แรงปรารถนาเป็นจริง...
ฉันจะถือว่านี่เป็นสิ่งที่สวรรค์ได้เลือก
แม้เส้นทางเบื้องหน้าจะเป็นทางชัน เต็มไปด้วยความมืดและเงียบสงัด แต่ถ้ามันนำพาไปถึงจุดหมายที่ฉันต้องการได้
ฉันคงต้องทำ!
พี่ชายฉันหายไป ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน เขาสัญญาว่าจะมารับฉัน หลังจากที่ฉันเรียนจบ ทว่านับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาจะหกปีเศษ... กลับไม่มีข่าวคราวจากเขาเลย ทั้งที่ทางบ้านพยายามติดต่อ ก็ไร้ซึ่งการติดต่อกลับ
... เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่พี่ชายรักพวกเรามาก
" จะไปจริงๆหรือลูก"
แม่ของพวกเราอายุเริ่มเยอะ โรคเรื้อรังก็เริ่มถามหา ปกติค่ารักษาพี่ชายเป็นคนจัดการทั้งหมด
ฉันเองก็ช่วยได้อยู่หรอก กว่าหกปีมานี้ หากโรคเดิมยังอยู่ โรคใหม่นั้นเข้ามาเพิ่ม ยิ่งนานวันก็ยิ่งต้องใช้เงิน ไม่รวมหนี้สินจากการกู้เงินส่งน้องชายคนเล็กเรียน ฉันคนเดียวก็คงไม่ไหว
" งานที่ต่างประเทศ จะช่วยให้เราสบายขึ้นค่ะแม่มีเจ้าสรรค์อยู่ด้วย คงหมดห่วงไปบ้าง... ดูแลตัวเองนะคะ"
" แต่ว่า..."
" แล้วจะส่งข่าวมาบ่อยๆค่ะ ที่นั่นน่ะคงช่วยเราได้ หนูจะมารับแม่กับน้องให้เร็วที่สุด"
ต่อให้ต้องคิดถึงมาก เมื่อห่างกันแล้ว แต่หากไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ พี่ชายของฉันก็คงไม่กลับมา
เพราะหากเขาตาย.. ฉันจะคิดว่าครอบครัวของเราก็แค่โชคร้ายเท่านั้น อย่างน้อยจะได้รู้ว่าถึงเหตุผลที่เขาหายไป..
" ลานะคะแม่ "
" ไศลา! "
" คะ? "
"พี่ของลูก.. ไม่ได้ทำงานสุจริตหรอกนะ ถ้าการไปทำงานของลูกเจตนาจะนำเงินมารักษาแม่ ก็ขอให้ทำมันแค่นั้น อย่าตามหาเขาเลย"
และฉันคงต้องยอมทำบาปโดยการโกหกอีกสักครั้ง
".. ค่ะ ไศจะพยายาม"
ใช่ เพราะพี่ชายทำงานผิดศีลธรรม การตายของเขาจึงไม่ธรรมดา แม่อาจปล่อยวาง
แต่ฉัน...ไม่
“ห๊ะ ขายตัว! อู้!!!”
ดวงตาคมในแบบฉบับสาวไทยถ่างขึ้น กรอกไปกรอกมา ตกใจกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ๆ นึกจะโพล่งอะไรก็โพล่ง ก่อนจะถูกฝ่ามือหล่อนอุดปากเอาไว้
“ชู่วววว จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย แค่พูดลอยๆเฉยๆ”
เทเรน่าโน้มหน้าลงมากัดฟันกรอด ก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กกว่า ให้ยืนเหมือนเดิม
“ก็เธอพูด...”
“ก็เธอถามนี่!”
“แค่ถามว่า ทำยังไงให้ได้เงินเยอะๆ แต่เหนื่อยน้อย ...แค่นั้นเอง”
“ฉันก็บอกเธอไง ว่าคงต้องไปขายตัว ชิ! ยัยบ้า เมื่อไหร่จะฟังให้จบก่อนจะโวยวายสักทีนะ”
เทเรน่าบ่นอุบ ออกแรงถูแก้วหนักกว่าเดิมตามอารมณ์ฉุนเฉียว
แต่แล้ว...
"นี่ ตรงนั้นน่ะ มัวทำอะไรกันอยู่ อีกสิบนาทีเราต้องเปิดร้านแล้วนะ”
เหมือนว่าเสียงเถียงกันเล่นๆ ของพวกเธอจะโชยตามลมออกไปไกล แล้วนำพาเสียงของใครบางคนลอยมาต่อว่า ก่อนเดินดุ่มๆ มาหยุดเท้าสะเอว ใช้สายตาเพ่งเล็งมายังคนพูดเป็นพิเศษ
“ค่ะ จะเสร็จแล้วค่ะ”
นั่นทำเทเรน่าตกใจไม่น้อย หล่อนเอ่ยเสียงอ่อยพร้อมหน้าละห้อย ส่วนคนข้างๆ กลับอั้นขำราวกับมันเป็นเรื่องตลก
“คิกๆๆ โอ้ย..”
เทเรน่าจึงหันมาทำตาขวางใส่ หลังหัวหน้าแผนกเดินออกไปแล้ว พร้อมยิกเนื้อเธอตรงชายโครง
“ตลกมากไปแล้ว”
“โถ่ เทเรน่า ฉันขอโทษ”
“ไม่ต้องเลย เธอมักทำให้ฉันซวยประจำ”
หล่อนปาผ้าขาวในมือทิ้งแสร้งงอน เปลี่ยนจากเช็ดแก้วไวน์ไปทำอย่างอื่นแทน นั่นจึงทำให้ไศลาถึงกับเซ็ง เธอเป่าลมใส่เส้นผมบนหน้าผากกระเพื่อมขึ้น พร้อมทำปากขมุบขมิบใยตาม
“หยีๆๆ ขี้งอนชะมัด คราวนี้ฉันไม่ง้อหรอกนะจะบอกให้!”
“ก็ดี งั้นคืนนี้ห้ามเอายัยซิมบ้าขึ้นมานอนบนเตียงนะ”
ทว่า หญิงสาวมักจะแพ้เพื่อนตลอด มันคือจุดอ่อนของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ไศลาขัดใจ เจ้าของห้องครึ่งนึงอย่างเทเรน่ามักจะยกคำนี้ขึ้นมาข่มขู่ประจำ
“ชิ...ไม่เป็นคนรักแมวบ้างให้มันรู้ไป”
ไศลาทำหน้าละห้อย กลายเป็นเธอที่ต้องบ่นอุบแทน ส่วนหล่อนเดินเชิ่ดหน้าอมยิ้มออกไปจากบาร์
“เหลืออีกหนึ่งตะกร้า ฝากเช็ดด้วยนะ เช็ดให้เร็วๆ ด้วยล่ะ ได้ข่าวว่าวันนี้ คุณโครทิสจะเข้ามา”
“ห๊ะ..”
ทิ้งให้เพื่อนสาวชาวไทยทำงานคนเดียว เธอทำเป็นงงในทีแรก รอให้เพื่อนสนิทที่สุดในคาสิโนแห่งนี้เดินออกไปก่อน จึงจะเปลี่ยนเป็นยืนนิ่งในทีหลัง เธอถือแก้วไวน์ในมือพร้อมผ้าเช็ดค้างไว้ หรี่ตาลงต่ำข้างในไม่ได้โฟกัสอะไรเป็นพิเศษ หากใครมาเห็น คงมองไม่ออกว่าเธอกำลังใช้ความคิดอยู่
“โครทิส? ...” ในหัวมีแต่เสียงพี่ชาย พร้อมชื่อนี้ที่คุ้นเคย
“โครทิส ดิ เวเดโน่ น่ะหรือ...”
ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้เขาจะเข้ามาอย่างที่เทเรน่าบอกไว้จริงๆ หลังจากเธอใช้เวลารอคอยการตอบกลับรับเข้าทำงานอยู่ที่ประเทศไทยนานโข และบรรจุอยู่ที่นี่นานเป็นเดือนกว่าจะได้ยินคำนี้
การปรากฏตัวของเขาจึงน่าทึ่ง นั่นเพราะเจ้าของบ่อน... มีอุปนิสัยที่ดูเหมือนเป็นคนไม่เอาไหน ขี้เกียจ ไม่ค่อยสนใจในกิจการและลูกน้องของตัวเอง ดูจากการเข้ามาที่นี่แบบนับครั้งได้ก็พอจะรู้ ทว่าเขากลับรู้เรื่องราวทุกเรื่อง โดยผ่านสิ่งอื่น หากเดาให้ถูกสิ่งนั้นคงจะเป็นกล้องวงจรปิด และสายลับที่แฝงอยู่ในตัวพนักงานบางคน
" เฮ้อ..จะหาโอกาสเข้าไปยังไงล่ะนี่ "
แน่นอนหญิงสาวใคร่เห็นหน้าเขามาก และอยากจะไถ่ถาม เกี่ยวกับเรื่องของพี่ชาย กลับต้องคิดหนัก
เนื่องจากว่าที่อยู่ของที่นี่เป็นที่ทำงานที่ถูกต้องของเขา ซึ่งเคยถูกจ่าบนพัสดุและส่งมายังประเทศไทย แต่ดูท่า ความหวังของเธอจะพังทลายเสียลง เมื่อถามใครไม่มีใครรู้
" แลดูจะไม่ง่ายนะเนี่ย แกจะเข้าไปถามเขายังไง ยัยไศลา..." หล่อนพึมพำกับแก้วไวน์
นอกจากอุปสรรคจะเป็นผู้คนที่ระรานตาเพราะเป็นวันหยุดแล้ว แผนกของเธอยังถูกสับเปลี่ยน เนื่องจากหน้าบาร์พนักงานไม่เพียงพออีก
" มาหยุดอะไรเอาวันนี้นะ "
" เหอะ บ่น? ไม่ยักรู้นะว่าเธอจะมีใจรักการเสิร์ฟมากกว่ามายืนผสมคอกเทลช่วยฉัน ไหนว่าถูกแตะอั๋งบ่อยไง? "
" หูดีจริงนะ "
" แน่นอน มันอยู่ห่างกันแค่นี้ "
เทเรน่ายักใหล่ สายตาจับจ้องตัวหนังสือในออเดอร์ และพยายามเคลียร์ไปทีละบิล ทำไศลาที่แอบลอบมองนึกทึ่ง
ทั้งที่หล่อนกำลังยุ่ง สมองต้องจำสูตร แต่กลับมีเวลามาแหย่เธออีก
" ยัยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ "
หญิงสาวส่ายหน้ายิ้ม ขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมพลางกระแทกไหล่
" เทเรน่า หายงอนยังน่ะ"
" ยัง.."
" โธ่ หายเถอะนะ "
" เห็นไหมว่าฉันทำงานอยู่ "
หล่อนเหลือบตาขึ้นมามอง บ่งบอกถึงความรำคาญ ทว่ามีหรือเธอจะเลิก ไศลาเป็นคนเข้าข่ายยิ่งห้ามยิ่งยุเสียด้วย
" ฉันมีเรื่องจะถาม ถ้าเธอตอบ สัญญาว่าจะตั้งใจช่วยเธอ "
" อืม "
" คุณโครทิสที่ว่าน่ะ คนไหนหรือ ฉันจะมีโอกาสเจอไหม "
"ทำไม? เธอชอบเขาหรือ "
" เปล่า ก็แค่อยากรู้ ว่าเจ้านายตัวเองเป็นใครก็เท่านั้น " เทเรน่าสายหน้า
" ทำไม? "
" ไม่มีโอกาสหรอก เพราะเขาไม่ได้มาเดินหล่อให้ใครเห็นง่ายๆ "
" ทำไมล่ะ "
" ไม่รู้สิ เขามีผู้จัดการของเราแล้วนี่ อยากรู้อะไร ก็คงกระดิกนิ้วเรียกถาม นอกจากว่า..."
" นอกจากอะไร? " คนอยากรู้ทำตาโต เขย่าแขนเพื่อน ขวดเหล้าในมือสั่น " เร็วๆ "
" เฮ้ย เดี๋ยวหก "
หล่อนจึงวางมันลงชั่วคราว หันไปถลึงตาใส่เธอ
" ก็นอกจากว่า เธอจะทำเรื่องใหญ่ จนเขาเรียกไปฆ่าน่ะสิ! รับรอง...ได้เจอก่อนตายแน่" แล้วยักคิ้วล้อเลียน
" พูดเป็นเล่นน่า "
" จริง "
คาสิโนใหญ่ระดับต้นๆ ในสมาคมดาร์ก หรือเทียบเท่ากับแก็งค์อัลฟา มีผู้ปกครองนามว่า โครทิส ดิ เวเดโน่ หรือฉายาเจ้าพ่อกระเบื้องน้ำแข็ง ผู้ที่มีความเย็นชาระดับสูง ฉายานามว่า ' เวเดน' ไม่ใช่ไม่กลัวใครแค่อย่างเดียว ทว่า เขาสามารถทำลายฝั่งตรงข้ามได้ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขาไม่ได้มีพละกำลัง หรืออาวุธวิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ทุกคนคาดเดาความคิดของเขาไม่ได้ก็เท่านั้น
กว่าจะบรรลุหยั่งรู้ได้ ก็คงต้องหลังจากร่วงลงไปแล้ว!
" สมานฉันท์กันแล้ว ต่อไปนี้การค้าขายของเราที่ทะเลทราย คงไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากออร์แกนแล้วสินะ "
" ครับ แต่จะผ่านเรกาโดแทน "
" หืม..."
บุหรี่กำลังยกดูด ถูกชะงักจ่อคาปาก คู่สนทนาขมวดคิ้วงง ก่อนจะหัวเราะถูกอกถูกใจภายหลัง
" ท่านไม่รู้หรือ เขาเป็นลูกเขย "
" ฮ่าๆๆ ใช่! เออใช่ ใช่ ทำไมอยู่ๆ ถึงลืมไปได้วะ"
คราวนี้ถึงกับดูดอัดเข้าเต็มปอดอย่างสาแก่ใจ เมื่อรับรู้เต็มสองหูถึงเรื่องที่เคยเป็นอุปสรรคของพวกเขา กว่าจะนำอาวุธจากเมืองนึงเข้าไปอีกเมืองนึงได้ในอดีตนั้น เล่นเอาเหงื่อตกสูญเสียพลังงานกันมากมายเลยทีเดียว โครทิสยกยิ้ม เหลือบตามองไปยังลังไม้ที่วางอยู่ใกล้กัน
" หวังว่าท่านคงชอบใจของขวัญชิ้นใหญ่จากผม"
แล้วผ่ายมือ เมกาเซ ดีรัส ลูกค้ารายใหญ่ ผู้ที่อุปโภคสินค้าของเขาเพียงหนึ่งเดียวหันมองแล้วยิ้มกว้าง พอใจสูงสุด ไม่คิดว่าวันคล้ายวันเกิดของเขาจะถูกต้อนรับเป็นอย่างดีแบบนี้ แม้จะรู้ว่านี่คือการแสร้งอวยพร ในแวดวงมาเฟีย หาใครจริงใจได้ไม่ เขาก็ยังดีใจอยู่
" ให้ตายเถอะ ได้ของจากสมาชิกอัลฟาไปใช้แบบฟรีๆ คงไม่ต่างกับได้ของขวัญจากพระเจ้าสินะ "
" ท่านก็พูดเกินไป พระเจ้าที่ไหนกัน ก็แค่สาวกของพระเจ้า "
" และพระเจ้าก็คือเงิน? ฮ่าๆๆ เข้าใจคิดนะเวเดน "
เพื่อแรกกับคำยกยอแค่ไม่กี่คำ และซื้อขายกันต่อกับเขา ถือว่าเป็นของสัมนาคุณ หวังต่อยอดให้กับอนาคต สำหรับมาเฟียคิดการใหญ่อย่างเขาย่อมยอมได้
" ทั้งเครื่องดื่ม ทั้งผู้หญิง ทั้งคาสิโนเฉพาะคืนนี้ ฟรีทุกอย่าง ผมยกให้ท่าน "
" บ๊ะ! ฮ่าๆๆ เอากับเขาเซ่! "
ถึงสิ่งนี้จะไม่เต็มใจนัก ทว่า แลกมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ ไม่ใช่เท่าแต่นาย แต่ลามไปถึงลูกน้องของคู่ขายด้วย แค่นี้ก็คุ้มแล้ว เวเดโน่เหลือบตามองพลางยิ้มตามในจังหวะโน้มตัวไปหยิบแก้วบรั่นดีมาชน ใครจะรู้เท่าลูกน้องฝั่งเขา ว่าพฤติกรรมและรอยยิ้มร้ายของเจ้านายในตอนนี้นั้น มันเป็นบ่อเกิดของแผนการต่างๆ ที่อยู่ในหัวเขาคนเดียวต่างหาก แถมไม่มีใครไปรับรู้ด้วย
ในดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด ราวกับเป็นห้องแคบที่ค่อยกันกินลมหายใจ เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังปีนกำแพง ข้ามจากฝั่งมาอีกฝั่ง เสมือนหนีอะไรบางอย่าง หนึ่งในสองนั้นคือเขา ผู้ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ในความรู้สึก ช่างตื่นเต้น แสนระทึกใจ ผู้ชายที่ว่าโยนตัวเองลงมาก่อน แม้นบนกำแพงนั้นจะเต็มไปด้วยกับดักที่พร้อมจะทำลายร่างตลอดเวลา ทว่าเขาหามีความเกรงกลัวไม่ ในขณะที่มีเส้นทางรอดกว่านี้ หลังเท้าเหยียบสู่พื้น ถ้าไม่หันกลับมาช่วยใครอีกคน ซึ่งยังติดอยู่บนกำแพง ' ส่งมือมาไอ้หนู'มือหนาเต็มไปด้วยเลือดแห้ง เลือดสด บาดแผลฉกรรจ์นับสิบแผลยื่นขึ้นเหนือหัว เด็กผู้ชายในความทรงจำเขา มองลงมาด้วยสายตาซาบซึ้ง ก่อนจะเม้มปาก ราวกับเก็บอาการอ่อนแอของความรู้สึก ที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นก้อนน้ำตา' พี่จะช่วยผมหรือครับ ' เขาเอ่ยถามเสียงสั่น' เออใช่ มึงยัดมาให้กู จนกูต้องติดร่างแหไปด้วย คงไม่สมควรจะช่วยมึง 'ส่วนเขาเองก็กัดฟันตะเพิดกลับไปไม่แพ้กัน กระนั้นก็ยังยื่นมือค้างเอาไว้' แต่กูทำไม่ได้หรอกโว้ย ส่งมือมา! เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดหรอก '' พี่เป็นใครกันแน่ ''ไว้ให้พ่อมึงมาตอบล่ะกัน 'หมับเขาพูดติดตลกในคำทิ้งท้าย ก่อนใช้จังหวะ
โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? ""อีกสิบนาทีครับนาย""พาเธอไปบ้านใหญ่""ได้ครับ"ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพังร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง" นายรักผู
ประเทศไทยหลังไศลาเหยียบลงพื้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอคือรอยยิ้ม หญิงสาวลืมเรื่องราวทั้งหมด ราวกับไม่เคยอยู่ในความทรงจำมาก่อน เมื่อลงจากเครื่อง ร่างบางจึงเร่งเดินทางกลับบ้าน โดยการนั่งรถแท็กซี่ เพราะโทรหาน้องชายกับแม่ไม่ติด วันนี้แหละ เธอจะเค้นถามให้หมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่แล้ว...เมื่อถึง แล้วลงจากแท็กซี่ จูงกระเป๋าลากจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า..“ เห้ย..ไปไหนกันหมดอ่ะ “เธอพึมพำ แต่นั่นก็ไม่วายสาวเท้าต่อ เดินเร็วกว่าเก่า เร่งไปให้ถึง เพื่อจะเขย่าแม่กุญแจที่คล้องอยู่กับประตูรั้ว จากนั้นจึงทำการวางกระเป๋าลากไว้ ล้วงหาโทรศัพท์ลองโทรหาแม่สลับกับน้องชายอีกรอบ ทว่า...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้“ อะไรกันเนี่ย “ดึงลงมาบ่น ก่อนจะเอาไปแนบหูใหม่ ทว่า ก็ยังเหมือนเดิมหมายแรกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้............หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ................พอ!“ โอ้ย! “ไศลากระทืบเท้าระบายอารมร์หงุดหงิด ก่อนจะยืนเท้าสะเอว หันหน้าไปทางบ้าน คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความงงเป็นอย่างดี“ เอาวะ! ” พลางพ่นลมหายใจ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะ...ปีน!“
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม