ใกล้ฟ้าเหลือง หลังทั้งคู่ยอมลุกอาบน้ำและมานอนต่อ ไศลาหลับสนิทตั้งแต่นั้น ซึ่งการนิทราของเธออาจจะลากเวลาจนถึงเช้าก็ได้ ถ้าไม่ถูกคนข้างกันทำให้ตื่น เวเดนนึกคึกกะทันหัน ถือโอกาสตอนน้องชายผงาดขึ้นเหมือนปกติ หากนอนคนเดียวเขาแค่ลุกขึ้นไปฉี่ และกลับมาหลับต่ออีกครั้งเป็นเรื่องปกติ ทว่าไม่ใช่วันนี้ เมื่อเขาใช้มันมาระบายอารมณ์
... อารมณ์กระสันซึ่งลุกโชนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
" อื้ออออ อะไรเนี่ย"
กว่าหญิงสาวจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว เมื่อน้องชายที่หดขึ้นหดลงไม่รู้เวล่ำเวลาเข้ามาสอดใส่
" ชู่ววว นิ่งๆก่อน "
" ไอ้บ้านี่! "
" ไม่เอาน่า ใจเย็นๆ "
ไม่มีโอกาสแม้แต่จะผลักไส ถึงแม้พยายามดิ้นขลุกขลักหวังหลุดพ้นให้ตายยังไง ทว่า ด้วยเรี่ยวแรงที่ต่างกันรังแต่จะทำให้เหนื่อยเปล่า
และเขาก็มีความสามารถพอที่จะปลุกเร้าอารมณ์เธอได้ โดยใช้น้ำเสียงแหบแห้งปนกระเส่า พร้อมท่อนล่างขยี้อยู่อย่างนั้น กระทั่งเธอคล้อยตาม ฝ่ามือที่ผลักไส กลายเป็นวงแขนมาโอบกอดและลูบไล้หลังเขาแทนเสียงั้น
ในขณะสมองไศลาขาวโพลนก็อดคิดไม่ได้ สมแล้วที่เขาเป็นมาเฟียคุมคนเป็นร้อยเป็นพัน ต่อหน้าลูกน้องอาจจะขรึม น่าเกรงขามจนใครต่อใครดูไม่ออก ทว่า..ต่อหน้าเธอ ไอ้หมอนี่มันร้ายนัก!
" ซี้ดดด "
หญิงสาวแหงนหน้าซู้ดปากอย่างลืมอาย ยามที่โหนกตอกโหนกซะจนมิดด้าม
" อย่างนั้นล่ะสาวน้อย ให้ตายเถอะ เสียวเป็นบ้า! "
ในขณะชายหนุ่มพอใจ พึมพำเสียงสั่นชมเชยเธอ ทว่า...
" เงียบไปเลยนะ! "
" ฮ่าๆๆ ก็ได้...ก็ได้..."
ไศลา มีความกระสันหนักขนาดนี้ ยังจะมีอารมณ์มาเอ็ดกันอีก ชายหนุ่มยิ้มกว้าง กลั้วขำ หวังให้เธอนั้นอาย เขาเข้าใจ อาจจะมีบ้าง กลัวจะเสียฟอร์ม เพราะเธอน่ะชอบเอาชนะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ปากจะไม่ตรงกับใจใส่จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา และหากการยอมแพ้ หลับหูหลับตา ทำให้ชายหนุ่มนั้นได้เปรียบ มีหรือเขาจะมาคอยถือสา ต่อให้เธอด่าเขาเสียคอขึ้นเอ็น ทว่า เขาได้เธอมาเป็นของเขาแบบนี้..มันก็คุ้มล่ะน่า
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
เช้านี้เลยกลายเป็นเขาที่เป็นฝ่ายตื่นก่อน ส่วนเธอกว่าจะตื่น ก็พบว่าไม่มีเขาแล้ว นั่นเพราะเมื่อคืนหลังจากกลับมาดึกดื่นจนเลยเวลานอน ยังต้องใช้เวลาตรงนั้นไปอาบน้ำ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปใกล้เช้า แถมเขามากวนใจเธออีก เช้านี้ไศลาจึงไม่สดชื่นสักเท่าไหร่ เธอสลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่งตัวตรง หัวยุ่งเหยิงราวกับผมไปถูกสเปรย์จับแข็ง เรียกสติโดยการสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะไต่ลงจากเตียงเข้าห้องน้ำไป
ผ่านไปจวนชั่วโมง กว่าเธอจะเสร็จธุระส่วนตัว ร่างสูงปราดเปรียวในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ เนื่องจากมาอยู่ได้ไม่กี่วัน เดินเชื่องช้าลงมาจากขั้นบันไดทีละขั้น ท่ามกลางการถูกมองของคนตรงหน้า ซึ่งยืนอยู่ก่อนแล้วราวกับรอให้เธอเดินไปถึง
" เดซี่ มีอะไรเหรอ? " หญิงสาวเอียงคอถาม
" เดซี่ทำกับข้าวเสร็จแล้วค่ะ ไม่ทราบว่านายหญิงจะทานเลยไหมคะ "
" ฉันเหรอ?? หมายว่า..ฉันคนเดียว? "
" ใช่ค่ะ นายท่านสั่งเดซี่ไว้ตั้งแต่เช้า บอกให้รอนายหญิงตื่น "
" เหรอ? แล้วเขาล่ะ "
ไศลาเลิกคิ้วสูง ก่อนจะขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆคำถามนี้เปลี่ยนสีหน้าของสาวใช้
" เอ่อ.."
" มีอะไรรึเปล่า? "
" นายท่าน มีแขกค่ะ "
" ตั้งแต่เช้าเลยเหรอ? "
" ใช่ค่ะ ท่านฝากบอกนายหญิงไม่ต้องรอท่าน"
" อ้อ งั้นเหรอ ได้สิ ^^"
ไศลาพยักหน้า ยิ้มตาหยี ก่อนจะหมุนตัวเดินนำมาก่อน ทั้งที่ไม่รู้ว่าห้องรับแขกอยู่ไหน แต่ก็ดีกว่าไม่มีเวลาให้ครุ่นคิด หรือคอยจับผิดสาวใช้ ด้วยท่าทีที่ว่าแค่แขกมาหานาย ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย
" ฉันหวังว่า แขกที่เธอว่า จะไม่เกี่ยวกับฉันนะ "
" ฮึก.."
โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างกว่าห้องน้ำบ้านเธอเกือบสองเท่า บรรยากาศเลยจัดไปในทางวังเวงชอบกล เมื่อมองไปยังกับข้าวตรงหน้าที่ถูกยกมาวางสำหรับเธอแค่คนเดียว หญิงสาวกรอกตามองบน เป็นบุคลิกที่ชอบทำ ในยามรู้สึกหน่าย แต่พูดอะไรไม่ได้ จึงจำใจต้องก้มหน้าก้มตากิน แม้ข้างในลึกๆจะเขินอายและเกรงใจสถานที่อยู่ก็ตาม
ใช่ ความหิวมันไม่เคยเข้าได้กับอะไรเลยสักอย่าง!
แต่แล้ว ..
ยังไม่ทันได้กินหมด แทบจะลิ้มรสความอร่อยของอาหารพื้นเมืองยุโรปไม่ครบเลยด้วยซ้ำ ช้อนยาวในมือขวากลับต้องชะงักด้วยเสียงนี้ กับคู่กรณีที่เหมือนจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน เธอจึงวางช้อนลงราวกับรู้อนาคตล่วงหน้า
ปัง!
และจริงด้วย อาหารบนโต๊ะพากันกระเพื่อม
" เธอเองเหรอ ยัยหน้าจืด จมูกแหมบ "
" นะ นายหญิง พวกเราห้ามแล้วนะคะ แต่ว่า.."
" ไม่เป็นไร พวกเธอออกไปเถอะ เดี๋ยวฉันก็จะออกไปเหมือนกัน กับข้าวมื้อนี้ฉันคงไม่มีบุญจะได้กินมันสินะ "
ไศลาพยักหน้าห้าม สีหน้าเรียบเฉย ต่างกับในใจที่ร้อนลุ่มราวกับมีใครเอาไฟมาสุม เธอเกลียดที่สุด ยามหิวแล้วมีใครมาขัดขวาง พลางดึงผ้าหน้าตักมาเช็ดมือ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างไม่สมอารมณ์ แต่เลือกที่จะหันไปเผชิญหน้า แล้วลุกขึ้นยืน
" อะไรนะ นายหญิงงั้นเหรอ? "
เตรียมจะเดินหนี ทว่า ..
" หยุดก่อน! "
เธอจำเป็นต้องหยุดตามคำสั่ง และบอกตัวเองให้มีสติ ใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้
" มีอะไรรึเปล่าคะ ถึงลงทุนเสียมารยาท มารบกวนเวลาทานข้าวของฉัน"
" แล้วยังไง? ไม่ได้เหรอ? "
แต่ดูเหมือนคนมาใหม่ จงใจจะยียวนกวนประสาทเธอเหลือเกิน
" สำหรับฉันเรื่องกินมันเรื่องใหญ่นะคะ "
ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองหน้า เมื่อหล่อนเดินอ้อมมายืนตรงข้าม ไม่จำเป็นต้องเดา ก็พอจะรู้ หล่อนคงเป็นหนึ่งในผู้หญิงอีกคนของโครทิส รสนิยมการแต่งตัวที่ดูดีหมดจด หน้าตาสะสวย ผิวพรรณขาวเนียนสะอาดไม่มีรอยตำหนิ แม้แต่ขี้แมงวันสักเม็ดก็ไม่มี ลำคอระหงได้ที่ และ... ทรวดทรงองเอวที่ใครเห็นไม่มีหรอกจะไม่เหลียวหลังมอง เธอดูต่ำต้อยไปเลยโดยปริยาย
" หล่อนมากกว่ามั้งที่เสียมารยาท มองฉันหัวจรดเท้าอย่างนี้ ในหัวคงเต็มไปด้วยความอิจฉาใช่ไหม"
ไศลาอ้าปากค้าง กระพริบตาถี่ เริ่มมึนงงกับคนตรงหน้าจริงจัง
..... นี่หล่อน จงใจจะมาหาเรื่องเธอเลยเรอะ เอาไงดีล่ะไศลา คิดสิ คิดเร็วๆ แพ้หล่อนนี่ชะตาขาดเลยนะ .....
" เฮอะ! คนที่คุณมาหา คงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีสินะ คุณเลยไปไม่ถึงรถ "
หญิงสาวเลิกคิ้วสูง ทำคนฟังเหยียดยิ้มร้ายเหมือนในละคร
" ใช่.. ฉันตั้งใจเดินมาหาเธอโดยเฉพาะเลยล่ะ "
" ถึงว่า... ถ้าให้ฉันเดา คุณคงเห็นข่าวเมื่อคืนลงในนิตยสาร หรือสื่ออะไรสักอย่างที่มันโด่งดัง และคุณก็นอนไม่หลับ เช้ามาเลยมาหาเขาที่นี่ "
" เอ๋..."
" ช่ายยย... ฉันเองก็เห็นข่าวนั้น"
" หมายความว่าไง? "
ไศลาแสร้งยิ้มตาหยี และใช้โอกาสตอนหล่อนเริ่มขมวดคิ้วงง เสมือนกำลังคิดตามเรื่องที่เธอกุขึ้น ให้พูดยาวเหยียดและแสดงเต็มที่ ท่ามกลางการแอบมองของเหล่าสาวใช้ราวกับกำลังเชียร์ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งเหมือนจะเป็นเธอที่มีคะแนนนำ และด้วยความสูงที่ต่างกัน ทำให้เธอต้องยืดคอเวลาคุย กับมือคู่ที่เท้าสะเอว ช่างดูมีสง่าขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
" งั้นฉันต้องขอบคุณคุณด้วย ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเจ้าหญิงเมื่อเทียบกันกับคุณ ถึงได้มโนส่งเดชเหมาให้ฉันคือผู้หญิงคนนั้น คนที่สวมหน้ากากสีครีมราคาสูงลิ่ว เดินควงแขนกับมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่ใครต่อใครต่างก็รู้จัก แต่ขอโทษ.. ฉันไม่ใช่! "
" เอ๋.."
" ฉันเป็นแค่เลขาของเขา ขอตัวค่ะ"
พลั่ก!
" เฮ้! เดี๋ยวสิ "
หมดประโยคก็เท่ากับปิดกล้องชั่วคราว ไศลาเดินชนไหล่สาวสวยคนนั้นไปอย่างไม่แยแส และก้าวเร็วๆ ด้วยท่าทางที่ใครเห็นเป็นต้องสะใจ ทว่า..ต่างกันกับเธอ เหตุใดจึงรู้สึกว่า สงครามกำลังจะเริ่มขึ้น จะไม่มีทางจบ ตราบใดที่เขาคนนั้นคนที่ก่อเรื่องไม่เป็นคนมายุติมัน
เพราะวันนี้เธออาจจะเอาตัวรอดได้ แต่ตัวละครตัวนี้ คงจะต้องติดตัวเธอไปตลอด นั่นก็เพราะ สิ่งที่เธอทำมันจะคอยปกป้องเธอได้ดีที่สุด แม้จะชั่วคราว แต่ก็ดีกว่าต้องเจ็บตัวหรือสร้างศัตรูเพิ่มทั้งที่เธอไม่รู้จัก
ใช่...ตอนนี้ หญิงสาวรู้ซึ้งถึงความโดดเดี่ยว ที่อยู่ๆมาทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ
" ฟู่ววว! นึกว่าจะโดนตบซะแล้วอีไศเอ้ย "
และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอกุมคอเสื้อตัวเองขึ้นบันไดมา พร้อมความนิ่งสงบ ประสิทธิภาพที่มี ขนาดเจอสาวใช้อย่างเดซี่ ก็ยังเดินผ่านไปได้ ไม่มีน้ำตาออกมาให้เห็นสักหยดเดียว เว้นแต่สีแดงก่ำที่ล้อมไปด้วยความแข็งแกร่งภายในนั้น
" นายหญิงคะ ทำไมถึงไม่บอก..."
" ฉันน่ะ..ทำเรื่องงี่เง่ามามากพอแล้วเดซี่ การที่ฉันไม่เอาตัวเองเข้าไปขวางใคร หวังแค่เอาชนะเพื่อตำแหน่งโง่ๆนั่น มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ล่ะ เพราะเจ้านายของเธอไม่ได้อยู่คอยปกป้องฉันได้ตลอด ฉะนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ที่ฉันไม่ควรจะรับรู้ ได้โปรด..ช่วยบอกให้ได้รู้ด้วย ฉันจะได้ไม่ลงมา เอาตัวเองเข้าไป"
" นะ นายหญิง..."
" อ้อ แล้วของๆฉัน ไม่ต้องขยับเขยื้อนมันนะ มันวางอยู่ตรงไหน ก็ให้วางอยู่ตรงนั้น อย่าได้แตะต้องมันเด็ดขาด ถ้ามันย้ายที่ ฉันจะถือว่าเธอเป็นคนขโมย "
" ฮึก.."
ร่างสูงยืนหันหลังให้กับประตูห้อง ด้านหน้าคือกระจกบานใหญ่ติดฟิล์มหนา มีไว้สำหรับดูวิวยามตึงเครียด ที่นี่คือห้องทำงานส่วนตัวของเขา และจุดนั้นเป็นที่ที่เขาชอบยืน ปกติจะยืนเฉยๆ ใช้สายตาสีอำพันตัดผ่านกระจกทอดมองไปยังวิวข้างล่าง บ้างก็มีแก้วบรั่นดีถือในมือ บ้างก็คีบมวนบุหรี่ดูด ต่างจากวันนี้ที่ถือโทรศัพท์แนบหู แถมเป็นเรื่องสำคัญที่ทำเขาหัวเสียตั้งแต่เช้า หลังจากมีแขกไม่ได้เชื้อเชิญเดินเข้ามา ซึ่งทำให้เขาต้องไล่ตะเพิด เพราะให้เหตุผลไม่พร้อมจะคุย แต่เจ้าหล่อนกลับไม่เชื่อฟัง พาลทำให้หงุดหงิด ฉุนเฉียวลากยาวมาถึงตอนนี้
อิเล็กตร้า นางแบบ และนักแสดงดาวรุ่ง ที่โด่งดังฉะรูดในวงการบันเทิง แต่ถึงจะมีทั้งความสวย มีทั้งสเน่ห์ เงินในกระเป๋า อีกทั้งแฟนคลับที่หลงใหลหล่อนครึ่งค่อนเมือง ก็ยังไม่พอใจ ยังจะผลักดันตัวเอง ไต่เต้าออกงานไม่เว้นแต่ละวัน หวังให้เจอผู้มีอิทธิพลสักคนในเมืองนี้ และท้ายที่สุดก็มาเจอกับเขา โครทิส เวเดโน่ หล่อนจึงคิดไต่เต้าต่อ หวังสูงมากกว่านั้น จากนางแบบที่เสนอตัวให้เขายามที่เขาเรียกหาหรือต้องการนานๆที กลายเป็นคู่ขาประจำตัวที่รู้ใจ คราใดที่มาเฟียหนุ่มเครียด หัวร้อนมาจากที่อื่น ก็มักจะมีแต่หล่อนที่คุยแล้วดีขึ้นที่สุด และจบตรงที่เตียงทุกครั้ง
เว้นแต่ครั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อคืนเสมือนมาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป อเล็กตร้าจึงคลั่งวิ่งแจ้นมาถึงที่นี่ และมีปากเสียงกับเขา
" ฟู่ววว กูรู้แล้ว เอาเป็นว่าตามนั้น "
ทว่า ชายหนุ่มยังไม่รู้ ว่าการไล่ตะเพิดของตัวเอง มันทำให้หล่อนพาลไปถึงไศลา ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย
(แล้วไศลาล่ะ จะพามาด้วยไหม)
" เกี่ยวอะไรกับเธอวะ "
(เปล่า เอมี่ถามถึงน่ะ ถ้าพามาได้ก็ดี เมียกูจะได้มีเพื่อนคุย)
" อืม ถ้าเธอไปนะ "
(โอเค ไว้เจอกัน)
และนั่นทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ หลังจากวางสายจากเรกาโดไปแล้ว
" ไศลา..ชิท! "
รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งกระโจนออกมาจากห้อง และไม่วายหยิบเสื้อที่ถอดไว้ไปด้วย ทว่าเมื่อมาถึง
เก็กๆ
" เดซี่ "
" คะ นายท่าน "
ลำบากสาวใช้ที่ยืนก้มหน้าสลดอยู่ระแวกนั้น ต้องตาลีตาเหลือกวิ่งมาหา
" ประตู...นายหญิงเธอล็อคทำไม? "
เขาชี้สลับกับถาม ในขณะเธอเตรียมส่ายหน้าปฏิเสธ
" เดซี่ก็ไม่ทราบ..."
แต่แล้ว...
" แน่ใจนะ " ต้องแพ้สายตาเขาทุกร่ำไป
" เธอมีปากเสียงกับคุณอเล็กตร้าค่ะ "
" ว่าแล้วเชียว.."
" เอ่อ..แต่เปล่าทะเลาะถึงขั้นทำร้ายกันนะคะ"
" ที่ไหน!! เมื่อไหร่!! "
" ในห้องทานข้าว เมื่อตอนเที่ยงค่ะ "
" แล้วทำไมไม่มาบอก! "
" เอ่อ..."
"ไปเอากุญมา! "
" ค่ะๆ "
และหล่อนต้องรนรานออกไปอีกระลอก เพื่อไปหาสิ่งที่เขาต้องการ และกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนนายของหล่อนจะโมโหไปมากกว่านี้
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
ส่วนในห้อง บริเวณที่กว้าง แต่กลับแคบสำหรับใครบางคน ไศลากำลังนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์อยู่ เธอไม่ได้อ่อนแอ หรือทุกข์ร้อนอย่างที่คนหลังประตูเข้าใจ ตรงกันข้าม กลับใจเย็นไร้ความคิดมากเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะทำให้คิด คงเป็นเสียงนี้มากกว่า
เกร็ก!
ผ่าง!!
" เฮ้ย คุณ! "
เพราะเธออุตส่าห์ล็อคประตูเอาไว้ กะจะให้เวลาส่วนตัวกับตัวเอง คนตรงหน้าก็ยังจะหาทางเข้ามาได้อีก
" มะ มีอะไรคะ? "
" เธอโอเคใช่ไหม? "
" อะ โอเค เรื่องอะไร? " แถมมาทำเธองง ด้วยหน้าที่เหวอสูงสุด
แต่แล้ว...
" เปล่า..."
กลับเปลี่ยนหน้ากลางคัน ไศลาจึงได้ทีแหย่
" หรือว่า..เป็นห่วงนายหญิงคนนั้น จะถูกฉัน..ตบ "
" ว่ายังไงนะ ตบ? "
ทว่า ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ เลยเถิดทำให้เขาอารมณ์เสียและมาทะเลาะกับเธออีกคน ไศลาไม่รู้เขาเกลียดที่สุด คือเรื่องนี้ การทะเลาะกันของผู้หญิง ที่มันช่างไร้สาระสำหรับเขา
" เอ๋...ทำไมต้องทำหน้าโกรธขนาดนั้นด้วยคะ "
" ไศลา! "
" ....!!! "
ในขณะที่เธอยังคงติดตลก ทว่าเขากลับทำให้ตกใจ หญิงสาวจึงเปลี่ยนสีหน้าทันที พลางเอียงคอถาม
" ฉันล้อเล่นค่า "
แสร้งทำเป็นกลั้วขำ ทั้งที่ในใจขุ่นมัว เวเดโน่ไม่ตอบโต้ แต่เลือกที่จะเดินไปที่ระเบียง เพื่อไปดูดบุหรี่ ส่วนเธอนั่งคดคู้อยู่ปลายเตียง ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องให้คิดล้นหัว ทว่า เหมือนคนละเรื่อง ก่อนไศลาจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
" คุณน่ะ มีแฟนอยู่แล้ว แต่ไม่คิดจะยับยั้ง ช่างใจ ไหนบอกจะพาฉันมาทำงานไงคะ ตำแหน่งใหม่ ข้อหาทำของตกแตกไม่ใช่เหรอ? "
แต่ก็เหมือนบ่นอยู่คนเดียว เมื่อเวเดนยืนเงียบ ไม่คิดจะตอบโต้ ซ้ำยังเบือนหน้าไปทางอื่นกระหน่ำอัดบุหรี่พ่นควันโขมง
จนกระทั่ง..
" ฟู่ว! อเล็กตร้าเป็นแค่คู่นอน "
ต้องรอให้บุหรี่หมดแล้วจุดใหม่กระมัง ปากถึงจะว่างพูด ไศลาหรี่ตามองอย่างเชื่องช้า มองเขาพร้อมคำที่ได้ยิน สะท้อนตัวเอง
" คู่นอนงั้นหรือ? "
ตั้งใจพึมพำเสียงแผ่ว แต่กลับลอยไปถึงหูเขา จึงถูกตะเพิดกลับมา
" ไม่เกี่ยวกับเธอหรอกน่า! "
" ไม่เกี่ยวได้ไง ก็ฉันนอนกับคุณด้วย! "
และเธอก็เหมือนโดนจี้จุด ลุกขึ้นพรวดพร้อมเถียง กล้ายืนประจันหน้ากับเขาได้ นั่นหมายความว่าต้องคิดดีแล้ว
" มันไม่เหมือนกันโอเค๊? "
เขาเริ่มเสียงอ่อน เมื่อเถียงเธอไม่ออก
" ไม่เหมือนกันยังไง ในเมื่อคู่นอนมันมีฐานะแบบ..ไม่ใช่แฟน "
" สำหรับฉัน คู่นอนก็คือคู่นอน เมียก็คือเมีย เธอจะมายียวนกวนประสาทให้ได้อะไรขึ้นมา จะมารู้ดีกว่าฉันยังไง ใครจะเป็นหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับฉัน "
" แล้วฉันล่ะ? " ไศลาเลิกคิ้ว เน้นเสียงถาม ชี้นิ้วทิ่มอกตัวเอง " ฉันเสียพรหมจรรย์ โดนคุณเอาถึงสองครั้ง พอจะเรียกร้องอะไรได้บ้างไหม..มันก็ขึ้นอยู่กับฉันเหมือนกันล่ะน่า! "
"......"
จบประโยคนี้ เวเดโน่ไม่เถียงต่อ แต่เลือกที่จะทิ้งบุหรี่แทน ทั้งที่ยังไม่หมดมวน เตรียมตัวไว้ เพื่อจะได้ถลาเข้าไปจูบปากเธอได้สะดวก หวังดูดดื่มคำถามนี้...
" บอกมา พี่ชายฉันตายยังไง กระดูกเขาอยู่ที่ไหน ฉันจะได้ไปให้พ้นพะ...อะ อื้มมมม"
ในดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด ราวกับเป็นห้องแคบที่ค่อยกันกินลมหายใจ เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังปีนกำแพง ข้ามจากฝั่งมาอีกฝั่ง เสมือนหนีอะไรบางอย่าง หนึ่งในสองนั้นคือเขา ผู้ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ในความรู้สึก ช่างตื่นเต้น แสนระทึกใจ ผู้ชายที่ว่าโยนตัวเองลงมาก่อน แม้นบนกำแพงนั้นจะเต็มไปด้วยกับดักที่พร้อมจะทำลายร่างตลอดเวลา ทว่าเขาหามีความเกรงกลัวไม่ ในขณะที่มีเส้นทางรอดกว่านี้ หลังเท้าเหยียบสู่พื้น ถ้าไม่หันกลับมาช่วยใครอีกคน ซึ่งยังติดอยู่บนกำแพง ' ส่งมือมาไอ้หนู'มือหนาเต็มไปด้วยเลือดแห้ง เลือดสด บาดแผลฉกรรจ์นับสิบแผลยื่นขึ้นเหนือหัว เด็กผู้ชายในความทรงจำเขา มองลงมาด้วยสายตาซาบซึ้ง ก่อนจะเม้มปาก ราวกับเก็บอาการอ่อนแอของความรู้สึก ที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นก้อนน้ำตา' พี่จะช่วยผมหรือครับ ' เขาเอ่ยถามเสียงสั่น' เออใช่ มึงยัดมาให้กู จนกูต้องติดร่างแหไปด้วย คงไม่สมควรจะช่วยมึง 'ส่วนเขาเองก็กัดฟันตะเพิดกลับไปไม่แพ้กัน กระนั้นก็ยังยื่นมือค้างเอาไว้' แต่กูทำไม่ได้หรอกโว้ย ส่งมือมา! เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดหรอก '' พี่เป็นใครกันแน่ ''ไว้ให้พ่อมึงมาตอบล่ะกัน 'หมับเขาพูดติดตลกในคำทิ้งท้าย ก่อนใช้จังหวะ
โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? ""อีกสิบนาทีครับนาย""พาเธอไปบ้านใหญ่""ได้ครับ"ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพังร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง" นายรักผู
ประเทศไทยหลังไศลาเหยียบลงพื้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอคือรอยยิ้ม หญิงสาวลืมเรื่องราวทั้งหมด ราวกับไม่เคยอยู่ในความทรงจำมาก่อน เมื่อลงจากเครื่อง ร่างบางจึงเร่งเดินทางกลับบ้าน โดยการนั่งรถแท็กซี่ เพราะโทรหาน้องชายกับแม่ไม่ติด วันนี้แหละ เธอจะเค้นถามให้หมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่แล้ว...เมื่อถึง แล้วลงจากแท็กซี่ จูงกระเป๋าลากจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า..“ เห้ย..ไปไหนกันหมดอ่ะ “เธอพึมพำ แต่นั่นก็ไม่วายสาวเท้าต่อ เดินเร็วกว่าเก่า เร่งไปให้ถึง เพื่อจะเขย่าแม่กุญแจที่คล้องอยู่กับประตูรั้ว จากนั้นจึงทำการวางกระเป๋าลากไว้ ล้วงหาโทรศัพท์ลองโทรหาแม่สลับกับน้องชายอีกรอบ ทว่า...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้“ อะไรกันเนี่ย “ดึงลงมาบ่น ก่อนจะเอาไปแนบหูใหม่ ทว่า ก็ยังเหมือนเดิมหมายแรกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้............หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ................พอ!“ โอ้ย! “ไศลากระทืบเท้าระบายอารมร์หงุดหงิด ก่อนจะยืนเท้าสะเอว หันหน้าไปทางบ้าน คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความงงเป็นอย่างดี“ เอาวะ! ” พลางพ่นลมหายใจ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะ...ปีน!“
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม