจ็บ ผมเจ็บ”

“ไม่ได้นะคะออมสินไม่ดิ้นนะ”

ออมสินที่นอนตะแคงอยู่ดิ้นจนพยาบาลต้องเขามาช่วยกันจับศีรษะไว้ ขณะที่คุณครูก็กอดเด็กชายแล้วใช้มือลูบไปบนหลังเบาๆ คุณหมอหนุ่มยับเข้าใกล้มากขึ้นเพื่อจะฉีดยาบริเวณปากแผลอีกด้านและมันใกล้มากจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวของคุณครูกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด

กรัณย์กรรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากศีรษะก่อนจะฉีดยาชาไปบนแผลจากนั้นก็เย็บจนเสร็จ

การเย็บแผลใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีแต่ทำให้เขาเหงื่อตก ไม่ใช่เพราะเย็บยากแต่เพราะเขาตื่นเต้นที่สายตาของคุณครูคนจ้องอยู่ต่างหาก

เย็บแผลเสร็จก็ให้เด็กชายลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ให้ลงจากเตียงเพราะเขายังต้องซักประวัติให้ละเอียด เพื่อมั่นใจว่าการล้มหัวกระแทกก้อนหินจะไม่กระทบกระเทือนถึงสมอง

“ออมสินไหนลองเล่าให้หมอฟังสิครับว่าออมสินลงได้ยังไง”

“ผมเล่นฟุตบอลกับเพื่อนครับแล้วก็ลื่นล้มหัวมันไปกระแทกก้อนหิน”

“ไม่ได้นะออมสินเราจะบอกหมอว่าเล่นฟุตบอลไม่ได้” คุณครูกระซิบ

“แล้วผมต้องบอกหมอว่ายังไงล่ะครับ” เด็กชายมองหน้าคุณครูอย่างไม่เข้าใจเพราะเขาเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนแล้วล้มจริงๆ

“ไม่ทันแล้วนะครับคุณครู เด็กเขาก็บอกแล้วว่าเล่นฟุตบอลจนหัวกระแทก” คุณหมอได้ยินอย่างชัดเจน

“หมอช่วยแก้ในประวัติได้ไหมว่าแค่วิ่งเล่น ตัดคำว่าฟุตบอลออก”

“ทำไมล่ะครับ” คุณหมอถามด้วยความไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เคยรักษาเด็กแบบนี้มาก่อนถึงแม้จะมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้หนึ่งปีแล้วก็ตาม

“คือเด็กมีประกันอุบัติเหตุไว้ค่ะแต่ถ้าเป็นการเล่นกีฬาบริษัทประกันเขาจะไม่จ่าย ครูขอคุยส่วนตัวกับคุณหมอได้มั๊ยคะ”

“ได้สิเดี๋ยวผมให้พยาบาลพาออมสินออกไปข้างนอกก็ได้”

ยังไม่ทันเรียกให้พยาบาลเข้ามาก็ได้ยินเสียงมารดาของออมสินถามลูกชายก่อน

“แม่มาแล้วครับครู”

“ถ้าอย่างนั้นให้เด็กออกไปอยู่กับผู้ปกครองก่อนนะครับผมขอคุยกับคุณครูเป็นการส่วนตัว” คุณหมอบอกกับพยาบาลที่เดินเข้ามาตามพอดี

เขาพาคุณครูมาในห้องตรวจที่อยู่ติดกับห้องฉุกเฉิน เชิญเธอนั่งลงตรงข้ามก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมมานั่งเก้าอี้ของตัวเอง

“ที่ครูพูดครูก็เท่ากับว่าจะให้ผมทำทำผิดจรรยาบรรณ ด้วยการกรอกประวัติผู้ป่วยไม่ครบใช่มั้ย”

“คุณหมออย่าคิดมากแบบนั้นสิคะ มันก็แค่การช่วยเหลือเด็กผู้ปกครองเขาชำระค่าประกันมาแล้วและลูกเขาเจ็บตัวอย่างนี้ยังจะต้องให้เขาจ่ายเงินอีกเหรอคะ ถึงแม้โรงพยาบาลนี้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล แต่ออมสินไม่ใช่คนที่นี่เขาจึงใช้สิทธิ์บัตรทองไม่ได้ ค่าใช้จ่ายมันก็คงไม่น้อยเลยชาวบ้านหาเช้ากินค่ำเขาจ่ายเงินค่าประกันไปแล้วเขาก็หวังว่าจะได้ลูกของเขาจะได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่หมอไม่สงสารเด็กเลยเหรอคะ” ปิ่นปินัทธ์เคยไปเยี่ยมบ้านของนักเรียนทุกคนจึงพอจะรู้ว่าครอบครัวของใครเป็นยังไงบ้าง

“แต่มันผิดนะครับคุณครู ถ้าคนอื่นรู้ผมอาจจะต้องถูกยึดใบประกอบวิชาชีพและโดนสอบสวนเลยนะครับ”

“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ แล้วที่นี่ฉันจะทำยังไงล่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 32 ผมขอโทษ (ตอนจบ)

    วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของคุณยายละมัยหนึ่งปี กรัณย์กรพาปิ่นปินัทธ์มาทำบุญให้คุณยายที่วัดกับญาติคนอื่นๆตอนนี้สถานะของทั้งสองคนคือคนที่กำลังศึกษากันอยู่ปิ่นปินัทธ์ไม่ใช้คำว่าแฟนหรือคนรักกับกรัณย์กรเพราะเธอกลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะกลับมาอีก แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าตอนนี้เขาสามารถบาลานซ์เรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวตลอดเวลาที่ยายของหญิงสาวป่วยและรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูเกือบหนึ่งเดือน กรัณย์กรคอยดูแลเธออีกทั้งยังคอยช่วยดูแลคุณยายจนคุณลุงกับคุณป้าเห็นใจชายหนุ่มมากๆ และบอกให้ปิ่นปินัทธ์เปิดใจเพราะรู้สึกว่ากรัณย์กรจะจริงใจกับหลานสาวของตนเองมากหลังจากทำบุญให้กับคุณยายแล้วทุกคนก็มาทานข้าวกันที่บ้านของป้าก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ส่วนกรัณย์และปิ่นปินัทธ์ยังอยู่ต่อเพราะป้าสาขอคุยกับชายหนุ่มเป็นการส่วนตัวส่วน“ป้าสามีอะไรกับผมครับ”“ป้าอยากจะถามว่าหมอรัณย์จริงใจกับปิ่นมากใช่ไหม”“ใช่ครับ ความรักครั้งนี้ผมจริงจังมาก ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าตัวเองแบ่งเวลาไม่ดีทำให้ปิ่นต้องเสียใจ ผมทำให้เป็นรอนานถึงห้าปีแล้วถึงตอนนี้ถ้าปิ่นจะให้ผมรอนานแบบนั้นมั่งมันก็ไม่มีปัญหาเลย”“ป้า

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 31 ยื้อไม่ไหวก็ต้องปล่อย

    ตลอดทั้งคืนปิ่นปินัทธ์นั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องไอซียูโดยมีกรัณย์กรนั่งอยู่ข้างๆกรัณย์กรเดินเข้าไปดูคุณยายเกือบจะทุกชั่วโมงอาการของท่านยังคงที่แต่ดูแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขาไม่รู้จะพูดกับปิ่นปินัทธ์ไงว่าอาการของคุณยายเธอมันค่อนข้างหนักการจะให้คุณยายกลับมาหายดีมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ชายหนุ่มเดินเข้าออกห้องไอซียูอยู่หลายรอบจนกระทั่งเผลอหลับในเวลาตีสี่และตกใจตื่นในเวลาเกือบจะหกโมงเช้า“ผมว่าปิ่นกลับไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่าไหม ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก”“อาการของคุณยายเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวรู้ว่าเขาเดินเข้าออกอยู่หลายหลายครั้ง“ก็ยังคงที่ครับวันนี้อาจจะต้องตรวจหลายหลายอย่างเพิ่ม ผมไม่ได้เป็นหมอที่ดูแลเคสของยายหรอกนะครับ ผมให้รุ่นพี่อีกท่านเป็นคนช่วยดูให้”“ทำไมละคะ”“เมื่อวานเป็นเวรของเขาครับ อีกอย่างการรักษาคนรู้จักหรือคนใกล้ชิดมันจะค่อนข้างกดดันเพราะเราจะเอาอารมณ์เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย มันจะทำให้การตัดสินใจบางอย่างคลาดเคลื่อนได้ อีกอย่างผมก็อยากจะช่วยประสานงานให้มากกว่า”“ขอบคุณนะคะ ถ้าเมื่อคืนไม่ได้คุณคงแย่”“ไม่หรอกครับ หมอและพยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นทำงานกันอย่างเต

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 30 วิกฤต

    “เกิดอะไรขึ้นเหรอปิ่น” กรัณย์กรถามหลังจากเธอวางสายและดูท่าทางรีบร้อน“ป้าสาโทรมาบอกว่าคุณยายเหนื่อยมากและเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออกเลยกำลังพาไปโรงพยาบาลค่ะ”“โรงพยาบาลที่ทำงานใช่ไหม ปิ่นไปกับผมนะน่าจะไวกว่า”นาทีนี้หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรอีกแล้วเพราะอยากจะรีบไปหายายให้เร็วที่สุด“ทำใจดีๆ ไว้นะปิ่นไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอก เมื่อตอนกลางวันผมคุยกับคุณยายท่านก็ดูปกติดี แต่ระหว่างทางเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”“หมอจะถามอะไรคะ”“ผมจะถามว่าช่วงนี้ยายมีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า หรือมีโรคประจำตัวอะไรไหม”“ไม่มีค่ะยายแข็งแรงดี”“แล้วในครอบครัวล่ะมีเป็นโรคอะไรไหม เช่นเบาหวาน ความดันหัวใจหรือโรคมะเร็ง”“ปิ่นรู้แค่ป้าสาเป็นความดันโลหิตสูงค่ะ ส่วนเบาหวานไม่เคยได้ยินว่าใครเป็น”“ปิ่นลองนึกหน่อยนะว่าช่วงนี้ยายร่างกายเป็นยังไงบ้าง มีอะไรผิดปกติไหม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้” กรัณย์กรไม่อยากเสียเวลาไปซักประวัติคุณยายที่โรงพยาบาล“ยายเป็นหวัดค่ะ”“แล้วได้กินยาอะไรไหม”“ไม่ค่ะ ยายแค่ไอแห้งๆ ปิ่นจะพาไปหาหมอยายก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่จิบน้ำอุ่นก็น่าจะหาย”“แล้วมีอย่างอื่นไหม มีไข้หรือเปล่า”“

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 29 เป็นเพื่อนไปก่อน

    “เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยสิปิ่น”“เป็นเราคุยกันแล้วนี่คะ ว่าหมอจะมาเฉพาะเวลาราชการเท่านั้นนี่มันค่ำแล้วนะ ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่หมอกลับไปก่อนเถอะค่ะถ้าอยากจะมาหาคุณยายค่อยมาเวลากลางวัน”“แต่ผมอยากคุยกับปิ่นจริงๆ นะผมคุยกับคุณยายแล้วคุณยายอนุญาตให้ผมมาหาคุณได้”“หมายความว่ายังไงคะ”“ขอเข้าไปคุยกันข้างในได้มั้ย ยืนคุยอยู่แบบนี้คนอื่นมาเห็นคงไม่ดีเท่าไหร่”“มันไม่ดีทั้งแต่หมอเข้าออกบ้านของปิ่นห้าปีก่อนแล้วล่ะค่ะ”“ปิ่นอย่าพึ่งโมโหสิ ถ้าปิ่นไม่ให้ผมเข้าไปผมก็จะยืนอยู่แบบนี้แหละแล้วผมจะบีบแต่รถให้ชาวบ้านเขาออกมาดูด้วย”“ทำไมหมอเป็นคนเข้าใจอะไรจะยากแบบนี้นะ”“ผมเข้าใจยากที่ไหน ปิ่นต่างหากที่เข้าใจยาก เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยนะปิ่น”เพราะกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆปิ่นปินัทธ์เลยยอมเปิดประตูให้จากนั้นหญิงสาวเดินนำเขามายังห้องรับแขก“เอาล่ะคะจะพูดอะไรก็พูดปิ่นมีเวลาให้คุณไม่มากหรอกนะปิ่นยังต้องทำใบงานอีกเยอะ”“ให้ผมช่วยทำไหมล่ะ”“ปิ่นไม่รบกวนเวลาคุณหมอขนาดนั้นหรอกค่ะ เวลาทุกนาทีของหมอมันมีค่าอย่าเสียเวลามาทำใบงานเล็กๆ น้อยๆ เลย”“ปิ่นอย่าพึ่งประชดได้ไหม”“หมอจะพูดอะไรก็พูดสิคะ”“ผมอยากขอโอ

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 28 โอกาสสุดท้าย

    หลังจากไปเยี่ยมคุณยายของปิ่นปินัทธ์ที่บ้านแล้วกรัณย์กรก็รู้สึกว่าแปลกๆ เพราะที่บ้านของหญิงสาวไม่มีของเล่นเด็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าเด็กชายที่เขาเห็นเมื่อวันก่อนเป็นลูกของหญิงสาวจริงๆในบ้านหลังนั้นก็น่าจะต้องมีของเล่นสักชิ้นหนึ่งและดูเหมือนยายละมัยก็ไม่ได้บอกเขาว่าปิ่นปินัทธ์แต่งงานแล้วความจริงข้อนี้กรัณย์กรต้องหาทางพิสูจน์เพราะเขารู้ใจตัวเองแล้วว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้กับปิ่นปินัทธ์และจะต้องพยายามเอาชนะใจของเธออีกครั้งครั้งนี้เขาจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพราะรักเธอมาก การห่างกันไปนานหลายปีไม่ได้ทำให้ความรักที่เขามีให้กับปิ่นปินัทธ์ลดน้อยลงเลย และตอนนี้เขาอยากขอโทษเธอที่ตนเองเห็นแก่ตัวเห็นงานสำคัญกว่าความรู้สึกของหญิงสาว แต่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองจะมีเวลาให้เธอมากขึ้นกรัณย์กรอยากจะกลับมาคบกันปิ่นปินัทธ์อีกครั้งหนึ่ง เขาจะชดเชยเวลาทั้งหมดให้กับหญิงสาว การมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้กรัณย์กรไม่ต้องอยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมงเขาออกตรวจภายแผนกโอพีดี ราวน์คนไข้ และจะมีนัดคนไข้มาผ่าตัดหรือสวนหัวใจและทุกอย่างก็จะลงเวลานัดหมายเพราะการผ่าตัดประเภทนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่หลายแผนก อีกทั้งห้องผ่าตัดและห้องสวนห

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 27 ตัดใจได้จริงๆ

    ปิ่นปินัทธ์ไม่ได้บอกยายของตนเองว่าเจอกับกรัณย์กรเพราะกลัวว่าคุณยายจะไม่สบายใจและหญิงสาวก็คิดว่าเขาไม่มีมีทางจะมาหาคุณยายอย่างที่บอกกับเธอแน่ๆแต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดเพราะเย็นวันหนึ่งหลังจากเธอกลับมาจากโรงเรียนก็เห็นบริเวณห้องรับแขกมีกระเช้าผลไม้และนมสำหรับผู้สูงอายุวางอยู่“คุณยายไปซื้อของพวกนี้มาเหรอคะ”“เปล่าหรอกลูกวันนี้มีคนแวะมาเยี่ยมยาย”“ใช่พี่ทศกับพี่แพรหรือเปล่าคะ พี่ทศบอกว่าก่อนจะกรุงเทพจะแวะมาหาคุณยายอีกครั้งหนึ่ง”“ทศเขาแวะมาจริงๆ นั่นแหละแต่ของพวกนี้ไม่ใช่ของทศหรอกนะลูก”“อ้าว....แล้วของใครล่ะคะคุณยาย”“ปิ่นลองเดาดูสิว่าวันนี้มีใครมาหายาย”“ปิ่นเดาไม่ถูกหรอกค่ะยายบอกปิ่นมาเถอะค่ะ”“วันนี้หมอรัณย์เขามาหายายที่นี่”“อะไรนะคะ เขามาหายายจริงๆ เหรอคะ”“ปิ่นรู้ใช่ไหมว่าเขาจะมาหายาย”“ค่ะยาย ปิ่นบังเอิญเจอเขาเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วเขาบอกว่าจะแวะมาหาคุณยายแต่ปิ่นไม่ได้บอกยายเพราะคิดว่ายังไงเขาก็คงไม่มาเวลาทำงานแน่ๆ”“เขามาหายายตอนเที่ยงจ้ะ”“ยายคุยอะไรกับเขาบ้างบอกเรื่องปิ่นไปหรือเปล่า”“ก็คุยเรื่องทั่วไป ยายไม่ได้บอกเรื่องอบปิ่นหรอกนะ ยายรู้ว่าปิ่นอยากให้เรื่องนี้มันเป็นความลับ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status