ดวงตาสาวเจ้าเบิกโพลง หลังถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากบางเฉียบจิ้มลิ้ม ทว่าจัดจ้านในความคิดของเขา ถูกกลืนกินพร้อมหยุดเสียงพูดที่ไม่ทันได้จบ หายไปในพริบตา เธอดิ้นขลุกขลัก รัวกำปั้นทุบอกแกร่งเรียกร้องหาอิสระภาพ ทั้งที่ลิ้นถูกดูดดึงสลับบดขยี้ไม่มีพื้นที่ว่างหลงเหลือ ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสียเอง เมื่อแรงที่มีไม่สามารถต้านทานเขาได้ เสมือนยิ่งต้านยิ่งยุ ยิ่งห้ามยิ่งทำ รังแต่จะทำให้หมดแรง
" อะ อืมมมม "
บวกกับรสจูบรุนแรงในตอนต้น แต่อ่อนโยนในตอนท้าย สร้างความกระสัน บีบอารมณ์เธอให้รู้สึกรัญจวนใจ วงแขนเรียวกับกำปั้นที่ใช้เป็นอาวุธ จึงแปรเปลี่ยนเป็นการโอบกอดโดยไม่รู้ตัว ฝ่ามือเล็กลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนและเต็มไปด้วยรอยเข็มวาดละเลงเป็นศิลปะของเขา ก่อนยกขึ้นโอบรอบคอแข็งกดให้โน้มลงมา บ่งบอกถึงการช่วยเหลือกันคนละครึ่งทางยามเธอเขย่งเท้า เพื่อที่จะได้จูบตอบอย่างสะดวกยิ่งขึ้น
"อา..ไศลา... ยกเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ฉัน..." ผลของมันเลยปลุกเร้าอารมณ์ในตัวชายหนุ่มให้ลุกโชนไปด้วย " ต้องการเธอ.." เขาบอกเสียงกระเส่า
" งั้นหรือคะ..."
ทว่าเธอกลับยิ้มร้าย ราวกับมันคือเป็นเรื่องตลก และถึงทีของเธอบ้าง มือน้อยจึงเลื่อนทาบบนหน้าท้องแกร่ง เต็มไปด้วยมวลสารกล้ามเนื้อ บอกให้รู้ถึงการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ก่อนจะร่อนถอยหนีแล้วส่ายหน้า
" ไม่ค่ะ.."
" ทำไม? " ส่วนเขาเลิกคิ้วสีหน้าฉงน
" เพราะฉันเป็นคนเจ็บแล้วโคตรจำ"
" ฉันน่ะหรือ? ที่ทำเธอเจ็บ "
และรู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาเล็กด้วย หากเธอจะชิ่งจนเขาไม่ได้ปลดปล่อย
" ใช่ คุณนั่นล่ะ "
" ฉันทำอะไร หรือเธอหมายถึงครั้งแรกของเธอ ถ้าเป็นเรื่องนั้น ไศลา มันผ่านไปแล้ว เราผ่านกันมาได้ "
" ไม่ใช่ค่ะ! "
" หืม..."
จนกระทั่งอารมณ์สะดุด เมื่อคนตรงหน้ายิ่งถอยหนี และทำหน้าไม่พอใจจริงจัง
" ฉันหมายถึง คุณค่าของฉันต่างหาก ครั้งแรกของฉัน จริงๆ แล้ว ควรจะเสียไปกับคนที่ฉันรัก "
ก่อนจะพูดประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉาน ซึ่งแน่นอน เขาเองก็เข้าใจ
" ตอนนั้นฉัน.." พยายามจะอธิบาย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเธอ
" คุณเมา?! ใช่ คุณเมาฉันรู้ และฉันก็ปล่อยตัวซะง่ายๆ นั่นเพราะถึงฉันจะดิ้น ยังไงก็ไม่รอด คุณคงไม่ปล่อยฉันหรอก แต่มันจะกลายเป็นการข่มขืน ที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น ซึ่งมันไม่ดีเอามากๆ เลย ต่อ...ฉัน. หากจะอยู่ที่นี่ต่อ กับคุณ คนที่ทำฉัน แน่นอนคุณโครทิส ไม่ว่าจะเต็มใจหรือถูกขืนใจรึไม่ ฉันก็เกลียดตัวเองไม่ต่าง ที่ฉันทำตัวแบบนั้น แต่..! ต้องไม่มีครั้งที่สอง"
" ไศลา..."
" ฉะนั้นคุณควรจะบอกเรื่องพี่ชายของฉันมาได้แล้ว เพื่อที่ฉันจะได้ไป ไม่ต้องมารู้สึกแย่อยู่แบบนี้! กับคุณ"
เธอเน้นย้ำน้ำตาคลอเบ้า ต่างกับเวเดนที่ทำหน้าลำบากใจ ก่อนจะแย่งถาม
" ไศลา ทั้งหมดนี้ ที่มาทำงานที่นี่ และยอมมากับฉันง่ายๆ รวมถึงการปล่อยให้ฉันมีอะไรกับเธอ แค่เรื่องโทมัสน่ะหรือ "
" ..ค่ะ"
" พระเจ้า.." แล้วต้องยืนอึ้ง เมื่อได้คำตอบ
" ฮึ ตลกใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้น ได้โปรด! อย่ายืดยื้อ บอกฉันมา "
" ฉันเปล่ายืดยื้อ แต่ว่า.."
งั้น..ถ้าเขาบอกความจริง เธอจะเป็นยังไง เพราะแม้แต่กระดูก ก็ไม่มีให้เห็น ..
ใช่ บอดี้การ์ดคนนั้น ตายกับระเบิด!
ระเบิด...ทำร่างเขาแหลกเป็นจุล
เขาเอาแต่มองหน้า ปากอ้าสลับหุบ ราวกับพยายามจะบอก แต่ไม่รู้เริ่มต้นยังไง จนกระทั่ง ไศลาต้องพูดยาวเหยียดอีกระลอก และแน่นอน ทำเขาถึงกับเข่าอ่อน ทิ้งตัวนั่งยวบลงปลายเตียง มือทั้งคู่กุมขมับ
" ที่บ้านฉันน่ะ เรื่องความเป็นความตายเขาถือนะคะ จะตายยังไงก็ช่าง ไม่มีใครสน เพราะฉันรู้ เขาเองก็ไม่ได้ทำอาชีพที่ดีนักหรอก แต่หากตายแล้ว ฉันขอส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ แค่ให้รู้ว่าเป็นเขา ไปทำพีธีกรรมทางศาสนา แค่นั้นน่ะจะได้ไหม คุณโครทิส ฉันรู้ว่าคุณรู้..."
ชายหนุ่มเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองเธอ ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ ทว่า ต้องใช้ความกล้าพอสมควรหากจะพูด
" ได้ไศลา แต่ขอให้เป็นหลังจากวันนั้น วันที่เราสองคนแต่งงานกันแล้วนะ"
" คะ?? "
ถึงมันจะทำให้คนฟังอย่างเธองงสูงสุด แต่หากเป็นไปได้ มันก็ดีสำหรับเขา
ใช่ ถ้าความจริงที่เขาต้องบอกนี้มันทำให้เธอเกลียด นั้นก็เท่ากับว่า สัญญาระหว่างเขากับพี่ชายเธอที่มีให้กัน มีค่าเป็นศูนย์
ดังนั้น ...อย่าเสี่ยงจะดีกว่า
" เดี๋ยว?! ทำไม แค่ตอบคำถามฉัน ทำไมต้องแลก? "
เธอขมวดคิ้ว ผ่ายมือถาม อย่างคนไม่เข้าใจ ในขณะเวเดโน่ ยามนี้กว่าจะพูดออกมาได้สักคำ ช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาจะต้องคิดให้ดี มีสติให้มาก เพราะผู้หญิงตรงหน้า ไม่ใช่เท่าแต่ไม่ธรรมดาเวลาโต้ตอบ ทว่า เธอคือน้องสาวของคนที่ทำให้เขารู้สึกแย่มาตลอด นั่นยิ่งทำให้ฉุกคิดทุกครั้งที่สมองว่าง ว่า...มาเฟียอย่างเขาทำเรื่องไม่ดีมาก็เยอะ แต่ทว่ายังไม่รู้สึกผิดมากมายเท่านี้มาก่อนเลย
อีกทั้งการเอื้อนเอ่ยวาจาของหญิงสาวในแต่ละที ช่างช่ำชองราวกับเป็นนักพูดอันดับหนึ่งของโลก ทั้งฉะฉาน ทั้งลื่นไหล และเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้คนกลัวความผิดอย่างเขาได้หาคำโกหก ไหนจะดวงตาคมโตที่จับจ้องพร้อมคำถามยิงมาทางเขาอีก เสมือนพยายามกดดันให้เขานั้นเผยตัวตน และต้องกดอาการนั้นมากกว่าเดิมเท่าทวีคูณ จากที่เคร่งขรึม หวังให้คนเห็น อาทิเช่นบริวารลูกน้องยำเกรงอย่างที่ผ่านมา บัดนี้เมื่อเจอกับเธอ คนที่ไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่เกิดขึ้น คล้ายสุภาษิตที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าอีก!
กลายเป็นว่าเวเดโน่ ต้องศึกษานิสัยใจคอของเธอใหม่ทั้งหมด เพราะเธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอย่างที่คิด กลับกัน แทบจะแกร่งกว่าบริวารของเขาที่เป็นชายทั้งแท่งเสียด้วยซ้ำ หากใครหน้าไหนกดดันให้เธอต้องกลัวมากๆ เธอจะสยบความกลัวนั้น โดยการท้าตัวเองให้เผชิญหน้าเข้าหาเลยทันที ราวกับว่าจะไม่ยอมตกเป็นทาสใครง่ายๆ และไม่แปลกหรอกที่วันนี้เขาต้องมานั่งฟัง และมีปากเสียงกันกับเธอ เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก่อนหน้านี้เขาจะไม่เดินเข้ามาเลย!
" เฮ้อ..."
" ฮึ แค่เรื่องพี่ชายของฉัน บุคคลต่ำต้อยซึ่งเคยทำงานแบบเดียวกันกับฉันในอาณาจักรของคุณ คุณเป็นคนจ่ายค่าจ้างพวกเรา แค่ตอบคำถามที่ฉันถาม ว่าพี่ฉันหายไปไหน ถ้าเกิดตาย แล้วตายยังไง ศพอยู่ที่ไหน มีเพียงคุณคนเดียวที่น่าจะรู้เบาะแสเขาดีที่สุด แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณดูคิดหนักกับการตอบคำถามที่ฉันอยากรู้ มากมายขนาดนั้นล่ะ คุณมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า "
" เธอคิดมากไปแล้ว "
" ไม่ค่ะ ไม่ได้คิดมาก แต่มันทุกครั้ง "
" ฉันแค่ไม่พร้อมจะคุยเรื่องนี้ เพราะมันยาวมาก "
" ก็ใช่ไงคะ คุณจะต้องใช้เวลาตรงนั้นคิดแผน และสร้างอารมณ์เพื่อมาเอากับฉัน.."
" ไศลา ไม่เอาน่า.."
" งั้นก็บอกมาสิคะ แค่เรื่องการตายของลูกน้องเพียงคนเดียว ทำไมต้องแลกกับอิสระภาพของตัวเอง ดูก็รู้ คุณไม่พร้อมจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนหรอก "
" ฉันกำลังจะรับผิดชอบเธอต่างหาก "
" ไม่จริงหรอกค่ะ คุณกำลังหนีบางอย่าง "
เธอส่ายหน้ารัว นั่นเลยทำให้เวเดนลุกขึ้น ยืนเต็มความสูง เพื่อจะเดินไปหา ทว่า เธอกลับร้องห้าม
" อย่าค่ะ อย่าเข้ามา ห่างกันแค่นั้นก็คุยได้"
" ไศลา .."
นั่นแทบทำให้เวเดนถอดใจ เพราะเหนื่อยสุดๆ กับการต้องมาเถียงกัน ส่วนเธอกัดฟันกรอด บอกในสิ่งที่ทำให้เขาอึ้ง
" ฟังฉันให้ดีนะคะคุณโครทิส เวเดโน่ ฉันยอมสูญเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้คุณไปแล้ว เพื่อแลกกับเรื่องราวของพี่ชาย เพราะคิดว่ามาเฟียอย่างคุณคงไม่บอกฉันง่ายๆ มีแต่จะพาตัวเข้าไปตายเอาเปล่าๆ ถ้าคุณไม่เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบก่อน หรือได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ฉะนั้นอย่าหวังว่า ฉันจะยอมสละโสด เอาโซ่มาล่ามคอ เพื่อที่จะขอคำตอบจากคุณต่อโดยการตกเป็นของๆ คุณไปตลอดชีวิต เพราะมันมากเกินไป! "
" ไศลา..."
"......"
" เพราะอะไร เธอถึงมองฉันแบบนั้น "
ก่อนเขาขมวดคิ้วถาม เสียงแผ่ว มองเธอสีหน้าที่ปวดใจสุดๆ
แต่แล้ว...
หมับ!
ใครจะรู้ว่าเขาจะใช้โอกาสนั้น ที่เธอตายใจ เพื่อไปฉวยแขนเธอ
" เธอบังคับฉันเองนะ"
กัดฟันพูดน่ากลัวยิ่งกว่า แล้วลากเธอไปที่เตียง
" คุณจะทำอะไรน่ะ นี่! ปล่อยนะ! "
" แล้วถ้าโซ่ล่ามคอที่เธอว่าเส้นนั้นมันไม่ใช่ของๆ ฉันล่ะไศลา เธอจะทำยังไง "
" คุณหมายความว่าไง? "
" ฉันชักจะอยากรู้ขึ้นมาแล้วสิ หน้าตาเด็กที่กำลังจะเกิดมาจากเธอกับฉัน เชื้อชาติไหน มันจะแรงกว่ากัน"
"....!!! "
" งดกินยาคุม อยู่กับฉันตลอดเวลา จนกว่าเธอจะท้อง"
" ห๊ะ! ไม่นะ คุณเวเดนคุณบ้าไปแล้วเหรอ! "
วินาทีนั้น ต่อให้เธอร้องลั่นคงไม่มีใครที่สามารถจะช่วยได้ เวเดโน่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ราวกับแปลงร่างเป็นซาตานทั้งที่หน้าตายังเป็นเทพบุตร เพียงแค่คำพูดของอีกฝ่ายกรอกไม่เข้าหู หรือกดดันให้เขานั้นจนตรอกหาทางเดินออกไม่ได้ ไศลาคงต้องทบทวนทั้งหมดอีกครั้ง ถึงนิสัยใจคอของเขา ที่มักจะทำให้เธอนั้นเจ็บตัว ทว่ากว่าจะคิดออก และยับยั้งได้นั้น ก็เหมือนจะสายประจำ
ใช่ ตราบใดที่ทั้งเขาและเธอ ยังเป็นคนนิสัยจำพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้อยู่แบบนี้ ก็อย่าถามหาถึงความสงบสุข
คนนึงฉะฉาน ซื่อตรง แต่สู้ไม่ได้
อีกคน ทำอย่างไรก็ได้ ให้ผ่านวินาทีนั้นไป แบบนี้ก็คงไม่ไหว
และนั่นคือที่มาของการใช้กำลัง เพราะเขามีแค่นั้นจริงๆ ช่างน่าแปลก กับคนอื่น เขามักจะเดินหนี ไม่ยอมฟัง เพียงเพราะไม่อยากฟัง หรือเรื่องนั้นไม่สมควรที่จะพูด และเป็นการเสียเวลามากหากเขายังยืนฟังอยู่ ทว่ากับเธอ ฝ่าเท้าทั้งเท้า แทบจะยึดกับพื้น ราวกับเหยียบกับดักคือกาวชั้นดี
" อร๊าย นี่! "
แผ่นหลังร่างบางปราดเปรียวกระทบฟูก บ่งบอกให้รู้ว่าตนนั้นกำลังจะโดนเผด็จศึก ไศลาใจสั่นทั้งกลัวทั้งเกรงในเวลาเดียวกัน เธอไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้มาก่อน ทั้งที่ยังมีสติครบถ้วน
" มองหน้าฉันแบบนี้ มีปัญหาอยู่ใช่ไหม "
เขาเลิกคิ้วถามยียวน หลังถอดเสื้อผ้าเธอออกไม่เหลือแม้กระทั่งบราเซียชั้นใน เผยหน้าอกอวบอิ่มก้อนหยุ่น กับยอดถันชูชันสีชมพู เพราะถูกอุณภูมิแอร์เย็นฉ่ำพัดผ่าน ยั่วยวนชายทั้งแท่งที่เกิดอารมณ์กระหายง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่างเขากระหายหนักเข้าไปใหญ่
ไศลานอนหงายแน่นิ่ง โดยไม่คิดจะหนีไปไหน กลับกันกลับหรี่ตามองเขาที่ยืนอยู่ปลายเตียง นั่นเพราะนี่มันไม่ใช่การข่มขืน ถ้าอยากจะรอด คือต้องพูดให้เขาใจเย็นกว่านี้ จึงจะสามารถเปลี่ยนใจเขาได้
" คุณคงไม่ทำหรอก..ใช่ไหม? " เธอยิ้มหวานไร้เดียงสาในขณะถาม
แต่แล้ว...
" อะไรทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้น "
เขากลับกลั้วขำ ถอดเสื้อและกางเกงตัวเอง ไร้ความเห็นอกเห็นใจ
" ถ้าคุณทำแบบนั้นกับฉัน คิดหรือว่าคุณจะไม่เสียใจ "
" ฉันไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว " ก่อนจะโน้มตัวลงมาคร่อม พลางกระซิบข้างหูหญิงสาว " ถ้าจะเสีย ก็คงจะเสียเธอ ถ้าฉันไม่ทำ "
" ไอ้บ้า!!! "
ตุบ!
" ฮ่าๆๆๆ "
แล้วจึงผงกหน้าหัวเราะลั่น หลังถูกกำปั้นเล็กชกเข้ามากลางหน้าอก ที่มันช่างเบาหวิวราวกับแมวนวด เขาเลิกคิ้ว กัดปากยิ้มทะเล้น ไม่สะท้กสะท้าน แถมยังจับข้อมือเธอ รวบขึ้นไปไว้บนเหนือศีรษะได้อีก
" ฮึก...ฮือๆๆ "
ซึ่งนั่นทำให้คนที่ชอบเอาชนะอย่างเธอ เมื่อสู้ไม่ได้ ถึงกับร้องไห้ แถมแหกปากลั่น บ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นกำลังขัดใจ ในขณะที่เวเดนไม่คิดจะสนไม่พอ เขายังบอกตัวเองอีกว่า มารยาผู้หญิงตรงหน้าไม่ธรรมดาอย่าได้ริเล่น แม้แต่ทดลอง ก็รนแต่จะขาดทุน
" ที่ร้องนี่กลัวท้อง หรือกลัวเจ็บ? "
แต่ถ้ายียวนกวนประสาทได้ก็ถือว่าคุ้ม เพราะเธอจะเปิดโอกาสให้ตัวเองเสียเปรียบด้วยไม่รู้ตัว
" กลัวลูกฉันจะมีพ่ออย่างคุณต่างหาก! "
ส่วนการเสียเปรียบที่ว่านั้น คงจะเกิดขึ้นหลังจากประโยคเหล่านี้ ที่เธอพูดไม่คิด แต่มันโคตรไม่เข้าหูเขาเอามากๆ จึงจะนำพาความโกรธนั้น หวนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง
" งั้นหรือ..."
เขากัดฟันกรอด ก่อนโน้มปากลงมาดูดดึง สลับกับเม้มกัด จนเกิดรอยแดงจ้ำ และลามมายังหน้าอก เรียกได้ว่าตรงไหนที่เป็นเนื้อนุ่มมันจะเกิดเสียงตรงนั้น
" อื้อออ "
สร้างความสับสนให้หญิงสาวไม่น้อย ที่ไม่รู้จะโกรธเขาหรือว่าเสียวซ่านกับการกระทำเขาดี
ในขณะเวเดนกำลังรบเร้า ปลุกความรัญจวนที่มีในตัวของคนทั้งคู่ให้เผยออก จนกระทั่งได้สอดใส่ ในท่วงท่าเบสิก และไม่หลงเหลือเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ต้องปกปิดสักชิ้น
สมาร์ทโฟนเครื่องบางเฉียบที่ไม่ว่าปลายสายจะเป็นใคร ล้วนแต่สำคัญทั้งหมด คราวนี้เขากลับปามันทิ้ง ผลที่ได้คือมันกระเด็นกระดอน เผลอกดปุ่มรับเอง และคนที่ได้ยินเสียงเล็ดเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนใกล้ตัวอย่าง ..ซันดรู
ปลายสายขมวดคิ้วงงในทีแรกก่อนจะเงียบกริบในภายหลัง เมื่อพอจะคาดเดาเหตุการณ์ และจับต้นชนปลายออก แม้จะไม่พอใจต่อเสียงที่ได้ยินอยู่สักเท่าไหร่ ทว่าเขากลับเลือกที่จะทนฟัง มากกว่าการ....กดวาง อยู่แบบนั้น
ในดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด ราวกับเป็นห้องแคบที่ค่อยกันกินลมหายใจ เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังปีนกำแพง ข้ามจากฝั่งมาอีกฝั่ง เสมือนหนีอะไรบางอย่าง หนึ่งในสองนั้นคือเขา ผู้ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ในความรู้สึก ช่างตื่นเต้น แสนระทึกใจ ผู้ชายที่ว่าโยนตัวเองลงมาก่อน แม้นบนกำแพงนั้นจะเต็มไปด้วยกับดักที่พร้อมจะทำลายร่างตลอดเวลา ทว่าเขาหามีความเกรงกลัวไม่ ในขณะที่มีเส้นทางรอดกว่านี้ หลังเท้าเหยียบสู่พื้น ถ้าไม่หันกลับมาช่วยใครอีกคน ซึ่งยังติดอยู่บนกำแพง ' ส่งมือมาไอ้หนู'มือหนาเต็มไปด้วยเลือดแห้ง เลือดสด บาดแผลฉกรรจ์นับสิบแผลยื่นขึ้นเหนือหัว เด็กผู้ชายในความทรงจำเขา มองลงมาด้วยสายตาซาบซึ้ง ก่อนจะเม้มปาก ราวกับเก็บอาการอ่อนแอของความรู้สึก ที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นก้อนน้ำตา' พี่จะช่วยผมหรือครับ ' เขาเอ่ยถามเสียงสั่น' เออใช่ มึงยัดมาให้กู จนกูต้องติดร่างแหไปด้วย คงไม่สมควรจะช่วยมึง 'ส่วนเขาเองก็กัดฟันตะเพิดกลับไปไม่แพ้กัน กระนั้นก็ยังยื่นมือค้างเอาไว้' แต่กูทำไม่ได้หรอกโว้ย ส่งมือมา! เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดหรอก '' พี่เป็นใครกันแน่ ''ไว้ให้พ่อมึงมาตอบล่ะกัน 'หมับเขาพูดติดตลกในคำทิ้งท้าย ก่อนใช้จังหวะ
โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? ""อีกสิบนาทีครับนาย""พาเธอไปบ้านใหญ่""ได้ครับ"ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพังร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง" นายรักผู
ประเทศไทยหลังไศลาเหยียบลงพื้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอคือรอยยิ้ม หญิงสาวลืมเรื่องราวทั้งหมด ราวกับไม่เคยอยู่ในความทรงจำมาก่อน เมื่อลงจากเครื่อง ร่างบางจึงเร่งเดินทางกลับบ้าน โดยการนั่งรถแท็กซี่ เพราะโทรหาน้องชายกับแม่ไม่ติด วันนี้แหละ เธอจะเค้นถามให้หมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่แล้ว...เมื่อถึง แล้วลงจากแท็กซี่ จูงกระเป๋าลากจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า..“ เห้ย..ไปไหนกันหมดอ่ะ “เธอพึมพำ แต่นั่นก็ไม่วายสาวเท้าต่อ เดินเร็วกว่าเก่า เร่งไปให้ถึง เพื่อจะเขย่าแม่กุญแจที่คล้องอยู่กับประตูรั้ว จากนั้นจึงทำการวางกระเป๋าลากไว้ ล้วงหาโทรศัพท์ลองโทรหาแม่สลับกับน้องชายอีกรอบ ทว่า...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้“ อะไรกันเนี่ย “ดึงลงมาบ่น ก่อนจะเอาไปแนบหูใหม่ ทว่า ก็ยังเหมือนเดิมหมายแรกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้............หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ................พอ!“ โอ้ย! “ไศลากระทืบเท้าระบายอารมร์หงุดหงิด ก่อนจะยืนเท้าสะเอว หันหน้าไปทางบ้าน คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความงงเป็นอย่างดี“ เอาวะ! ” พลางพ่นลมหายใจ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะ...ปีน!“
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม